เหตุผล
แชะ! แชะ! แชะ! แชะ!
เสียงชัตเตอร์ดังมาจากทิศทางใดทิศทางหนึ่ง มันเป็นเรื่องปกติของนารา สาวสวยวัยยี่สิบสองปี นางแบบชื่อดังและดาวมหาลัยแสนสวยของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ เธอชินแล้วที่ใครจะแอบถ่ายรูปเธอ เธอกำลังจะเดินข้ามถนนเพื่อไปขึ้นรถตัวเองที่จอดอยู่อีกฟากของอาคารเรียน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาลงถนน เบนซ์สปอร์ตสีขาวคันหรูก็ขับผ่านเธอไปอย่างเร็วจนเธอเสียหลักล้มลงบนถนน รถคันนั้นจอดแล้วมีคนใส่สูทสีดำเดินลงมาจากรถ ความสูงของเขาคงจะเป็นดาราได้สบายๆ
"โอ๊ยยยยเจ็บ ดีนะไม่ถลอกตรงไหน ไม่งั้นอดงานโฆษณาตัวใหม่แน่เลย"
"เจ็บตรงไหนมั้ยครับน้อง"
"เจ็บสิถามได้ ลองมาล้มดูมั้ยล่ะ"
"เอ้าผมก็ถามคุณดีๆ แล้วไง ถ้าเจ็บผมจะได้พาไปหาหมอ เร็วๆ คุณผมไม่ได้ว่างทั้งวันนะ"
นาราอ้าปากค้าง คุณหนูที่ทั้งชีวิตมีแต่คนรอและประคบประหงม กลับมาถูกใครก็ไม่รู้มาเร่งและพูดจาไม่น่ารักใส่ เธอเริ่มจะวีนอีกแล้วสิ
"นี่คุณ คนเจ็บจะลุกยังไง นี่ถ้าฉันใส่กระโปรงสั้นขาฉันไม่แหกหมดแล้วหรอ รู้มั้ยถ้าฉันมีแผลบนตัว ฉันจะเสียรายได้เท่าไหร่"
"ปีละกี่สิบล้านล่ะ รายได้ของคุณอ่ะ ผมจะได้จ่ายถูก"
"อีตาบ้า หลบไปเลย ฉันลุกเองได้ย่ะ" เหอะเรื่องอะไรคนอย่างนาราทิพย์จะงอนง้อคนอย่างเขาถึงแม้จะหล่อกว่านายแบบก็เหอะ
เธอพยายามลุกขึ้นแต่ว่าข้อเท้าที่เจ็บมันไม่ยอมสามัคคีกับเธอเอาซะเลย ดีที่คนตัวโตกว่ายอมคว้าตัวเธอไว้ไม่งั้นคงลงไปกองอีกรอบ
"จะกลับยังไง"
"ขับรถกลับ รถจอดตรงนั้น"
มือเรียวเล็กชี้ไปตรงรถบีเอ็มดับเบิลยูสีดำที่จอดอยู่
"ลูกคนรวยสินะ" เบิ้มคิดในใจก่อนจะบอกเธอ
"ไปรถผม เดี๋ยวไปส่ง"
"ไม่ไป คุณเป็นใครก็ไม่รู้"
"ผมเป็นอาจารย์พิเศษมาสอนครูพละ โอเคมั้ย จะไปได้ยัง? ถ้าไม่ไปก็ขับกลับเองแล้วกัน"
"แต่รถฉันจะจอดที่นี่ไม่ได้"
"เรื่องมาก"
เบิ้มยกมือถือต่อสายหาเลขาตัวเองทันทีต่อหน้าเธอ
"ไอ้รุทมาที่มหาลัย....ตอนนี้กูอยู่หน้าตึกนิเทศ มาสองคนซิ่งมาเลยกูรีบ มีประชุมบ่ายเร็วๆ เข้า"
เสียงคนปลายสายลอดออกมาว่า "ครับนาย" คนตัวเล็กกว่ามองหน้าอย่างพิจารณา เธอเคยเจอที่ไหนมาก่อนแน่ๆ
"นายชื่ออะไร"
"ก็บอกอยู่ว่าเป็นอาจารย์พิเศษ ทำไมไม่เรียกผมให้ดีๆ ล่ะครับ"
"ไม่บอกก็ไม่บอกสิเชอะ โอ๊ยยยยเจ็บ"
เธอมัวแต่ดูตรงข้อเท้าที่เจ็บมากกว่าฝ่ามือที่มีเศษแก้วเล็กๆ ปักคาอยู่ เบิ้มเห็นแบบนั้นจึงอุ้มเธอมานั่งม้านั่งแถวนั้นก่อนจะวางลงอย่างเบามือ
"นั่งรอตรงนี้แปปเดียวและห้ามเอาแก้วออก ผมจะทำให้เอง"
นารานั่งงงแบบว่าในหัวมีแต่คำว่า " อะไรของเขา" ดุเก่งและเทคแคร์เก่งมากเพียงครู่เดียวเขาก็กลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบมือ
เขาเปิดกล่องออกและเริ่มลงมือทำแผลให้เธอทันที เขาเชี่ยวชาญขนาดว่าบอกว่าเป็นหมอเธอก็จะเชื่ออย่างสนิทใจ มือเบาต่างจากปากที่พูดทีนี่คนฟังแทบอยากตะบันหน้า
"อ่ะ เสร็จแล้วล่ะ ถ้าไปไหวเย็นนี้ให้ใครสักคนพาไปหาหมอที่ รพ.....นะ ผมมีคนสนิทที่นั่น ไปหาหมอที่ห้องฉุกเฉินแล้วยื่นกระดาษใบนี้ให้เขา เขาจะดูแลคุณต่อเอง แล้วนี่นามบัตรผม ถ้ามีอาการอะไรไม่ดีขึ้นค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ผมจะจ่ายเอง"
“ฉันมีปัญญาจ่ายให้โรงพยาบาลเอกชนดังๆ หรอกย่ะ ทำไมต้องไปที่นั่นรอคิวนานๆ ด้วย"
"ถ้าคุณฟังที่ผมพูดอย่างตั้งใจ คุณจะรู้ว่า คุณไม่ต้องรอคิวใดๆ เลย แต่ก็แล้วแต่นะครับ ผมไม่สนใจอยู่แล้ว"
เสียงบิ๊กไบค์ดังกระหึ่มมาจอดตรงหน้าเธอ ผู้ชายหุ่นสมาร์ทสองคนลงมาจากรถและคำนับคนตัวโตตรงหน้าเธอ
"มาแล้วครับนาย"
"อื้อดี ขับรถคุณหนูคนนี้ไปส่งเธอให้ถึงที่ และให้ไอ้อัทรอรับกลับมาด้วย พาไปส่งให้ปลอดภัยที่สุดแล้วรายงานกูด้วย"
"ครับนาย แต่ว่าผมมีเรื่องรายงานครับ"
"อื้อว่ามาสิ"
เขาพูดและรอฟังแต่มือก็เก็บอุปกรณ์ทำแผลไปด้วย
"เฮียบิ๊กจะเลื่อนประชุมให้เร็วขึ้นอีกชั่วโมงครับ เพราะจะบินไปญี่ปุ่นเย็นนี้เลย"
"โอเคเดี๋ยวกูไป จัดการตรงนี้ให้เรียบร้อยนะกูไปล่ะ" เบิ้มบอกกับลูกน้องและหันไปตอบกับอีกคนที่นั่งหน้างออยู่
"ไม่ต้องกังวลนะครับ ปลอดภัยแน่นอน และหวังว่าจะไม่ตัดหน้ารถใครเขาอีก"
"ห่ะ อะไรนะ ใครตัดหน้ารถใครกันแน่อีตาคนนี้นี่"
"เชิญคุณหนูเถอะครับ ขอกุญแจรถด้วยครับ"
เธอยื่นให้ในทันที ที่จริงแค่เธอโทรเรียกคนที่บ้านก็มาแล้ว แต่อยากรู้อีตานี่จะยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน
"ไปคอนโด.....ค่ะ"
เขายังไม่ยอมออกรถไปไหน จนกระทั่งลูกน้องเขาออกรถพาคนสวยออกไป สวยอยู่หรอกแต่ปากจัดตามแบบฉบับคุณหนูซะจริงๆ น่ากลัวเขาไม่มีทางเอาผู้หญิงแบบนี้มาทำแฟนเด็ดขาด คงหาเงินให้ใช้แทบไม่ทันแน่ๆ
เขาขับรถตามออกมาจนพ้นมหาวิทยาลัยแล้วเปลี่ยนเส้นทาง นารามองตามไปจนลับตา
"พี่คะ ช่วยพาไปโรงพยาบาลนี้ทีได้มั้ยคะ"
เธอเอ่ยปากบอกคนขับรถจำเป็นของเธอในทันที เธออยากไปหาหมอเพราะรู้สึกปวดหัวขึ้นมานิดหน่อย
เมื่อเธอถึงโรงพยาบาล เธอมีคนขับรถพยุงลงไป และมีหมอกับพยาบาลเดินออกมารับสองคนเป็นผู้หญิงทั้งคู่
"ใช่คนที่เบิ้มฝากให้ดูแลรึเปล่าอัท" หมอกรีนถามขึ้นมาทันที
"ใช่ครับซ้อรอง"
"อัทไปทำงานเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปส่งน้องเขาเองจะลงเวรแล้ว"
"พี่กรีนคะ มายมิ้นท์ว่าพาน้องเข้าไปก่อนเถอะค่ะ หน้าซีดๆ "
เวรเปลเอารถเข็นมารับเธอเข้าไป นารางงคนพวกนี้มันอะไรกันอ่ะ ทำไมทำอะไรตามใจตัวเองไปหมด สาวสวยสองคนนี่อีก คนหนึ่งหมอคนหนึ่งพยาบาล ทุกอย่างมันดูลงตัวเกินไปป่ะ
"งั้นผมไปนะครับซ้อใหญ่ซ้อรอง"
อัทก้มหัวลงคำนับแล้วจากไป นารางงไปกันใหญ่ ซ้อใหญ่ ซ้อรองงั้นหรอ งั้นแสดงว่าคนที่ให้เธอมาคือน้องเล็กสินะ ชักจะน่าสนใจแล้วสิ เธออยากเป็นซ้อเล็กบ้านนี้แล้วสินะ
พอเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ทุกคนเหมือนรอเธออยู่แล้วเหมือนที่เขาบอก ต่างจากที่เธอเคยได้ยินมาลิบลับ ทุกคนยิ้มแย้มให้เธอจนรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเหมือนคนในครอบครัว
"ไหนพี่ขอดูมือกับข้อเท้าน้องนาราหน่อยนะคะ"
"รู้จักชื่อหนูได้ไงคะ ยังไม่ได้บอกเลยสักคำ"
"แหมหนูเป็นนางแบบชื่อดังนี่คะ ใครก็ต้องรู้สิ"
"อ่อค่ะ หนูรู้สึกปวดหัวด้วยค่ะคุณหมอ"
"ใครอยู่ใกล้เบิ้มก็ปวดหัวทั้งนั้นแหละค่ะ ห่ามขนาดนั้นไม่คิดว่าจะห่วงคนอื่นเป็น"
"อะไรนะคะ นี่เป็นห่วงหรอคะ"
"อย่างน้อยน้องนาราก็เป็นคนแรกที่ลงทุนเอ่ยปากให้พี่สะใภ้แบบเราช่วยนั่นแหละค่ะ"
ทุกคนอมยิ้มแบบรู้กัน ไม่นานคงเข้ามาอยู่ในบ้านนี้สินะ
ยินดีต้อนรับสู่ ยามากูชิกรุ๊ปนะคะ