CHAPTER 03
ศึกรบมาส่งฉันที่ทำงาน เขาจอดรถหน้าออฟฟิศแล้วเตรียมจะหิ้วทุกอย่างลงไปแทนฉันแต่ฉันวิ่งตัดหน้าเอาไว้ก่อน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จัดการต่อเองนายกลับไปหาเพื่อนได้แล้ว ขอบใจมากน้า”
ฉันแย่งน้ำและอาหารมาถือเอาไว้ ศึกรบดูเหมือนจะไม่ยอมในที่แรกแต่ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปส่งสายตาออดอ้อนให้เขายอม
“นะ ๆ พี่ไม่อยากให้พวกพี่ ๆ ข้างในนั้นด่าว่าพี่แอบไปเที่ยวเวลางาน”
คนข้างในนั้นไม่เคยคิดดีหรอก
ออกจะมีความคิดแย่ ๆ ทุกครั้งไป
“เที่ยวเหี้ยไร”
นี้ไง
คำหยาบมาแล้ว
“ใจเย็นสิ เย็นนี้มารับนะไปก่อนละ”
ฉันรีบชิงเพราะถ้าอยู่นานศึกรบแย่งไปถือแล้วเข้าออฟฟิศแน่
เฮ้อ..
เด็กคนนี้ใจร้อนใช่เล่น
เวลาต่อมา
ถึงเวลาเลิกงานศึกรบมารับฉันตรงต่อเวลา ฉันเดินออกมาราวกับพึ่งรบเสร็จ
ทำงานแทบถวายหัว ทำงานจนเบลอและหมดแรง
“โทษทีที่ช้าพอดีพี่เก็บงานนิดหน่อย”
ฉันยกยิ้มให้เด็กน้อยตรงหน้าแล้วเดินมาถึงรถ เมื่อเห็นว่าพี่ ๆ กลับหมดแล้วจึงหยิบรองเท้าสวมรัดส้นออกมาเปลี่ยนกับรองเท้าส้นสูงที่ใส่ก่อนหน้า
เท้าฉันควรได้พัก เท้าฉันทรงงานหนักมากจริง ๆ
“นายหิวมั้ย? พี่หิวอะตอนเที่ยงยังไม่ทันกินข้าวเลย น้ำหวานก็ละลายหมด”
ฉันเร่งแก้งานให้ลูกค้าจนกินข้าวไม่ทันพอทุกอย่างเสร็จสิ้นท้องมันก็ร้องโครกครากดังมากจนแทบร้องขอชีวิต
“พี่อยากกินไร?”
“หิวข้าวอะ แต่อยากกินฝีมือนายทำให้กินหน่อยนะ.. นะ ๆ”
ฉันยื่นมือไปเขย่าแขนหนาที่มีรอยสักเต็มแขน ศึกรบมองหน้าฉันอย่างหน่ายใจแต่ก็ยอมอ่อนข้อให้กันแต่โดยดี
เขาขับรถพาฉันไปยังบ้านตัวเองที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านฉัน
ศึกรบอยู่คนเดียวเพราะพ่อแม่ต้องบินไปดูงานที่ต่างประเทศบ่อย ๆ วันนี้ในบ้านหลังนี้จึงมีแค่ฉันกับเขาที่อยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยกันสองคน
“พี่อยากกินไร”
“แล้วแต่น้องศึกรบจะบัญชาเลยค่ะ”
ฉันยิ้มแป้นอยู่ในครัวกับศึกรบ เขาดีดหน้าผากฉันเหมือนกำลังรำคาญคนไร้ประโยชน์อย่างฉัน
ฉันยู่ปากแล้วลูบหน้าผากตัวเองต้อย ๆ ศึกรบเดินไปหยิบของสดในตู้เย็นออกมา เขาจัดเรียงเป็นระเบียบแล้วหันมาหาฉันที่เดินตามหลังเขาต้อย ๆ
“ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อก่อน”
เขาหันมาบอกกัน ฉันพยักหน้าแล้วเดินตามเขาออกไป
“ตามทำไม จะตามไปดูผมเปลี่ยนเสื้อหรือไง?”
ฉันหัวเราะ คิ้วสองข้างเลิกขึ้นแล้วส่งสายตากรุ้มกริ่มออกไปในตอนที่เราสบตากัน
“เอาสิ นายกล้าเปลี่ยนเสื้อให้พี่ดูซิคแพคหรือเปล่าล่ะ? ฮี่ ๆ”
ฉันสนุกกับการได้แกล้งศึกรบเพราะการแกล้งเขาเป็นงานหลักของฉัน
แต่ใครจะคิดว่่าเด็กบ้าตรงหน้าจะดึงฉันเดินเข้าไปในห้องตัวเอง
“นั่งดูสิ ผมจะแก้ผ้าให้ดู”
แก้มฉันร้อนผ่าว
ศึกรบลากฉันเข้ามาในห้องเขาแล้วดันให้ฉันลงไปนั่งปลายเตียงนอนของตัวเอง
แต่เพราะกลัวเสียหน้ามากฉันเลยนั่งกอดอกแล้วทำทรงไม่แคร์ ต่อให้เธอแก้ผ้าฉันก็ไม่เขินอายไอ้ต้าวเด็กอย่างเธอหรอก
“เอาสิ พี่เห็นนายแก้ผ้าตั้งแต่เด็กแล้ว แค่นี้ชิลล์มาก”
เราสบตากันท่ามกลางความเงียบสงัด
ศึกรบขยับนิ้วลงไปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของเขาออกทีละเม็ดด้วยจังหวะปกติไม่ได้รวดเร็วหรือเชื่องช้าแต่ฉันกลับลุ้นระทึกกับทุกเม็ดที่หลุดออกไปจวบจนมาถึงเม็ดสุดท้ายเขาก็ถอดเสื้อออกไป
เห็นมาตั้งแต่เด็กก็จริง แต่ตอนเด็กหุ่นศึกรบไม่ได้แซ่บแบบนี้ หน้าอกไม่มีรอยสัก ท่อนแขนไม่ได้แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยรอยสักที่กร้าวใจเหมือนตอนนี้
“อื้ม~ ได้ดูนายถอดเสื้อแล้วนึกถึงตอนเราเด็ก ๆ ตอนที่เรากำลังจะเล่นน้ำด้วยกันอะ นึกย้อนไปแล้วตลกจัง”
หน้าฉันร้อนผ่าวฉันเลยขุดเรื่องสมัยก่อนมาพูดเอาไว้เพื่อดึงสตอรี่ที่ทำให้ภาพตรงหน้าดูเบบี้ไปด้วย
“เหรอ?”
แต่เด็กตรงหน้าไม่ได้ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด ศึกรบปลดตะขอกางเกงออก
ฉันอยากหันหน้าหนีแต่กลัวเสียเชิงเลยนิ่งไว้
เขารั้งกางเกงลงไป ลมหายใจฉันแทบหมดปอดในตอนที่กางเกงในทรงสปอร์ตโผล่ออกมาแค่ขอบที่ชวนเซ็กซี่เป็นบ้า
ฉันลุกพรวดเตรียมจะจบทุกอย่างเพียงแค่นี้
“พี่ไปรอข้างนอกดีกว่า นายจะได้ไม่เขินด้วยถึงนายจะยังเป็นเด็กแต่นายก็น่าจะเขินเพราะพี่โตกว่า”
ทุกอย่างควรจบแต่เด็กคนนี้กลับไม่ยอมจบน่ะสิ
“อ๊ะ..”
ฉันที่เดินไปถึงประตูแล้วเปิดประตูออกแล้วด้วยแต่กลับถูกรั้งเอวให้ถอยกลับไปแล้วประตูห้องก็ถูกปิดลงพร้อมฉันที่ถูกจับให้หันไปสบตากับศึกรบก่อนที่เขาจะดันฉันชิดประตูแล้วกักขังฉันด้วยแขนแกร่งทั้งสองข้าง
“ผมไม่ได้เด็กอย่างที่พี่พูด ผมโตแล้ว”
เสียงแหบพร่ากระซิบบอก แววตาที่เคยเรียบนิ่งดูเร่าร้อนจนหัวใจฉันเต้นแรง
“ตะ โตที่ไหนกันแค่ยี่สิบสองนายยังเบบี้”
“แก่กว่าห้าปีอย่าพยายามโต”
มันว่าฉัน ฉันยู่ปากแล้วทุบอกแกร่งของคนตรงหน้าไป
“เด็กกว่าห้าปีอย่าทำตัวแก่ดิ”
ว่าจบก็เชิ่ดหน้า ศึกรบดันลิ้นเล่นกับกระพุ้งแก้ม เขาลากสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ววางนิ้วมือลงมาบนกระดุมเสื้อทำงานที่ฉันใส่อยู่
“พี่ดิ อย่าทำตัวเป็นแม่ป้าดิ”
“นี่! ไอ้เด็กบ้า ไอ้ลูกหมา!”
ปากดี ปากร้าย ทำไมกับคนอื่นเขาไม่เห็นว่างี้เลย
“ผมได้ยินว่าพี่อยากเล่นน้ำ ได้นะ ผมพาไปเล่นน้ำระลึกความหลังวัยเด็กได้”
“ไม่.. ไม่เอา!”
ศึกรบรวบเอาฉันเข้ามาใกล้ก่อนจะอุ้มพาดบ่าแล้วเดินตรงไปยังสวนหลังบ้านของตัวเองที่มีสระว่ายน้ำอยู่
“กลัวไร แก่แล้วอย่าป๊อดดิ”
“กรี๊ดด ไอ้ลูกหมาหยุดนะ”
ฉันดีดดิ้น ตะกุยตะกายทุบหลังแกร่งแต่กลับถูกเขาตีก้นราวกับฉันเป็นเด็ก ฉันงุ่นง่าน หงุดหงิด โมโห และก่อนที่ศึกรบจะกระโดดลงน้ำฉันก็กัดซอกคอเขาแรง ๆ เพื่อเอาคืนที่โดนหมอนี้ตีก้นไป!
ซ่า~
ศึกรบกระโดดลงน้ำพร้อมฉันที่เขาอุ้มอยู่
“อ๊า~”
ฉันกอดเขาไว้แน่น เราโผล่ขึ้นมาจากน้ำพร้อมกัน
และภาพแรกที่ฉันเห็นคือใบหน้าเจ้าเล่ห์ของศึกรบในตอนที่มองหน้ากันในสภาพที่ฉันเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลย
“ไอ้เด็กบ้า! นายนี้มัน!”
ศึกรบบิดยิ้ม เขาดันฉันชิดขอบสระแล้วกักขังฉันไว้ตรงกลางด้วยแขนทั้งสองข้างของตัวเอง
“พี่กัดคอผม ผมไม่ยอม”
เด็กดื้อรั้นจ้องอย่างถือดี ฉันลากสายตามองซอกคอเขาที่มีซี่ฟันฉันฝังเขี้ยวอยู่หลายจุด
“ก็นายชอบแกล้งฉัน นายหาเรื่องฉันก่อนอะ!”
ฉันทุบอกแกร่ง ยิ่งผลักออกศึกรบยิ่งขยับเข้ามา
“ผมไม่ยอม ผมจะเอาคืน”
แววตาเขาแน่วแน่และจริงจัง
ฉันขมวดคิ้ว
“ก็นายแกล้งฉัน”
“ผมไม่ยอม”
นั้นคือวลีเด็ดที่ติดอยู่ที่ปาก
“ถ้ายอมให้เอาคืนจะยอมปล่อยใช่มั้ย?”
สายตาศึกรบนิ่งสงบ เขาจับจ้องไปยังซอกคอแล้วลากต่ำลงมาถึงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่บางแนบเนื้อ
“อื้ม”
นั้นคือคำตอบในตอนที่เราสบตากัน
“ก็ได้ เอาคืนพี่เลย”
ฉันหน้าบึ้งในขณะที่อีกฝ่ายบิดยิ้มร้าย
ศึกรบจ้องซอกคอฉัน เขาขยับเข้ามาใกล้จนปลายจมูกพ่นลมหายใจร้อนจัดรดต้นคอฉันด้วย
“อะ อื้อ~”
ปลายจมูกคลอเคลียเข้ามาใกล้ ริมฝีปากศึกรบแตะลงมาตรงซอกคอจนฉันเกร็งแล้วขยุ้มนิ้วลงไปบนอกเขา
ฉันเบือนหน้าไปด้านข้างเมื่อริมฝีปากร้อนของเขาซุกไซร้ลงมา บดเคล้าและดูดซับอย่างแผ่วเบา
“เมื่อไหร่จะกัดอ่า..”
ฉันถามเสียงแผ่ว เขาเอาแต่คลอเคลียและดูดดุนแต่ยังไม่ยอมกัดลงมาสักทีน่ะสิ
“อีกแป๊บ..”
“อะ อื้อ~”
ฉันกัดปากตัวเองเบา ๆ ในตอนที่ริมฝีปากร้อนดูดดุนเนื้ออ่อนตรงซอกคอแล้วซี่ฟันค่อย ๆ ฟังลงไปอย่างบางเบา อ้อยอิ่งแต่กลับขยับไปงับทุกพื้นที่ที่ว่างอยู่
มือหนาขยับขึ้นมาจากเอวคอด ไล่สูงขึ้นถึงกระดุมเสื้อแล้วค่อย ๆ ปลดออกไปอย่างช้า ๆ
“นี่.. ถอดเสื้อพี่ทำไม”
“ผมโป๊อยู่พี่ก็ควรโป๊ด้วยมันจะได้แฟร์”
เด็กคนนี้ จงใจแกล้งกันชัด ๆ!
Talk
วิธีที่นางแกล้งนั้น...
🌚🌝 รู้กัน 😆😆
ครบ 20 เม้นมาอัปน้า