บทที่ 1 ความจริงที่เจ็บปวด
“ผู้กอง เดี๋ยวก่อนครับ จะรีบไปไหน บาดเจ็บขนาดนี้ หมอให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนะครับ” หมวดนิมิตเอ่ยขึ้น พร้อมกับวิ่งมาดักรอด้านหน้า
“หลีกทาง…ผมมีธุระต้องไป” ผู้กองเพลิงเพชรมีสีหน้าอิดโรยพูดพร้อมกับเดินหลบไปอีกทาง
“ธุระอะไรครับ…สำคัญมากกว่าชีวิตผู้กองอีกหรือครับ ท่าน ผบ. สั่งให้ผมดูแลผู้กองให้ดี นี่พึ่งผ่านเสี้ยวความเป็นความตายมานะครับ ถือว่าผมขอร้องนะครับ ผู้กอง…” น้ำเสียงของหมวดนิมิต เต็มไปด้วยความอ้อนวอนและห่วงใย
ผู้กองเพลิงเพชรถอนหายใจ เขาเองก็หนักใจที่ต้องทำให้หมวดนิมิตลำบากใจในสิ่งที่เขาทำ แต่วันนี้เขาต้องไปที่ที่หนึ่งให้ได้ เพราะถ้าวันนี้เขาไม่ไปตัวเองก็จะเสียใจไปตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน
“หมวด..ขับรถให้ผมที เรื่องนี้สำคัญกับผมมากนะครับ ถือว่าผมขอร้อง” เขาพยุงร่างกายที่เจ็บปวด ที่พึ่งออกมาจากห้องผ่าตัดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
“ผู้กองมาอยู่นี่ทำไมครับ ทำไมไม่นอนพัก แล้วนี่…หมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเหรอครับ” หมวดปกรณ์ที่เดินเข้ามาถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อมองเห็นผู้กองเพลิงเพชรอยู่ในชุดแต่งกายธรรมดาไม่ได้สวมใส่ชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลแต่อย่างใด
“หมวดกรณ์มาก็ดีแล้ว ช่วยพูดกับผู้กองหน่อย”
“ผมมีธุระต้องไปทำ ผมขอตัว” เพลิงเพชรมองนาฬิกาสีดำที่ข้อมือ แล้วรีบเร่งเดินออกไปที่ด้านหน้าของโรงพยาบาล
“ผู้กอง!! รอผมด้วย” หมวดนิมิตตะโกนตามหลัง พร้อมวิ่งตามมากับหมวดปกรณ์
ทั้งสามคนนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ ผู้หมวดทั้งสองไม่รู้ว่าผู้กองเพลิงเพชรมีเรื่องด่วนอะไรถึงได้หอบเอาสังขารที่ใกล้จะตายแหล่มิตายแหล่มายังโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของประเทศ
“หมวดกรณ์ คุณว่าผู้กองมาทำอะไรที่นี่” หมวดนิมิตถามขึ้นด้วยความสงสัย เขามองไปทั่วบริเวณด้วยความอยากรู้ เมื่อผู้กองเพลิงเพชรสั่งให้ผู้หมวดทั้งสองคนรออยู่หน้าล็อบบี้ของโรงแรม
“ผมจะไปรู้ได้ไง แต่ปล่อยผู้กองไปคนเดียวจะดีเหรอ..อาการน่าเป็นห่วง ถูกยิงมาสองแผลไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ” หมวดปกรณ์ย้อนถามด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน เมื่อไม่มีคำตอบก็ถูกตั้งเป็นปริศนา
“หรือว่าผู้กองนัดสาวเอาไว้ที่นี่ มันต้องเป็นเรื่องผู้หญิงแน่ๆ” หมวดนิมิตคาดเดาออกมา
“ผมไม่เคยเห็นผู้กองมีแฟน หน้าตาก็หล่อเหลา แถมความสามารถก็ดีเลิศ หมวดว่าแปลกไหม ผู้กองไม่มีแฟน หรือว่า….”
“พอเลยๆ หมวดคิดอะไรของหมวดกัน ผมดูผู้กองออก ไม่ใช่ไม้ป่าเดียวกันแน่นอน ถ้าหากเป็นไม้ป่าเดียวกัน ต้องมีข่าวลือแล้ว” หมวดนิมิตแก้ต่างให้กับผู้กองเพลิงเพชร
ผู้กองเพลิงเพชรเดินขึ้นลิฟต์มาหยุดอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมชื่อดัง สายตาจ้องมองป้ายบอกทาง “งานแต่งงาน พีรภัทร&น้ำมนต์” เมื่ออ่านข้อความจบผู้กองเพลิงเพชรเดินตรงไปยังห้องที่จัดเลี้ยงงานแต่งในครั้งนี้
หน้าประตูห้องโถงใหญ่ถูกจัดและตกแต่งเอาไว้ด้วยซุ่มดอกกุหลาบสีขาว พร้อมกับโต๊ะยาวที่ถูกปูผ้าสีขาวเอาไว้อย่างสวยงาม มีหญิงสาวสองคนนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะ
ด้านบนของโต๊ะมีสมุดเล่มใหญ่ เป็นไดอารี่ให้แขกที่มาร่วมงานเขียนข้อความแสดงความยินดีลงไปในกระดาษ
ผู้กองเพลิงเพชรจ้องมองรูปภาพคู่รักที่จะเข้าพิธีวิวาห์ในวันนี้ด้วยสายตาเจ็บปวด ก่อนที่เขาจะหยิบปากกาขึ้นมา และพร้อมที่จะเขียนข้อความส่งถึงเจ้าสาวของงานวันนี้
“นี่แก..เอาจริงเหรอ..” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้เพลิงเพชรหยุดมือที่กำลังเขียนข้อความเมื่อถูกใครบางคนเดินเข้ามาชน “ขอโทษนะคะ”
ผู้กองเพลิงเพชรไม่ได้ใส่ใจ เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังแบกรับน้ำหนักของร่างกายที่หนักกว่าปกติ ความเจ็บปวดจากบาดแผลทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว
“ฉันจะเอาคืนให้สาแก่ใจเลย…” เสียงของหญิงสาวอีกคนดังขึ้นมากกว่าเมื่อครู่
ผู้กองเพลิงเพชรวางปากกาในมือลง ก่อนที่เขาจะยืดตัวตรงเพราะได้รับความเจ็บปวดจากบาดแผล สายตาสบประสานกับหญิงสาวคนหนึ่ง ใบหน้าสวยดูบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัดเจน
“มองอะไร!!…คุณไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง” พลอยรินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงชวนหาเรื่อง เมื่อเห็นสายตาที่ผู้กองเพลิงเพชรมองมา
“ขอโทษนะคะ อย่าถือสาเพื่อนของฉันเลย…” ปาลีนาหันหน้ามาขอโทษ ก่อนที่เธอจะหันไปพูดกับพลอยริน “แกอย่าผลาญไปทั่วได้ไหม..มาแล้วก็จัดการธุระของตัวเองดีกว่า”
“ชิ” พลอยรินสะบัดใบหน้าสวยใส่ชายหนุ่มตรงหน้า ผู้กองเพลิงเพชรมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินจากไป
“เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวมาแล้ว!!” เสียงคนที่อยู่หน้างานพูดขึ้น ผู้กองเพลิงเพชรหยุดฝีเท้าและหันหน้าไปมอง
สิ่งแรกที่เขามองเห็นน้ำมนต์ในชุดแต่งงานสีขาวสวยงามจนเลิกมองไม่ได้ ก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าจะหดหายไป เมื่อมองเห็นเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ข้างกายของหญิงสาวที่เขารัก วันนี้เพื่อมาทำหน้าที่สุดท้ายของแฟนเก่าอย่างเขา
ที่อยากเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุข ต่อให้เจ็บปวดเจียนตาย เขาก็อยากมางานแต่งงานที่ไม่ได้เป็นแขกรับเชิญ
“พี่ภัทร!!” เสียงของหญิงสาวเมื่อครู่เสียงดังและฟังชัด ทำให้ผู้คนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นต่างมองมาที่เธอเป็นจุดสนใจเดียว
“พลอย!! มาได้ไง ตอนนี้พลอยต้องอยู่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ” พีรภัทรมีสีหน้าตกใจก่อนที่เขาจะรีบทำตัวให้เป็นปกติ
“ตกใจมากไหมคะ ที่เห็นพลอยมาอยู่ที่นี่วันนี้…” อยู่ๆ เสียงของพลอยรินก็เปลี่ยนไป จากที่แข็งกระด้างกลับกลายเป็นสั่นเครือและใบหน้าสวยนั้นกลับมีหยาดน้ำตาไหลออกมา
“พลอยกลับไปก่อน เราค่อยคุยกันนะครับ”
“เห็นพลอยโง่หรือไง ถึงได้สวมเขาให้พลอยแบบนี้ เราคบกันมาหลายปี พลอยเชื่อใจพี่ แล้วสุดท้ายพี่ก็ทำกับพลอยแบบนี้เหรอ ไอ้คนเลว!!” พลอยรินเดินเข้าไปหาพีรภัทร ก่อนที่เธอนั่นจะรัวกำปั้นเข้าหาเขา
น้ำมนตร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่รอช้าเธอตรงเข้ามาช่วยเจ้าบ่าวของตัวเอง ผลักให้พลอยรินล้มลงไปบนพื้น กลางงานแต่งที่มีแขกมากมายมาร่วมงานในวันนี้
“พลอย!!” พีรภัทรตรงเข้าไปพยุงให้พลอยรินลุกขึ้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย ทำให้น้ำมนต์มีสีหน้าไม่พอใจ “พลอยเชื่อพี่นะ พลอยกลับไปก่อน เดี๋ยวพี่จะกลับไปอธิบายทุกอย่างให้พลอยฟังเอง”
“อธิบายอะไรอีกคะ มีเรื่องอะไรที่ต้องเจอกันอีก พี่ภัทร..ต่อไปนี้ พลอยกับพี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน” เพลี้ย!! พลอยรินตวัดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าของพีรภัทรอย่างไม่ออมแรง
ที่เธอมางานแต่งของแฟนหนุ่มในวันนี้เพื่อมายืนยันว่าสิ่งที่เธอได้รับรู้มานั้นเป็นเรื่องจริง เมื่อเจอหน้าความสัมพันธ์ทุกอย่างระหว่างคนสองคนต้องจบสิ้น เพราะแฟนหนุ่มที่เธอรักสุดหัวใจกำลังเข้าพิธีแต่งงานกับดาราสาวชื่อดังที่กำลังเป็นกระแสมาแรงในละครหลายเรื่องในตอนนี้
“พลอย…พี่ขอโทษ”
“พี่ภัทร…อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ปล่อยพลอยไปเถอะ…อย่าติดต่อหาพลอยอีก พี่ก็มีครอบครัวแล้ว พลอยไม่ต้องการพี่อีกแล้วค่ะ” ปาลีนาเอ่ยขึ้น แล้วออกวิ่งตามหลังของเพื่อนมาที่ลิฟต์
ประตูลิฟต์เปิดออก ก่อนที่หญิงสาวทั้งสองคนจะก้าวเท้าเข้ามาด้านใน และยังมีชายหนุ่มอีกคนที่เดินตามมา ผู้กองเพลิงเพชรเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น เขาเองก็เป็นผู้ถูกกระทำ จึงเข้าใจหัวอกของหญิงสาวเป็นอย่างดี
เสียงสะอื้นเล็กน้อยดังขึ้น ทำให้รู้ว่าเธอกำลังกลั้นเสียงเอาไว้มากแค่ไหน เพื่อนที่มาด้วยก็กอดประโลมอยู่ไม่ห่าง
“ผู้กองหายไปไหนนานเลยครับ..” หมวดนิมิตที่นั่งรออยู่ถามขึ้นและตรงปรี่เข้ามาหาทันทีที่มองเห็นเขาเดินออกมาจากลิฟต์ “ว้าว…สาวสวย…” สายตาหมวดนิมิตมองไปที่หญิงสาวสองคนที่เดินออกมาพร้อมกันกับผู้กองเพลิงเพชร
“เรากลับโรงพยาบาลกันเถอะครับ ท่าน ผบ. ทราบเรื่องที่ผู้กองออกมาข้างนอกแล้วครับ” หมวดปกรณ์พูดขึ้นก่อนเข้ามาประคองผู้กองเพลิงเพชรที่ดูอาการไม่ดี
สีหน้าที่ดูซีดเซียวไม่มีสี ทำให้ผู้หมวดทั้งสองดูเป็นกังวล แต่สุดท้ายแล้วจุดหมายปลายทางที่ผู้กองเพลิงเพชรเลือก กลับไม่ใช่โรงพยาบาลแต่อย่างใด
“ผู้กองมาที่นี่ทำไมครับ ท่าน ผบ. บอกว่า ถ้าผู้กองไม่กลับไปพักรักษาตัว ท่านจะสั่งให้ผู้กองไปทำงานนะครับ”
“จัดมา…” ริมฝีปากของเขายกยิ้มมุมปาก ผู้กองเพลิงเพชรเดินดุ่มๆ เข้ามาในร้านเหล้าแห่งหนึ่งเหมือนอาการบาดเจ็บทั้งหลายหายไปเป็นปริทิ้ง
“ผู้กอง…บ้าไปแล้ว หมวดนิมิต…เราจะทำยังไงดี…ตายแน่ๆ” หมวดปกรณ์ยกมือขึ้นกุมขมับ เมื่อมองเห็นสถานที่ที่ผู้กองเพลิงเพชรพาตนมา “ผู้กองของเราไปเจออะไรมา..ทำไมถึงได้มาดื่มแต่หัววันแบบนี้”
“ทำให้สลบแล้วลากกลับเลยดีไหม…ผมว่าวิธีนี้คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดตอนนี้นะ” หมวดนิมิตรออกความคิดเห็น แต่การจะทำให้อีกฝ่ายหมดสติไปได้คงไม่ยากเหมือนเวลาปกติ เพราะตอนนี้ผู้กองเพลิงเพชรมีสภาพร่างกายไม่เต็มร้อย
****แจ้งนะคะ****
รีดที่รออีบุ๊ค เดี๋ยวไรท์จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ
นิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายลงขายค่ะ แต่สามารถเปิดอ่านด้วยกุญแจได้อาจจะเป็นเพียงบางตอนค่ะ