bc

ทาสรักนายหญิง

book_age18+
147
ติดตาม
1.3K
อ่าน
ล้างแค้น
แนวดาร์ก
โอกาสครั้งที่สอง
ดราม่า
หญิงจีบหญิง
ข้ามเพศ
ตึงเครียด
โลกเหนือธรรมชาติ
บรรลุนิติภาวะ
มัธยมปลาย
like
intro-logo
คำนิยม

เมื่อก่อนเธอเป็นถึงเจ้านาย เป็นลูกของมหาเศษฐีชื่อดังของไทยแต่เพราะโชคชะตาที่เล่นตลกหรือจะเรียกว่าผลกรรมทำให้เธอต้องกลายมาเป็นทาสให้กับผู้หญิงคนนี้.....ผู้หญิงที่ชื่อพลอยใสผู้เป็นเหมือนรักแรกของเธอ....

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1 ขายตัว
ตอนที่ 1 ขายตัว แสงแดดของเช้าวันเสาร์ค่อยๆ สาดส่องเข้ามาในห้องนอนเผยให้เห็นร่างบางของเด็กสาวชาวมนุษย์อายุประมาณสิบเจ็ดถึงสิบแปดปี ใบหน้าน่ารักและงดงามเช่นเดียวกับผิวพรรณที่ต่อให้ไร้เครื่องสำอางก็ยังดูงดงามค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงตามความคุ้นชิน “อืม~” กำปั้นเล็กๆ ค่อยๆ ขยี้เปลือกตาเพื่อปลุกตนเองให้ตื่นจากความง่วงก่อนที่ร่างนั้นจะหายเข้าไปในห้องน้ำนานนับห้านาทีและเดินออกมาเตรียมอาหารเช้าสำหรับวันนี้ ซึ่งมันก็คืออาหารสำเร็จรูปที่ซื้อมาจากซูเปอร์เมื่อวานระหว่างรอตัวของเด็กสาวก็เดินไปเปลี่ยนชุดก่อนจะมาจัดการกับอาหารเช้าของตนเพื่อให้มีแรงสำหรับงานในวันนี้ “อรุณสวัสดิ์จ้ะ หนูหอม” “คุณอาราเชล สวัสดีค่ะ” ข้าวหอม คือชื่อของเด็กสาวเธอหันไปยิ้มและทักทายคุณน้าสาวเผ่าหมาป่าที่มักจะออกมาวิ่งยามเช้าเสมอ ส่วนเธอบางครั้งก็จะตื่นมาวิ่งกับอีกคนด้วย “ไปทำงานเหรอจ้ะ ขยันจังเลยนะ” “ถ้าไม่ขยันหนูก็ไม่ได้เรียนและมีงานดีๆ ทำสิคะ” “ความคิดดีเหมือนเดิมเลยนะ อะจริงสิรออาแป๊บนึงได้ไหมจ๊ะ” “ค่ะ” เธอตอบหญิงสาวตรงหน้าก่อนที่อีกคนจะวิ่งหายเข้าไปในบ้านหลังเล็กพอดีสำหรับครอบครัวไม่เกินสามคนก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมกับถุงส้มจำนวนสองสามผลที่ทั้งขนาดและรสชาติของมัน ไม่ว่าเธอจะได้ลองทานกี่รอบเธอก็ตอบได้อย่างเต็มปากว่ามันอร่อยกว่าสมัยที่เธอเคยกินตอนเด็กๆ มาก “อะ...อาให้พอดีญาติอาเขาส่งมาให้อาเยอะ” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณอาราเชล หนูเกรงใจ” “รับไปเถอะจ้ะถือว่าตอบแทนที่สองวันก่อนเราช่วยดูแลลูกอาไง” “แต่เรื่องนั้นหนูยินดีทำนะคะ อีกอย่างคุณอาก็จ่ายเงินให้ด้วย” “น่านะ หอม รับไปเถอะจ้ะ” “ก็ได้...ค่ะ” สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้ให้กับรอยยิ้มแสนอบอุ่นของคุณอาผู้ใจดีตรงหน้าก่อนที่เธอจะเดินไปเตรียมเข้างาน ส่วนสถานที่ทำงานของเธอนั้นเป็นร้านอาหารตะวันตกขนาดเล็กตรงข้ามโรงเรียนของเธอที่มีเจ้าของเป็นคุณยายร่างท้วมเผ่าแมวผู้ใจดี แถมยังมีความสามารถทำอาหารได้หลากหลายประเภท แต่ที่ถนัดสุดก็เป็นอาหารแนวตะวันตก “อูยย...