เรื่องบนเตียง
"หนูไปก่อนนะคะ คุณพ่อคุณแม่" เนยวัยรุ่นสาวที่เพิ่งย่างก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัยกล่าวสวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่ที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งถึงตึกคณะที่มหาวิทยาลัย ทางฝั่งของคุณพ่อ 'ขุน' และคุณแม่ 'ขวัญ' ต่างยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจที่ลูกสาวสุดรักสุดหวงของตัวเองได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการเสียที หลังจากที่ต้องยัดเงินอธิบดีไปหลายแสนเพื่อให้คะแนนสอบของเนยนั้นผ่านแบบคาบเส้น
ในความเป็นจริงแล้วเนยมั่นใจในการสอบเข้าของมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยนี้อย่างมาก แต่เสียอย่างเดียวที่ตัวเองนั้นทำข้อสอบไม่ทัน เธอรู้สึกเสียใจจนไม่อยากจะบอกผู้ปกครองเพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิ แต่พวกเขารู้อยู่ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
แน่ล่ะ...ก็อธิบดีนั้นเป็นเพื่อนสนิทของขุนนี่
"ก็ดีนะขุนที่จะให้ลูกของนายเข้ามาเรียนในมหาลัยของผม" สมชาย อธิบดีร่างอ้วนที่ทั้งร่างกายนั้นเต็มไปด้วยไขมันนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำในชุดสูทที่ตัวเล็กกว่าตัวเองกำลังจะปรี่ขาด
"ก็นั่นแหละ สมชาย พอจะช่วยลูกสาวฉันเข้าเรียนหน่อยได้มั้ย? " ผู้เป็นพ่อถามอย่างอ้อนวอน
สมชายแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
"นายเคยได้ยินใช่มั้ยว่า คนระดับผมเนี่ย แค่จรดลายเซ็นลงบนกระดาษเอกสารโง่ ๆ ด้วยปากกาที่ผมซื้อมาจากต่างประเทศราคาเป็นแสนนี้ ก็สามารถทำให้น้องเนยเข้าเรียนที่นี่ได้แล้ว" สมชายหยิบปากกาที่เสียบอยู่กับกระเป๋าเสื้อของตัวเองขึ้นมาอกชมอย่างภาคภูมิใจ แหงล่ะ เขาใช้เงิน 'ใต้โต๊ะ' ซื้อมานี่นา...
"ครับ ใช่ครับ" ขุนทำท่าเจียมเนื้อเจียมตัวอย่างเห็นได้ชัด
"เพียงแค่เงินแสนนึงสำหรับผมก็ถือว่ายังไม่มากพอน่ะ" ชายร่างอ้วนเลื่อนซองสีน้ำตาลที่มีปึกเงินจำนวนหนึ่งแสนบาทที่ขุนอุตส่าห์ถอนออกมาคืนเพื่อน "ในแต่ละเดือน หรือแต่ละเทอมผมได้มากกว่านี้อีก"
"คุณต้องการเท่าไหร่บอกผมได้นะ" ขุนพูดขึ้น
"ล้านห่นึงกับได้มีอะไรกับเมียคุณหนึ่งคืนได้มั้ยล่ะ?" สมชายโน้มตัวเข้ามาหาขุนแล้วมองเข้าไปในดวงตาของเพื่อนรัก
สำหรับสมชายนั้น เงินไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
**ต่างหาก!
เขาแอบชอบขวัญมากตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ไอ้เจ้าขุนมันดันคว้าไปเสียก่อน แต่ในเมื่อสมชายถือไพ่ในมือเหนือกว่า เขาสามารถเรียกร้องอะไรก็ได้จากขุนเพื่อให้ลูกสาวได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย
ดีไม่ดีสมชายอาจจะได้ลูกสาวที่หน้าตาน่ารักอย่างเนยก็เป็นได้
แหม...ได้ทั้งแม่ทั้งลูกแบบนี้กำไรมากกว่าเงินเดือนที่ได้ในแต่ละเดือนเสียอีก
สุดท้ายแล้วขุนก็ต้องยอมให้ขวัญไปมีอะไรกับสมชายอย่างไม่เต็มใจ คืนนั้นเนยไม่ได้กลับบ้านเพราะไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน ข้าง ๆ ขุนนั้นมีไวน์ราคาแพงอยู่หนึ่งขวดซึ่งเขากระดกทั้งขวดอย่างไม่กลัวเกรงต่อแอลกอฮอลล์ น้ำตาที่ไหลรินออกมาดั่งน้ำตกนั้นอาบแก้มไปด้วยความเศร้า ภาพที่ภรรยาตัวเองกำลังถูกชายร่างอ้วนเหมือนหมูกำลังกระทำชำเราอย่างบ้าคลั่ง ส่วนขวัญก็ได้เอาแต่นอนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้และภาวนาให้เรื่องราวมันจบ ๆ ไปเสียที
เมื่อเสร็จกิจ สมชายได้เซ็นอนุมัติให้เนยเข้าเรียนได้ทันที และแก้คะแนนสอบให้ได้เก้าสิบเต็มหนึ่งร้อย
เรื่องนี้ เนยไม่เคยรู้เลย...
"เดี๋ยววันนี้พ่อแม่จะพาไปเลี้ยงมื้อใหญ่เพื่อฉลองที่เข้าเรียนที่นี่ได้นะ" ขุนพูด ส่วนขวัญก็พยักหน้าไปตามนั้นพร้อมกับรอยยิ้มฝืน ๆ ที่ปรากฎขึ้นบนใบหน้า
"โอเคเลยค่ะ สวัสดีนะคะ คุณพ่อคุณแม่" เนยยกมือไหว้อีกครั้งก่อนที่จะหันหลังเดินขึ้นตึกคณะเรียนไปด้วยท่าทางที่สดใสร่าเริง
แต่ขุนและขวัญเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นอมทุกข์เมื่อลูกสาวคนเดียวๆ ด้ลับสายตาไปแล้ว ทั้งสองคนไม่พูดไม่จากัน ขวัญโกรธที่ขุนให้ตัวเองที่เป็นภรรยาไปมีอะไรกับไอ้อ้วนที่ตัวเองเกลียดเข้าไส้ แต่ก็ทำเพื่อให้ลูกตัวเองเข้าเรียนนี่แหละ
"คุณยังโกรธผมอีกเหรอ? " ขุนถามพร้อมขับรถออกไป
"......" ขวัญไม่พูดอะไร
"คุณจะโกรธผมก็ไม่เป็นไร แต่อย่าเงียบกันแบบนี้"
"....." ขวัญยังคงไม่ตอบอะไร
"ผมทำเพื่อลูกนะ..."
"ฉันก็ทำเพื่อลูกเหมือนกัน!! " ขวัญตะคอกอย่างแรงพร้อมสะบัดหน้ามาหาผู้เป็นสามี "เราสองคนทำเพื่อลูกกันทั้งนั้น!! แม้ว่าเมื่อก่อนฉันจะชอบไปมั่วกับคนอื่นก็ตาม แต่ฉันเลิกไปหมดตั้งแต่ได้คบกับคุณ! "
"....." ตอนนี้ขุนเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบไปเอง
จากนั้นบทสนทนาก็ไม่ได้มีการดำเนินต่อ แต่ถ้าสังเกตได้ว่า มีรถเก๋งคันสีดำสองคันกำลังขับตามรถของสองสามรภรรยาคู่นี้อยู่
ขุนและขวัญมองกระจกหลังและเห็นตรงกันว่า...
'เขามาแล้ว...'
"เสี่ยลี..."