CHAPTER 09
"เลิกจ้องพี่ได้แล้วนายกวนประสาทจนน่าตีมากรู้มั้ยศึกรบ"
พี่สาวคนสวยส่งเสียงเกรี้ยวกราดเมื่อเจ้าหมาเด็กเอาแต่จ้องหน้าเธอด้วยแววตาไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด
ศึกรบยกยิ้มมุมปากแล้วนั่งรอน้ำฟ้าแต่งตัวอยู่ตรงปลายเตียง
พี่สาวคนสวยจ้องไอ้หมาเด็กผ่านกระจกโต๊ะแต่งหน้าที่ตอนนี้เธอกำลังยกลิปสติกส์แท่งโปรดลงมาปาดใส่ริมฝีปากอวบอิ่มที่น่ามอง
"นายไปทำงานที่ไหนเหรอ มหาลัยหรือร้านกาแฟ"
ที่ถามเพราะเธอแค่อยากรู้ จู่ ๆ บอกให้ไปด้วยกันโดยที่ไม่รู้ว่าไปที่ไหนน่ะสิ
“คอนโดไอ้อาร์ม ร้านกาแฟคนเยอะวุ่นวาย”
ศึกรบเอ่ยบอก สายตายังคงโฟกัสพี่สาวคนสวยที่พยักหน้ารับพร้อมหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดระคนต้นคอ
“แล้ว.. ข้าวเราซื้อไปกินที่นั่นเหรอ?”
น้ำฟ้าเตรียมไอแพดไปทำงานด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนี้เธอหิวมากกว่าสิ่งใด
“พี่อยากกินไร”
ศึกรบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง น้ำฟ้าหันมามองหน้าน้องชายตรงหน้าแล้วยกยิ้มมุมปาก
“เหมือนเดิมเลย”
“ได้”
เหมือนเดิมที่ว่าคือให้ศึกรบคิดเองและหาร้านเองเพราะน้ำฟ้าจะหัวตันเวลาถามถึงเมนูอาหาร แต่เธอเป็นคนไม่เรื่องมากและกินได้ทุกเมนู
1 ชั่วโมงผ่านไป
ศึกรบขับรถพาน้ำฟ้ามาถึงคอนโดของอาร์ม วันนี้เขาขับรถยนต์คันหรูเพราะดูอากาศแล้วเหมือนฝนจะตก
ศึกรบไม่อยากให้พี่สาวคนสวยต้องเปียกฝน
“ทุกคนมากันยัง”
มาถึงศึกรบก็หิ้วของกินสำหรับน้ำฟ้าและตัวเองมาถือเอาไว้ เขาเปิดประตูให้เธอแล้วต่อสายหาเจ้าของห้องเพื่อเช็คประชากรที่อยู่ภายในห้อง
“ (มาครบแล้ว ขาดแค่มึง) ”
อาร์มแอบกวนเพื่อนแต่ก็เป็นแค่การแกล้งเล่นไม่ได้คิดจริงจังมากมาย
“เอ่อ กูกำลังขึ้นไป”
พูดจบเขาก็กดวางสายแล้วจูงมือน้ำฟ้าขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของอาร์มที่ทุกคนมักจะรวมตัวเพื่อมาทำงานกัน
มาถึงหน้าห้องก็มีเจ้าของห้องมาเปิดประตูต้อนรับอย่างดี
“อ้าว พี่สาวคนสวยก็มาด้วย สวัสดีครับพี่ฟ้า”
อาร์มเอ่ยทักทายพี่สาวตรงหน้าอย่างเป็นมิตร เขายกยิ้มแล้วเปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้ามาในห้อง
“สวัสดีค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
เธอแอบเกรงใจที่มาวุ่นวายเวลาทำงานของศึกรบกับเพื่อน แต่เด็กคนนี้ลากเธอมาน่ะสิ
เขาไม่ยอมให้เธออยู่คนเดียวเลย
“ไม่ครับ ๆ ไม่รบกวนเลยห้องผมใหญ่นั่งได้สบายเลยครับ”
อาร์มว่าอย่างอารมณ์ดี เขาเดินนำศึกรบและน้ำฟ้าไปยังห้องรับแขกภายในห้องของตัวเอง
ห้องอาร์มใหญ่อย่างที่เขาพูด มีห้องนอนสองห้อง ห้องรับแขก โซนครัวและโซนบราที่เอาไว้แฮงเอาท์กัน
“ศึกรบ มาแล้วเหรอ”
มาถึงห้องรับแขกเรนที่นั่งรวมกันกับเพื่อนเอ่ยถามศึกรบที่พึ่งเดินเข้ามา
ใบหน้าสวยใสยกยิ้มอย่างดีใจแต่ทว่ารอยยิ้มกลับค่อย ๆ จางหายเมื่อเห็นว่าศึกรบไม่ได้มาคนเดียว
“สวัสดีค่ะพี่ฟ้า”
คนที่ยกมือไหว้น้ำฟ้าคนแรกไม่ใช่เรนแต่เป็นอิงโก๊ะเพื่อนร่วมกลุ่มของศึกรบ
“ไม่ต้องไหว้ค่ะ กันเองกับพี่ได้เลยค่ะ ตามสบายเลย”
น้ำฟ้าสะบัดมือปฏิเสธการไหว้ที่ดูเป็นทางการเกินไป เธอไม่อยากให้น้อง ๆ อึดอัดและคอยกังวลอยู่กับเธอ
“ค่ะ พี่นั่งก่อนค่ะพวกเราก็พึ่งมาถึงเอง”
อิงโก๊ะยกยิ้มบาง ๆ
“พี่ทานข้าวยังครับ พวกเรากำลังจะทานข้าวก่อนเริ่มงานพี่มาทานด้วยกันได้นะครับ”
กรณ์ยกถุงอาหารมากมายที่พวกเขาเตรียมตัวนั่งกินกันตรงนั้นเลย
“พี่เตรียมมาแล้วค่ะ ทานกันเลยค่ะ”
พี่สาวคนสวยยกยิ้มหวานทำเอาเพื่อน ๆ ศึกรบมองมาอย่างชอบใจ
ศึกรบกระตุกแขนคนพี่แล้วพาไปนั่งข้างตัวเองก่อนจะวางถุงอาหารลงแล้วมองไอ้กรณ์ ไอ้อาร์ม รวมถึงไอ้ดอมที่มองพี่สาวคนสวยไม่วางสายตา
“อย่ารุ่มร่าม พี่กู”
ถ้าศึกรบปรามนั้นเท่ากับว่าเขาหวง และสิ่งที่ศึกรบหวงมีไม่กี่อย่าง
รถมอเตอร์ไซค์
พื้นที่ส่วนตัว
น้ำฟ้า
นี้คือสามสิ่งที่ศึกรบแสดงอาการไม่พอใจออกมา
ไอ้ดอมยกยิ้ม เฉกเช่นเดียวกันกับกรณ์ที่หัวเราะในคอดัง เหอะ ๆ
“วันก่อนมึงยังเรียกพี่เขาว่าป้าข้างบ้านอยู่เลยทีวันนี้ทำเป็นหวง”
อาร์มที่พึ่งเดินมาร่วมวงเอ่ยแซว น้ำฟ้าหันไปหาไอ้หมาเด็กที่ริอาจเรียกเธอว่าป้าข้างบ้าน
“นายแอบนินทาพี่เหรอศึกรบ”
น้ำฟ้าแอบเขม่นใส่น้องชายตรงหน้าแต่ศึกรบไม่ได้ยี่หระ เขาไหวไหล่แล้วหยิบข้าวเนื้อทอดกระเทียมของน้ำฟ้าออกมา
น้ำฟ้ากินเผ็ดไม่ค่อยเก่ง ชอบกินกับข้าวแห้ง ๆ มากกว่าน้ำ ถ้าเป็นกับข้าวมีน้ำซุปก็ต้องเป็นพวกน้ำใส ๆ ที่ไม่ใช่กะทิ ยกเว้นต้มยำที่เธอกินน้ำข้นได้
ศึกรบจำรายละเอียดทุกอย่างแม้จะเป็นเรื่องที่เธอแพ้ถั่วก็ตาม
“กินข้าวได้แล้ว ไอ้อาร์มมันพูดมากสิบวันก็ฟังไม่จบ”
ศึกรบยกความผิดทั้งหมดให้อาร์มไปจนเจ้าตัวแย้งขึ้นมา
“กูพูดความจริง”
“นิสัยไม่ดี”
น้ำฟ้าพึมพำแล้วหันไปยิ้มให้อาร์ม
“ขอบคุณที่บอกค่ะ พี่ยกบราวนี่ให้เป็นการขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณคร้าบบ”
อาร์มรับไปแล้วยกยิ้มอย่างดีใจ น้ำฟ้าแอบหัวเราะกับความเป็นมิตรของอาร์ม
เพื่อนศึกรบค่อนข้างกันเองและชวนเธอคุยตลอดแต่จะมีอยู่คนเดียวที่ไม่ได้ทักหรือชวนเธอคุยเหมือนคนอื่น
แค่คนเดียว
แต่ทว่าน้ำฟ้าไม่ได้คิดมากเพราะเป็นสิทธิ์ของคนคนนั้นว่าพอใจจะคุยหรือไม่คุยกับใคร เธอพยายามไม่รบกวนศึกรบและนั่งทำงานเงียบ ๆ ของเธอไป
น้ำฟ้าร่างงานที่ใกล้ถึงเดดไลน์ เธอส่งภาพตัวอย่างไปให้คุณวัฒน์ดูทางไลน์ก่อนจะส่งภาพร่างตัวจริงไปให้เขาวิจารณ์ทางเมล์อีกสามวัน
คิ้วสวยผูกกันเป็นโบเมื่อภาพที่คุณวัฒน์ส่งกลับมาเต็มไปด้วยวงกลมสีแดงและโน้ตกำกับว่าเธอต้องแก้ส่วนไหนบ้าง
ภาพที่ร่างส่งไปถูกขีดเขียด้วยปากกาแดงจนมองไม่เห็นภาพที่เป็นต้นฉบับเลย
เขาส่งมาพร้อมตบท้ายประโยคว่า
‘ตั้งใจทำงานครับ ถึงคุณจะขี้เกียจทำแค่ไหนก็ตาม’
น้ำฟ้าจะบ้า!
ไอ้ภาพหน้าจอนั้นเป็นเหตุสังเกตได้
น้ำฟ้ากัดปากตัวเองแล้วยกกล้องขึ้นมาถ่ายอุปกรณ์ทำมาหากินของตัวเองแล้วส่งรูปไปว่าเธอตั้งใจทำงานที่ว่าจริง ๆ
Me :: ส่งรูปภาพ
Me :: ตั้งใจทำงานทุกชิ้นเสมอค่ะ
ไม่กี่วิคุณวัฒน์เปิดอ่านแล้วส่งข้อความกลับมา
คุณวัฒน์ :: ก็ดีครับ ทำงานผมให้เสร็จแล้วค่อยเมา
เขาเหมือนจงใจขยี้ภาพนั้น
น้ำฟ้าเริ่มเคืองในใจ เธอกัดปากแล้วพิมพ์ตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
พิมพ์คุยเธอยังกล้าเถียงอยู่ แต่ต่อหน้าเธอคงไม่กล้าพอ
Me :: แน่นอนค่ะ เพราะฉันไม่เคยดื่มเวลางานค่ะ
เครื่องดื่มเดียวที่เธอดื่มเวลางานคือกาแฟเข้ม ๆ เท่านั้นแหละ!
แต่ทว่าจู่ ๆ หน้าจอก็ขึ้นสายโทรเข้าแบบวิดิโอคอล ซึ่งคนโทรมาก็เป็นคุณวัฒน์ที่น้ำฟ้าพึ่งโต้เถียงผ่านทางข้อความ
น้ำฟ้าอึ้ง เธอเลิกลั่กโดยที่ไม่ทันมองว่ามีสายตาของศึกรบมองอยู่
เธอกดลดเสียงแล้วชั่งใจอยู่นานจนยอมกดรับสายปลายสายไปเพราะกลัวจะทำให้คุณเขาโกรธจนยกเลิกงานไป
“ (ผมโทรมาพิสูจน์ว่าคุณพูดจริง) ”
ประโยคแรกที่พูดคือประโยคที่เขาสานต่อจากข้อความนั้น
น้ำฟ้าแทบอ้าปากค้างกลางอากาศ คุณวัฒน์จ้องหน้าเธอผ่านหน้าจอแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างจับผิด
เธอแอบมุ่ยหน้าแล้วกดสลับกล้องไปยังพื้นที่ทำงานของเธอที่มีทั้งไอแพด กระดาษร่าง และแก้วกาแฟเข้ม ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ กัน
“ฉันตั้งใจทำงานค่ะ คุณไม่ต้องห่วง”
เธอไม่พลิกกล้องกลับมาหาตัวเองแต่ส่องจากกล้องหลังแทน
ขืนหันกล้องมาตอนนี้คุณวัฒน์ต้องรู้แน่ ๆ ว่าเธออยากกินหัวเขามากแค่ไหน
“ (ก็ดีครับ สี่โมงเย็นห้ามเลทแม้แต่นาทีเดียว) ”
ผู้ชายคนนี้จะตึงอะไรขนาดนั้นล่ะ ชีวิตเคร่งเครียดมากหรือไงกัน
“ค่า~”
แต่นิ้วเจ้ากรรมกลับไปกดโดนสลับกล้องมากล้องหน้าตอนที่เธอขานรับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
สองสายตาสบตากันผ่านหน้าจอ น้ำฟ้าชะงัก
เธอกัดปากล่างแล้วค่อย ๆ ส่งยิ้มแห้ง ๆ เมื่อเห็นว่าคุณวัฒน์จ้องหน้าเธอด้วยมาดเคร่งขรึม
“ (ผมจะรอครับ) ”
น้ำฟ้าพยักหน้าแทนการพูดก่อนที่ปลายสายจะกดวางสายไป
โล่งใจเป็นบ้า
หายใจแทบไม่ออก
เธอไม่ชอบความกดดันนี้เลยเพราะโดนจากที่ทำงานมาโดยตลอด
คนอะไรหน้าตึง ชีวิตไม่คิดจะลดหย่อนบ้างหรือไง
เห็นแล้วเครียดสุด ๆ
“คุยกับใคร?”
ศึกรบที่ต้องตั้งแต่แรกเริ่มเดินมานั่งข้าง ๆ น้ำฟ้า
น้ำฟ้าเลือกที่ทำงานเป็นมุมที่ห่างจากคนอื่น เธอทำงานบนโต๊ะญี่ปุ่นที่อาร์มเตรียมไว้ให้
ข้างหลังเป็นโซฟาที่เธอใช้พิงหลังและตอนนี้ศึกรบก็นั่งพิงโซฟาอยู่ข้าง ๆ เธอ
เขาหันใบหน้าไปจ้องหน้าพี่สาวคนสวยเพื่อเค้นหาคำตอบ
“ลูกค้าที่บรีฟงาน โดนสั่งแก้บานเลย”
เธอพองลมเข้าปากอย่างท้อใจ
“แล้วทำไมต้องคอล”
ศึกรบกดเข้ารูปโปรไฟล์ของเจ้าของแชทที่น้ำฟ้ายังค้างไว้อยู่
เป็นผู้ชายคนเดียวกันกับที่ยื่นมือถือให้เธอวันที่เขาพาเธอไปเจอลูกค้า
“เขาคอลมาพี่ต้องรับ”
“แล้วทำไมต้องรับ”
ศึกรบมีท่าทีไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
“เขาเป็นลูกค้า หล่อมากด้วย”
น้ำฟ้าเห็นศึกรบไม่พอใจเธอยิ่งแหย่ ใบหน้าหล่อบึ้งตึง ต่างจากคุณวัฒน์ที่บึ้งตึงแล้วให้ความรู้สึกน่ากลัวแต่ศึกรบบึ้งตึงเธอกลับรู้สึกว่าเขาน่าแกล้ง
“น้ำฟ้า อย่ากวนตีน”
ศึกรบรั้งแขนพี่สาวคนสวยเข้ามาใกล้จนเธอถลาเข้าหาอกแกร่ง
นัยน์ตาสีเข้มร้อนระอุราวกับกำลังกดความหงุดหงิดเอาไว้ไม่อยู่
“พูดไม่เพราะ”
เธอตีปากบึ้งตึงของศึกรบแล้วจ้องหน้าสู้เด็กตรงหน้าที่อารมณ์ติดลบ
“บอกว่าอย่ากวนตีน”
น้ำเสียงศึกรบเข้มขึ้น เขากำลังไม่พอใจจนน้ำฟ้าต้องเบรกความขี้แกล้งของตัวเองเอาไว้แต่โดยดี
Talk
ใครอยากอ่านรวดเดียวจบตอนนี้ ebook พร้อมวางจำหน่ายแล้วนะคะ ไปตำกันได้น้า 🥰🥰