ข้ามเวลามาเป็นยัยบ้านนา

คนสวย

ปึก

“ กะทิ นี้เธอจริงๆเหรอเนี่ย ให้ตายสิ นี้เธอไปทำอะไรมาทำไมถึงได้สวยมากขนาดนี้ แถมตัวยังหอมอีกด้วย “ เสียงเพื่อนในห้องเรียนพูดกัน ฮือฮาด้วยความแปลกใจและก็ประหลาดใจ ที่อยู่ๆกะทิเธอเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ กะทิที่โดนถามแบบนั้นเธอก็ยิ้มพร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า

“ พอดีฉันโดนหมามันไล่งับ เมื่อหลายวันก่อนจนทำให้ฉันตกลงไปในรูของถนน ตอนที่ฉันตกลงไปหัวกระแทกกับพื้นจนสลบ ตอนนั้นฉันฝันเห็นยมทูตมาบอกฉันว่าให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วท่านก็ยังบอกฉันอีกว่าให้กลับมาแก้แค้น ไอ้หมาที่4ตัว “ กะทิ พูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง พร้อมกับหันมามองทางด้านของไอ้4คนที่ทำเธอตกลงไปในหลุม จำปา มะลิ แห้ว หิน ที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำท่าจะเข้ามาเอาเรื่องเธอ แต่ทั้งหมดก็ต้องหยุดแค่นั้น เพราะอาจารย์ได้เข้ามาสอนซะก่อน

ไร่อัจฉรา

ไร่อัจฉรา เป็นไร่อหงุ่นของคุณหญิงอัจฉราแม่ของ พ่อเลี้ยงเอก หลังจากที่คุณนายอัจฉราได้จากไปแล้วที่ไร่นี้ก็มีเพียงพ่อเลี้ยงเอก เจ้าของไร่ที่หล่อ รวย กล้วยใหญ่ และที่สำคัญเจ้าชู้ตัวพ่อเลยละ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เมืองไหน ประเทศอะไร พ่อเลี้ยงเอกก็จะต้องมีผู้หญิงอยู่ทั่วทุกที่

“ พ่อเลี้ยงครับ วันนี้จะเข้าไปดูการสร้างถนนรึเปล่าครับ “ เสียงของลูกน้องพ่อเลี้ยงเข้ามาถาม เจ้านายว่าวันนี้เขาจะไปดูการทำถนนของทางการรึเปล่า ด้วยความที่พ่อเลี้ยงไปเร่งให้ทางการรีบมาทำกระปรับปรุงถนนที่ขาดเมื่อครั้งที่น้ำป่าไหลหลากจนถนนขาดเสียหาย ด้วยความที่ไร่อัจฉราจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้เพื่อขนส่งสินค้า แล้วทางการก็ไม่ยอมมาทำให้สักทีนั้นเลยทำให้พ่อเลี้ยงเอกต้องเป็นคนจัดการสั่งให้ทางการรีบมาทำการปรับปรุงอย่างเร่งด่วนทันที เมื่อเอกได้ยินแบบนั้นเขาก็ที่นั่งอ่านแฟ้มงานอยู่เงียบๆก็เงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะพยักหน้าบอกว่าตัวเองจะไปดู

“ อื้ม “ เอก หันมาพยักหน้าบอกลูกน้องว่าเขาจะไปดู จากนั้นเขาก็วางแฟ้มงานแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องทำงานแล้วมาที่รถจิ๊บคันเก่าของตัวเองทันที

บรื้น……บรื้น….บรื้น

เวลาเลิกเรียน

“ กะทิกลับบ้านยังไง ให้พี่ไปส่งไหม” เสียงของเด็กหนุ่มที่ดูมีฐานะนิดหนึ่งขับมอไซต์เข้ามาถามกะทิที่เดิน กินขนมมาอย่างเงียบๆเหมือนกับใช้ความคิดว่า เธอจะเอายังไงต่อไปดีในเมื่อเธอมาอยู่ในร่างของเด็กสาวคนนี้แล้วเธอคิดว่า ถ้าเธอไม่ทำอะไรเลยแล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย แต่ระหว่างที่เธอคิดเรื่องอะไรอยู่นั้น พอเธอได้ยินเสียงของชายวัยรุ่นขับมอไซต์มาเหมือนกับว่าอยากมาจีบเธอ กะทิที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะเดินตามทางมาเรื่อยๆเพื่อกลับบ้านมาคิดว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดี ในเมื่อเรื่องที่เธอมาอยู่ในร่างของเด็กสาวคนนี้ มันไม่ได้เป็นเรื่องของความฝัน แต่มันเป็นเรื่องจริง ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว กะทิก็ต้องก้มหน้ายอมรับความจริง

ด้านงานสร้างถนน

“ อ้าวกะทิเลิกเรียนแล้วเหรอ “ เสียงของป้าปริกที่มาดูงานก่อสร้างถนนของทางการที่เกณท์ชาวบ้านมาช่วยด้วย หนึ่งในนั้นก็มีป้าปริกอยู่ด้วย ป้าปริกที่กำลังช่วยชาวบ้านทำถนนอยู่นั้น สายตาของเธอก็เห็นร่างบางของกะทิที่เดินกินขนมผ่านไป กะทิที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็หันมามอตามเสียงด้วยความสนใจ

“ จ๊ะป้า สวัสดีคะ ว่าแต่ป้ามาทำอะไรที่นี้คะ “ กะทิ ยิ้มพร้อมกับเดินเข้ามาสวัสดีทักทายป้าปริกเพื่อนบ้านแล้วจะเรียกว่าเป็นเพื่อนหรือว่าญาติผู้ใหญ่ที่ยังเห็นเธออยู่ในสายตาอยู่ก็ว่าได้ กะทิที่ได้ยินเสียงของคนคุ้นเคยเธอก็เดินเข้ามาทักทายแล้วก็ถามด้วยความสงสัย

“ อื้ม ข้าก็มาหาเงินสิว่ะ ทางการเขาจ้างมาทำถนน ข้าก็เลยสมัครมากับเขาด้วย “ ป้าปริก พูดออกมาด้วยท่าทางภูมิใจที่วันนี้มีงานพิเศษทำ ที่ผ่านมาป้าปริกเธอเอาแต่ทำนา แล้วก็เลี้ยงวัวของตัวเองเท่านั้น ส่วนลูกกับสามีของเเธอก็ไปทำงานอยู่ที่เมืองกรุงนานๆถึงจะกลับมาที ด้วยความขยันแล้วก็อดทนคนอย่างยัยปริกไม่เคยเลยที่จะนั่งงอมือ งอเท้าอยู่เฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรที่ได้เงินป้าปริกทำทุกอย่าง ระหว่างที่กะทิกับป้าปริกกำลังคุยกันอยู่นั้น พ่อเลี้ยงเอกกับมิ่ง ลูกน้องคนสนิทของเขาก็หันมาเจอเข้ากับกะทิเด็กสาว ที่ยืนคุยกับป้าแก่ๆด้วยรอยยิ้มที่สดใส เล่นเอาพ่อเลี้ยงในวัย25 ถึงกับรู้สึกตะลึงงันกับความสดใสน่ารักของเด็กสาวคนนี้ คนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน นั้นเลยทำให้เอกถึงกับถามลูกน้องคนสนิทออกมาอย่างสนใจ

“ ไอ้มิ่งนั้นใครว่ะ “ เอก พ่อเลี้ยงไร่อหงุ่นถามลูกน้องออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยแล้วก็สนใจ เล็กสาวที่กำลังคุยอยู่กับป้าคนงานที่กำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง มิ่งที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็มองก่อนจัขยี้ตาแรงๆเหมือน กับว่าอยากให้แน่ใจว่า คนที่เขาเห็นนั้นใช่กะทิจริงๆ

“ นั้น นั้น นั้นมันใช่ยัยกะทิจริงๆเหรอ “ มิ่ง ขยี้ตาพร้อมกับพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เด็กสาวขี้เหร่ ขี้โรคแต่งตัวสปรกอย่างกับว่าเป็นขอทาน แต่พอเขาได้เห็นเธอในวันนี้ถึงกับตกตะลึงในความสวยน่ารักและที่สำคัญกลิ่นตัวของเธอหอมมาก……เอกที่ได้ยินว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เขาถึงกับอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะใช่ยัยเด็กเลี้ยงควายในไร่ของเขา เมื่อหลายเดือนก่อน เมืือหลายเดือนก่อน คนเลี้ยงความยในไร่ของเขาได้ลากับบ้านที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่เอกต้องการคนมาเลี้ยงเจ้าทุยกับเจ้าถึกนั้นเลยทำให้เขาได้เจอเธอเป็นครั้งแรก แต่ที่เขาเจอเธอในครั้งนั้น เธอไม่ได้อยู่ในสภาพนี้ เธอดูเนื้อตัวหยาบกระด้าง หน้าตามีแต่รอยสิว ผมเผ้าของเธอยุ่งอย่างกับรังนก และที่สำคัญเธอไม่ชอบพูดคุยกับใคร แล้วเวลาพูดเธอก็หลบสายตา แต่เอกที่เห็นเธอในวันนี้ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คนที่ยืนหัวเราะตัวหอมอยู่ตรงนั้นจะเป็นเด็กตัวดำคนนั้น คนที่เขาเคยเห็น

“ กะทิ นี้กะทิจริงๆเหรอเนี่ย ตายแล้ว ไปทำอะไรมาทำไมถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ “ ระหว่างที่กะทิกับป้าปริกกำลังจะล่ำลากันอยู่นั้นก็มีป้าชาวบ้านอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่าเธอเป็นกะทิรึเปล่า แล้วก็ทำท่าทางสนใจเธอกะทิที่ได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เจ้าของร่างเป็นคนขี้อายไม่ค่อยพูดแต่ว่าตอนนี้ กะทิคนนี้ ทั้งร่าเริง สดใส น่ารักและที่สำคัญ เวลาเธอพูดเธอมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก

แง๊นๆ…..แง๊นๆ แง๊นๆ

“ รถใครว่ะ มันไม่รู้เหรอว่าเขากำลังทำถนนกันอยู่ “ ระหว่างที่เอกกำลังมองสนใจเด็กสาวจากทางไกลอยู่นั้น เสียงของรถมอเตอร์ไซต์ของใครบางคนก็ขับมาด้วยความเร็วแสงและก็เสียงดังเป็นอย่างมาก นั้นเลยทำให้เอกถึงกับขมวดคิ้วหนามองดูด้ววความโกรธ มิ่งที่เห็นแบบนั้นเขาก็หันมาตอบคนเป็นเจ้านายว่า

“ จะใครซะอีกละครับก็ไอ้แห้วลูกชายผู้ใหญ่หาญนะสิครับ แล้วนั้นก็ลูกสาว อบต. ไอ้เด็กพวกนี้มันเป็นเด็กเหลือขอ นายอย่าไปสนใจเลยครับ “ มิ่ง ตอบคนเป็นอจ้านายเมื่อพูดถึงเด็กทั้ง4คนพวกนั้นเขาก็ถึงกับส่ายหน้าอย่างนึกเอือมระอากับเด็กเหลือขอพวกนี้เหลือเกิน เอกที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็เลิกสนใจแต่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจก็คือ รถมอไซต์ สองคันนั้นมันพุ่งตรงไปหากะทิ เด็กสาวที่เดินกลับบ้านเพียงลำพัง

แง๊นๆ แง๊นๆ แง๊นๆ เอี๊ยด…

เสียงเบรคของรถมอไซต์ ที่ขับมาด้วยความเร็วแล้วก็มาหยุดขวางทางเดินของกะทิ กะทิที่เดินมาอย่างสบายใจพอเธอโดนรถขับมาดักหน้าแบบนั้นเธอก็ถึงกับขมวดคิ้วมองรถทั้งสองคันด้วยความโกรธ เพราะเธอจำได้ว่าไอ้พวก4คนนนี้แหละที่หาเรื่องจนทำให้เจ้าของร่างนี้ตุ๊ย

“ คุณกันหน่อยสิว่ะอีกะทิ หึหึหึ สวยดีนี้หว่า……มาเป็นเมียกูดีกว่าไหมกะทิ // ซูด……อ๊าาาาา หอมชื่นใจจริงๆเลยโว๊ยยยยยย ฮ่าๆฮ่าๆฮ่า “ ไอ้แห้ว ก้าวขาลงมาจากรถเขาก็เดินปี่เข้าหาเธอพร้อมกับลวนลามเธอโดยการจับผมของเธอเบาๆแล้วก็เอามาดม ท่าทางคุกคามของแห้วทำให้กะทิถึงกับนิ่งแต่ปากของเธอกับแสยะยิ้มเล็กน้อยเหมือนกับว่าเธอพอใจกับสิ่งที่พวกนี้ทำกับเธอมาก ยิ่งเสียงหัวเราะที่ได้ใจของพวกมัน มันยิ่งทำให้กะทิยิ่งรู้สึกตื่นเต้น จนเนื้อเต้นเหมือนกับว่าเธอรอคอยมานานมากแล้ว

“ หึหึหึ ได้สิ ถ้านายอยากได้ฉันเป็นเมีย ถ้าอย่างนั้นคืนนี้นายก็ไปหาฉันที่ท้ายไร่ของฉันสิที่นั้นมันสงบดีนะ แล้วถ้าไอ้หินมันอยากสนุกด้วยก็เอามันมาด้วย เธอสองคนด้วยนะ หึหึหึ “ กะทิ เธอกระซิบข้างหูของไอแห้ว พร้อมกับเป่าลมไปที่หูของไอ้แห้วเบาๆเพื่อกระตุ้นความหื่นกระหายของมัน จากนั้นเมื่อเธอพูดจบเธอก็มองหน้ามันด้วยสายตายัวยวน ก่อนจะหันมาบอกให้ไอ้หิน แล้วก็สองสาวได้รู้ว่าถ้าอยากสนุกกับเธอ ก็ไปหาเธอที่ท้ายไร่ เมื่อแห้วได้ยิานแบบนั้น บวกกับความสวยและก็สายตาที่ยัวยวนของเธอทำให้แห้วลูกผู้ใหญ่หาญถึงกับ ตกตะลึงอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นเมื่อเธอพูดจบเธอก็เดินนวยนาดมาทางของหินแล้วก็เอานิ้วชี้เชยไปที่คางของชายหนุ่ม ก่อนจะเสยขึ้นเบาๆ พร้อมกับมองหน้าเขาด้วยสายตายัวยวน เล่นเอาแห้วกับหิน ถึงกับหำตั้ง ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก แม้แต่น้ำลายที่อยู่ในคอยังกลื่นยากลำบากเลย

“ หึหึหึ ฉันก็นึกว่าเธอจะใสซื่อเหมือนกับที่ฉันเคยเห็นเมื่อก่อน ที่แท้ก็เป็นแค่เด็กใจแตกเท่านั้นแหละ ไอ้เราก็หลงเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะโดนพวกเหี้ยนั้นแกล้งอีก ที่แท้เธอก็ให้ท่าพวกมัน แล้วก็ชวนกันไปเล่นสวิงกิ้งกันอีก ให้ตายเถอะ “ เอกที่เห็นว่ารถมอไซต์ของเด็กเปรตมุงหน้าไปหากะทิด้วยความเป็นห่วงเอกก็ยืมรถมอเตอร์ไซต์เวฟของชาวบ้านขับตามมา แต่เขาก็ต้องตกใจแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เขาได้ยินแล้วก็ได้เห็นในวันนี้ นั้นเลยทำให้เอกรู้สึกผิดหวังและก็สมเพสเด็กสาวเป็นอย่างมาก