ถูกแอบถ่าย(2/2)

925 คำ
"เหี้ยเอ้ย" บุญยวีร์รีบออกแรงดูดจนแก้มตอบส่วนอีกมือก็เคล้นหน้าอกตัวเองไปด้วยเพราะเสียวไปหมดทั้งบนทั้งล่าง หน้าท้องแกร่งกระเพื่อมขึ้นลงหดเกร็งจนถึงขีดสุด ใบหน้าหล่อเข้มเงยหน้าขึ้นเปล่งเสียงครางอย่างสุขสม เมื่อถึงขีดสุดของอารมณ์ น้ำขุ่นข้นพุ่งเข้าเต็มปากเด็กเลี้ยงคนสวยจนสำลัก ผู้ใหญ่อิฐบังคับให้เธอกลืนมันลงไปทุกหยาดหยด “มึงชอบไม่ใช่เหรอ กลืนลงไป” “อื้อ อ่อก อ่อก” พลันหางตาของผู้ใหญ่อิฐก็มองเห็นเหมือนมีคนกำลังเอาโทรศัพท์ลงแล้ววิ่งออกไปจากสำนักงาน ตรงข้างประตูห้องทำงานของเขา มีช่องของมู่ลี่ที่ปิดไม่สนิท แสดงว่า… กิจกรรมเสียวเมื่อครู่คงมีคนเห็นแล้ว เขาไม่ยี่หระเลยสักนิด เพียงแต่สงสัยว่าเมื่อครู่ตัวเองน่าจะถูกแอบถ่าย พอคิดได้แบบนั้น ผู้ใหญ่อิฐก็รีบผลักหัวคนด้านล่างออกแล้วดึงกางเกงขึ้นทันทีเพราะอยากรู้ว่าใครกันที่กล้าขนาดนี้ ไม่รอช้าให้มือดีลอยนวล เขารีบสาวเท้าออกจากห้องทำงาน แต่...ก็ไม่มีเงาของใครเลย ด้านนอกมีเพียงโต๊ะพนักงานฝ่ายต่าง ๆ ที่เลิกงานกลับบ้านกันนานแล้ว ที่นี่มีกล้องวงจรปิด! แต่… มันเสียมาหลายวันแล้ว ให้มันได้อย่างนี้สิ ผู้ใหญ่อิฐเหลือบตามองไปที่ประตูสำนักงานด้วยความอยากรู้ว่าด้านนอกมีใครอยู่บ้าง รีบก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปทันที ที่นี่เขาคุมทั้งหมดอยากรู้เหมือนกันว่าใครจะกล้า “ผู้ใหญ่อิฐ!” “ครับ! คุณย่า ไหนว่ากลับดึกไงครับ” “ลืมรูดซิปกางเกงน่ะ” “ขอโทษครับ” ผู้ใหญ่อิฐต้องรีบหันกลับไปรูดซิปด้วยความรู้สึกละอาย ปกติเขาจะเป็นคนที่สะอาดเรียบร้อย ข้อบกพร่องเรื่องระเบียบวินัยไม่เคยมีเลยสักครั้ง “ทำไมคุณย่ามาที่นี่ล่ะครับ” “พาหนูแป้งมาตรวจดูห้องพยาบาล เพราะต่อไปถ้าคนงานเจ็บป่วยไม่มาก เป็นแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่ต้องหอบหิ้วกันไปโรงพยาบาล รักษาเบื้องต้นที่ไร่เราก่อน” “หนูแป้ง ?” “ยังไม่เจอเหรอ” “ยังครับ” สายตาของย่าพิศมองข้ามไหล่ผู้ใหญ่อิฐไปทางด้านหลังเพราะบุณยวีร์ เด็กเลี้ยงของเขากำลังเดินดึงชายกระโปรงตรงมาทางนี้ “ดูแต่งตัวเข้า” เสียงตำหนิเพียงสั้น ๆ กับสายตาที่ทอดมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก็เพียงพอที่จะทำให้คนได้ยินหน้าม้านได้ “สวัสดีค่ะ คุณย่า” ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ หญิงชราปรายตามองทั้ง 2 คนเชิงตำหนิเล็กน้อย ก่อนจะเลี่ยงออกไปทางห้องพยาบาลที่อยู่ติดกับสำนักงานของไร่พิศมัย ดวงตาภายใต้แว่นใสแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเมื่อเห็นเด็กสาวร่างเล็กนั่งคู้เข่าลูบหัวลูกแมวอยู่เพียงลำพัง ย่าพิศยอมรับว่าถูกชะตากับบัวสิรินตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรกตอนอยู่ ม.6 จากการแนะนำของหมอดูคนโปรด 5 ปีที่แล้ว “หลังนี้แหละค่ะคุณย่าพิศ” เสียงของหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านหน้ารถยนต์คันหรูหันมาบอกกับหญิงชราท่าทางภูมิฐานที่กำลังมองลอดแว่น พยายามจ้องเข้าไปภายในรั้วบ้านไม้ 2 ชั้นที่ล้อมรอบไปด้วยไม้ใหญ่ ดูร่มรื่นสมกับเป็นบ้านสวน “แม่สื่อนัดไว้แล้วใช่ไหม” “ใช่แล้วค่ะ คุณย่าเชิญเลยค่ะ” แม่สื่อวัยกลางคนรีบกุลีกุจอเข้าประคองย่าพิศด้วยความนอบน้อมและเอาใจ เพราะหากว่างานนี้สำเร็จ ค่าจ้างในฐานะแม่สื่อ 1,000,000 บาท จะลอยเข้ากระเป๋าทันที ตั้งแต่เป็นแม่สื่อ หมอดูก็ยังไม่เคยมีใครจ้างด้วยจำนวนเงินที่มากมายขนาดนี้มาก่อน “ที่นี่ร่มรื่นดีนะ พลังงานด้านดีเยอะเชียว” คุณย่าพิศกวาดตามองไปรอบ ๆ บ้านไม้ 2 ชั้นใต้ถุนโล่งสะอาดอย่างพึงพอใจ รอบ ๆ บ้านเต็มไปด้วยไม้ผลซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป แต่พอมาอยู่ในรั้วบ้านหลังนี้กลับดูเขียวงามตา “ตากับยายของหนูบัวสิรินรออยู่ค่ะ” “ดี ๆ” รอยยิ้มบนใบหน้าช่างอ่อนโยนและอบอุ่น แต่ก็ดูน่าเกรงขามจนแม่สื่อไม่กล้าที่จะยืดตัวให้ตรง ต้องเดินค้อมหลังคู่มากับย่าพิศ ที่ใต้ถุนบ้านทรงไทย 2 ชั้น หญิงและชายชรากำลังนั่งรอด้วยท่าทีกระวนกระวายนิด ๆ แต่พอเห็นคนที่เดินเข้ามาก็รีบลุกขึ้นต้อนรับทันที “เชิญคุณนายค่ะ” “เรียกฉันว่าย่าพิศเถอะ” “ฉันอยากสนับสนุนเด็กเรียนดีแต่ยากไร้ มีคนแนะนำมาว่าหลานบ้านนี้สอบติดพยาบาลแต่ยังขาดเงินทุน” “ใช่ครับคุณนาย” สองตายายมองหน้ากันด้วยความยินดีกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะใจเป็นกังวลไม่น้อย เนื่องจากตัวเองไม่มีแรงจะส่งหลานให้เรียนจบได้ “เงื่อนไขก็ไม่มีอะไรหรอก เรียนจบแล้วก็ไปใช้ทุนที่ไร่พิศมัย 1 ปี แค่นั้น” “ขอบพระคุณคุณนายเจ้าค่ะ” สองตายายยกมือไหว้ท่วมหัวพร้อมน้ำตาคลอเบ้า ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีนางฟ้านางสวรรค์มาโปรดถึงที่ ย่าพิศมองดูท่าทางของสองคนชราพลางแย้มยิ้มนิด ๆ ภูผา ยันต์ หลานชายคนเล็กของตระกูล ดวงจะถึงฆาตในวัย 32 ปี และดวงที่จะเสริมให้หลานชายผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ก็คือบัวสิริน สายใย เด็กสาวที่ย่าพิศเลือกเองกับมือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม