รอยรัก ตอนที่ 10 คนที่ทำให้เกลียดกัน

1675 คำ
@คฤหาสน์พิพัฒน์พงษ์ รถสปอร์ตคันหรูเลื่อนมาจอดภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ "นายกลับไปเถอะนะ ฉันขอร้อง" น้ำพิงทำสายตาเว้าวอน "ไม่!! แล้วก็ลงไปได้ละ" "......"น้ำพิงยังคงนั่งนิ่ง "ไม่ลงใช่ไหม...ได้!!" ปัง!! เวไนยปิดประตูรถเสียงดังแล้วรีบเดินไปอุ้มน้ำพิงลงจากรถมาทันที "จะทำอะไรปล่อย ปล่อยนะ" น้ำพิงพยายามดิ้น "อยู่เฉยๆ ไม่งั้นจะปล่อยให้ตกจริงๆด้วย" "คุณหนู!!!" "มีอะไร ใครมาเสียงดังโวยวายอยู่หน้าบ้าน ยัยน้ำพิง!!!" "คุณพ่อ!!" "คุณพ่อหรอ อ่อ เอ่อสวัสดีครับ" เวไนยกล่าวทักทายคนสูงวัยกว่าทั้งที่ยังอุ้มน้ำพิงไว้ในอ้อมแขน "วางลูกฉันลงได้แล้วและก็เข้าไปคุยกันในบ้าน" เวไนยยอมทำตามแต่โดยดี และเดินจูงมือน้ำพิงเดินตามหลังชายสูงวัยเข้าไปในบ้าน "ทำอะไรกันก็หัดเกรงใจซะบ้าง ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้ว" ภาคพูดเสียงแข็ง "คุณพ่อคะ คือ...หนูขอโทษค่ะ" "ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยลงมา ส่วนคุณเชิญทางนี้ผมขอคุยด้วยหน่อย" "ค่ะ/ครับ" ทั้งคู่ตอบตกลงและยอมทำตามอย่างที่ภาคสั่ง "เชิญคุณนั่งก่อน เข้าเรื่องเลยนะคุณกับลูกสาวผมคบกันจริงใช่ไหม" "ครับ" "อันที่จริงผมก็พอเข้าใจเรื่องรักๆใคร่ๆของหนุ่มๆสาวๆสมัยใหม่นะ แต่ในฐานะพ่อลึกๆแล้วผมก็รับไม่ได้หรอกนะ แต่เห็นว่าโตๆกันแล้วผมก็เลยไม่อยากยุ่ง แต่ที่ผมยอมคุยกับคุณดีๆ เพราะเห็นว่าคุณเป็นคนตรง กล้าที่ยอมรับกับสิ่งที่ทำ ไหนคุณลองบอกมาสิว่าจะรับผิดชอบลูกสาวผมอย่างไง" "ผมต้องขอโทษท่านด้วยที่ผมทำไม่ถูกต้อง ผมยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น" "แล้วจะรับผิดชอบอย่างไง" "ถ้าท่านไม่รังเกียจที่ผมเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร ผมก็จะขอหมั้นกับน้ำพิงไว้ก่อนแล้วพอจบงานวิจัยค่อยแต่งงานกัน เพราะถ้ารีบแต่งผมกลัวว่าคนจะเอาไปนินทาได้ว่าน้ำพิงท้องก่อนแต่ง" "คุณแคร์คนอื่นด้วยหรอ" "ผมไม่ได้แคร์คนอื่นผมแคร์น้ำพิงต่างหาก" เวไนยตอบเสียงหนักแน่น "ดี!! หนักแน่นดี งั้นเอาตามที่คุณบอก ส่วนฤกษ์ยาม..." "ผมขอเป็นสัปดาห์หน้าเลยได้ไหม ผมไม่ต้องการฤกษ์อะไร เอาที่เราทั้งสองคนสะดวกก็พอ ผมอยากรับผิดชอบให้เร็วที่สุด" "อย่างงั้นก็ได้ งั้นหมั้นกันวันศุกร์หน้าเลยแล้วกัน" "อะไรนะคะ!! หมั้น!! ใครหมั้นกับใคร?"น้ำพิงที่เดินลงมาได้ยินพอดีถามขึ้นด้วยความตกใจ "อ้าว..ลงมาพอดี" ภาคเอ่ยทักลูกสาว "ใครหมั้นกับใครคะคุณพ่อ" "ก็ลูกกับ.." "เรียกผมว่า เวย์ สั้นๆก็ได้ครับคุณพ่อ" "ก็ลูกกับเวย์ไง" "ไม่นะคะทำไมต้องหมั้น หนูไม่..." "เดี๋ยวผมขอคุณกับน้ำพิงก่อนนะครับ" เวไนยรีบตัดบทพาน้ำพิงออกไปด้านนอก "นี่มันอะไรกัน นายต้องการอะไรกันแน่ จะทำแบบนั้นไปทำไมในเมื่อนายเองก็เกลียดฉันมาก" "ก็รับผิดชอบเธอไง" "ฉันไม่ต้องการ!!" "ฉันก็ไม่ได้ถามว่าเธอต้องการไหม ไม่ต้องการความเห็นจากเธอ เธอมันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่ฉันเคยนอนด้วยนักหรอกนะ แต่การที่ฉันยอมรับผิดชอบเธอก็เพราะต้องการเอาเธอทรมารต่างหาก" "ที่ผ่านมายังไม่พอใจนายอีกรึไง ที่ผ่านมาฉันยังทรมานไม่พอหรอ" น้ำพิงเริ่มน้ำตาคลอ "หึ...ไม่!!มันยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับชีวิตคนคนนึงที่เธอทำลายไป" "นายนั้นแหละที่ทำลายชีวิตคนอื่น ทำลายชีวิตลูก....ลูกผู้หญิงคนนึงอย่างเลือดเย็น" ความโมโหเกือบจะทำให้น้ำพิงหลุดปากเรื่องในอดีตไปเสียแล้ว "ชีวิตมันก็ต้องแลกด้วยชีวิตสิ นี่ฉันอุตส่าห์ให้เธอใช้ชีวิตอันแสนสงบสุขมาตั้ง 2 ปี เลยนะตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับมาสานต่อแล้วแหละ แล้วไม่ต้องคิดจะปฏิเสธหรือคิดจะหนีด้วยเพราะครั้งนี้ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไป" "ทำไมฉันต้องทำตามที่นายบอกด้วย" "เพราะถ้าเธอไม่ทำรูปพวกนี้...." เวไนยยื่นโทรศัพท์ให้น้ำพิงดู "นี่!! ไอ้โรคจิต เอามานี่นะเอามาเดี๋ยวนี้" น้ำพิงพยายามแย่งโทรศัพท์ที่มือรูปของเธอและเขานอนกอดกันในสภาพเปลือยด้านบนอยู่ แต่ก็ถูกเขาดึงหันหลังเข้าไปกอด "ตอนแรกว่าจะเก็บเอาไว้เป็นดูเล่น แต่ถ้าขืนยังดื้อไม่ยอมฟังละก็...รูปนี้ได้ว่อนไปทั่วแน่ แล้วอย่างคิดว่าฉันไม่กล้าเพราะฉันคงไม่โง่เปิดหน้าตัวเองหรอก" เวไนยกระซิบไปที่ข้างหู "เลว เลวที่สุด...ก็ได้ฉันจะยอมทำตามอย่างที่นายต้องการก็ได้ แต่นายต้องรับปากฉันว่าถ้าฉันหาหลักฐานมายืนยันได้ว่าฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องของน้องชายนาย นายจะต้องปล่อยฉันไปทันทีโดยไม่มีข้อแม้" "ก็ถ้าเธอคิดว่าเธอจะแต่งเรื่องสร้างหลักฐานมาหลอกฉันได้ฉันก็ตกลง" "จำคำพูดนายไว้ด้วย แล้วนายจะต้องเสียใจในสิ่งที่นายเคยทำไว้กับฉัน แล้วถึงตอนนั้นต่อให้นายมาก้มกราบขอร้องฉัน ฉันก็จะไม่มีวันยกโทษให้นายเด็ดขาด" "จะคอยดู" เวไนยปล่อยน้ำพิงออกจากอ้อมแขนแกร่งของเขา หลังจากที่ทั้งคู่ตกลงกันเสร็จก็พากันเดินกลับมาเข้ามาด้านใน "คือเราสองคนคุยกันแล้วครับตกลงน้ำพิงจะหมั้นกับผมตามที่เราได้ตกลงกันไว้เมื่อตะกี้ครับ" "เอาเป็นว่าตกลงตามนั้นก็แล้วกันนะส่วนเรื่องสถานที่ใช้ที่บ้านนี่แหละ แขกในงานก็เอาเฉพาะคนสนิทๆก็พอ พวกเรา2 คนว่าเป็นยังไงบ้าง" "ครับ เอาตามที่คุณพ่อบอกเลย" "น้ำพิงล่ะว่ายังไง" "หนูแล้วแต่คุณพ่อค่ะ" -หลายวันต่อมา @โรงพยาบาล P. Hospital "นี่ๆได้ข่าวว่าหมอน้ำพิงกับด็อกเตอร์เวย์ที่เป็นนักวิจัยยาตัวใหม่ที่ถูกส่งมาจากอังกฤษกำลังจะหมั้นกัน" "ใช่ๆฉันก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน" "แบบนี้ก็น่าสงสารหมอชานนท์แย่เลยเนาะอุตส่าห์ตามจีบมาตั้งเป็นปีๆสุดท้ายมาแพ้คนมาทีหลัง" "พวกเธอไม่เคยได้ยินหรอความรักมันไม่ต้องการเวลาคนเรานะถ้ามันใช่มันก็ใช่ตั้งนานแล้ว" "แล้วเขาจะหมั้นกันเมื่อไหร่ล่ะ" "ได้ข่าวมาว่าจะหมั้นวันศุกร์นี้แหละ" "เร็วปานสายฟ้าฟาดจริงๆ" เหล่าพยาบาลต่างพูดถึงเรื่องการหมั้นระหว่างน้ำพิงค์กับเวไนย "พวกพี่ว่าอะไรนะคะ ใครจะหมั้นกับใครนะคะ"อิงฟ้าที่เดินผ่านมาได้ยินถามขึ้นอยากตกใจ "อ้าว..หมออิงฟ้ายังไม่ทราบเรื่องนี้หรอคะเขาพูดกันทั่วโรงพยาบาลไปหมดว่าคุณหมอน้ำพิงกับด็อกเตอร์เวไนยจะหมั้นกัน" พยาบาลสาวตอบ "ทำไมมันเร็วอย่างนี้ล่ะคะ เขาก็พึ่งรู้จักกันเองไม่ใช่หรอคะ ไม่ดูรีบร้อนไปหรอ" อิงฟ้ากัดฟันถาม "ก็ดูเหมือนเร็วนะคะแต่ว่าถ้าคนมันรักกันเวลามันก็ไม่ใช่ปัญหานี่คะหมออิงฟ้าว่าไหม" "นั่นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะคะ" อิงฟ้าเดินกำมือแน่นเข้าไปในห้องน้ำแล้วจัดการล็อคประตูไว้ไม่ให้ใครเข้า "กรี๊ดดดด....ทำไมถึงเป็นแบบนี้ทำไมพี่เวย์เขาถึงยังกลับไปหาแก ทั้งๆที่เขาเกลียดแกขนาดนั้น แกนี่มันตัวมารความสุขของฉันจริงๆเลยนางน้ำพิง ไม่!! ไม่มีทางฉันจะไม่ยอมเสียพี่เวย์ไปให้แกอีก พี่เวย์ต้องเป็นของฉันคนเดียว ฉันรักฉันรอของฉันมาตั้งหลายปี ฉันไม่ยอมง่ายๆ หรอก ฉันเคยทำให้เขาเกลียดแกได้มาครั้งนึงละ ทำไมฉันจะทำอีกไม่ได้ และครั้งนี้พี่เวย์ต้องเลือกฉัน พี่เวย์ต้องเป็นของฉันคนเดียว" อิงฟ้ากรี๊ดจนอกแทบแตกเมื่อได้รู้ข่าวเรื่องการหมั้นของน้ำพิงและเวไนย •ห้องปฏิบัติการงานวิจัย ภายในห้องบรรดานักวิจัยทั้งหลายต่างทำการวิจัยอย่างขมักเขม้น แม้งานค่อนข้างจะเคร่งเครียดแต่พวกเขาก็ยังยิ้มได้เพราะในตอนนี้หัวหน้าของเขามีเรื่องที่น่ายินดี "หัวหน้าครับ หัวหน้ากำลังจะหมั้นกับหมอน้ำพิงจริงๆใช่ไหมครับ" มาร์คถามขึ้น "พวกนายก็รู้เรื่องแล้วนี่ ยังจะมาถามฉันทำไมอีก" "โถ่..ก็หัวหน้าไม่เห็นชวนผมกับยัยเคทไปด้วยเลยนี่ครับ เราข้ามน้ำข้ามทะเลมาด้วยกันนะ งานสำคัญแบบนี้ไม่คิดจะชวนผมกับยัยเคทไปบ้างหรือไงครับ" "นั่นสิคะหัวหน้า งานสำคัญแบบนั้นจะไม่ชวนพวกเราจริงๆหรอคะ" "แล้วผมบอกหรือยัง ว่าจะไม่ชวนพวกคุณไป ผมเองก็ไม่ได้มีญาติที่ไหนก็มีแต่พวกคุณ ยังไงผมก็ต้องเชิญไปหรือเปล่า" "เป็นเกียรติมากค่ะหัวหน้า ว่าแต่ว่าเป็นงานแบบไทยหรือว่าเป็นงานแบบสากลค่ะเคทกับมาร์คจะได้แต่งตัวไปถูก" "แบบไทย" "ดีใจจัง เราจะได้ใส่ชุดไทย" นักวิจัยลูกน้องคู่ใจของเวไนยต่างพากันดีใจ "สบายใจแล้วใช่ไหม สบายใจแล้วก็รีบไปทำงานกันต่อ" "ครับ/ค่ะ หัวหน้า" --ได้กลิ่นไอนางร้ายแล้วนะ--
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม