บทนำ
เสียงอึกทึกจังหวะเร้าอารมณ์ชวนสนุกสนานดังกลบเสียงพูดคุยจนต้องขยับเข้าใกล้เพื่อเอ่ยชิดติดหู ทว่าคนถูกกระซิบกลับขมวดคิ้วมุ่น นึกหงุดหงิดที่คนข้างตัวเข้ามาเบียดตนมากจนเกินเหตุ
“เป็นไงครับคุณพี่ ชอบไหมครับ”
คนถูกถามยิ้มบางราวไม่ยินดียินร้าย หากสายตาก็กวาดมองไปทั่วด้วยความสนใจ มือบางยกแก้วพั้นช์ในมือจิบเป็นระยะ หลายคนโชว์สเต็ปเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม ถูกใจก็ดื่มด้วยกันแล้วไปต่อ ไม่ถูกใจก็มองหาคนใหม่
“คุณพี่อยากดูอะไรอีกไหมครับ มีอีกหลายแบบครับ ที่เงียบกว่านี้ก็มี หรือจะเป็นแบบโจ๋งครึ่มกว่านี้?”
อีกฝ่ายขยับเข้ามากระซิบถามอีกครั้ง
เธอส่ายหน้า ยังไม่แน่ใจว่าตนเองอยากเห็นแบบไหนอีก ในนี้เหมาะกับคนชอบเสียงดัง ชอบเต้นชอบเด่น ชอบความครึกครื้น แต่สำหรับเธอแล้วมันออกจะวุ่นวายชวนปวดหัวไปหน่อย หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ
“ฉันกลับดีกว่า”
“อ้าว จะกลับแล้วเหรอครับ มายังไม่ถึงชั่วโมงเลย หรือจะไปดูที่อื่นก็ได้นะครับ ผมพาไป”
หญิงสาวเรียกบริกรเพื่อคิดเงินในขณะที่อีกฝ่ายเหมือนอยากอยู่ต่อ
“ยังไม่รู้เลยว่าอยากดูแบบไหนเพิ่มหรือเปล่า ขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน ถ้าจะไปจะติดต่อไปอีกทีแล้วกันนะจ๊ะ ส่วนเธออยากอยู่ต่อก็ได้”
พร้อมคำพูดก็เปิดกระเป๋าเงิน หยิบแบงค์สีเทาออกมาสองใบวางให้ชายหนุ่มตรงหน้า เมื่อบริกรมาเธอก็จ่ายเงินที่ทั้งสองคนดื่มไปก่อนจะลุกขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายดูค่อนข้างเหวอ
“ขอบใจนะจ๊ะ วันนี้คงไม่รบกวนเธอแล้ว สวัสดี”
หญิงสาวบอกพร้อมยิ้มบางก่อนจะพยายามเดินหลบเลี่ยงผู้คนออกไปข้างนอก
คนถูกทิ้งทุบโต๊ะแล้วคว้าแบงค์สองใบใส่กระเป๋า
เจ้าของเรือนร่างงดงามในชุดรัดรูปสีดำสั้นเผยสัดส่วนชวนมองตาม แม้จะเป็นแขนยาวทว่าทรวดทรงองค์เอวกับขาเรียวงามที่มีถุงน่องดำปกคลุมก็ชวนให้สายตาผู้ชายแทบทุกคู่ต้องหันจนเหลียวหลัง หากเจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจสิ่งใดนอกจากประตูทางออก กระทั่งพ้นมาได้ก็ถอนหายใจ รู้สึกโล่งทั้งจากเสียงดังและความแออัด แล้วก็รีบไปยังรถของตนทันที
ขณะที่กำลังจะเปิดประตูรถใครคนหนึ่งก็ก้าวพรวดเข้ามาจับแขนเธอ หญิงสาวสะดุ้งตกใจขณะที่อีกฝ่ายพูดขึ้น
“เดี๋ยวสิครับคุณพี่”
“มีอะไรอีกเหรอ”
เธอมองคนที่ยังจับแขนของตนอย่างไม่ไว้ใจนัก พยายามส่งสายตาให้อีกฝ่ายปล่อย แต่เขาทำเฉยไม่สนใจ
“ทำไมรีบกลับเสียล่ะครับ”
“ฉันหมดธุระแล้ว”
“อะไรกัน ยังไม่สนุกกันเลย”
เสียงเข้มนั้นดูระรื่น สายตาก็วาววามขึ้น กวาดมองเธอทั้งตัวทำให้คนถูกมองขมวดคิ้วแปลกใจ
“อยากสนุกเธอก็อยู่ต่อสิ”
เธอพูดพร้อมกับพยายามดึงมือออก
“ผมหมายถึง...สนุกกับคุณพี่”
“อะไรของเธอ...”
อีกฝ่ายดึงเธอเข้าหาอ้อมอกของเขา มือบางพยายามผลักคนที่ตัวหนากว่าตนเองเต็มแรง
“อย่าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจหน่อยเลยคุณพี่ สาวอารมณ์เปลี่ยวอย่างคุณพี่ มันก็รู้ๆ กันอยู่ว่างจ้างผมมาทำไม ไม่ถูกใจตรงไหนก็บอกกันได้นี่ครับ ผมจัดให้ได้ ถึงใจแน่นอน”
อีกฝ่ายพูดพร้อมกับพยายามจะซุกหน้าลงมาที่คอและแก้มของเธอ แต่หญิงสาวก็พยายามดันมือเอาไว้
“เราคุยกันเข้าใจแล้วนี่ แล้วเธอก็...อย่านะ!”
พูดยังไม่ทันจบก็ต้องตวาดลั่นเพราะชายหนุ่มดึงประตูรถเปิดแล้วพยายามดันเธอเข้าไปข้างใน ทว่าเจ้าของร่างงามยังฝืนเอาไว้ มือหนาของอีกฝ่ายลูบสะโพกกับขาเธอไม่หยุด
“อย่ามาแตะตัวฉัน เงินฉันก็จ่ายแล้ว ออกไปสิ”
“จ่ายแล้วก็รับบริการด้วยสิครับ ผมอยากบริการคุณพี่ใจจะขาด”
“จะบ้าเหรอ อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันจ่ายแค่ให้เธอพามาเที่ยว”
“หุ่นเด็ดน่าโดนขนาดนี้ปล่อยไปก็โง่สิ”
ชายหนุ่มเสียงเข้มขึ้นดันเธอให้ล้มไปตามความยาวของเบาะรถด้านหลังจนได้
“อย่าเข้ามานะ ออกไป”
คนที่เสียเปรียบพยายามยกเท้ายันอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ ไม่สนใจกระโปรงสั้นรัดรึงที่เปิดขึ้นสูงของตน เพราะมีกางเกงแนบเนื้อขาสั้นด้านใน
“เฮ้ย...อะไรวะ”
อยู่ๆ อีกฝ่ายก็โวยวายขึ้นแล้วหันหลังกลับไปก่อนจะได้ยินเสียงดัง
พลั่ก!!
“โอ๊ย!”
ร่างสูงเซไปกระแทกด้านท้ายรถทำเอาคนในรถที่มองอยู่สะดุ้ง แล้วก็เห็นร่างสูงกำยำของใครคนหนึ่งด้านนอก เธอพยายามเขม้นมองทว่าตรงนี้ค่อนข้างมืด แสงไฟสลัวรางอยู่ไกลๆ ทำให้เห็นไม่ชัดนัก
“มึงเป็นใครวะ เสือกต่อยกู”
คนถูกต่อยถลาเข้าไปหาคนที่ทำร้ายตนเองเพื่อเอาคืนได้หนึ่งหมัด ก่อนจะถูกอีกฝ่ายยันด้วยเท้าใส่กระเด็นกลับมากระแทกประตูรถจนปิดลง
“มึงจะเอาอีกเหรอ ห๊ะ!”
เสียงเข้มดูคุ้นหูจนคนที่ตั้งตัวนั่งในรถได้ต้องขมวดคิ้ว หากอีกใจหนึ่งก็กังวลอยู่เหมือนกัน เพราะกลัวจะหนีเสือปะจระเข้ สถานที่แบบนี้เธอไม่ควรอยู่นาน
“ไอ้ห่า มึงมายุ่งอะไรเรื่องของกู”
คนโดนทั้งถีบทั้งต่อยยังไม่ยอมจบ คนมาใหม่ก็ยกหมัดหราเตรียมซัดพร้อมบอก
“ผู้หญิงเขาไม่เอามึง ไปให้พ้น”
“อย่าเสือกเรื่องของกู”
คนเจ็บตัวยังพุ่งเข้าหาอีกฝ่าย แล้วก็โดนทั้งมือทั้งเท้าตามมา
“มึงไม่จบใช่ไหม ได้เลย”
หญิงสาวในรถหลับตายกมือปิดหน้าทันทีหลังคำพูดนั้นแล้วก็ได้ยินเสียงประเคนทั้งมือเท้าไม่หยุด เธอไม่รู้ว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบแต่เป็นเสียงที่น่ากลัวจนต้องสะดุ้งทุกครั้ง
“พอ พอแล้ว กูไม่เอาแล้ว”
“ไป ไปให้พ้น ไอ้เวรเอ๊ย!”
เสียงด้านนอกเงียบไปแล้ว คนในรถยังตัวสั่นใจสั่นอยู่เลย พอได้ยินเสียงเคาะกระจกรถก็สะดุ้งซ้ำอีก
“คุณวุ้นครับ”
เสียงเรียกในตอนนี้ทำให้เธอจำได้แล้วว่าเป็นใคร ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นพร้อมมือที่ลดลงแล้วหันมองคนด้านนอก เธอเห็นหน้าเขายังไม่ชัดทว่าก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอีกฝ่าย
“ซัน”
“ครับผมเอง”
พนิดาเปิดประตูทันที อยากขยับลงไปแต่เธอตัวสั่น เหงื่อซึมเต็มไปหมด ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรต่อ จึงได้แต่เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงกำยำด้วยแววตาหวาดหวั่น ทว่าเธอไม่เห็นสายตาของคนที่หันหลังให้แสงไฟ
ครู่หนึ่งชายหนุ่มจึงโน้มตัวลงเคลื่อนกายมาใกล้
“ไม่มีอะไรแล้ว ขับรถไหวไหมครับ”
หญิงสาวส่ายหน้า เธอไม่มั่นใจในตัวเอง ตอนนี้ยังมือสั่นใจสั่นอยู่เลย
“งั้นผมนั่งเป็นเพื่อนคุณสักครู่ ดีขึ้นค่อยกลับ”
ชายหนุ่มขยับตัวจะก้าวเข้ามา หากเธอก็เอ่ยขึ้น
“แต่ฉันต้องรีบกลับบ้านแล้ว บอกคุณพ่อว่าจะกลับไม่เกินห้าทุ่ม”
คนได้ยินชะงักและมองเธอ แต่พนิดาก็ไม่เห็นแววตาของเขาอยู่ดี ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจ
“เอางี้ ผมขับไปส่งคุณ”
หญิงสาวลำบากใจ แต่บ้านก็ต้องรีบกลับเกรงบิดามารดาจะเป็นห่วง
“เธอมาเที่ยวนี่ ฉันเกรงใจ”
“ทำไงได้ เท่าที่ดูคุณก็ยังไม่โอเคจริงๆ”
“แต่ฉัน...”
“ขอกุญแจรถครับ”
ภาสกรสวนขึ้น เธอจึงเพิ่งนึกได้ว่าทั้งกุญแจและกระเป๋าหล่นอยู่นอกรถตั้งแต่ถูกจู่โจม
“หล่นอยู่ข้างนอกน่ะ”
เพียงเท่านั้นชายหนุ่มก็กลับออกไป ใช้เวลาหาไม่นาน เขาก็เปิดประตูด้านคนขับแล้วเข้ามานั่ง วางกระเป๋าของเธอที่เบาะหน้าขณะหันมาถาม
“บ้านคุณอยู่ไหน”
“ไม่ต้องก็ได้ซัน”
“อยู่ไหนครับ”
เธอจำต้องบอกไป แล้วอีกฝ่ายก็โทรคุยกับเพื่อนบอกว่าไปทำธุระเดี๋ยวกลับมาต่อ นั่นยิ่งทำให้พนิดาหน้าเสียด้วยความเกรงใจ สุดท้ายก็ทำได้เพียงลงไปขึ้นนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ
======