เจ็บๆ” “ยาย! หนูบอกแล้วไงคะว่าเดียวหนูมาเปิดเอง ว่าแต่เจ็บตรงไหนไหมคะ” ข้าวหอมรีบวิ่งไปดูอาการของคุณยายแก่ด้วยความเป็นห่วง “ข้าวหอม...อูย...เจ็บๆ ...หนูมาเร็วเหมือนเดิมนะเนี่ย” “ไปนั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูเอายาให้” “ขอโทษที่รบกวนนะจ๊ะ” “เรื่องแค่นี้เองค่ะ มาค่ะคุณยายส่งมือมา” ข้าวหอมเดินพาคุณยายเข้าไปนั่งในร้าน ดีที่ประตูเหล็กมันเปิดเกินครึ่ง เธอเลยสามารถเอากุญแจร้านที่ซ่อนอยู่ใต้กระถางดอกไม้มาไขเปิดประตูด้านในเพื่อพาหญิงชราเข้าไปนั่งพัก โดยไม่ลืมหยิบยาแก้ปวดให้กับอีกคน ก่อนที่เธอจะเดินไปเปิดร้านอย่างเต็มรูปแบบ และระหว่างที่เธอกำลังเอาผ้ากันเปื้อนสวมทับชุดยูนิฟอร์มของร้าน สายตาของเธอก็จ้องมองออกไปยังประตูบานใหญ่ที่เป็นทางเข้าพลางคิดถึงอดีต “คิดถึงอดีตเหรอจ๊ะ” “ค่ะ แต่ยายคะ...” “จร้าๆ ไปนั่งพักดีๆ สักสองถึงสามนาทีก่อนใช่ไหม งั้นเดี๋ยวยายจะรีบไปนั่งพักระหว่างนั้น หอม ช่วยเตรียมเครื่องครัวให้ยายทีนะ” “ค่ะ ไว้ใจได้เลย” ข้าวหอมตอบหญิงชราด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะหันกลับไปมองยังหน้าบานประตูอีกครั้ง ใช่มันนานแค่ไหนแล้วนะที่เด็กผู้หญิงที่เพิ่งจะขึ้นมัธยมต้นสวมชุดนักเรียนตัวสุดท้ายที่ครอบครัวซื้อให้มายืนมองหน้าร้านนี้ด้วยสภาพหิวโซท่ามกลางฝนตก เธอจำได้ดีว่าวันนั้นมือเล็กๆ ของเด็กสาวล้วงเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงซึ่งภายในนั้นเต็มไปด้วยเงินตราสมัยก่อนของประเทศนี้ ที่ตอนนี้มันมีค่าแค่เศษกระดาษหากแต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี ที่หนึ่งในลูกค้าที่เดินออกมาจากร้านนี้ (กลุ่มสุดท้าย) ทำเศษเงินตก ด้วยความหิวเด็กน้อยเลยไม่สนอะไรเธอรีบวิ่งไปเก็บเหรียญนั่นและเดินเข้ามาหาเจ้าของร้าน ซึ่งก็คือหญิงชราเผ่าแมว ‘ข...ขอซื้อ...ข้าวหน่อย..ค่ะ’ เด็กน้อยในตอนนั้นพยายามเรียบเรียงภาษาของประเทศนี้อย่างสุภาพที่สุดและน่าจะถูกต้องที่สุด พูดกับเจ้าของร้านพร้อมกับชูเหรียญที่เพิ่งจะเก็บได้เมื่อครู่ให้กับหญิงชรา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเศษเงินนั่นไม่สามารถซื้อข้าวได้แม้แต่เพียงกำมือเดียวก็ตาม แต่สิ่งที่หญิงชราเอามาให้กลับเป็นสตูร้อนๆ กับข้าวหนึ่งถ้วย ก่อนที่หลังจากนนั้นหญิงชราจะชวนเด็กสาวพูดคุยพลางสอนภาษาเธอทางอ้อม ก่อนที่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาอีกคนจะถามเธอว่า ‘อยากทำงานไหมจ๊ะ’ แน่นอนว่าเด็กน้อยคนนั้นตอบรับคำของอีกคน ทั้งห้องเช่าและเงินที่เธอมีอยู่ทุกวันนี้ล้วนแต่มาจากเงินที่เธอทำงานให้อีกคน และตลอดระยะเวลา 3 ปีเธอก็ผูกพันกับร้านเล็กๆ นี้เสมือนเป็นบ้านของเธออีกหลังนึง “ยายคะอีก 2 นาทีก็สามารถเปิดร้าน....ยาย!” ข้าวหอมที่เพิ่งจะเตรียมวัตถุดิบเสร็จเดินมาหาหญิงชราที่ห้องพักส่วนตัว แต่ก็พบว่าตอนนี้ยายแกก็กำลังกึ่งนั่งกึ่งคลาน มือซ้ายของอีกคนก็กำลังกำขอบโต๊ะเอาไว้อย่างแน่น เร็วกว่าความคิดร่างของหญิงสาวรีบวิ่งไปช่วยพยุงร่างกายของอีกคนมานั่งบนโซฟาขนาดใหญ่ตรงข้ามบานกระจกที่สามารถมองเห็นทั้งส่วนครัวและร้าน “ยาย ไหวไหมคะ อย่าบอกนะว่าอาการกำเริบอีกแล้ว” “อืม น่าจะเป็นแบบนั้นแหละจ้ะ” หญิงชราพยายามตอบข้าวหอมด้วยรอยยิ้ม เธอนั้นเป็นแบบนี้มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว เนื่องจากที่สมัยก่อนตัวเธอถูกพวกมนุษย์ทำร้ายเอาไว้มากจนระบบร่างกายเสียหายจนยาที่อีกคนต้องกินทุกวันนี้ทำได้เพียงระงับอาการเท่านั้น ยารุ่นใหม่หรือแม้แต่การผ่าตัดก็มีราคาแพง แม้ว่าหญิงชราตรงหน้าจะพอมีเงิน บวกกับที่ข้าวหอม อ้อนวอนปนขอร้องให้อีกคนไปรักษาอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่อีกคนก็เลือกจะไม่ไป “หนูว่ายายควรไปหาหมอนะคะ” “ไปแล้วใครจะดูร้านล่ะจ๊ะ” “ก็ปิดสักวันสองวันก็ได้นี่คะ” “ไม่เอาหรอกจ้ะ ยายน่ะมีความสุขนะที่ได้มองได้ทำอาหารทุกวัน ถ้าต้องหยุดไปนอนอยู่บนเตียงแบบนั้นยายไม่เอาหรอก” “ยายดื้อ” สุดท้าย ข้าวหอมก็อดไม่ได้ที่จะว่าอีกคน แต่อีกคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธเธอเลยแม้แต่น้อย กลับกันอีกคนนั้นทั้งรักและเอ็นดูข้าวหอม ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหลานสาวที่จากไปของเธอมาก แน่นอนว่าเรื่องนี้ ข้าวหอมรู้ดี เพราะเธอเคยมีโอกาสได้เล่นกับหลานสาวของหญิงชรา แต่เมื่อ 3 ปีก่อนหรือตอนที่เธอเริ่มงานได้เพียง 3 เดือนอีกคนก็จากพวกเราไป เพราะร่างกายทนพิษและความบอบช้ำที่เคยได้รับจากพวกมนุษย์แบบเธอไม่ไหว “จ้าๆ ...ว่าแต่...” “เดี๋ยววันนี้หนูเข้าครัวเองค่ะ ยายไม่ต้องห่วงนะคะ” พูดจบข้าวหอมก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อเปิดครัว ต้องขอบคุณความเอ็นดูของหญิงชราที่ตลอดสามปีที่ผ่านมานั้นอีกคนสอนเธอหลายอย่าง แม้บทเรียนจะโหดแต่มันก็ทำให้เธอพอจะทำอาหารง่ายๆ เป็น “อ้าว...หนูหอม วันนี้หนูเป็นคนคุมร้านเหรอจ๊ะ” “ค่ะ คุณลุง” “ตร๊าย~ลุงเลิงอะไร เจ้บอกหลายรอบแล้วว่าให้เรียกคุณพี่หรือเจ้~” “ขอโทษค่ะ..แหะๆ” “พี่หอม ป๋ม ขอมัฟฟิ้นกับรั้นเอเหมือนเดิม ฮับ” “ได้เลยน้องหงส์” ข้าวหอมขานรับออร์เดอร์ของเด็กชายผู้เป็นลูกแท้ๆ ทางสายเลือดของคุณลุงใจหญิงตรงหน้าบอกตรงๆ ว่าช่วงหลังสงครามครั้งใหญ่นั่นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งภาษา วิถีชีวิต วิทยาการ และสิ่งอื่นๆ อีกมากมายที่เธอต้องเรียนรู้ เพื่อเอาตัวรอดในสังคมที่เต็มไปด้วย เวทมนตร์ กับวิทยาศาสตร์และผู้คนที่เหมือนหลุดออกมาจากนิยายเหล่านี้ “ได้แล้วจ้ะ น้องหงส์” “ขอบคุณฮับ!” “จ้า~” ดีอย่างนึงที่สังคมที่เธออยู่นั้นเต็มไปด้วยคนดีๆ ซะเป็นส่วนมาก ชีวิตความเป็นอยู่มันเลยดี เพียงแต่ใช่ว่าหนึ่งวันนั่นจะมีแต่เรื่องดีเสมอไป ปัง! “กรี๊ดด!” เสียงกรีดร้องของชายหนุ่มหัวใจสาวดังขึ้น ส่วนตัวเธอที่อยู่ใกล้กับเด็กชายก็รีบดันตัวเด็กน้อยเข้ามาหลบด้านหลังเธอ ก่อนที่แววตาที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายจะมองไปยังกลุ่มคนที่ค่อยๆ เดินมาหาเธอพร้อมกับร่างของชายแก่ร่างท้วมที่เพิ่งจะถูกโยนลงมากองตรงหน้าเธอ และอีกอย่างสภาพของชายแก่นั่นดูไม่ได้เอาซะเลย “ไง ข้าวหอม” เสียงของชายตัวใหญ่ไว้หนวดและมีหน้าตาน่ากลัว เขาสวมสูทเนื้อดี โดยที่สองมือบนนั่นเพิ่งจะจุดบุหรี่ (สิ่งผิดกฎหมายในออร์บ) และสองมือล่างกำลังเท้าเอว ใช่ฟังไม่ผิดหรอก เพราะชายตรงหน้านั่นมีสี่มือแถมยังมีลูกน้องอีกหลายคนด้วย “ลุงเดช หนูว่าหนูเพิ่งจะจ่ายเงินให้ลุงไปนะคะ” “ใช่ หนูเพิ่งจะจ่ายให้ลุงมาแต่...อาของหนูมันแส่หาเรื่องใส่ตัว” ชายสี่แขนพูดด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่เขาจะฉายภาพโฮโลแกรมให้กับเด็กสาวได้ดู ซึ่งภาพนั้นมันเป็นภาพกล้องวงจรปิดของ อา แท้ๆ ของเธอที่รอดมาด้วยกัน เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอดนั้นกำลังพยายามจะแงะตู้กดเงินสดของผับขนาดใหญ่ยามวิกาล และผับนั่นมันดันเป็นผับของชายสี่แขนคนนี้ และมีเหรอที่คนทำผิดจะยอมให้จับ พอลูกน้องชายสี่แขนนี้รู้ว่าเขาสามารถขโมยเงินได้หลายหมื่น และเอาไปเล่นพนันในผับก่อนจะมีเรื่องเล็กน้อย...เออ..ไม่น้อยเลยล่ะ เพราะอีกคนมีท่าทางเมาด้วย “ทีแรกลุงกะว่าจะปล่อยไปเพราะเป็นเงินไม่กี่หมื่น แต่เรื่องที่มาอาละวาดในผับลุงจนเกิดความเสียหายใหญ่โตแบบนี้ลุงบอกตรงๆ ว่ารับไม่ได้” “หนูขอโทษแทนอาของหนูด้วยค่ะลุงเดช” “ลุงไม่ต้องการคำขอโทษข้าวหอม” “ถ้างั้นค่าเสียหายทั้งหมดมันเท่าไหร่คะ เดี๋ยวหนูจะเก็บเงินมาจ่าย-” “ไม่ ไอ้เรื่องใจดีอย่างที่เคยให้หนูทำงานหาเงินมาชดใช้น่ะไม่มีอีกแล้ว พวกแกจัดการ” “ครับ” สิ้นเสียงเหล่าลูกน้องของชายสี่แขนก็รีบวิ่งมาเตรียมจะจับกุมข้าวหอม แต่ก่อนที่พวกเขาจะถึงตัวของข้าวหอมนั้น มือของพวกเขาก็ถูกกระแสไฟฟ้าจากโล่เวทมนตร์ชอร์ตเข้าจนต้องรีบถอยหนีกัน ส่วนเดชก็ทำเพียงพ่นควันออกมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะมองไปที่ร่างของหญิงชราเผ่าแมวที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าร้าน “คุณโอปอ ช่วยอย่ามาขวางผมได้ไหม” “เกรงว่าจะมิได้ เพราะต่อให้เป็นคุณฉันก็ไม่มีวันให้พาตัวหลานฉันไปไหนทั้งนั้น..แค็กๆ” “ยาย!” ข้าวหอมรีบวิ่งมาดูอาการของยายทันทีที่เธอเห็นว่าอีกคนไอออกมา พร้อมกับร่างที่ทรุดลงกับพื้น “เฮ้อ~คุณนี่ชอบฝืนตัวเองตลอดเลยนะคุณโอปอ ทั้งที่เด็กนั่นไม่ใช่-” ฟิ้ว! ไม่ทันที่เดชจะได้พูดจบ แก้มซ้ายของเขาก็ถูกอะไรพุ่งผ่านอย่างรวดเร็วก่อนที่เลือดสดๆ จะซึมออกมาเล็กน้อย ซึ่งเขารู้ว่ามันเป็นฝีมือของหญิงชราตรงหน้า “แก...อย่ามาพูดทั้งที่แกไม่รู้อะไร...ต่อให้เป็นคนละสายเลือด ข้าวหอม...ก็เป็นหลานฉัน-แค็กๆ” “ยาย อย่าฝืนสิ ยาย” ข้าวหอมรีบทำทุกวิถีทางเพื่อจะช่วยบรรเทาอาการของหญิงชรา แต่ร่างนั้นกลับล้มลงต่อหน้าเธอเพราะการฝืนร่างกาย ความกลัวและภาพในวัยเด็กที่เธอเคยคิดว่าสามารถปิดผนึกเอาไว้ได้แล้ว กลับฉายออกมาภายในหัวของเธอ ภาพของพ่อ แม่ และน้องชายที่นอนจมกองเลือดโดยไม่อาจกลับมา และท่ามกลางกองศพนั่นก็มีเงาของหญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนหูยาวค่อยๆ หันมาหาเธอ “พวกแกไปจัดการที่เหลือซะ” “ครับ” เหล่าลูกน้องต่างเดินตรงไปที่ร้านอาหารของผู้เป็นยายก่อนจะเริ่มทำการทุบและทำลายข้าวของภายในร้าน จนทำให้สองพ่อลูกที่อยู่ข้างเธอกรีดร้องออกมาอย่างดังเรียกคืนสติของเธอได้อย่างรวดเร็ว “หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้!” ข้าวหอมรีบวิ่งไปหวังจะห้ามการกระทำของลูกน้องเดช แต่ไม่ว่าเธอจะตะโกน ขอร้อง หรือเอาเศษเหล็กหมายจะทุบตีลูกน้องพวกนั้นเธอก็กลับโดนเดชดึงคอเสื้อโยนออกมานอกร้านพร้อมกับพ่อลูกที่มาซื้ออาหารจากร้านเธอ และด้วยความที่เดชโยนเธอมาแบบไม่ได้สนว่าเธอจะชนกับอะไรทั้งสิ้น รู้ตัวอีกทั้งตัวเธอก็กระแทกกลิ้งไปกับพื้น ก่อนที่หัวของเธอจะกระแทกเข้ากับกำแพงจนเธอหมดสติลงท่ามกลางภาพของบ้านอีกหลังที่ค่อยๆ พังทลายลงไป “เฮือก!” ข้าวหอมสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้ง แต่พอเธอหันไปมองรอบด้านเธอกลับพบว่าทั้งเพดานและผนังห้องช่างไม่ได้มีความคุ้นตาเธอเลยแม้แต่นิด “ที่นี่...ที่” แก๊ก ตอนที่เธอขยับมือหวังจะมาจับหัวของตนเองที่ยังคงมีอาการปวด ความรู้สึกหนักที่ข้อมือกับเสียงที่เหมือนมีเหล็กกระทบกันก็ทำให้เธอค่อยๆ ก้มมองลงมาตามเสียง “นะ...นี่มันอะไรกัน!” หญิงสาวร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังอยู่ในชุดชั้นในตัวเอง แถมที่ข้อมือยังมีกำไลและโซ่เหล็กที่พันธนาการแขนทั้งสองของเธอ “ตื่นแล้วเหรอ” “ลุงเดช...นี่มันอะไรคะ” “อะไร ก็ลุงกำลังให้เธอใช้หนี้ลุงไง” “แล้วทำไมหนูถึงมาอยู่ในสภาพนี้....แล้วยายล่ะ...ยายโอปอกับร้านหนูล่ะ” “โอปอมันตายเพราะฝืนตัวเอง ส่วนร้านก็ถูกพวกฉันทำลายไปแล้ว และแกในตอนนี้มีค่าเป็นเพียงสินค้าเท่านั้น” “สินค้า...อย่ามาพูดบ้าๆ นะคะ ตัวหนูไปเป็นสินค้าลุง-” ดวงตาของข้าวหอมเบิกกว้างทันทีที่จู่ๆ ชายสี่แขนก็ยื่นเอกสารรับรองการเลี้ยงดูตัวเธอให้กับเขา แถมที่บรรทัดสุดท้ายยังมีลายเซ็นของผู้เป็นอาของเธอ “ม...ไม่จริง” “จริง” “โกหก ลุงโกหก” “งั้นดูคลิปไหมล่ะ” “ฮะ....” ไม่กี่นาทีต่อมา ชายสี่แขนก็ทำการฉายภาพโฮโลแกรมต่อหน้าเธอ ซึ่งเป็นภาพของเขากับผู้เป็นอาของเธอกำลังพูดคุยกันภายในห้องนี้ ‘แกทำฉันเสียหาย ทั้งก่อเรื่องในผับ ขโมยเงิน ทำลายข้าวของ รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านแกจะชดใช้ยังไง’ ‘ผ...ผมจะรีบหามาใช้ให้เร็วที่สุดครับ’ ผู้เป็นอาพูดออกมาด้วยความกลัว ทั้งที่เขาก็รู้ตัวดีว่าไม่มีทางหามาได้ ‘ฉันมีข้อเสนอให้แกสามารถชดใช้ค่าเสียหายครั้งนี้ แถมยังจะให้เงินเพิ่มด้วยสนใจ-’ ‘ส...สนครับ สนใจครับ!’ ผู้เป็นอาของเธอรีบตอบรับอย่างไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวที่จะคิดทบทวน นั่นทำให้ชายสี่แขนตอนนั้นถึงกับแสยะยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะเอารูปของเธอวางลงกลางโต๊ะ ‘รู้ไหมรูปร่างหน้าตาหนูข้าวหอม ตอนนี้นะ ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าของฉันมากเลย’ ‘ท...ท่านจะบอกให้ผมยกหลานสาวให้เหรอครับ’ ‘เข้าใจเร็วดีนี่หว่าได้ไหมล่ะ ปลดหนี้ พร้อมเพิ่มเงินให้อีก 4 ล้านเท่ากับกับจำนวนที่แกทำลายข้าวของร้านฉัน’ ‘สนครับๆ อ...เอกสารอยู่ไหนเหรอครับ’ คำตอบของผู้เป็นอานั้นทำให้ข้าวหอมถึงกับร้องไห้ออกมา อาเธอไม่เสียเวลาแม้แต่จะคิดเลย พอเห็นเงินอยู่ตรงหน้าเขากลับสามารถเอาทุกอย่างมาแลกกับมัน แม้ว่าเธอจะรู้มาตลอดว่าอาเธอเป็นคนนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่เธอไม่คิดเลยว่าอาเธอจะยอมเอาครอบครัวที่เหลือรอดด้วยกันมาแลกกับเงินจำนวนนั้น และภาพต่อจากนี้ต่อให้เธอไม่ดูก็สามารถเดาได้ อาเธอเซ็นเอกสารให้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำท่าทางดีใจตอนที่ได้เงิน ที่เจ็บกว่านั้นคือภายในห้องตอนนั้นมีร่างของเธอกำลังถูกลูกน้องผู้หญิงจับแก้ผ้าอยู่ “ชัดไหม ลุงถ่ายอย่างละเอียดที่สุดเลยนะ” “ค..ค่ะ” “ดี...พวกแกพามันไปขึ้นเวทีได้แล้ว” “ครับ / ค่ะ” วินาทีนั้นข้าวหอมไม่อยากจะคิด หรือรู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว เธอไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้ร่างของเธอกำลังถูกใครจูงไปไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ใบหน้าของเธอกระทบกับแสงไฟบนเวทีขนาดใหญ่ ที่เหนือเธอมีเหล่าบรรดาผู้คนมากหน้าหลายตาสวมใส่หน้ากากกำลังยิ้มให้กับเธอ “และแล้วก็มาถึงสินค้าตัวสุดท้ายจากทางเราครับ เด็กสาวเผ่ามนุษย์อายุ 17 ปีย่าง 18 มีชื่อว่าข้าวหอม ไร้ชื่อจริงไร้นามสกุล” เสียงของพิธีกรบรรยายเกี่ยวกับเธอราวกับเป็นสินค้า พอแอบเงยหน้ามองไปที่จอด้านข้างก็พบว่ามีรูปภาพของเธอที่กำลังตั้งใจทำงานที่ร้านเก่าแถมยังมีรายละเอียดความสามารถของเธอประดับไว้ราวกับเป็นรายละเอียดของสินค้า “ความสามารถของข้าวหอมนั้นเป็นไปตามที่ทุกท่านเห็น และราคาเริ่มต้นของเด็กนี่อยู่ที่ 16 ล้าน-” “100 ล้าน!! ” น้ำเสียงของหญิงสาวบางคนดังขึ้นท่ามกลางผู้คนนับร้อย พร้อมกับจำนวนเงินมหาศาลที่ไม่เคยมีใครคนไหนยอมจ่ายเพื่อซื้อทาสถึงขนาดนั้น “อ...เออ....คุณลูกค้าครับ” “ไม่ได้ยินหรือไงฉันบอกว่า 100 ล้าน และมีใครในที่นี้จะสู้ราคาของดิฉันไหมคะ” “...” “ถ้าไม่มีดิฉันขอซื้อตัวเด็กคนนั้นด้วยราคานี้และคุณ” “ค..ครับ!” “พาตัวเด็กคนนั่นมาหาฉัน เดี๋ยวนี้ !! ” เชื่อเถอะว่าทั้งงานนั่นไม่มีใครกล้าแข็งข้อหรือกล้าเสนอราคาเพื่อแข่งกับหญิงสาวคนนี้หรอก และเพราะสิ่งที่หญิงสาวนั่นทำเอาไว้ทำให้งานประมูลจบลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พิธีกรหนุ่มกับเดชจะพาตัวของเธอมาหาหญิงสาวคนนั้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งพอเธอได้มองรูปร่างของอีกคน ก็ทำให้รู้ว่าอีกคนเป็นเอลฟ์ หากแต่สายตาที่อีกคนใช้มองเธอนั่น ช่างชวนให้เธอนึกถึงใครบางคน ใครบางคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ ใครบางคนที่ยอมรับฟังและช่วยแก้ปัญหา ใครบางคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากศพของครอบครัวเธอ ใครบางคนที่เธออยากจะได้คำอธิบายเรื่องในคืนที่เธอสูญเสียทุกอย่าง และเมื่อหน้ากากถูกเปิดออก พร้อมกับมือที่จัดการโอนเงินจำนวนมหาศาลนั่นเข้าบัญชีของชายสี่แขน ก็ทำให้ข้าวหอม ถึงกับตกอยู่ในอาการมึนงง หวาดกลัวและที่สำคัญเธอดีใจด้วยที่คนตรงหน้าเธอก็คือ “พ...พลอยใส”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Heroine (ที่นี่ไม่มี นางเอก)

read
14.7K
bc

เป็นแฟนผมนี่มันไม่ดียังไงครับเฮีย

read
3.2K
bc

เป็นได้แค่เพื่อน(รัก)

read
7.8K
bc

คุณอาของหนู...น่ารักกว่าใคร

read
7.9K
bc

งูบ้านนี้สายพันธุ์เหมียว (Luna V.)

read
1K
bc

เมื่อปีศาจมาสิงสู่ [omegaverse]

read
1K
bc

Friendship จุดจบสายเถื่อน

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook