bc

เมื่อไม่รักก็หย่า...รัก (Set The monsoon)

book_age16+
32
ติดตาม
1K
อ่าน
love-triangle
ครอบครัว
จบสุข
คู่ต่างขั้ว
ดราม่า
like
intro-logo
คำนิยม

เมื่อเขาไม่เคยรัก...เธอเองก็เหนื่อยเกินจะเหนี่ยวรั้งคนที่เขาไม่เคยมีใจ...และรอคอยแต่คนรักเก่าเขาเท่านั้น...หากเป็นอย่างนั้นก็หย่า...กันเถอะค่ะ

เมื่อไม่เคยรัก...เธอเองก็เหนื่อยที่จะเหนี่ยวรั้งคนที่เขาไม่เคยมีใจ...

และรอคอยแต่คนรักเก่าเขาเท่านั้น...หากเป็นอย่างนั้นก็หย่า...กันเถอะค่ะ

ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งจะเข้าหอด้วยกัน แต่พี่กลับ ละเมอถึงหญิงอืื่น

“งื้อ...อย่ากวนสิเป้ย...พี่จะนอน” ปลายนิ้วเรียว ถึงกับชะงัก ผงะอึ้งไปทันทีเมื่อได้ยินเขาเรียกขานใครอีกคน...ที่ไม่ใช่เธอ

ถ้าอย่างนั้นเราก็หย่ากันเถอะค่ะ!!!!

เรื่องนี้ ไม่มีนอกกาย นอกใจ สุขจบนิยมนะคะ

“ฉันเนี่ยนะใช้อารมณ์ คุณทิ้งฉันไว้ เพื่อไปหาแฟนเก่าคุณ โดยไม่คิดถึงความรู้สึกของฉันเลยสักนิด”

“เป้ยเขาป่วย เขาทำร้ายตัวเอง” พยายามอธิบายในขณะที่เธอนั้นไม่พร้อมที่จะรับฟังเขาอีกแล้ว

“แล้วคุณเป็นใครคะ มีหน้าที่เกี่ยวอะไรกับเขา เขาไม่มีญาติ หรือมีเพื่อนที่ไหนต้องช่วยเหลือหรือไง ถึงให้คุณ ที่เป็นคนอื่นไปช่วย”

“ณิดา เธออย่างี่เง่า ใจแคบแบบนี้ได้ไหม”

“ใช่ค่ะ ฉันใจแคบ และ งี่เง่า งั้นคุณก็ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ เพราะฉันไม่อยากให้คุณทำเหมือนฉันไร้ค่าอย่างที่ผ่านมาแล้ว ในเมื่อคุณไม่รักฉัน งั้นเราก็จบกันตรงนี้เถอะค่ะ”

“ไม่!ณิดา เธอท้องลูกของพี่อยู่นะ”

“ณิโกหกพี่ ณิไม่ได้ท้อง!”

“ว่าไงนะณิดา!”

“พี่เคยบอกณิมาตลอดไม่ใช่เหรอคะ ว่าพี่ไม่อยากมีลูก พี่เกลียดเด็ก มิหนำซ้ำพี่ยังเคยบอกว่าถ้าไม่พร้อมก็ให้เราทำแท้ง แล้วที่ผ่านมาพี่ยังสั่งให้ณิทานยาคุมตลอดทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน”

“นี่เธอ โกหกพี่งั้นเหรอณิดา!” ชายหนุ่มตรงเข้าเขย่าร่างของภรรยาสาวด้วยความโกรธจัด นัยน์ตาคู่คมแดงก่ำ ก่อนจะตวาดถามย้ำ ซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ

“ใช่ ณิโกหกพี่ ตอนนั้นณิแค่ไม่อยากเลิกกับพี่ ได้ยินไหมคะว่าณิโกหกพี่! ณิไม่ได้ท้อง!”

มองหน้าเขาอย่างเด็ดเดี่ยว เอ่ยประโยคที่ทำให้เขาหัวใจกระตุกวูบ นิ่งตะลึง จนแทบลืมหายใจ

“เราหย่ากันเถอะค่ะ”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ ชุดเจ้าสาว
บทนำ ชุดเจ้าสาว หญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาว ยืนหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องลองชุด ของห้องเสื้อหรูชื่อดัง เป็นร้านที่บ่าวสาวในยุคนี้มักนิยมมาใช้บริการ เพราะดีไซน์สวยงามหรูหรา ให้ความทันสมัย กอปรกับฝีมือการตัดเย็บที่ค่อนข้างประณีต หญิงสาวมองตนเองด้วยความปลื้มปริ่ม ครึ้มใจอย่างมีความสุข ในเมื่องานแต่งครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิต และคงเป็นครั้งเดียว หล่อนจึงอยากให้เป็นวันที่พิเศษที่สุดในชีวิตของเธอ แม้เธอจะได้จดทะเบียนสมรสกับเขามาร่วมปี แต่เพราะว่าฤกษ์ที่คุณ วรินทร์ แม่สามีเธอนั้นกว่าจะหามาได้ และตัวเขาเองนั้นกว่าจะหาตารางเวลาที่ลงตัว ก็ใช้เวลาพอควร จนเธอเคยคิดทำใจไว้แล้ว ว่าคงจะไม่ได้จัดงานแต่งอย่างเช่นฝัน ทว่าท้ายที่สุดทุกอย่างก็กำลังจะเกิดขึ้น แม้ไม่ได้จัดใหญ่โต ไม่ได้เชิญแขกนับร้อย แต่ถ้าได้สวมใส่ชุดแต่งงานที่เป็นดั่งชุดเจ้าสาวในฝันที่เธออยากได้ แม้จะไม่ได้ตัดเย็บ หรือออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ แต่แค่เธอได้สวมใส่ชุดของแบรนด์นี้ก็ดีใจมากแล้ว หญิงสาวหมุนตัววนรอบตัวเองอีกครั้งด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของเจ้าบ่าว หากเขาได้เห็นเธอสวมใส่ชุดเจ้าสาวแสนสวย เขาจะตื่นตะลึง ชื่นชมในความสวยของเธอบ้างหรือไม่ คิดถึงตรงนี้พาลให้หัวใจเต้นแรง รู้สึกมวนท้อง ด้วยความประหม่า หล่อนไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันนี้กับเขา ได้สุขสมหวัง ได้ชีวิตครองคู่ร่วมกัน นายแพทย์อธิษฐ์ อัศวพัฒน์ พี่ชายข้างบ้านที่เธอรู้จักมากแต่เด็ก หลงใหลได้ปลื้มแอบรักเขาข้างเดียวอยู่นานหลายปี ตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมสมัยที่เขาเคยมาคลุกคลีนอนเล่นอยู่ที่บ้านกับพี่ชายเธอ ซึ่งอยู่รั้วติดกัน ครอบครัวเราสนิทสนมกันมานาน กระทั่งครอบครัวเธอปัญหาใหญ่ ครอบครัวแตกแยกมีหนี้สินมากมาย พี่ชายที่ไปเรียนอยู่ต่างประเทศ ต้องคอยส่งเงินกลับมาให้ และเธอเองในช่วงนั้น ก็ต้องเริ่มหางานพิเศษทำ โชคดีที่ครอบครัวเขาเมตตา คอยดูแล ช่วยเหลือ เอาใจใส่เธอประดุจลูกสาวอีกคน กระทั่งเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย หล่อนจึงตัดสินใจที่จะสารภาพรัก และไม่คิดว่าเขาจะตอบรับรัก ตกลงคบหากับเธอ มันเป็นเรื่องที่เกินฝัน เกินที่จินตนาการไว้มาก แม้กระทั่งวันนี้ วันที่เธอได้จดทะเบียนสมรส เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา คิดถึงตรงนี้นิษฐ์รัณดา หญิงสาววัยเพียงยี่สิบสามปี ก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยความตื่นเต้น เพราะอยากให้เขาได้เห็นความสวยงามของเธอ เมื่อได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวชุดนี้ หล่อนแย้มหน้าออกมาจากผ้าม่านกำมะหยี่สีแดงเลือดนกที่ปิดซ่อนร่างกายไม่ให้คนด้านนอกได้เห็น ก่อนจะใช้สายตาสอดส่ายมองหาใครบางคนที่ควรต้องนั่งอยู่ในเวลานี้ แต่กลับเห็นเพียงเพื่อนสนิทเธอสองคนเท่านั้น ที่กำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่จนไม่ได้แหงนหน้าขึ้นมอง “อัญ...เอย...พี่กลางล่ะ” ได้ยินเสียงเรียก ทั้งสองจึงแหงนเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างด้วยความชื่นชม “คุณลุงของเธอน่ะเหรอ...ไม่รู้สิ ตั้งแต่มายังไม่เจอเลย” อรรณ์ญาริญ น้องสาวแท้ ๆ ของอธิษฐ์ตอบตามที่เห็น พลางสอดส่ายสายตามองหาพี่ชายตนเอง ที่เพื่อนสนิทมักแอบใช้สรรพนามแทนคนรักว่าคุณลุง โดยที่นิษฐ์รัณดาไม่ค่อยที่จะไปออดอ้อนเรียกชื่อเล่นเขาแบบนี้ เพราะกลัวเขาตำหนิและมองว่าไร้สาระอย่างที่เคยโดนว่ามาก่อน อรรณ์ญาริญ หันมองซ้ายขวาอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เห็นคนที่ควรจะต้องมาอยู่ตรงนี้ก่อนพวกเธอเลยด้วยซ้ำ “ณิดา...เดินออกมาให้ดูหน่อยสิ อยากชมว่าสวยไหม”เมษ์ลาลิน รีบลุกจากที่นั่งมาหาเพื่อนที่รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยเจ้าเอย...เราอยากให้พี่อธิษฐ์เห็นเป็นคนแรก” สองเพื่อนสนิทได้ยินถึงกับหัวเราะร่วนออกมาด้วยความชอบใจ “สรุปพี่อธิษฐ์ล่ะ มาหรือยัง” “ยังนะ...เดี๋ยวลองโทรตามก่อน สงสัยรถติดมั่ง” “งั้น แกส่งโทรศัพท์มาให้ฉันหน่อยสิเอย” ยื่นมือออกมารอรับโทรศัพท์ที่เมษ์ลาลินหันไปค้นจากกระเป๋าสะพายมายื่นส่งให้ “ทำไมพี่กลางไม่รับโทรศัพท์นะ” อรรณ์ญาริญบ่นอุบ ขณะที่นิษฐ์รัณดาก้มมองดูข้อความล่าสุดที่ส่งหาเขา ไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เห็นอีกฝ่ายกดอ่านแล้ว แต่ไม่พิมพ์อะไรตอบกลับมา ระหว่างคิ้วมุ่นหากันเล็กน้อย เป็นเวลาเดียวกันกับบรรยากาศภายร้านอาหารในรูปแบบกึ่งคาเฟ่ ตกแต่งด้วยโทนสีขาวละมุนตาเข้ากับดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย ชายหญิงที่นั่งหลบมุมอยู่ด้านในของร้าน ห่างไกลสายตาผู้คนพอสมควร บนโต๊ะมีเมนูเครื่องวางอยู่บนโต๊ะ ของหญิงสาวเป็นกาแฟคาราเมลมัคคิอาโต้ ขณะที่ชายหนุ่มเป็นกาแฟดำใส่น้ำส้ม “หึ ยังชอบกินกาแฟหวานเหมือนเดิมเลยนะ” “อืม...เบ๊บก็เหมือนกันน่ะแหละ ชอบกินกาแฟส้มเหมือนเดิม” เอ่ยเรียกชื่อเล่นที่เคยใช้ระหว่างคบกันอย่างลืมตัว กว่าจะรู้สึก ก็เอ่ยคำนั้นออกไปแล้ว และทันเห็นว่าอีกฝ่ายก็ชะงักนิ่งไปไม่น้อย “อืม...ชอบ...อะไรที่เคยชอบก็ยังชอบอยู่นั่นแหละ” ประโยคง่าย ๆ เหมือนมีความนัยแอบแฝง แต่กลับทำให้คนฟังหลุบสายตามองต่ำลง ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความประหม่า จนพูดอะไรไม่ออก ต่างจมอยู่กับความคิดของตนเองครู่ใหญ่ กระทั่ง เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของชายหนุ่มดังขึ้น “พี่อธิษฐ์ ไม่รับสายเหรอคะ เห็นโทรเข้ามาหลายครั้งแล้ว อาจจะมีธุระด่วนก็ได้นะคะ” เพราะหลุดชื่อเล่นที่เคยเรียกกันสมัยคบหา พลอยทำให้บรรยากาศรอบตัวเมื่อครู่ชวนให้อึดอัดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก อธิษฐ์มองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอล่าสุดแล้วนิ่งไปเล็กน้อย นัยน์ตาคมผ่านแว่นสายตาเลนส์หนา ก่อนจะลอบระบายลมหายใจออกมา แล้วตัดสินใจกดตัดสายแล้วคว่ำโทรศัพท์ลงกับโต๊ะทันที “ทำไมถึงมาสมัครที่นี่ล่ะ ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่ทำงานอยู่?” “ค่ะ เป้ยลืมคิดจริง ๆ ว่าบริษัทที่พี่ทำงานเปลี่ยนชื่อแล้วย้ายสำนักงานมาอยู่ที่นี่” ปรีติกา ยิ้มน้อย ๆ มุมปากก่อนจะตอบรับกับเขาอย่างตรง ๆ “อืม...นั่นสินะ บริษัทเปลี่ยนชื่อ กับที่ตั้ง เป้ยก็คงจะลืมจริง ๆ” ถ้อยคำคล้ายตัดพ้อ แต่กลับทำให้คนฟังถึงกับยิ้มออกมา “ทำไมคะ...พี่คิดว่าที่เป้ยมาสมัครงานที่นี่เพราะยังอยากเจอพี่เหรอ” “แล้วไม่ใช่หรือไง?” เขาย้อนถามกลับยิ้ม ๆ ขณะที่หญิงสาวเองก็เสหลบสายตาคมมองผ่านหันไปทางอื่น ริมฝีปากเม้มแน่น กลั้นรอยยิ้มของตนเอง จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายวินาที หล่อนจึงหันกลับมามองหน้าเขา เปลี่ยนเรื่องที่จะสนทนา “แล้วชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ...โอเคดีหรือเปล่า” “อืม...ก็ดีนะ เรื่อย ๆ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง” ตอบโดยไม่คิดสบตา หญิงสาวเท่าไหร่ เพราะความจริงแล้วนั้น เขายังมีเรื่องบางเรื่อง ที่ยังไม่กล้าพอที่จะบอกเล่าเธอในตอนนี้ ปรีติกา อดีตคนรักของเขาที่เลิกรากัน ทิ้งความรู้สึกมากมายไว้ให้กับเขา ทั้งความรู้สึกผิด ความเสียดาย ความคิดถึง และความรักที่เขาคิดว่ายังมีให้เธออยู่เต็มล้นหัวใจ กับสีหน้าคล้ายอึดอัดลำบากใจเล็กน้อย แต่ก็ยังนิ่งเงียบครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยถามบางอย่างย้อนกลับไป “ว่าแต่พี่ได้ยินว่า เป้ยจะแต่งงานไม่ใช่เหรอ” ประโยคย้อนถามนั้น พลอยทำให้หญิงสาวที่กำลังยกน้ำขึ้นจิบ ถึงกับชะงักไปเล็กน้อยนิ่งอึ้งไป หลายชั่วอึดใจ ก่อนที่หยาดน้ำใสจะเอ่อคลอเต็มหน่วยตา คิ้วหนาขมวดมุ่นเล็กน้อย อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะข่าวคราวที่เขาได้ยินมาในก่อนหน้านั้น คือเธอกำลังจะมีความสุข แต่งงานกับชายคนใหม่ที่เธอเลือกแทนเขาในวันนั้น “เป็นอะไรหรือเปล่า” ถามเสียงเข้มขึ้น ขณะยื่นกระดาษทิชชู่ให้เธอได้ซับน้ำตา “พี่อธิษฐ์ข่าวไวจัง แต่ก็ยังไม่อัพเดทนะคะ” “หมายความว่ายังไง?” “งานแต่งเป้ยยกเลิกแล้วค่ะ แล้วเป้ยก็เลิกกับเขาแล้วด้วย เลยต้องออกมาหางานทำอย่างที่พี่เจอวันนี้ไงคะ” อธิษฐ์ได้ยินดังนั้นถึงกับนิ่งอึ้งไป ความเงียบโรยขึ้นรอบตัวกับความรู้สึกประหลาดที่วาบเข้ามา ใจเขานั้นกลับรู้สึกดิ่งวูบกับข่าวสารที่เขาเพิ่งได้รับทราบจากปากของ อดีตคนรักเขาเอง “พี่อธิษฐ์ละคะ เป็นยังไง เกือบสองปีที่เราไม่เจอกัน ไม่มีใครที่คบอยู่เหรอคะ” “อืม..พี่ก็ยังเรื่อย ๆ นะ...” สายตาคมหลุบต่ำลง ก่อนจะเอ่ยประโยคไม่เต็มเสียงนัก “พี่กำลังจะแต่งงานน่ะ” “แต่งงาน...” หล่อนทวนคำนั้นเสียงเบาหวิว หัวใจของหญิงสาวที่ได้เจอกับอดีตคนรัก ด้วยความตั้งใจเดิมนั้นอยากจะกลับเข้ามาในชีวิตของเขาเพื่องอนง้อสานต่อความสัมพันธ์ที่เธอเป็นคนทำขาดหาย ทว่า...สิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่นั้น กลับทำให้ใบหน้าสวยจืดเจื่อน ริมฝีปากแห้งผาก จนต้องหันไปยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบดับกระหาย นายแพทย์หนุ่มลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ พยายามเลี่ยงประเด็นที่เขาหลุดปากบอกเธอไปก่อนหน้า “ว่าแต่เป้ยยังพักอยู่ที่เดิมไหม” “ย้ายแล้วค่ะ ตอนนี้เป้ยมาอยู่แถวเกษตร” รามอินทรากับย่านเกษตร ก็ไม่ไกลกันมาก ขับรถไม่ถึงชั่วโมง ถนนก็มีหลากหลายเส้นทาง ใช้หลีกเลี่ยงเวลาเร่งรีบได้อย่างดี หล่อนตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะชำเลืองสายตามองไปยังแสงสว่างวาบบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขาที่แสดงให้เห็นอยู่นานแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหยิบมันขึ้นมาดูเลยสักนิด “เป้ยว่าตอนนี้พี่น่าจะตอบกลับข้อความ หรือรับโทรศัพท์คนที่เขาโทรหาพี่หน่อยก็ดีนะคะ เขาจะได้ไม่ต้องโทรมาอีก” อธิษฐ์ก้มมองโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะข้างตัวเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าเจอ นิ่งไปเล็กน้อย “ครับ...งั้นรอพี่สักครู่นะ” อธิษฐ์ตอบรับด้วยสีหน้านิ่งขรึมก่อนจะลุกเดินเลี่ยงห่างออกไปเล็กน้อย เพื่อกดรับสายของใครอีกคน ด้วยเสียงทุ้มเรียบตึง “ว่าไง ณิดา” ‘พี่อธิษฐ์อยู่ที่ไหนเหรอคะ ใกล้ถึงหรือยัง ทำไมไม่รับสายณิเลยละคะพี่อธิษฐ์’ เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ น้ำเสียงเลย คล้ายตำหนิเขาไปในตัว นายแพทย์หนุ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะตอบกลับปลายสายด้วยเสียงทุ้มต่ำ เรียบนิ่ง อย่างที่ทำให้ปลายสายถึงกับสะอึกอึ้งอยู่ไม่น้อย “อืม...วันนี้พี่มีธุระ คงไปไม่ทันแล้วล่ะ เราจัดการเองเลยแล้วกัน” ‘มีธุระเหรอคะ...แล้วทำไมไม่บอกอะไรณิเลย...แล้วไหนจะการ์ด แล้วของชำรวยอีก พี่ไม่มาช่วย ณิดูเหรอคะ’ “ทุกอย่างมันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ ยังต้องไปดูอะไรอีก” น้ำเสียงเจือความหงุดหงิด ก่อนจะถอนหายใจหนัก เอ่ยประโยคต่อมาด้วย สุ้มเสียงและสีหน้าที่เหมือนจะใจเย็นลงเล็กน้อย “พี่ไม่ว่างจริง ๆ เราตัดสินใจเองได้เลยนะ” ‘แล้วชุดเจ้าบ่าวละคะ วันนี้พี่ไม่เข้ามาลองดูอีกครั้งเหรอคะว่าใส่ได้พอดีไหม ใกล้วันแล้ว พี่จะให้ณิตัดสินใจเองหมดเลยเหรอคะพี่อธิษฐ์’ “อืม...ตามนั้นแหละ อยากทำอะไรก็ทำ แล้วแต่เธอได้เลย” ‘หมายความว่าไงคะพี่อธิษฐ์?!! นี่มันงานแต่งงานครั้งเดียวของเรานะคะ พี่ควรที่จะใส่ใจกับมันกว่านี้หรือเปล่า’ นับเป็นครั้งแรกที่หล่อนต่อว่า ทุ่มเถียง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นายแพทย์หนุ่มถึงกับถอนใจดัง ในใจนั้นก่อความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นิษฐ์รัณดา ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา หล่อนคือหญิงสาวที่แม่เขาปรารถนาอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ และเขาเองในเวลานั้น ก็ไม่เคยคิดรังเกียจ ติดไปทางเอ็นดูด้วยซ้ำ ด้วยนิสัยใจคอ กอปรกับความน่ารัก ความโอนอ่อน โอบอ้อมอารีย์ จึงทำให้เขารู้สึกว่าคงจะรักเธอได้ไม่ยากเกินไปนัก ทว่า ในยามนี้ เมื่อเขาได้เจออดีตคนรักที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดเกือบสองปี แล้วยังรับรู้ว่าอีกฝ่ายนั้น เพิ่งเลิกรากับคนรัก และอยู่ในห้วงเวลาที่กำลังเคว้งคว้าง หัวใจที่มันรอคอยอยู่ก่อนแล้ว ก็อดจะรู้สึกรำคาญบ่วงที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมากับมือตัวเองอยู่ไม่น้อย เอ่ยเสียงหนัก เต็มไปด้วยความเยือกเย็นจับหัวใจคนปลายสาย ถึงกับผงะน้ำตาคลอ “ถ้ามันยุ่งยากมากนัก งั้นก็ไม่ต้องแต่ง ล้มเลิกไปเลยแล้วกัน!!” จบประโยคนั้น เขาก็ตัดสายทิ้งไปทันที ด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่านอัดแน่นอยู่ภายใน ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะ ซึ่งหญิงสาวอดีตคนรักของเขานั่งจ้องด้วยรอยยิ้มหวานอยู่ก่อนแล้ว

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

30 Days to Freedom: Abandoned Luna is Secret Shadow King

read
312.5K
bc

Too Late for Regret

read
299.2K
bc

Just One Kiss, before divorcing me

read
1.7M
bc

Alpha's Regret: the Luna is Secret Heiress!

read
1.3M
bc

The Warrior's Broken Mate

read
139.1K
bc

The Lost Pack

read
418.3K
bc

Revenge, served in a black dress

read
150.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook