“แกพูดช้าๆ หน่อยได้ไหม อะไรนะ!!”
“แก…ฉันต้องตายแน่ๆ ถ้าครอบครัวฉันรู้จะต้องโดนด่า แล้วถูกไล่ออกจากบ้านแน่” น้ำเสียงร้อนรนเหมือนไฟลนก้นของพลอยรินดังขึ้น หลังจากที่เธอพบว่าตัวเองจดทะเบียนสมรสกับชายหนุ่มที่ไม่ทราบว่าเป็นใคร
เธอก็ยกโทรศัพท์โทรหาเพื่อนรักในทันที แล้วเดินทางมาหาปาลีนาที่คอนโดอย่างรวดเร็ว เพราะต้องการคนช่วยคิดว่าต้องทำเช่นไรต่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“แกคิดดีๆ คิดให้ออก แกไม่รู้จักคนชื่อ น.ต. เพลิงเพชร พงษ์ประสิทธิ์….จริงๆ เหรอ” ปาลีนาถามย้ำอีกครั้ง
“ไม่เลย ฉันไม่เคยรู้จักคนชื่อนี้มาก่อน ฉันทำอะไรลงไป..เมื่อวานนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ หรือว่าฉันกับเขานอนด้วยกันแล้ว…ก็ไม่นะ..ร่างกายของฉันยังปกติ” พลอยรินเหมือนคนสติแตก คำพูดของเธอดูลนลานอย่างเห็นได้ชัดเจน
“เอาแบบนี้ เราลองเอาชื่อของเขาไปค้นหาในกูเกิลกันดีไหม” ความคิดของปาลีนาทำให้พลอยรินพยักหน้า แต่เมื่อค้นหาชื่อก็ไม่พบข้อมูลใดๆ ให้พวกเธอได้ตามต่อแต่อย่างใด
“ฉันลองไปหาเขาที่นั่นดีไหม”
“แกจะรู้ได้ไงว่าเขาอยู่สังกัดไหน คนที่ชื่อนี้คงมีอีกหลายคนเลย แล้วจะเอาไงต่อ แกจะบอกเรื่องนี้กับที่บ้านไหม”
“บอกได้ไง ห้ามเลยนะ…ห้ามบอก พี่สายฟ้าเอาฉันตายแน่..เมื่อเช้ายังห้ามให้ฉันอย่าสร้างเรื่องอยู่เลย ตอนนี้ถ้ารู้ว่าฉันสร้างเรื่องอีก ตายแน่ๆ”
“เอาไงดี หรือจะจ้างนักสืบ..” ปาลีนาออกความคิดเห็น
“เข้าท่า” พลอยรินเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนรัก เธอและปาลีนาเดินทางมาที่สำนักงานทนายความตามที่คนรู้จักของปาลีนาแนะนำมา
เธอเอาข้อมูลเพียงน้อยนิดให้กับนักสืบเพื่อค้นหาตัวสามีทิพย์ของตัวเอง พูดแล้วก็อายปากเมื่อนักสืบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับชายหนุ่มปริศนานี้ เขาก็คงงงงวยอยู่มากที่ถามอะไรก็ไม่ได้ความจากพลอยริน
“ผมคงต้องใช้เวลานานหลายวัน ถ้าได้เรื่องยังไงแล้วผมจะติดต่อกลับนะครับ”
“ขอบคุณมากนะคะ ฉันคาดหวังมากเลยค่ะ” พลอยรินกล่าวคำขอบคุณ เธอคาดหวังเอาไว้มากอย่างที่ได้พูดออกไป “ตอนนี้ฉันทำอะไรได้บ้าง” พลอยรินถามปาลีนาออกมา พร้อมกับสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เรื่องของพีรภัทรที่ว่าหนักอึ้งแล้ว เรื่องทะเบียนสมรสกลับเข้ามาแทนเป็นที่เรียบร้อย
“เอาน่า…อดใจเอาไว้ เดี๋ยวก็ได้รู้ว่าสามีทิพย์แกเป็นใคร แต่เห็นยศที่อยู่น่าชื่อแล้ว คงเป็นคนมีตำแหน่งสูงอยู่นะ เอาน่า..อย่างน้อยๆ ก็เบาใจไปอีกเรื่อง”
“เบาใจบ้าอะไร ฉันสัญญาเลยนะ ว่าจะไม่ดื่มเหล้าอีกเลยตลอดชีวิต”
“ให้มันจริงเถอะแม่คุณ กระดาษสีสวยแผ่นนั้นเก็บเอาไว้ให้ดีเถอะ อย่าได้ให้พี่ชายแกจับได้ก่อนที่จะแก้ปัญหาจบก็แล้วกัน” ปาลีนาเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง
“รู้แล้วน่า…”
สองอาทิตย์ผ่านไป
“ผู้กองหายดีแล้วเหรอครับ” หมวดปกรณ์ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “สีหน้าดูดีขึ้นนะครับ”
“ผมหายแล้ว วันนี้ผมต้องเขียนรายงานให้ท่าน ผบ.” ผู้กองเพลิงเพชรที่ถูกท่าน ผบ. สั่งลาพักไปสองอาทิตย์ กลับมาทำงานด้วยสีหน้าแจ่มใสกว่าทุกวัน เมื่อประตูห้องถูกปิดลง เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
หน้าจอโชว์ภาพถ่ายที่เขาถ่ายทะเบียนสมรสเอาไว้ แต่ถ่ายเพียงชื่อๆ เดียวที่เป็นปริศนามาตลอดสองอาทิตย์ เพราะเรื่องนี้เขาไม่สามารถไว้วานให้ใครทำให้ได้ การตรวจเช็กประวัติเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
ผู้กองเพลิงเพชรยิ้มมุมปาก เมื่อมองเห็นหญิงสาวที่เป็นเจ้าของชื่อภรรยาทิพย์ของเขา ใช่แล้วเธอเป็นหญิงสาวที่พบเจอกันเพียงสองครั้ง
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
“มีงานใหม่ครับ” หมวดนิมิตยื่นแฟ้มงานมาให้กับเขา
“เล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อยหมวด งานนี้เป็นยังไง”
“ผู้กองจำเรื่องค้ายาที่เราไปจับ เมื่อสองเดือนก่อนได้ไหมครับ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสารเสพติด ได้แจ้งมาว่ามียาตัวใหม่ที่ปะปนมาพร้อมกับยาเสพติดที่เราจับกุมได้”
“อืม”
“ตอนนี้ยาตัวนั้นกำลังแพร่กระจายในหมู่คนสีเทาถึงราคามันจะสูงมาก แต่กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า”
“อยากเปลี่ยนอาชีพหรือไงหมวด” ผู้กองเพลิงเพชรวางปากกาในมือลงก่อนที่เขาจะเอนหลังพิงเก้าอี้ทำงาน
“สรรพคุณ..ไม่สิ..ต้องเรียกว่าผลข้างเคียง เป็นยากล่อมประสาทชนิดหนึ่งครับ เมื่อได้รับสารเสพติดชนิดนี้เข้าไป บุคคลนั้นจะเหมือนคนปกติทำสิ่งที่ตนเองต้องการ เอาง่ายๆ ก็เหมือนพวกนอนฝันแต่จริงๆ แล้วมันเป็นความจริงครับ แต่จะจำอะไรไม่ได้เมื่อได้สติกลับมาครับ จะเรียกว่ายาเสียสาวเวอร์ชันใหม่ก็คงได้มั้งครับคล้ายๆ กัน”
“......” ผู้กองเพลิงเพชรนิ่งเงียบ เขากำลังประมวลผลกับข้อมูลที่หมวดนิมิตบอกเล่าให้ฟัง “ผมเข้าใจแล้วครับ…งานนี้คงเป็นงานช้าง ที่หน่วยเราต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น”
“ใช่ครับ แต่รอบนี้ท่าน ผบ. สั่งให้เป็นความลับสุดยอด เราจะเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ครับ”
“เข้าใจแล้ว หมวดไปเตรียมตัวเถอะ” ผู้กองเพลิงเพชรออกคำสั่ง เรื่องที่อยากทำตอนนี้คงได้พับเก็บเอาไว้ หลังจากเสร็จงานเขาจะกลับมาสะสางเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเอง
ผู้กองเพลิงเพชรเป็นทหารอากาศ มียศถึงนาวาอากาศตรี และยังอยู่ในสังกัดหน่วยรบพิเศษ เขาทำงานเหมือนบุคคลไร้ตัวตน ในทุกงานที่เขาต้องรับผิดชอบเป็นความลับทั้งสิ้น
ไม่มีบุคคลอื่นที่จะรู้ตัวตนจริงๆ ของเหล่าทหารหน่วยรบพิเศษนี้ เพราะทุกอย่างมันคือความลับสุดยอดที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนแก่ผู้ใดได้ แม้กระทั่งบุคคลภายในครอบครัว
เหล่าทหารกล้าที่อาสาทำหน้าที่ปกป้องชาติ ชายชาติเลือดนักสู้ ที่ปฏิญาณตนว่าจะปกป้องประเทศชาติด้วยความซื่อสัตย์และจงรักภักดี ชีวิตนี้เสียสละเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย ไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในชีวิตหรือไม่
“เรามาถูกที่ใช่ไหม” พลอยรินถามปาลีนาขึ้น เมื่อเธอมายืนอยู่ที่หน้าสถานที่ทำงานของผู้กองเพลิงเพชร
“ถามที่นี่ก็ได้มั้ง”
“ฉันเสียงเงินให้ไปสืบข้อมูล กลับไม่ได้อะไรมา ได้มาแค่นี้..บ้าบอที่สุดเลย” พลอยรินบ่นขึ้น เมื่อเธอไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับมานอกจากสถานที่แห่งนี้ เธอเดินเข้ามาภายในอาคาร
“โห้ใหญ่เอาเรื่องนะเนี่ย” ปาลีนาหันซ้ายหันขวาอย่างตื่นเต้น
“ขอโทษนะคะ ฉันมาพบ น.ต.เพลิงเพชร พงษ์ประสิทธิ์ ค่ะ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงคะ” พลอยรินถามเจ้าพนักงานที่ให้บริการประชาชน
“ไม่ทราบสังกัดอยู่หน่วยไหนคะ”
“เอ่อคือ…ไม่ทราบค่ะ ฉันเป็นภรรยาของเขาค่ะ พอดี โทรหาเขาไม่ติด มีธุระด่วนเลยมาหาที่นี่ค่ะ” พลอยรินมองเห็นสีหน้าของพนักงานหญิงที่ดูไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด
“สักครู่นะคะ” หญิงสาวเดินออกไปจากโต๊ะนานหลายนาที “คุณคะ รบกวนติดต่อหา นต.เพลิงเพชรอีกครั้งได้ไหมคะ”
“ได้คะ” พลอยริน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก แต่แท้จริงแล้วเธอทำเพียงยกมันขึ้นมาแนบใบหูเพียงเท่านั้น “ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ ฉันมีธุระด่วนจริงๆ นะคะ คือลูกเข้าโรงพยาบาล..ฉันจะต้องพบเขาตอนนี้เลยค่ะ” พลอยรินแกล้งบีบน้ำตา
ปาลีนาที่ยืนอยู่ข้างๆ มองมาที่เธออย่างงงๆ ไม่คิดว่าเพื่อนไปเรียนเฉพาะทางที่ต่างประเทศ จะไปเรียนการแสดงพ่วงมาด้วย เพราะสิ่งที่พลอยรินแสดงออกมาทำให้หญิงสาวตรงหน้าเชื่อสนิทใจ
“เอ่อ..คือ..ท่านไม่อยู่ค่ะ ไปทำงานนอกพื้นที่ ยังไงติดต่อหาท่านอีกครั้งนะคะ”
“อะไรนะ!!” พลอยรินเผลอตัว “เอ่อ..ฉันไม่รู้มาก่อนว่าออกนอกพื้นที่ ตายแล้วฉันต้องทำยังไงดี ลูกก็อยู่โรงพยาบาล…” เธอหันหน้ามาทางปาลีนาเพื่อเล่นละคร
“ขอโทษด้วยนะคะ” พนักงานเอ่ยคำขอโทษ
“รู้ไหมคะ ว่าไปที่ไหน แล้วจะกลับเมื่อไหร่”
“ไม่ทราบเลยค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะ” พลอยรินทำหน้าเศร้าเมื่อความหวังที่จะจบเรื่องในวันนี้สลายหายไป เมื่อไม่พบบุคคลที่เธออยากเจอ
“เอาไงดี เขาไม่อยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แถมหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้อีก นี่มันบุคคลลึกลับหรือไงนะ” ปาลีนาบ่นออกมา
“ฉันเหนื่อย…หรือว่าฉันจะมีสามีทิพย์แบบนี้ไปตลอดชีวิต”
“ไม่หรอกน่า ฉันว่าเขาก็ต้องมาตามหาแกบ้างแหละ ใช่สิ…แกไม่ต้องหาเขาหรอก…รอให้เขามาหาแกดีกว่า…ดูจากหน้าที่การงานแล้ว เขาไม่ยอมปล่อยผ่านแน่”