น้ำพิง part
"สวัสดีครับคุณหมอยินดีด้วยนะคะ"
"เหมาะสมกันจริงๆครับคุณหมอ"
"ยินดีด้วยค่ะ"
ระหว่างทางมีแต่ผู้คนร่วมแสดงความยินดีกับน้ำพิงที่เดินมาห้องทำงาน
"เห้อ...."
กริ๊ง กริ๊ง~ เสียงสายเรียกเข้าดังขึ้น
(ฮัลโหล แกเล่ามาสิมันเป็นอย่างไงกันแน่ แกถึงได้จะไปหมั้นกับไอ้เลวนั่นได้อีกอ้ะ เจ็บแล้วไม่จำหรือไงน้ำพิง)
"แกอย่าเพิ่งด่าฉันได้ไหม ฉันก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันเมาอ่ะ แล้วเรื่องมันก็เลยเถิดไปหมดเลย"
(แกก็รู้ว่าแกคออ่อนจะตาย แกก็ยังจะไปดื่มอีกนี่นะ)
"ก็ตอนนั้นฉันก็แค่อยากเอาชนะไง ไม่อยากทำตัวอ่อนแอให้เค้าเห็น"
(แล้วเป็นไงล่ะ พลาดท่าเสียตัวไปให้เขาอีกจนได้ ฉันถามแกจริงๆนะ แกยังรักเขาอยู่ใช่ไหม ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นหมอนนท์หรือให้ใครที่เข้ามาแกก็ไม่เคยเปิดใจให้ใครเพราะว่าจริงๆแล้วแกยังไม่ลืมเขา แกยังรักเขาอยู่ใช่ไหม)
"ฉัน...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ายังรักเขาอยู่ไหม"
(ฉันขอโทษด้วยแล้วกัน ฉันคงกลับไปร่วมงานหมั้นของแกไม่ได้)
"ไม่เป็นไรมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอกแกตั้งใจดูงานไปเถอะ แล้วตอนนี้ก็นอนได้แล้วมันดึกมากแล้ว"
(เออ..เป็นห่วงนะ)
"อืม ขอบใจ"
ติ๊ด~
"เห้อ...ต่อให้ฉันยังรักเขาอยู่มันก็คงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วเขาเกลียดฉันจะตาย" น้ำพิงพูดกับตัวเอง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เชิญเข้ามาค่ะ"
"พี่กาแฟมาให้ครับ"
"หมอนนท์..."
"พี่มาแสดงความยินดีด้วยนะครับที่หมอน้ำพิงเจอคนที่ใช่แล้ว"
"หมอนนท์คะ คือ....ฉันขอโทษนะคะ"
"หมอน้ำพิงจะมาขอโทษพี่ทำไมครับ มันไม่ใช่ความผิดของหมอเลยนะ"
"เอาจริงๆ น้ำพิงก็รู้สึกแย่ แล้วก็แอบรู้สึกผิดกับหมอนนท์เหมือนกันนะคะที่เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้"
"ไม่เห็นต้องรู้สึกผิดเลย เรื่องความรักมันฝืนใจใครไม่ได้อยู่แล้ว พี่ไม่รู้สึกแย่ขนาดนั้น ตรงกันข้ามถ้าเกิดหมอน้ำพิงมาคบกับพี่เพราะความสงสารหรือความรู้สึกผิดพี่อาจจะรู้สึกแย่มากๆก็ได้ ไม่ได้เป็นแฟนไม่ได้เป็นคนรักแต่เราก็ยังเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องที่ดีต่อกันได้ ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรที่มันไม่สบายใจ ทำให้เดือดร้อนใจก็ปรึกษาพี่ได้เสมอนะ" ชานนท์ยกมือขึ้นมากุมมือของน้ำพิงที่วางอยู่บนโต๊ะ
"ขอบคุณมากๆนะคะหมอนนท์"
เวไนยที่ตั้งใจเดินมาหาน้ำพิงได้เปิดประตูเข้ามาเห็นภาพบาดตานั่นพอดี
ปัง~ เสียงประตูเปิดออกอย่างดัง
เสียงประตูทำให้คนทั้งสองสะดุ้งรีบผละมือออกจากกัน
"อ้าว...หมอนนท์มาร่วมแสดงความยินดีกับเราสองคนหรอครับ"เวไนยยิ้มเยาะนิดๆ ก่อนจะเดินไปโอบกอดไหล่ของน้ำพิงที่นั่งอยู่
"ใช่ครับ ยินดีกับคุณทั้งสองคนด้วยนะครับ"ชานนท์ได้แต่มองตาละห้อย
"วันศุกร์นี้หมอนนท์ว่างไหมครับ ถ้าว่างเชิญไปร่วมงานของเราสองคนได้นะครับ"
"ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ผมไม่สะดวกไปพอดีผมต้องเข้าเวร พี่ขอโทษด้วยนะครับหมอน้ำพิง ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะครับ ยินดีด้วยอีกครั้งครับ"
"ครับ ขอบคุณครับ"
ชานนท์ส่งยิ้มให้น้ำพิงแล้วเดินออกไป เวไนยเองก็มองชานนท์อย่างไม่วางตา ทันทีที่ชานนท์เดินออกไปเขาก็ปล่อยมือจากน้ำพิงแล้วเดินไปล็อคประตูทันที
"จะล็อคทำไม มีอะไรอีก" น้ำพิงถามอย่างกล้าๆกลัวๆก็สีหน้าของเขาตอนนี้มันบอกบุญไม่รับเลย
"ทำไม กลัวหรอ ที่ตอนนั่งพรอดรักจับมือมองตากันหวานหยดย้อยกับไอ้หมอหน้าแหลมนั้น ยังไม่เห็นจะกลัวผัวอย่างฉันมาเห็นเลย"
"ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบที่นายพูดนะ หมอนนท์เขาก็แค่แสดงความเป็นห่วงเป็นใย และก็มายินดีด้วย ไม่มีใครที่จิตใจคิดแต่เรื่องอกุศลแบบนายหรอก"
"หึ...ขนาดฉันเห็นเองกับตายังจะกล้าเถียงอีกนะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่นายจะคิดก็แล้วกัน ถ้าหมดธุระแล้วก็เชิญออกไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน"
"ใครบอก...ว่าฉันจะมาทำอะไรแค่นี้" เวไนยเดินไปตรงที่น้ำพิงนั่งอีกครั้งแล้วหันเก้าอี้หมุนให้น้ำพิงหันหน้าเข้าหาตัวเขา จากนั้นก็เดินขยับไปชิดจนกล้ามหน้าท้องของเขาชนกันใบหน้าหวานของน้ำพิง
"นี่จะทำบ้าอะไร" น้ำพิงรีบลุกขึ้นหนีแต่ก็ถูกเขาใช้แขนทั้งสองข้างเท้ากับโต๊ะทำงานกลั้นเอาไว้
เวไนยไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใดแต่เขากับมองไล่สายตาไปทั่วกายสาว ราวกับจะกลืนกินเธอ
พรึบ~
น้ำพิงรีบดึงเสื้อมาปิดบริเวณหน้าออกที่ล้นขอบเสื้อขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสายตาของเขา
"นี่ อะ...ออกไปนะ อื้ม..." เขาไปยอมออกไปแถมยังก้มลงมาประกบจูบริมฝีปากบางของน้ำพิงอีก เขาละมือออกจากโต๊ะแล้วกดไปที่ท้ายทอยของน้ำพิงเพื่อไม่ให้ดิ้นหลุดไปได้
"จำไว้เธอเป็นของฉัน ถ้าฉันยังเอาเธอไม่เบื่อใครก็มาเอาเธอไปไม่ได้" เขาละจูบออกจากริมฝีปากบางแล้วซุกไซร้ไปตามคอระหง "นี่ก็ของฉัน"ลมหายใจหืดหอบที่รดอยู่ที่คอระหง ทำให้น้ำพิงรับรู้ได้ว่าต้องนี้ไฟราคะของเขามันเริ่มประทุขึ้นแล้ว
"นี่หยุดนะ!! ไม่ได้นะที่นี่มันโรงพยาบาลนะ" น้ำพิงดันอกแกร่งออกให้เขาหยุดการกระทำนั้นแต่ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยฟังที่เธอพูดเลยสักนิด
"ช่วยไม่ได้เธอมายั่วอารมณ์ฉันเอง" เวไนยจับตัวน้ำพิงหันหน้าเข้ากับผนังห้องแล้วถอดเสื้อกาวของเธอออกไปวางไว้ที่เก้าอี้"ไม่ว่าจะที่ไหนเวลาไหนถ้าฉันต้องการเธอก็ต้องยอม"เขากัดฟันกระซิบไปที่ข้างใบหูของเธอ
"อ๊ะ!! อย่า อย่าทำนะ"ร่างบางของน้ำพิงถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนโต๊ะทำงาน
"ที่หลังอย่าใส่อีกนะไอ้เสื้อสายเดี่ยวนี่ เพราะ มัน ถอดง่าย" เวไนยใช้มือเลื่อนปัดสายเดี่ยวทั้งทั้งสองข้างลงมากองที่แขนทั้งสองข้างของน้ำพิง
"ว้ายย...ไอ้โรคจิต อุ๊บบ..."เวไนยจัดการประกบจูบแล้วสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปให้โปรงปากเล็กอีกครั้ง ปลายลิ้นตวัดกวาดหยอกล้อเรียวลิ้นดูดดื่มน้ำหวานอย่างเอาแต่ใจ
ปึก ปึก ปึก~
"อ่อยยยย(ปล่อย)" น้ำพิงทั้งทุบทั้งผลักจนเขายอมปล่อยจูบออก
"ไม่!!หยุด..หยุดเดี๋ยวนี้อย่านะ" น้ำพิงถูกร่างหนากดให้นอนหงายไปกับโต๊ะ
"มันหยุดไม่ได้แล้ว" เวไนยซุกไปที่ซอกคอขาวแล้วมือก็เลื่อนลงไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงออกก่อนจะรูดซิบดึงกางเกงลงมาถึงเข่าอย่างรีบร้อน แล้วจัดการแหวกขาวเรียวถอกกระโปรงขึ้นไปเหนือเอวคอด มืออีกเข้าไปจัดการแหวกแพนตี้จิ๋วแล้วผลักดันแก่นกายเข้าไปในกายสาว
สวบ~
"อื้อ...."น้ำพิงเม้นริมฝีกปากเข้าหากันแน่นเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่ลุกล้ำเข้าไปในตัวเธอ
"ถ้าไม่อยากให้คนอื่นมาได้ยินก็เงียบซะ" เขาเริ่มขยับแก่นกายเข้าออกร่องรักของหญิงสาวอย่างเอาแต่ใจ
"อื้อ....อื้อ..."น้ำพิงยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้เพราะกลัวว่าจะเผลอส่งเสียงลามกออกไปจนคนข้างนอกได้ยิน
ตับ ตับ ตับ~
เอวสอบยังคงเร่งจังหวะอย่างหนักหน่วง
"อ่าาา...ซี๊ดดด..ตื่นเต้น..เร้าใจดีเธอว่าไหม..โอ้เสียวววชิบ" เสียงครางต่ำอยู่ในลำคอบ่งบอกถึงความสุขสมของคนตัวโต
"อ๊ะ..อืออ..ฮือออ" น้ำพิงปิดปากหลับตาส่ายหน้าไปมาอย่างทุลนทุลาย
"จำไว้นะอย่าไปเข้าใกล้ผู้ชายที่ไหนอีก ไม่งั้นจะโดนลงโทษแบบนี้ อ่าาา....ซี๊ดดด"
ปึก ปึก ปึก~
พับ พับ พับ ~
"อ่าาาาา" ร่างของชายหนุ่มกระตุกเกร็งก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้าไปยังด้านในของร่างบางทุกหยาดหยด เมื่อเสร็จกิจเขาก็ดึงแก่นกายออกจากร่องรักแล้วหยิบทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดแก่นกายและปากทางร่องรักให้กับหญิงสาวที่นอนหอบน้ำตาไหลอยู่บนโต๊ะ
"ลุกขึ้น.....มาเดี๋ยวฉันช่วย" เวไนยประคองร่างบางขึ้นนั่ง
"แต่งตัวให้เรียบร้อยถ้าไม่อยากให้ใครมาเห็น"
น้ำพิงไม่ได้พูดอะไรตอบแต่เลือกที่จะลงจากโต๊ะแล้วจัดการจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย
"อ้ะสวมนี้ด้วย" เวไนยยื่นเสื้อกาวให้น้ำพิงใส่คลุม เพื่อปกปิดรอยที่เขาเผลอทำไป
"พอใจแล้วใช่ไหม พอใจแล้วก็ออกไปได้แล้ว" น้ำพิงนั่งมองเวไนด้วยสายตาที่เจ็บปวด
"อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะ ฉันไม่สงสารเธอหรอก"แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บแปลบแต่ก็ฝืนพูดอกไปตรงกันข้าม
"อือ...ฉันรู้"น้ำพิงก้มลงมองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะอย่างไม่สนใจคนตรงหน้า
เวไนยเดินออกไปอย่างเงียบๆ
"ฮืออออ...ฮือๆ ไอ้คนใจร้าย"ทันทีที่ประตูปิดลงน้ำพิงก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น
--อ่อนโยนกับหมอน้ำพิงฉันบ้างเหอะ เอ๊ะในโรงพยาบาลอีกแล้ว คุ้นๆ เรื่องที่แล้วก็เหมือนจะมีเหตุที่โรงพยาบาล^^--