บท 3

1304 คำ
3 “เยล... นายพร้อมที่จะลงน้ำหรือยัง เพราะตอนนี้มันใกล้จะถึงเวลาทำโชว์แล้วนะ” “ครับ ผมคิดว่าผมพร้อมแล้วนะ” ขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการสวมใส่ชุดดำน้ำ และมีเพื่อนร่วมงานอีกราว ๆ สองคนกำลังเดินเข้ามาช่วยเช็กอุปกรณ์ให้เขา เยลก็หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังเช็กความเรียบร้อยของโชว์ด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น หลังอีกฝ่ายได้เดินมาถามความพร้อมของเขา ซึ่งการดำน้ำเพื่อลงไปทำโชว์ให้อาหารปลากระเบนนั้น มันก็ไม่ได้เช็กแค่ความพร้อมของอุปกรณ์เท่านั้น แต่มันยังต้องเช็กความพร้อมของร่างกายและสภาพจิตใจของผู้ที่จะลงไปทำโชว์อีกต่างหาก เพื่อความปลอดภัยของชีวิตเจ้าหน้าที่ ไม่อย่างนั้นแทนที่จะได้สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชม เห็นทีคงกลายเป็นโศกนาฎกรรมสร้างแผลใจให้ผู้เข้าชมแทน “ตื่นเต้นชะมัด” หลังทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ก่อนที่เยลจะโยนตัวลงน้ำเพื่อทำการแสดงตามที่เขาเคยซักซ้อมเอาไว้ เขาก็พูดขึ้นเสียงแผ่ว เมื่อนาทีนี้เยลทั้งรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าเอามาก ๆ ทั้งที่ครั้งนี้มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาจะได้ลงไปทำโชว์ให้อาหารปลากระเบนแบบนี้ “เยล นายมาประจำที่ของตัวเองได้เลย” เจ้าหน้าที่ที่ยืนกำกับคิวโชว์ตะโกนเรียกเยลพร้อมกวักมือเรียกให้เขาเดินไปประจำจุด ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องรีบหันไปหยิบเอาถุงอาหารที่ด้านในบรรจุของโปรดของเหล่าปลากระเบนไว้อย่างมากมายมาจากมือเพื่อนร่วมงานทันที “พร้อมนะ” “อื้อ!” เยลส่งเสียงขานรับในลำคอ เมื่อปากของเขาได้คาบท่อเร็กกูเลเตอร์ที่เชื่อมต่อกับถังอากาศเอาไว้แล้ว โดยหลังจากที่เยลพยักหน้าบอกเจ้าหน้าที่เสร็จ เขาที่กำลังแบกถังอากาศไว้ด้านหลัง และมือก็คอยจับถุงอาหารของปลากระเบนเอาไว้แน่นก็ค่อย ๆ หย่อนร่างลงในแท็งก์อย่างระมัดระวัง เมื่อร่างของเขาดิ่งลงสู่ก้นแท็งก์ได้สำเร็จ สิ่งต่อไปที่เยลทำหลังจากนั้นก็คือการแหวกว่ายผ่านฝูงปลาตัวเล็กใหญ่ตรงไปยังหน้าตู้กระจกเพื่อไปทำโชว์ ซึ่งตลอดทั้งการทำโชว์ให้อาหารปลากระเบนนั้น มันก็จะมีเจ้าหน้าที่วิทยากรคอยให้ความรู้กับผู้ชมไปด้วยว่ากระเบนในอควาเรียมแห่งนี้มีกี่สายพันธุ์ และพวกมันกินอะไรเป็นอาหารบ้าง โดยผู้ชมส่วนใหญ่ที่มาดูโชว์ให้อาหารปลากระเบนในวันนี้ก็เป็นเด็ก ๆ วัยห้าหกขวบกัน เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าเด็กส่วนใหญ่จะชอบพี่เบิ้มทั้งนั้น อีกทั้งวันนี้มันเป็นวันที่โรงเรียนมักจะพาเด็ก ๆ มาทัศนศึกษากันอยู่แล้ว เนื่องจากมันเป็นวันศุกร์ ต่อมาหลังเยลแหวกว่ายไปอยู่ตรงหน้าตู้กระจกได้สำเร็จแล้ว สิ่งต่อไปที่เขาทำก็คือการโบกมือทักทายเหล่าผู้ชมตัวจิ๋วของเขาพอเป็นพิธี ก่อนที่เยลจะค่อย ๆ หยิบเอาซากปลาออกมาจากถุงอาหาร แล้วป้อนใส่ปากของปลากระเบนหลากหลายสายพันธุ์ทีละตัวอย่างใกล้ชิด ซึ่งเขาก็มีจุดประสงค์คือต้องการจะให้เหล่าเด็ก ๆ ที่เป็นหนูน้อยในวันนี้ได้เห็นว่าพวกมันมีนิสัยค่อนข้างเป็นมิตร หากมันรู้สึกปลอดภัยและมนุษย์ไม่ไปทำอันตรายให้กับพวกมัน แต่เพราะเมื่อวันสองวันก่อนเยลเพิ่งจะลงมาให้อาหารพวกมัน เหล่ากระเบนทั้งหลายจึงไม่ได้ว่ายกรูเข้ามาขออาหารจากเขาด้วยความหิวโหย ซีแอตว่ายมาหากันแล้วสินะ หลังเยลยืนป้อนอาหารให้ปลากระเบนเสือดาวและปลากระเบนจมูกวัวอยู่เกือบห้านาทีเห็นจะได้ แต่จู่ ๆ พวกมันก็ต่างแหวกว่ายหนีเขาไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งที่อาหารในถุงยังไม่ทันหมดเลย มันก็ทำให้เยลรับรู้ได้ทันทีว่าพวกมันคงจะเห็นซีแอตมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้เป็นแน่ ซึ่งพอเยลหันกลับไปมองด้านหลังของตัวเอง อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทันที เมื่อหน้าของเยลไปชนกับพุงขาวของซีแอตเข้าอย่างพอดิบพอดี โดยตัวของซีแอตเองก็ดูจะตกใจกับอุบัติเหตุทางใต้น้ำนี้เช่นกัน ทั้งที่ตัวมันเองแอบว่ายมาหาเขาจากทางด้านหลังแท้ ๆ เจ็บหรือเปล่า? เยลพยายามจะแสดงความเป็นห่วงมันด้วยการลูบช่วงท้องขาวเพื่อปลอบขวัญ ทว่าซีแอตกลับไม่ได้ให้ความสนใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนัก แต่มันกลับให้ความสนใจกับถุงอาหารในมือของเยลมากกว่า แล้วเพราะอย่างนั้น เขาจึงรีบหยิบซากปลาตัวใหญ่ถึงสองตัวป้อนใส่ปากมันแทนคำขอโทษโดยพลัน ซึ่งตัวของซีแอตเองก็ดูจะชอบคำขอโทษของเยลเอามาก ๆ สังเกตได้จากท่าแหวกว่ายของมันที่บอกว่ามันกำลังอารมณ์ดี แถมยังอารมณ์ดีสุด ๆ ด้วย เพราะหลังจากที่มันรับอาหารไปเสร็จ มันก็ไปทำหน้าที่เอ็นเตอร์เทรนผู้ชมด้วยการไปว่ายโชว์ความใหญ่โตของตัวเองที่หน้าตู้กระจก และพฤติกรรมของมันก็สามารถเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเหล่าแฟนคลับฟันน้ำนมได้เป็นอย่างดี เจ้าตัวนี้ยังไม่ได้กินอาหารเหมือนอย่างเพื่อนสินะ ขณะที่เยลกำลังมองลีลาของซีแอตด้วยสายตาเอ็นดูอยู่นั้น เขาก็ถูกเรียกร้องความสนใจจากปลากระเบนตัวเล็กตัวน้อยที่พยายามมาแหวกว่ายให้อยู่ในกรอบสายตาของเขา คล้ายกับมันต้องการมาขออาหารเหมือนอย่างปลากระเบนรุ่นพี่ เยลจึงไม่รอช้า เขารีบเปิดถุงอาหารอีกครั้งเพื่อหยิบเอาซากปลามาให้กระเบนตัวน้อย แต่ยังไม่ทันที่เยลจะได้ส่งปลาเข้าปากมัน เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อซีแอตหันมาเจอกระเบนจิ๋วเข้าพอดี เพียงแค่ซีแอตเห็นอย่างนั้น มันก็เลิกเล่นกับเด็ก ๆ แล้วแหวกว่ายตรงดิ่งเข้ามาหาเยลและกระเบนจิ๋วด้วยความเร็วเท่าที่กระเบนใหญ่ตัวหนึ่งจะสามารถทำได้ทันที ซึ่งพอเยลเห็นอย่างนั้น และคิดว่าซีแอตน่าจะเข้ามาทำอันตรายเขากับกระเบนจิ๋วแน่ ตามสัญชาตญาณที่เขามี จังหวะที่ซีแอตใกล้จะเข้ามาประชิดตัวเต็มที เขาก็รีบใช้เท้าถีบท้องมันออกไปอย่างแรง เพราะแรงขามักจะมีมากกว่ามือเสมอ แม้เยลจะถีบท้องกระเบนออกไปอย่างแรงเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทำได้ แต่เขาก็มั่นใจมากว่ามันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับซีแอตอย่างแน่นอน เนื่องจากแรงใต้น้ำและขนาดตัวของมันที่ใหญ่โตกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า จริงอยู่ที่การกระทำของเยล ไม่ได้ทำให้ซีแอตเกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย แต่เพราะมันไม่เคยถูกเยลถีบแบบนี้มาก่อน นั่นจึงทำให้มันค่อนข้างงงงวยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่พอสมควร แต่พอมันตั้งหลักได้ ซีแอตก็ไม่ได้ว่ายพุ่งเข้ามาหาเยลอีกแล้ว แต่มันกลับเลือกที่จะว่ายหนีเขาไปแทน คล้ายกับมันเสียใจมากที่เยลไปทำแบบนั้นกับมัน ขณะที่เยลเองก็ได้แต่มองตามมันอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น เนื่องจากเขาเองก็ขวัญเสียเพราะการกระทำของมันเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม