รางวัลที่ต้องให้

1418 คำ
คำว่า “ก็ได้” ของมาธวีดังเบาหวิวท่ามกลางเสียงเพลงคลอเบาๆ เพราะตอนนี้ผับกำลังจะปิดแล้ว องศายิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้นปนเมามายของหญิงสาวเขายื่นมือออกมาจับข้อมือเรียวของเธอไว้แน่นพอให้รู้สึกถึงแรงบีบ แต่ไม่ถึงกับทำให้เจ็บ “งั้นตามผมมา” เสียงทุ้มต่ำที่กระซิบข้างหูทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ มาธวีปล่อยให้ตัวเองถูกนำทางไปอย่างไม่รู้ตัว ความมึนเมาทำให้สติของเธอพร่าเลือนเกินกว่าจะคิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เธอเห็นเพียงแค่แผ่นหลังกว้างภายใต้ไฟสลัว แม้จะจำชื่อเขาได้ว่า “องศา” แต่กลับไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใครมาจากไหน นอกจากชายเย็นชาที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกท้าทายตลอดเวลา เขาพาเธอเดินลัดเลาะออกจากผับโดยผ่านทางเดินพิเศษที่พนักงานเท่านั้นที่ใช้ได้ ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวที่มุ่งตรงไปยังโรงแรมหรูซึ่งตั้งอยู่บนตึกเดียวกัน ภายในลิฟต์ที่เงียบสงัด มาธวีพยายามรวบรวมสติที่แตกกระเจิง “นี่... เราจะไปไหนกันคะ?” “ไปหาความสุขไงล่ะ คุณตกลงแล้วว่าจะให้รางวัลผม... แค่คืนเดียว” องศาตอบเสียงเรียบ ดวงตาคมกริบมองใบหน้าหวานที่กำลังแดงระเรื่ออย่างพิจารณา “แต่ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” เธอขยับถอยอย่างลังเลแต่คำพูดต่อมาของเขาทำให้ต้องหยุดชะงัก “ไม่กล้าแล้วเหรอ? ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนที่ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแล้วยังไม่รักษาคำพูดของตัวเองอีกด้วย” เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ องศาเลือกใช้คำพูดที่แทงใจเพราะเดาว่าเธอเป็นคนชอบเอาชนะ คำว่าแพ้จุดไฟในใจเธอให้ลุกพรึบ ความรู้สึกขุ่นเคืองจากคำพูดเย้ยหยันและฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กำลังทำงานอย่างหนัก ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอต้องเดินหน้าต่อเพื่อพิสูจน์ตัวเอง มาธวีเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างท้าทาย “ก็ได้! ฉันตกลง พาฉันไปสิคะ” “ดีมากน้ำผึ้ง... ผมชอบผู้หญิงที่รักษาคำพูด” องศายิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจในความกล้าและบุคลิกที่ไม่ยอมใครของเธอ เขาเข้าใจแล้วว่าอะไรคือจุดอ่อนของเธอ เมื่อถึงชั้นบนสุดห้องสวีทหรูเปิดออก องศาผลักเธอเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา แต่เสียงปิดประตูกลับดังสนั่นในความรู้สึกของมาธวี เธอมองทิวทัศน์กลางคืนของเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับสวยงามแต่ในความรู้สึกเหมือนตัวเองถูกขังอยู่ในกรงของเสือผู้หญิงที่กำลังหิวกระหาย บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเงียบแต่มีแรงดึงดูดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ มาธวีปล่อยให้ความมึนเมานำทางโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา “ถึงเวลาแล้วที่ผมจะได้รางวัลตอบแทน” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเกือบแตะกัน มาธวีปฏิเสธไม่ได้ว่าชายตรงหน้ามีเสน่ห์ดึงดูด แม้จะเย็นชา แต่ทุกการกระทำของเขากลับเต็มไปด้วยความร้อนแรงที่เผาผลาญจนเธอไม่อาจปฏิเสธได้ ภาพต่อจากนั้นเลือนหายไปในแสงไฟสลัวและเสียงหัวใจเต้นแรงที่ดังอยู่ในหูของเธอ ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่ไร้ซึ่งความทรงจำที่ชัดเจน ไม่มีคำหวาน ไม่มีสัญญาใดๆ มีเพียงการตอบสนองต่อแรงปรารถนาของร่างกายเท่านั้น เช้าวันรุ่งขึ้น มาธวีตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าของวันใหม่ หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับจะทะลุออกจากอก สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือผิวกายที่เปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มเนื้อดีและเตียงนอนที่นุ่มสบายแต่ไม่คุ้นเคย ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนไหลย้อนกลับมาในความคิดทั้งคำพูดท้าทาย การเต้นรำ สายตาคมที่มองมาอย่างเอาจริงและการยอมรับข้อเสนอที่บ้าคลั่งที่สุดในชีวิต มาธวีเบิกตากว้างแล้วหันไปมองข้างกายเธอพบว่าชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ยังคงหลับสนิท เสี้ยวหน้าของเขาช่างดูอันตรายและน่าค้นหาในเวลาเดียวกันดู แต่เธอกลับจำรายละเอียดของเขาไม่ได้เลยเพราะเมื่อคืนเธอเมามากและในความทรงจำที่เลือนราง เธอแค่จำได้ว่าเขาคือ ‘บาร์เทนเดอร์หนุ่มเสื้อขาว’ ที่ยอมเต้นรำกับเธอ “ตายแล้ว... ฉันทำอะไรลงไป!” เธอพึมพำกับตัวเอง ความรู้สึกผิดและละอายใจพุ่งเข้าใส่อย่างรุนแรง เธอเป็นเด็กที่เติบโตมาอย่างดี มีคุณยายที่รักและเป็นห่วงเสมอ ไม่เคยคิดเลยว่าความบ้าบิ่นเพียงชั่ววูบของเธอจะนำพาตัวเองมาพบกับความผิดพลาดครั้งใหญ่ขนาดนี้ เธอรีบยันตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบที่สุดแล้วคว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมาสวมใส่อย่างเร่งรีบ หัวใจของเธอกำลังร้องบอกให้หนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะตื่น หญิงสาวรู้ดีว่าต้องจบทุกอย่างไว้ตรงนี้ มาธวีมองหาอะไรบางอย่างเพื่อทิ้งไว้เป็นสัญลักษณ์ของการ จบความสัมพันธ์บ้าๆ นี้ เธอไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใครแต่เมื่อเขาร้องขอรางวัลเธอจึงต้องจ่ายให้เป็นไปตามความเข้าใจของเธอ หญิงสาวเห็นสมุดจดเล่มเล็กๆ บนโต๊ะข้างเตียง เธอฉีกกระดาษออกมาหนึ่งแผ่นและเขียนด้วยลายมือเรียบร้อย ‘ขอโทษที่หนีออกมาแบบนี้ค่ะ ฉันเมามากเมื่อคืนนี้และทำเรื่องผิดพลาดไป ฉันขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงที่นี่ และหวังว่าเราจะไม่ต้องเจอกันอีกเลย ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในการชนะเกมของเพื่อนค่ะ’ ‘ฉันไม่รู้ว่าบาร์เทนเดอร์อย่างคุณคิดค่าตัวเท่าไหร่ แต่ขอให้เงิน 3,000 บาทนี้ เป็นค่าปิดปากเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นคืนนี้นะคะ’ น้ำผึ้ง หญิงสาวพับโน้ตนั้นวางไว้บนหมอน จากนั้นก็หยิบเงินสดสามพันบาทที่เก็บไว้ในกระเป๋าวางทับโน้ตนั้นไว้ เงินสามพันบาทสำหรับเธอที่เป็นนักศึกษาอย่างมาธวี มันคือเงินจำนวนไม่น้อยแต่สำหรับเขาที่อยู่ในห้องสวีทสุดหรูนี้ เธอไม่แน่ใจว่ามันจะเพียงพอไหมแต่เธอก็มีเงินสดมาแค่เท่านี้ มาธวีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เป็นครั้งสุดท้าย มองไปยังร่างสูงที่ยังหลับใหลอยู่บนเตียงก่อนจะเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว เธอเปิดประตูและปิดมันลงอย่างเงียบกริบ พร้อมกับเดินออกมาจากโรงแรมนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนได้หลุดพ้นจากกรงขัง องศาตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดแต่เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าห้องว่างเปล่า เขานอนมองเพดานอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นนั่งอย่างไม่รีบร้อน เขาไม่ได้แปลกใจที่เธอหนีไป ผู้หญิงที่มาในสถานที่แบบนี้ส่วนใหญ่มักทำแบบนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือสิ่งที่วางอยู่บนหมอนข้าง องศาหยิบโน้ตและเงินสดจำนวนหนึ่งขึ้นมาดู เขายิ้มหยันให้กับข้อความในกระดาษ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า ‘ฉันไม่รู้ว่าบาร์เทนเดอร์อย่างคุณคิดค่าตัวเท่าไหร่ แต่ขอให้เงิน 3,000 บาทนี้ เป็นค่าปิดปากเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นคืนนี้นะคะ’ “บาร์เทนเดอร์... ค่าตัวสามพันเหรอ?” เสียงหัวเราะแผ่วต่ำแต่แฝงความขบขันและขุ่นเคืองในเวลาเดียวกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงฟันแล้วทิ้งแถมยังยัดเงินให้เหมือนซื้อบริการราคาถูก ชายหนุ่มกำเงินสามพันบาทในมือแน่น ดวงตาคมกริบฉายแววไม่พอใจแต่ก็แฝงไว้ด้วยความท้าทายเพราะปกติผู้หญิงทุกคนต่างพยายามตามหาเขาเพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบ “ผู้หญิงคนแรกที่กล้าดูถูกฉันแบบนี้....น้ำผึ้งเหรอ? เรื่องมันไม่จบแค่เงินสามพันแน่... ผมจะทำให้คุณจำไว้ผมต้องได้รางวัลมากกว่านี้” ดวงตาคมวาววับด้วยประกายบางอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม