CHAPTER 06
ฉันเดินลงมาข้างล่างที่ให้เจ้าเด็กศึกรบนั่งรอ แต่ตอนนี้กลับไม่มีเด็กคนนั้นนั่งอยู่
"ไปไหนนะ หรือกลับไปแล้ว"
ฉันหยิบมือถือขึ้นมากะว่าจะต่อสายหาศึกรบแต่แล้วเมื่อล้วงหามือถือในกระเป๋ากลับไม่เจอมือถือตัวเอง
คราวนี้แหละฉันลนหนักกว่าเดิม
ฉิบหายแล้ว
หรือมันตกตอนที่ฉันเกือบล้มในห้องคุณวัฒน์เมื่อกี้วะ!
ฮืออ
ไม่นะ
หน้าจอมือถือฉันสุดปังมากเลยเหอะ
ฉันนั่งกัดนิ้วตัวเองอย่างใช้ความคิด ไม่เพียงแต่ตกตะกอนความคิดด้วยความหวาดกลัวแต่จู่ ๆ ผู้ชายที่ฉันไม่อยากเข้าใกล้ก็เดินออกมาจากลิฟต์ที่ฉันพึ่งเดินลงมา
เราสบตากันและเป็นฉันที่หน้าร้อนผ่าว
ในมือเขามีมือถือฉันถือเอาไว้อยู่จริง ๆ ด้วย และมันน่าอายมากเพราะภาพพักหน้าจอที่ฉันตั้งไว้มันค่อนข้างจะ..
"คุณลืมมือถือ"
คุณวัฒน์ยื่นมือถือฉันคืนมา ฉันยื่นมือไปรับมือถือนั้นมาถือเอาไว้อย่างรวดเร็ว
"ขะ ขอบคุณมากค่ะ"
ภาวนาอย่าให้หน้าจอมือถือฉันมันเด้งขึ้นมาในตอนที่อยู่ในมือเขาเลย
ได้โปรดเถอะ
ตะดึ๊ง!
แต่ทว่าเมื่อมือถือมาอยู่ในมือฉันหน้าจอก็ปรากฏข้อความที่ศึกรบโทรมา ภาพหน้าจอสว่างขึ้นจนเห็นภาพพักหน้าจอเป็นรูปฉันเมาแล้วนั่งแหกปากร้องไห้อยู่บนโซฟา เป็นรูปที่ศึกรบถ่ายเอาไว้แล้วฉันชอบใจเพราะมันทำให้ฉันเห็นสภาพตัวเองตอนที่หลุดโลกไปแล้ว
รูปว่าหนักแล้วแต่ฉันดันบ้าจี้เขียนข้อความโต ๆ บนรูปว่า ‘ไม่อยากทำงานโว๊ยยย!’ ตัวอักษรก็เน้นตัวหนา ใหญ่ ๆ เน้นเห็นเต็มสองตาจนต้องยัดมือถือใส่กระเป๋าตัวเองอย่างรวดเร็ว
“อื้ม”
คุณวัฒน์ตอบกลับมาเพียงประโยคสั้น ๆ ก่อนจะมองหน้าฉันแล้วจู่ ๆ ก็จ้องราวกับกำลังสนใจบางอย่างอยู่
แต่ทว่าไม่ได้มีคำพูดใดเอ่ยออกมานอกจากคุณเขาหันหลังแล้วเดินขึ้นลิฟต์ไปเลย
“บ้าจริง น่าอายชะมัด”
ฉันก่นด่าตัวเองซ้ำ ๆ แล้วหยิบมือถือมาเปลี่ยนภาพหน้าจออย่างรวดเร็ว
เมื่อเปลี่ยนเสร็จก็กดเปิดอ่านข้อความจากศึกรบ เขาส่งมาบอกว่าแวะเข้าห้องน้ำถ้าเสร็จแล้วไม่เจอให้นั่งรอที่เดิม
“เสร็จแล้ว?”
เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยทักกัน ฉันหันไปหาเสียงที่คุ้นหู
ศึกรบเดินมาใกล้กัน เขาย่างก้าวอย่างเฉยชาจนกระทั่งมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน
“พี่หิวข้าวอะ”
ฉันทำหน้างอแงใส่คนที่ตัวเองสนิทใจที่สุด ศึกรบพยักหน้าแล้วจูงมือฉันให้เดินตามเขาไป
“พี่ที่มอเรียกไปซ้อมว่ายน้ำ ซื้อข้าวแล้วพี่ไปนั่งรอผมซ้อมได้มั้ย เสร็จแล้วจะได้กลับพร้อมกัน”
ศึกรบอยู่ชมรมว่ายน้ำและเขาก็เป็นตัวตึงสำหรับผู้แข่งขันด้วยกัน
“อื้ม ได้สิ”
ศึกรบนั่งรอฉันเป็นชั่วโมงได้แล้วทำไมฉันจะไปนั่งรอเขาไม่ได้ แค่นี้สบายมากในเมื่อวันนี้ตอนบ่ายไม่ต้องเข้าออฟฟิศเพราะทุกคนไปนำเสนองานที่ฉันเป็นคนแก้แค่คนเดียว
เวลาต่อมา
ตอนนี้ฉันอยู่ที่สระว่ายน้ำใหญ่ของโรงเรียนที่ศึกรบจะต้องลงไปว่าย
เขาเปลี่ยนใส่กางเกงว่ายน้ำอวดซิคแพคสุดปังให้ผู้หญิงที่มานั่งดูกรี๊ดกร๊าดไม่เลิก
“ศึกรบ อย่าออกแรงเยอะนะแขนนายปวดอยู่ไม่ใช่เหรอ”
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปใกล้ศึกรบ เธอแตะมือลงบนหัวไหล่เจ้าเด็กหมาของฉันแล้วแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา
“อื้ม ไม่เป็นไรมันดีขึ้นแล้ว”
ฉันไม่ยักรู้ว่าเขาปวดไหล่ เพราะศึกรบไม่เคยบอกความเจ็บปวดของตัวเองให้ใครได้ยิน
“แหม ๆ คู่จิ้นคู่นี้เป็นห่วงเป็นใยกันด้วย ศึกรบ เรน ช่างเข้ากันราวกับเจ้าชายกับเจ้าหญิง”
คู่จิ้นงั้นเหรอ..
ฉันกัดแฮมเบอร์เกอร์ที่อยู่ในมือเงียบ ๆ เก็บข้อมูลตรงหน้าให้แนบเนียนที่สุด
“เพื่อน”
ศึกรบเอ่ยเสียงเบื่อหน่าย เขาวอร์มแขนตัวเองเบา ๆ โดยเมินเพื่อนชายที่เอ่ยแซวก่อนหน้า
“ระวังจะเป็นเพื่อนไม่จริงนะเว้ย”
“นี่อาร์ม พอได้แล้วศึกรบต้องซ้อมนายเลิกกวนได้แล้ว”
ผู้หญิงที่ชื่อเรนหันไปปรามผู้ชายที่เธอเรียกว่าอาร์ม แม้จะห้ามปรามแต่ใบหน้าเธอกลับขึ้นสีแดงระเรื่อ
ฉันกัดเบอร์เกอร์เข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย แต่แล้วสายตาศึกรบกลับมองมาที่ฉันที่จ้องเขาอยู่
ก็พอรู้ว่าเขามันคนฮอตแต่ไม่เคยรู้ว่าไอ้ลูกหมาคนนี้จะทำให้เพื่อนตัวเองหวั่นไหวได้
ศึกรบมองเหมือนจงใจกวนประสาท เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์ฉันเลยแลบลิ้นใส่เขาไปอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ
ไม่รู้สิ..
ฉันเป็นอะไรกันแน่
หงุดหงิดชะมัด
“ว่าแต่นั้นใช่คนที่มึงเรียกว่าป้าข้างบ้านเมื่อวันก่อนมั้ยวะ?”
อาร์มหันมามองหน้าฉันส่งผลให้ผู้หญิงที่ชื่อเรนก็หันมาด้วยเช่นกัน
เธอมองหน้าฉันแล้วหันมามองหน้าศึกรบที่มองหน้าฉันอยู่
“อื้ม ป้าข้างบ้านกูเอง”
ฉันหน้าตึงทันทีที่ศึกรบเรียกตัวเองว่าป้าข้างบ้าน
ทำไมตั้งฉายาได้แก่ขนาดนี้นะ
ไอ้เด็กเวร
“สวัสดีครับ ผมอาร์มนะครับเป็นเพื่อนศึกรบครับ”
อาร์มหันมาทักทายฉัน ฉันยกยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรแล้วเอ่ยทักทายคนที่ดูอยากทำความรู้จักกับตัวเอง
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“เหี้ย โคตรจะสวย”
แม่จะเป็นการสบถออกมาเบา ๆ แต่ฉันก็ดันได้ยิน แต่นาทีต่อมามือศึกรบก็โบกเข้ากลางหัวอาร์มจนแทบทิ่มลงพื้น
“อย่าเสือกกับพี่กู”
“เหี้ยไรวะ ทำไมต้องรุนแรง”
อาร์มเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ คนโดนตบหัวทิ่มลูบหัวตัวเองป้อย ๆ
“อย่าลามปาม”
“ศึกรบ ได้เวลาซ้อมแล้วนายต้องไปเตรียมตัวได้แล้ว เดี๋ยวเราเตรียมผ้าขนหนูให้แต่สัญญาก่อนว่าจะทำเวลาได้ดี”
เรนที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นมา ศึกรบหันไปสบตาเธอแล้วขานรับว่า ‘อื้ม’ ก่อนจะเดินไปยังแท่นเตรียมตัวสำหรับนักว่ายน้ำ
ฉันจ้องศึกรบที่เตรียมตัวซ้อมพร้อมกับเรนที่ตามประกบไม่ห่าง
โค้ชเป่าลูกหวีดให้สัญญาณจนศึกรบกระโดดลงไปแล้วว่ายน้ำอย่างรวดเร็วจนฉันอึ้ง
ท่วงท่า ลีลาและจังหวะเข้ากันได้ดีจนน่าใจหาย
ปรี๊ดดด!!
เสียงหวีดดังขึ้นอีกครั้งเมื่อศึกรบถึงเส้นชัย
“ทำเวลาได้ดี เร็วกว่าเมื่อวานสี่สิบวินาที”
โค้ชชื่นชมศึกรบ เขาวนกลับไปเริ่มว่ายใหม่ทำซ้ำ ๆ อยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก็เดินขึ้นมาที่ขอบสระ
ฉันที่ยืนอยู่ไม่ห่างเห็นเรนหยิบผ้าขนหนูมาซับตัวให้ศึกรบ
ดูแลกันดีจนนึกตั้งคำถามว่าฉันมาทำอะไรที่นี่วะ?
“ศึกรบเอาน้ำมั้ย เดี๋ยวเราไปหยิบน้ำมาให้”
“ไม่เป็นไร”
ฉันยกน้ำที่อยู่ในมือขึ้นไปดื่ม แรก ๆ เตรียมมาให้เด็กตรงหน้าแต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีคนดูแลแล้ว
“อ๊ะ..”
แต่ทว่าน้ำที่อยู่ในมือกลับถูกศึกรบดึงไปดื่มเองอย่างหน้าตาเฉย
ฉันจ้องมองเด็กวายร้ายที่ยกใบหน้าที่มีสันกรามชัดเจนดื่มน้ำในขวดที่ฉันดื่มพร้อมไปครึ่งขวด
“แย่งน้ำพี่ไปได้ไงเนี่ย”
นึกมันเขี้ยวก็ยกกำปั้นขึ้นไปทุบอกแกร่งอย่างเต็มแรง
ศึกรบขยับน้ำออกมา ริมฝีปากเขาเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำที่เปียกฉ่ำ
“ก็ผมหิว พี่ควรเตรียมให้ผม”
เขากล่าวอ้างเหตุผลที่ไม่ได้น่าเชื่อถือ
“หิวก็ไปซื้อมาเองสิ”
คนตรงหน้าไหวไหล่แล้วกดสายตามองฉันอย่างจริงจัง
“ผมแค่อยากได้น้ำจากพี่ พี่ควรใส่ใจผมบ้าง”
เสมือนนี้เป็นคำพูดที่จงใจพูดทิ่มแทงกันอยู่ไม่น้อย ฉันกัดปากในระหว่างที่สบตากัน
มือเล็กยื่นออกไปแตะเส้นผมที่เปียกหมาด ๆ ปลายเท้าฉันเขย่งขึ้นในตอนที่ขยี้ลุ่มผมศึกรบเน้น ๆ
“ไอ้ลูกหมาของพี่เก่งมากเลยค่ะ”
ฉันกล่าวชื่นชมจากความรู้สึกจริง แต่ทำไมกลับสังเกตเห็นใบหูศึกรบแดงก่ำ
“ทำไมหูแดง ไข้เหรอ?”
ตำแหน่งมือเปลี่ยนมาแตะหน้าผาก ผิวแก้ม และลำคอของผู้ชายที่เอาแต่มองหน้ากันไม่เลิก
ศึกรบดึงมือฉันออกไปแล้วเปลี่ยนเป็นกุมข้อมือกันแทน
“ผมจะเปลี่ยนเสื้อ ไปด้วยกัน”
พูดจบคนชอบเอาแต่ใจก็เดินจูงมือฉันฝ่าเพื่อนตัวเองไปราวกับทุกคนเป็นอากาศ
เด็กคนนี้มือใหญ่และอุ่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจรู้ได้เลย
Talk
อ่านจบแล้วขอคนละเม้นน้า 🥰🥰