ฉัตรนุดา
“อ้าวน้องนุดามาแล้วเหรอคะ” เสียงพี่นุชทักขึ้นหลังจากเห็นฉันเดินเข้ามาในแผนกตัวเอง
“ค่ะ” ฉันตอบกลับไปสั้นๆ
คนพวกนี้ไม่ค่อยหน้าคุยด้วยเท่าไหร่หรอก แต่ที่ต้องคุยเพราะมารยาทสังคมในที่ทำงาน
“ได้ข่าวว่าไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่าจ๊ะ” ตามด้วยพี่มลถามออกมาเหมือนเป็นห่วง แต่ปากนี่ยิ้มแบบเย้ยหยันมาก
“คงเป็นไม่มากเท่าพวกพี่หรอกค่ะ” แล้วเสียงของเอิร์นก็ดังขึ้น
ซึ่งเอิร์นเป็นเพื่อนของฉันนั่นเอง เราเรียนและทำงานด้วยกัน
“แหม พี่มลก็แค่ถามด้วยความเป็นห่วง” แล้วชมพู่ก็พูดขึ้น
“เป็นห่วงอะไรเหรอ ห่วงที่จะไม่รู้เรื่องคนอื่นแล้วเอาไปพูดหรือเปล่า” เอิร์นถามออกไปตามสไตล์
เธอเป็นคนพูดตรงไปตรงมาแบบนี้แหละ และที่สำคัญก็มักจะเป็นคนปกป้องฉันจากพวกนี้ด้วย
แล้วถ้าถามว่าฉันไม่สู้คนเหรอถึงปล่อยให้เอิร์นมาปกป้อง เปล่าหรอก ฉันรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู แต่ที่ฉันนิ่งเพราะว่าพวกเขายังไม่ได้ล้ำเส้นฉันไง ถึงแม้จะรู้ว่าคำถามคำพูดของคนพวกนี้จะตั้งใจแดกดัน ส่อเสียด แต่แล้วยังไง ในเมื่อมันก็เป็นคนถามเบสิกทั่วๆ ไป ฉันก็แค่ทำเป็นไม่รู้เรื่องตอบกลับไปอย่างที่พวกเธอถามก็แค่นั้น
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเธอเลือกจะพูดจาหรือทำอะไรที่มันเป็นการล้ำเส้น ไม่ต้องห่วงหรอก ว่าฉันจะปล่อยให้ได้พูดกันสนุกปากแบบนี้ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับเอิร์นไง ที่รู้ว่าพวกนี้จิกกัดฉัน นางก็เลยตอบใส่กลับไปแบบนี้
“เอิร์น! พูดอะไรให้รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้องบ้างนะ” เป็นพี่นงนุชที่พูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ
“นั่นนะสิคะ พี่ก็รู้ว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่ ก็น่าจะทำตัวให้สมกับเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ ไม่น่าจะชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้น่าถอน...” เอิร์นพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มกวนๆ ที่ทำให้พวกนี้อารมณ์เสียได้
“อย่าคิดว่าเพื่อนเธอมีแบล็คดีแล้วจะพูดจะทำอะไรก็ได้นะ” พี่มลพูดขึ้นบ้าง
“ก็ถ้ารู้ว่าฉันมีแบล็คดี จะพูดจะทำอะไรก็ระวังปากกันหน่อยนะ เพราะถ้าฉันรำคาญเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าฉันจะทำอะไรได้บ้าง” ฉันพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้
ส่วนเรื่องแบล็คของฉันที่พวกเธอพูดถึงก็ไม่ใช่ใครหรอก คุณประสิทธิ์นั่นเอง พนักงานเกินกว่าครึ่งของที่นี่ต่างก็พูดว่าฉันเป็นเด็กของคุณประสิทธิ์กัน แต่ว่าคุณประสิทธิ์สั่งห้ามไม่ให้ใครพูดเรื่องนี้อีก ถ้าได้ยินท่านจะไล่ออก เลยทำให้ฉันยังคงปลอดภัยจากภรรยาของท่านจนถึงทุกวันนี้
“รอแค่คุณหญิงรู้เรื่องนี้ แกคิดว่าแกจะได้ลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้เหรอ” พี่นงนุชพูดขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าแลกกับการถูกไล่ออกของพี่ ก็ตามสบายค่ะ” ฉันตอบกลับก่อนจะเดินไปที่โต๊ะตัวเองหลังจากสามคนนั้นเงียบกันไป พร้อมกับมองหน้าฉันด้วยความโกรธแค้น
ก็แน่สิ ถ้าพวกเธอกล้าพูดเรื่องนี้ให้คุณประสิทธิ์ได้ยินมีหวังได้ถูกไล่ออกทันทีแน่นอน แล้วอย่าหวังว่าจะได้ไปบอกคุณนวลอนงค์ภรรยาคุณประสิทธิ์เลย เพราะถ้าเกิดคุณประสิทธิ์รู้ว่าใครเป็นคนพูดเรื่องนี้ล่ะก็ มีหวังได้จบชีวิตการทำงานเพราะท่านจะขึ้นบัญชีดำไว้อย่างไม่ต้องคิดเลย
ฉันถือคติ เกลียดอะไรก็อยู่ห่างจากสิ่งนั้น เลยไม่ค่อยได้ต่อปากต่อคำกับคนพวกนี้ที่คอยหาเรื่องจิกกัดตลอด