บทที่ 1 คู่ปรับ
บทที่ 1 คู่ปรับ
ณ ซอยร้างแห่งหนึ่ง
“ที่นี่แน่นะจ่า” เสียงแหบห้าวเอ่ยถามลูกน้องชั้นผู้น้อยกว่าอย่างจ่าสิบตำรวจบัญชา ป้องภัย ในขณะที่ตายังมองไปยังตึกเก่า ๆ ที่อยู่ต่อหน้ามีขนาดไม่สูงสักเท่าไหร่ บริเวณรอบข้างสงบเงียบไร้ซึ่งเสียงใดไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แม้กระทั่งเสียงยานพาหนะก็ไม่มี บ่งบอกได้ว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเปลี่ยวร้างมานาน เหมาะแก่การมั่วสุมเป็นอย่างมาก
“ชาวบ้านแจ้งมาว่าที่นี่แหละผู้กอง” บัญชาตอบกลับเจ้านาย “มันชอบมามั่วสุมกัน พอมั่วสุมเสร็จก็แว๊นรถท่อดังสร้างความรำคาญให้ชาวบ้านแถวนี้จนเขาเอือมระอาไปหมด”
ร้อยตำรวจเอกดนุวัศ ปัทมเวชธาดา ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแค่รับฟังเงียบ ๆ พร้อมตาที่มองซ้ายมองขวาสำรวจรอบทิศทาง ดูว่าตรงไหนจะเป็นจุดให้อีกฝ่ายหนี และจุดไหนที่อาจส่งอันตรายให้แก่เขาและลูกน้อง หลังจากสำรวจเสร็จก็หันไปบอกลูกน้องที่เตรียมพร้อมจะลุย
“สามคนอ้อมไปทางซ้าย อีกสามอ้อมไปทางขวา เดี๋ยวผมจะเข้าข้างหน้า”
“รับทราบครับ!”
ดนุวัศได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเล่นใหญ่ของลูกน้อง ทั้งที่บอกไปแล้วว่าไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น เขาไม่ได้ถือตัวถึงขนาดจะให้ใครมาเกรงอกเกรงใจเกินความจำเป็น เต็มที่กับการทำงานก็เพียงพอ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ยศใหญ่อะไรถึงกับต้องทำอลังการ
แต่อาจเป็นเพราะดนุวัศเพิ่งย้ายมาประจำการที่นี่ก็เลยยังมีความเกรงใจ เห็นเป็นแหล่งชุมชนเล็ก ๆ แต่ปัญหายาเสพติดระบาดหนักปราบปรามอย่างไรก็ไม่หมดเสียที ด้วยความที่มีเจ้าพ่อคุมระแวกนี้และมีเส้นสายใหญ่พอสมควรจึงไม่สามารถทำให้ตำรวจที่ประจำการอำเภอหนองแต๊ดจัดการได้เด็ดขาด ดนุวัศถึงได้ถูกสั่งย้ายมาเพื่อปราบปรามเพราะเขาไม่กลัวเส้นสายใด แต่ก็ไม่ได้พูดโอ้อวดเพียงแค่ทำงานเงียบ ๆ ปราบปรามด้วยแผนการไม่กระโตกกระตากให้เป็นจุดสนใจ และวันนี้ก็เพิ่งเป็นวันแรกที่เขาเข้ามาทำงานก็โดนต้อนรับด้วยงานแรกซะแล้ว
ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดพร้อมปฏิบัติงานก้าวตรงไปยังตึกร้างที่ว่า ส่วนลูกน้องอ้อมไปคนละข้างตามคำสั่ง รองเท้าคอมแบทเหยียบย่างเข้าไปในตัวตึกอย่างใจเย็น เสียงคุยกันดังแว่วมาให้ได้ยินเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่เสียงหนึ่งจะเอ่ยร้องเสียงดังเมื่อเห็นเขายืนตระหง่านต่อหน้า
“เห้ย…พ่อมึงมา!”
“เชี่ยแล้ว! หนีสิวะรอพ่อมึงจับหรือไง!”
“แม่งใครแจ้งวะไอ้ฟายเอ๊ย!”
ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววิ ร่างผอมแห้งที่กำลังพี้ยาเข้าปากอย่างสนุกสนานลนลานที่จะหนี บางคนอยู่ในจุดที่ดึงดาวไปแล้วทำได้แค่นั่งยิ้มไม่หือไม่อือ ส่วนพวกที่ยังพอหนีได้ต่างลุกสับขาวิ่งแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง แต่ก็โดนจับอยู่ดีเพราะเจ้าหน้าที่ต่างล้อมรอบทิศทางไว้หมดแล้ว
“จะหนีไปไหน!” จ่าบัญชาหิ้วปีกไอ้คนที่พยายามหนีให้มานั่งร่วมกันกับเพื่อนเหมือนเดิม นับรวมหัวมีแปดคนได้ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่มีเพียงชายคนเดียวเท่านั้นที่ยังนั่งยิ้มอารมณ์ดี ก่อนจะกอดเข้าที่ขาของดนุวัศพร้อมทำหน้าเพ้อฝัน
“ที่ร้ากกกกกกก” ไม่พูดเปล่าปากก็จูบเข้าที่ขาหน้าแข้งแล้วเอาหน้าแนบลงไปถูไถออดอ้อนน่ารักน่าชัง “ว่าแล้วที่รักต้องมาเค้างื้อ~”
ม๊วฟ ~
“แต่วันนี้ตัวที่รักเป็นแข็ง ๆ เนาะ”
บรรยากาศเข้าสู่ความกระอักกระอ่วน หลายคนอยากหัวเราะแต่ก็ไม่กล้าเพราะดูจากสีหน้าของดนุวัศแล้วไม่น่าจะขำด้วย ก่อนที่จ่าบัญชาจะเดินเข้ามาดึงขี้ยาจับออกไป
“ที่รักอะไรของมึง นั่งดี ๆ ถ้าไม่อยากโดนสันแข้ง!”
“ไม่เอา เค้าจะอยู่กับที่ร้ากกกกกก!” แต่อีกฝ่ายก็กอดขาดนุวัศแน่นอยู่ดี แถมยังทำปากจู๋เตรียมพร้อมที่จะจูจุ๊บสันแข้งของเขาอีกครั้ง
“ที่รักห่าอะไร แดกแล้วก็หลอนไอ้เวร!” ขาแกร่งสะบัดจนคนที่เมายากระเด็นไปอีกทาง แต่หน้าก็ยังยิ้มหวานเพ้อฝันเช่นเคย ปากยังคงบ่นขมุบขมิบตามประสาคนไปดึงดาวและกำลังมีความสุขอยู่รำไร
“จับขึ้นรถให้หมดเลยจ่า เอามันไปสอบสวนได้ยามาจากไหน”
“ครับ” หลังจากนั้นกุญแจมือก็ถูกจับล็อกอย่างที่ควรจะเป็น ตาคมกวาดมองไปรอบ ๆ สถานที่ที่มีอุปกรณ์เสพสมสารเสพติด กลางวันแสก ๆ พวกมันยังกล้าเล่นกันขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแถวนี้เถื่อนและไม่มีใครปราบได้จริง ๆ
“จับแล้วเอาไงต่อครับผู้กอง เดี๋ยวพวกมันก็ออกมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม” บัญชาเอ่ยถาม “ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ต่อไปคงติดกันเต็มบ้านเต็มเมือง สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว”
“หาต้นตอเจอก็จบแล้วจ่า”
“ผมพูดตรง ๆ นะผู้กอง แถวนี้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับพวกมันเพราะเส้นสายมันใหญ่มาก”
“…”
“ผู้กองคิดว่าจะเอาอยู่เหรอ”
“มีใครใหญ่กว่าโลงด้วยเหรอจ่า” สีหน้าของดนุวัศยังคงเดิมไม่มีเกรงกลัว “ถ้ามีใครใหญ่กว่าโลงบอกผม เดี๋ยวผมจะไปกราบมัน”
ฝ่ามือหนาตบที่แขนของจ่าบัญชาเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับไปที่เดิม วันนี้นึกว่าจะได้ออกแรงบู้แต่ปรากฏว่าแทบไม่มีอะไร มีแต่พวกขี้ยาที่กำลังนั่งพี้แทบไม่มีแรงวิ่งหนี แต่อย่างว่านี่น่าจะเป็นแค่ลูกกระจ๊อกเท่านั้น หากวันใดเจอที่ใหญ่กว่านี้คงจะได้ปะทะกันสักยก
“ผู้กองครับ! มีชาวบ้านอีกซอยแจ้งมาว่ามีบ้านหลังหนึ่งน่าจะพี้ยาเหมือนกัน เอาไงดีครับ”
จ่าอีกคนเดินเข้ามารายงานหลังจากที่ได้รับเรื่อง แน่นอนว่ามันทำให้ดนุวัศรับคำทันทีเพราะเขามาปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ!
“นำไปเลยจ่า!”