bc

พิศวาสร้าว

book_age16+
1.0K
ติดตาม
5.9K
อ่าน
ล้างแค้น
แบดบอย
กู๊ดเกิร์ล
ดราม่า
ชายจีบหญิง
นางเอก
เน้นพระเอก
โลกความเป็นจริง
like
intro-logo
คำนิยม

(พิศวาสร้าว)

"อยากอยู่นักใช่ไหมมานี่เลย" เขาตามติดไปกระชากท่อนแขนของนวลหงให้เข้ามาใกล้ๆ เตียง

"ปล่อยนะ!" อีกคนก็พยายามยื้อยุดฉุดสิ่งของที่อยู่ด้านข้าง นวลหงคว้าสะเปะสะปะจนไปแตะเข้ากับแจกันไม้สัก จังหวะนั้นศิงขรก็กระชากร่างของคนที่กำแจกันเอาไว้ให้เซไปด้านหน้า

"โอ๊ย!" สิ่งที่อยู่ในมือของนวลหงจึงกระแทกเข้ากับขมับด้านข้างของเขาอย่างจัง มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะจุดที่ถูกแจกันกระแทก เลือดสีแดงสดบนปลายนิ้ว ทำให้ม่านตาของศิงขรขยายกว้างขึ้นด้วยความโกรธ

"ไม่นะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ" เมื่อเห็นหยดเลือดไหลออกจากศีรษะของเขา คนก่อเหตุก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา

มือหนาที่รวบมือของเธอเอาไว้กำแน่นมากขึ้นกว่าเดิม เจ้าของร่างสูงยืนแน่นิ่ง มีเพียงลมหายใจที่สะท้อนเข้าออกในจังหวะหนักหน่วงขึ้นตามอารมณ์ จากนั้นร่างของนวลหงก็ลอยเคว้งไปอยู่กลางเตียง แจกันไม้ในมือกระเด็นหลุดไปกระแทกกับผนังห้อง

"คุณจะทำอะไรฉัน ไม่นะ!" นวลหงร้องห้ามคนที่กำลังดึงเสื้อยืดสีดำออกจากตัวของเธอ ศิงขรจับข้อเท้าของคนบนเตียงเอาไว้นั่นไม่ให้กระดิกหนีไปไหนได้

"คุณทำผมเลือดออก ถึงตาผมทำคุณเลือดออกบ้าง"

เขาเค้นเสียงขู่ แม้จะดิ้นรนต่อสู้แค่ไหนแต่เรี่ยวแรงสตรีก็เป็นอันต้องพ่ายแพ้ต่อบุรุษ สิ่งที่ศิงขรทำอยู่จะทำให้เธอเลือดตกยางออกแบบไหนกัน คนกลัวได้แต่คิดกังวลไปไกล

"คุณจะทำอะไร!" เสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อเขากระชากกางเกงขาสั้นออกจากปลายเท้าของเธออย่างรวดเร็ว

เจ้าของร่างใหญ่กระตุกสายรัดกางเกงชาวเลออก หยดเลือดที่ไหลจากขมับหยดแหมะลงบนแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแกร่ง เป็นภาพที่คนได้เห็นนั้นหัวใจแทบร่วงไปอยู่ตรงปลายเท้า

"คุณห้ามเลือดก่อนไหม ว้าย!"

ศิงขรไม่ฟังแม้แต่น้อย ก้าวขึ้นไปคร่อมร่างของนวลหงเอาไว้แน่น ก่อนจะผลักหัวไหล่ให้แนบลงบนที่นอนตามเดิม

"แบบนี้ไม่เอานะ..."

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ : 1 ชนวนร้าว
1 ชนวนร้าว          รถจี๊ปคลุกฝุ่นดินแดงถูกจอดทิ้งไว้อยู่ข้างทาง เป็นเพียงเบาะแสเดียวที่จะตามหาตัวของ นายองอาจ ม่านภูผา ที่หายตัวไปจากบ้านเมื่อหนึ่งวันก่อน เมื่อไม่มีใครพบเห็นเขาและไร้ซึ่งการติดต่อกลับมา นางกัลยาณีผู้เป็นภรรยาจึงต้องให้คนของตนออกตามหาไปทั่วทุกสารทิศ สภาพรถที่ถูกจอดทิ้งไว้มีร่องรอยการรื้อค้นข้าวของจนเสียหายกระจัดกระจาย ธนกิจหัวหน้าคนงานของม่านภูผาเริ่มใจคอไม่ดี เขากวาดสายตามองไปบริเวณรอบๆ ก่อนจะสังเกตเห็นรอยเท้าหลายคู่ที่เหยียบย่ำลงบนพื้นดินข้างทาง ที่มีร่องรอยเปียกหมาดจากฝนที่เพิ่งหยุดตกไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน “ทางนี้” ชายร่างสูงหน้าตาดุดันเดินนำหน้าทุกคนไปตามรอยเท้าที่เขาเห็น ลงจากถนนดินแดงเข้าไปในป่าด้านข้างที่มีพุ่มไม้บดบังหนาตา ธนกิจรู้สึกสังหรณ์ใจว่าทำไมนายของเขาจะต้องมาทำธุระแถวนี้ ซ้ำยังมาเพียงลำพังไม่ให้ลูกน้องตามติดมาเหมือนเช่นเคย “พี่เดี่ยวดูนั่น” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนขึ้นพร้อมกับชี้ไปด้านหลังต้นไม้ใหญ่ ชายฉกรรจ์ราวสิบคนรีบวิ่งกรูเข้าไปดูอย่างรวดเร็ว “คุณอาจ!” ธนกิจวิ่งไปพลิกร่างอันไร้วิญญาณของเจ้านายให้หงายขึ้น จากนั้นก็วัดชีพจรตรงลำคอก็พบว่าเขาสิ้นลมหายใจไปก่อนหน้าแล้ว สาเหตุก็คงจะมาจากมีดสั้นที่ปักอยู่กลางอกจนมิดด้าม ธนกิจหน้าซีดเผือดลงกับภาพตรงหน้า จัดการถอดเสื้อแขนยาวออกเพื่อคลุมร่างของคนตายเอาไว้ “คนนี้ใครพี่เดี่ยว” หาญลูกน้องคนสนิทของธนกิจชี้ไปยังร่างของสตรีนางหนึ่งที่นอนคว่ำหน้าอยู่ด้านข้าง เพราะว่าไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะต้องตัวของผู้หญิงที่นอนแน่นิ่งอยู่ ธนกิจจึงต้องเป็นคนพลิกร่างของอีกคนขึ้นมาดู “เฮ้ย! นี่มันคุณนวลผ่องลูกสาวบ้านอิงตะวันนี่” หนึ่งในลูกน้องของเขาตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ ธนกิจรีบแตะต้นคอของคนที่นอนแน่นิ่ง ก็พบว่ากระดูกต้นคอบิดเบี้ยวผิดรูปจากปกติ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวผู้นี้ถึงแก่ความตาย “หาญถอดเสื้อนอกมา เอาของไอ้เตี้ยมาด้วย” “นี่พี่เดี่ยว” หาญกับเตี้ยรีบถอดเสื้อนอกออกก่อนจะยื่นให้หัวหน้าตัวเอง ซึ่งอีกคนก็รับไปคลุมร่างของนางนวลผ่องเอาไว้จนมิดทั้งตัว เขายืดลำตัวขึ้นสุดความสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรของตัวเอง กวาดสายตามองลูกน้องแต่ละคนด้วยความรู้สึกอนาถใจไม่ต่างกัน “พวกเอ็งทุกคนรู้ใช่ไหมว่าไม่ควร...” “เฮ้ย! นั่นไง!” ยังไม่ทันจะได้เอ่ยต่อเสียงของคนอีกกลุ่มก็ดังเข้ามาใกล้ๆ บริเวณที่พวกเขายืนอยู่ ธนกิจหันหน้าไปมองกลุ่มชายฉกรรจ์ราวสิบคน ที่มาพร้อมอาวุธครบมือด้วยความแปลกใจ ก่อนจะรู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็นคนของอิงตะวันที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงกันนั่นเอง “นี่มันอะไรกัน” อดิษฐ์หัวหน้าคนงานของอิงตะวันมองดูสภาพศพของชายหญิงคู่หนึ่งแล้วหันไปมองหน้าธนกิจ “ทางนี้ครับคุณดิษฐ์” ด้วยความที่อาวุโสน้อยกว่าอีกคน  ธนกิจจึงเรียกอดิษฐ์ว่าคุณ “ศพใคร” เพราะศพถูกเสื้อคลุมหน้าไว้ทั้งสอง อดิษฐ์จึงไม่รู้ว่าสองคนที่ตายนั้นเป็นใคร ธนกิจเดินนำไปยังศพผู้ชายเขาค่อยๆ ดึงเสื้อคลุมออก “คุณอาจ…” “ส่วนศพนี้” “คุณนวล!” ศพแรกไม่น่าตกใจเท่าศพที่สอง อดิษฐ์ถึงกับเซถอยหลังยืนแทบไม่อยู่ “พวกผมเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน คุณอาจหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวาน คุณกัลยาณีก็เลยให้พวกผมออกตามหา แต่ไม่คิดว่าจะพบอยู่ในสภาพนี้” ธนกิจอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องส่วนคนฟังหน้าซีดเผือดลงต่อภาพที่อยู่ตรงหน้า “แล้วพวกเขาตายได้ยังไง” ปากถามส่วนมือก็ดึงเสื้อปิดใบหน้าของนางนวลผ่องเอาไว้เหมือนเดิม ในใจยอมรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น นายหญิงของเขาไม่น่าเลยไม่น่าทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ได้ “พวกเราไปตรวจดูที่รถของคุณอาจ พบว่าข้าวของมีค่าหายไปทั้งหมด คิดว่าน่าจะเป็นพวกโจรป่าออกปล้น” ธนกิจคาดคะเนเหตุการณ์ทั้งหมดให้อีกคนฟัง  “โจรปล้นไม่เท่าไหร่หรอก แต่เรื่องนี้มัน...” อดิษฐ์หันกลับไปมองสภาพศพของคนตายทั้งสองคนด้วยสายตาสมเพชเพราะว่าทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน! อดิษฐ์ตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปแจ้งนายอาทิตย์เจ้านายตัวเอง ส่วนธนกิจก็โทรศัพท์กลับไปบอกข่าวร้ายแก่นางกัลยาณี ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงพวกเขาทั้งสองคนก็รุดมาถึงจุดเกิดเหตุ นางกัลยาณีถึงกับเข่าทรุดทันทีที่เห็นสภาพศพของผู้เป็นสามี แม้ไม่ได้มองสบตากับลูกน้องหลายสิบคนของตัวเองและอิงตะวัน นางก็รู้ว่าตัวเองนั้นอยู่ในสภาพอัปยศอดสูแค่ไหน สามีตายว่าเสียใจแล้ว แต่เขากลับตายในสภาพไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว ร้ายไปกว่านั้นยังตายข้างภรรยาของคนอื่น เรื่องนี้ต่างหากที่มันน่าชอกช้ำใจยิ่งกว่า “นายเดี่ยวจัดการด้วย” เจ้าของน้ำเสียงเบาหวิวเอ่ยสั่งลูกน้อง “ครับนายหญิง” ธนกิจรับคำก่อนจะสั่งให้ลูกน้องคนหนึ่งของตัวเองพานางกัลยาณีกลับบ้านไป นายอาทิตย์ยืนมองสภาพศพของคนตายทั้งสองด้วยแววตาแน่นิ่ง แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เขามองตามหลังของนางกัลยาณีไปด้วยความรู้สึกไม่แตกต่างกัน แวบหนึ่งที่อีกคนหันหลังกลับมามอง แววตาคู่นั้นกำลังบ่งบอกว่านางเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขา “อดิษฐ์รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง” “ครับนาย” อดิษฐ์รับปากผู้เป็นนาย เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่มีทางปิดได้มิดหรอก ทำดีที่สุดก็คืออย่าให้เรื่องนี้ถึงมือตำรวจก็พอ ทั้งสองฝ่ายจึงตัดสินใจเก็บศพของนายตัวเองกลับไปทำพิธีอย่างเงียบๆ ศิงขรซึ่งขณะนั้นอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้นเอง รู้สึกเหมือนถูกฟ้าฝ่ากลางวันแสกๆ หลังรู้ความจริงจากปากของมารดา สองวันก่อนเขากับบิดายังพูดจาหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน มาวันนี้มารดาของเขากลับบอกว่าท่านจากโลกนี้ไปเสียแล้ว “ไม่จริงใช่ไหมแม่” เด็กหนุ่มส่ายหน้าไปมาหัวใจสั่นหวิวเหมือนจะหล่นไปกองอยู่บนพื้น และยิ่งไม่เข้าใจในอาการเหม่อลอยแบบแปลกๆ ของมารดา “เรื่องจริงศิง” นางกัลยาณีตอบสั้นๆ แค่นี้ ก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดบ้านไป คนเป็นลูกชายมองตามไปด้วยความรู้สึกผิดปกติ เหมือนมีอะไรบางอย่างติดค้างอยู่ในความรู้สึกของมารดา แต่ศิงขรก็ไม่ได้เดินตามท่านไปเพื่อถามให้รู้ เด็กหนุ่มเลือกที่จะยืนรอรับศพบิดาของตัวเองอยู่หน้าบ้าน ซึ่งไม่เกินสิบห้านาทีลูกน้องของนางกัลยาณีก็พาร่างอันไร้วิญญาณของนายองอาจกลับมา “น้าเดี่ยวทำไม” ศิงขรมองดูศพของบิดาที่ไร้เครื่องนุ่งห่มมีเพียงเสื้อแขนยาวสองตัวปกปิดร่างกายเอาไว้ สีหน้าสงสัยของเขาทำเอาคนถูกถามสะอึกจนแทบพูดไม่ออก “คุณศิงครับ มานี่เดี๋ยวน้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง” ธนกิจรู้ว่าเรื่องนี้คงปิดบังอีกฝ่ายไม่ได้แน่ คนอย่างศิงขรนั้นถ้าอยากจะรู้อะไรเขาก็จะต้องรู้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วเขาจะไม่ยอมจบลงง่ายๆ ธนกิจเสียงเครียดยามต้องเล่าเรื่องอันไร้ศีลธรรมของพ่อให้คนเป็นลูกฟัง เขาสังเกตแววตาที่เปล่งประกายความเคียดแค้นขึ้นลงอยู่เป็นระยะ แต่ก็พยายามทำใจให้สงบนิ่งเล่าให้ความร้ายแรงเบาบางลง ซึ่งก็ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะว่าการผิดลูกผิดเมียคนอื่นนั้น ต่อให้พยายามแค่ไหนความผิดก็ยังคงรุนแรงอยู่ในตัว “พ่อทำแบบนั้นจริงหรือครับน้าเดี่ยว” น้ำเสียงเค้นออกมาจากก้นลึกแห่งความเจ็บปวด สะท้อนความผิดหวังและชิงชังออกมาพร้อมๆ กัน “สถานการณ์มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ครับคุณศิง” ธนกิจไม่อาจบิดเบือนความจริงได้ “พ่อทำแบบนั้นได้ยังไงครับน้าเดี่ยว ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ” “คุณศิงทำใจเย็นๆ เอาไว้นะครับ ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขาแก้ไขกันไปนะครับ” ธนกิจตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ ศิงขรเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดปลอบตัวเอง ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาเบาๆ สายตามองเลยขึ้นไปบนตัวบ้านในใจนึกห่วงมารดาขึ้นมา “ผมขึ้นไปดูแม่ก่อนนะครับ” จากความรักความศรัทธากลายเป็นความว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ศิงขรเดินตัวลอยเข้าไปภายในบ้าน เขาหยุดยืนนิ่งหันหลังกลับไปมองคนของตัวเอง ซึ่งกำลังแบกร่างอันไร้วิญญาณของบิดาลงจากรถ หัวใจของคนเป็นลูกถูกบีบคั้นรุนแรงจนแทบจะแหลกสลาย ‘พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง’ ด้านขวาห้องที่สองคือห้องนอนของพวกท่าน เขาเห็นบานประตูที่แง้มออกเล็กน้อยเหมือนคนเปิดไม่ได้ใส่ใจจะปิดมันลง ศิงขรหนังตาข้างขวากระตุกถี่ๆ แบบไม่มีเหตุไม่มีผล จากเท้าที่เดินช้าๆ กลายเป็นก้าวยาวๆ ตรงไปเพื่อเปิดประตูห้องของมารดา ปัง! ร่างของนางกัลยาณีล้มตึง! ลงจากเก้าอี้ ในมือยังกำกระบอกปืนอยู่ เลือดจากขมับค่อยๆ ไหลนองขยายวงกว้างออกเต็มพื้นห้อง ตรงประตูห้องมีลูกชายของผู้ตายยืนตาเบิกกว้างตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ 

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
9.5K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
5.3K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
35.4K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
12.0K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
3.1K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook