ไอ้หมาเด็ก 09 หมาน้อยขี้หึง [อัปเดต Ebook]

1942 คำ
CHAPTER 09 "เลิกจ้องพี่ได้แล้วนายกวนประสาทจนน่าตีมากรู้มั้ยศึกรบ" พี่สาวคนสวยส่งเสียงเกรี้ยวกราดเมื่อเจ้าหมาเด็กเอาแต่จ้องหน้าเธอด้วยแววตาไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด ศึกรบยกยิ้มมุมปากแล้วนั่งรอน้ำฟ้าแต่งตัวอยู่ตรงปลายเตียง พี่สาวคนสวยจ้องไอ้หมาเด็กผ่านกระจกโต๊ะแต่งหน้าที่ตอนนี้เธอกำลังยกลิปสติกส์แท่งโปรดลงมาปาดใส่ริมฝีปากอวบอิ่มที่น่ามอง "นายไปทำงานที่ไหนเหรอ มหาลัยหรือร้านกาแฟ" ที่ถามเพราะเธอแค่อยากรู้ จู่ ๆ บอกให้ไปด้วยกันโดยที่ไม่รู้ว่าไปที่ไหนน่ะสิ “คอนโดไอ้อาร์ม ร้านกาแฟคนเยอะวุ่นวาย” ศึกรบเอ่ยบอก สายตายังคงโฟกัสพี่สาวคนสวยที่พยักหน้ารับพร้อมหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดระคนต้นคอ “แล้ว.. ข้าวเราซื้อไปกินที่นั่นเหรอ?” น้ำฟ้าเตรียมไอแพดไปทำงานด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนี้เธอหิวมากกว่าสิ่งใด “พี่อยากกินไร” ศึกรบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง น้ำฟ้าหันมามองหน้าน้องชายตรงหน้าแล้วยกยิ้มมุมปาก “เหมือนเดิมเลย” “ได้” เหมือนเดิมที่ว่าคือให้ศึกรบคิดเองและหาร้านเองเพราะน้ำฟ้าจะหัวตันเวลาถามถึงเมนูอาหาร แต่เธอเป็นคนไม่เรื่องมากและกินได้ทุกเมนู 1 ชั่วโมงผ่านไป ศึกรบขับรถพาน้ำฟ้ามาถึงคอนโดของอาร์ม วันนี้เขาขับรถยนต์คันหรูเพราะดูอากาศแล้วเหมือนฝนจะตก ศึกรบไม่อยากให้พี่สาวคนสวยต้องเปียกฝน “ทุกคนมากันยัง” มาถึงศึกรบก็หิ้วของกินสำหรับน้ำฟ้าและตัวเองมาถือเอาไว้ เขาเปิดประตูให้เธอแล้วต่อสายหาเจ้าของห้องเพื่อเช็คประชากรที่อยู่ภายในห้อง “ (มาครบแล้ว ขาดแค่มึง) ” อาร์มแอบกวนเพื่อนแต่ก็เป็นแค่การแกล้งเล่นไม่ได้คิดจริงจังมากมาย “เอ่อ กูกำลังขึ้นไป” พูดจบเขาก็กดวางสายแล้วจูงมือน้ำฟ้าขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของอาร์มที่ทุกคนมักจะรวมตัวเพื่อมาทำงานกัน มาถึงหน้าห้องก็มีเจ้าของห้องมาเปิดประตูต้อนรับอย่างดี “อ้าว พี่สาวคนสวยก็มาด้วย สวัสดีครับพี่ฟ้า” อาร์มเอ่ยทักทายพี่สาวตรงหน้าอย่างเป็นมิตร เขายกยิ้มแล้วเปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้ามาในห้อง “สวัสดีค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” เธอแอบเกรงใจที่มาวุ่นวายเวลาทำงานของศึกรบกับเพื่อน แต่เด็กคนนี้ลากเธอมาน่ะสิ เขาไม่ยอมให้เธออยู่คนเดียวเลย “ไม่ครับ ๆ ไม่รบกวนเลยห้องผมใหญ่นั่งได้สบายเลยครับ” อาร์มว่าอย่างอารมณ์ดี เขาเดินนำศึกรบและน้ำฟ้าไปยังห้องรับแขกภายในห้องของตัวเอง ห้องอาร์มใหญ่อย่างที่เขาพูด มีห้องนอนสองห้อง ห้องรับแขก โซนครัวและโซนบราที่เอาไว้แฮงเอาท์กัน “ศึกรบ มาแล้วเหรอ” มาถึงห้องรับแขกเรนที่นั่งรวมกันกับเพื่อนเอ่ยถามศึกรบที่พึ่งเดินเข้ามา ใบหน้าสวยใสยกยิ้มอย่างดีใจแต่ทว่ารอยยิ้มกลับค่อย ๆ จางหายเมื่อเห็นว่าศึกรบไม่ได้มาคนเดียว “สวัสดีค่ะพี่ฟ้า” คนที่ยกมือไหว้น้ำฟ้าคนแรกไม่ใช่เรนแต่เป็นอิงโก๊ะเพื่อนร่วมกลุ่มของศึกรบ “ไม่ต้องไหว้ค่ะ กันเองกับพี่ได้เลยค่ะ ตามสบายเลย” น้ำฟ้าสะบัดมือปฏิเสธการไหว้ที่ดูเป็นทางการเกินไป เธอไม่อยากให้น้อง ๆ อึดอัดและคอยกังวลอยู่กับเธอ “ค่ะ พี่นั่งก่อนค่ะพวกเราก็พึ่งมาถึงเอง” อิงโก๊ะยกยิ้มบาง ๆ “พี่ทานข้าวยังครับ พวกเรากำลังจะทานข้าวก่อนเริ่มงานพี่มาทานด้วยกันได้นะครับ” กรณ์ยกถุงอาหารมากมายที่พวกเขาเตรียมตัวนั่งกินกันตรงนั้นเลย “พี่เตรียมมาแล้วค่ะ ทานกันเลยค่ะ” พี่สาวคนสวยยกยิ้มหวานทำเอาเพื่อน ๆ ศึกรบมองมาอย่างชอบใจ ศึกรบกระตุกแขนคนพี่แล้วพาไปนั่งข้างตัวเองก่อนจะวางถุงอาหารลงแล้วมองไอ้กรณ์ ไอ้อาร์ม รวมถึงไอ้ดอมที่มองพี่สาวคนสวยไม่วางสายตา “อย่ารุ่มร่าม พี่กู” ถ้าศึกรบปรามนั้นเท่ากับว่าเขาหวง และสิ่งที่ศึกรบหวงมีไม่กี่อย่าง รถมอเตอร์ไซค์ พื้นที่ส่วนตัว น้ำฟ้า นี้คือสามสิ่งที่ศึกรบแสดงอาการไม่พอใจออกมา ไอ้ดอมยกยิ้ม เฉกเช่นเดียวกันกับกรณ์ที่หัวเราะในคอดัง เหอะ ๆ “วันก่อนมึงยังเรียกพี่เขาว่าป้าข้างบ้านอยู่เลยทีวันนี้ทำเป็นหวง” อาร์มที่พึ่งเดินมาร่วมวงเอ่ยแซว น้ำฟ้าหันไปหาไอ้หมาเด็กที่ริอาจเรียกเธอว่าป้าข้างบ้าน “นายแอบนินทาพี่เหรอศึกรบ” น้ำฟ้าแอบเขม่นใส่น้องชายตรงหน้าแต่ศึกรบไม่ได้ยี่หระ เขาไหวไหล่แล้วหยิบข้าวเนื้อทอดกระเทียมของน้ำฟ้าออกมา น้ำฟ้ากินเผ็ดไม่ค่อยเก่ง ชอบกินกับข้าวแห้ง ๆ มากกว่าน้ำ ถ้าเป็นกับข้าวมีน้ำซุปก็ต้องเป็นพวกน้ำใส ๆ ที่ไม่ใช่กะทิ ยกเว้นต้มยำที่เธอกินน้ำข้นได้ ศึกรบจำรายละเอียดทุกอย่างแม้จะเป็นเรื่องที่เธอแพ้ถั่วก็ตาม “กินข้าวได้แล้ว ไอ้อาร์มมันพูดมากสิบวันก็ฟังไม่จบ” ศึกรบยกความผิดทั้งหมดให้อาร์มไปจนเจ้าตัวแย้งขึ้นมา “กูพูดความจริง” “นิสัยไม่ดี” น้ำฟ้าพึมพำแล้วหันไปยิ้มให้อาร์ม “ขอบคุณที่บอกค่ะ พี่ยกบราวนี่ให้เป็นการขอบคุณค่ะ” “ขอบคุณคร้าบบ” อาร์มรับไปแล้วยกยิ้มอย่างดีใจ น้ำฟ้าแอบหัวเราะกับความเป็นมิตรของอาร์ม เพื่อนศึกรบค่อนข้างกันเองและชวนเธอคุยตลอดแต่จะมีอยู่คนเดียวที่ไม่ได้ทักหรือชวนเธอคุยเหมือนคนอื่น แค่คนเดียว แต่ทว่าน้ำฟ้าไม่ได้คิดมากเพราะเป็นสิทธิ์ของคนคนนั้นว่าพอใจจะคุยหรือไม่คุยกับใคร เธอพยายามไม่รบกวนศึกรบและนั่งทำงานเงียบ ๆ ของเธอไป น้ำฟ้าร่างงานที่ใกล้ถึงเดดไลน์ เธอส่งภาพตัวอย่างไปให้คุณวัฒน์ดูทางไลน์ก่อนจะส่งภาพร่างตัวจริงไปให้เขาวิจารณ์ทางเมล์อีกสามวัน คิ้วสวยผูกกันเป็นโบเมื่อภาพที่คุณวัฒน์ส่งกลับมาเต็มไปด้วยวงกลมสีแดงและโน้ตกำกับว่าเธอต้องแก้ส่วนไหนบ้าง ภาพที่ร่างส่งไปถูกขีดเขียด้วยปากกาแดงจนมองไม่เห็นภาพที่เป็นต้นฉบับเลย เขาส่งมาพร้อมตบท้ายประโยคว่า ‘ตั้งใจทำงานครับ ถึงคุณจะขี้เกียจทำแค่ไหนก็ตาม’ น้ำฟ้าจะบ้า! ไอ้ภาพหน้าจอนั้นเป็นเหตุสังเกตได้ น้ำฟ้ากัดปากตัวเองแล้วยกกล้องขึ้นมาถ่ายอุปกรณ์ทำมาหากินของตัวเองแล้วส่งรูปไปว่าเธอตั้งใจทำงานที่ว่าจริง ๆ Me :: ส่งรูปภาพ Me :: ตั้งใจทำงานทุกชิ้นเสมอค่ะ ไม่กี่วิคุณวัฒน์เปิดอ่านแล้วส่งข้อความกลับมา คุณวัฒน์ :: ก็ดีครับ ทำงานผมให้เสร็จแล้วค่อยเมา เขาเหมือนจงใจขยี้ภาพนั้น น้ำฟ้าเริ่มเคืองในใจ เธอกัดปากแล้วพิมพ์ตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ พิมพ์คุยเธอยังกล้าเถียงอยู่ แต่ต่อหน้าเธอคงไม่กล้าพอ Me :: แน่นอนค่ะ เพราะฉันไม่เคยดื่มเวลางานค่ะ เครื่องดื่มเดียวที่เธอดื่มเวลางานคือกาแฟเข้ม ๆ เท่านั้นแหละ! แต่ทว่าจู่ ๆ หน้าจอก็ขึ้นสายโทรเข้าแบบวิดิโอคอล ซึ่งคนโทรมาก็เป็นคุณวัฒน์ที่น้ำฟ้าพึ่งโต้เถียงผ่านทางข้อความ น้ำฟ้าอึ้ง เธอเลิกลั่กโดยที่ไม่ทันมองว่ามีสายตาของศึกรบมองอยู่ เธอกดลดเสียงแล้วชั่งใจอยู่นานจนยอมกดรับสายปลายสายไปเพราะกลัวจะทำให้คุณเขาโกรธจนยกเลิกงานไป “ (ผมโทรมาพิสูจน์ว่าคุณพูดจริง) ” ประโยคแรกที่พูดคือประโยคที่เขาสานต่อจากข้อความนั้น น้ำฟ้าแทบอ้าปากค้างกลางอากาศ คุณวัฒน์จ้องหน้าเธอผ่านหน้าจอแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างจับผิด เธอแอบมุ่ยหน้าแล้วกดสลับกล้องไปยังพื้นที่ทำงานของเธอที่มีทั้งไอแพด กระดาษร่าง และแก้วกาแฟเข้ม ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ กัน “ฉันตั้งใจทำงานค่ะ คุณไม่ต้องห่วง” เธอไม่พลิกกล้องกลับมาหาตัวเองแต่ส่องจากกล้องหลังแทน ขืนหันกล้องมาตอนนี้คุณวัฒน์ต้องรู้แน่ ๆ ว่าเธออยากกินหัวเขามากแค่ไหน “ (ก็ดีครับ สี่โมงเย็นห้ามเลทแม้แต่นาทีเดียว) ” ผู้ชายคนนี้จะตึงอะไรขนาดนั้นล่ะ ชีวิตเคร่งเครียดมากหรือไงกัน “ค่า~” แต่นิ้วเจ้ากรรมกลับไปกดโดนสลับกล้องมากล้องหน้าตอนที่เธอขานรับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน สองสายตาสบตากันผ่านหน้าจอ น้ำฟ้าชะงัก เธอกัดปากล่างแล้วค่อย ๆ ส่งยิ้มแห้ง ๆ เมื่อเห็นว่าคุณวัฒน์จ้องหน้าเธอด้วยมาดเคร่งขรึม “ (ผมจะรอครับ) ” น้ำฟ้าพยักหน้าแทนการพูดก่อนที่ปลายสายจะกดวางสายไป โล่งใจเป็นบ้า หายใจแทบไม่ออก เธอไม่ชอบความกดดันนี้เลยเพราะโดนจากที่ทำงานมาโดยตลอด คนอะไรหน้าตึง ชีวิตไม่คิดจะลดหย่อนบ้างหรือไง เห็นแล้วเครียดสุด ๆ “คุยกับใคร?” ศึกรบที่ต้องตั้งแต่แรกเริ่มเดินมานั่งข้าง ๆ น้ำฟ้า น้ำฟ้าเลือกที่ทำงานเป็นมุมที่ห่างจากคนอื่น เธอทำงานบนโต๊ะญี่ปุ่นที่อาร์มเตรียมไว้ให้ ข้างหลังเป็นโซฟาที่เธอใช้พิงหลังและตอนนี้ศึกรบก็นั่งพิงโซฟาอยู่ข้าง ๆ เธอ เขาหันใบหน้าไปจ้องหน้าพี่สาวคนสวยเพื่อเค้นหาคำตอบ “ลูกค้าที่บรีฟงาน โดนสั่งแก้บานเลย” เธอพองลมเข้าปากอย่างท้อใจ “แล้วทำไมต้องคอล” ศึกรบกดเข้ารูปโปรไฟล์ของเจ้าของแชทที่น้ำฟ้ายังค้างไว้อยู่ เป็นผู้ชายคนเดียวกันกับที่ยื่นมือถือให้เธอวันที่เขาพาเธอไปเจอลูกค้า “เขาคอลมาพี่ต้องรับ” “แล้วทำไมต้องรับ” ศึกรบมีท่าทีไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ “เขาเป็นลูกค้า หล่อมากด้วย” น้ำฟ้าเห็นศึกรบไม่พอใจเธอยิ่งแหย่ ใบหน้าหล่อบึ้งตึง ต่างจากคุณวัฒน์ที่บึ้งตึงแล้วให้ความรู้สึกน่ากลัวแต่ศึกรบบึ้งตึงเธอกลับรู้สึกว่าเขาน่าแกล้ง “น้ำฟ้า อย่ากวนตีน” ศึกรบรั้งแขนพี่สาวคนสวยเข้ามาใกล้จนเธอถลาเข้าหาอกแกร่ง นัยน์ตาสีเข้มร้อนระอุราวกับกำลังกดความหงุดหงิดเอาไว้ไม่อยู่ “พูดไม่เพราะ” เธอตีปากบึ้งตึงของศึกรบแล้วจ้องหน้าสู้เด็กตรงหน้าที่อารมณ์ติดลบ “บอกว่าอย่ากวนตีน” น้ำเสียงศึกรบเข้มขึ้น เขากำลังไม่พอใจจนน้ำฟ้าต้องเบรกความขี้แกล้งของตัวเองเอาไว้แต่โดยดี Talk ใครอยากอ่านรวดเดียวจบตอนนี้ ebook พร้อมวางจำหน่ายแล้วนะคะ ไปตำกันได้น้า 🥰🥰
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม