บทที่ 1.2 - ทางเลือก (ว่าที่พี่เลี้ยงคนใหม่) (จบตอน)

1498 คำ
“แม่บอกแล้วว่าให้พาเจ้ารันไปหาหมอ อาการที่ลูกแกเป็นไม่ใช่เล่นๆ แล้วนะ ปล่อยไว้นานๆ จะแย่เอา” คนเป็นย่าห่วงใย อยากเห็นหลานชายมีสภาวะทางอารมณ์เหมือนเด็กคนอื่นๆ “เมื่อกี้ผมลองแล้วครับ แต่รันเขาไม่ยอม เขาบอกว่าต้องการแม่กลับคืน” “หะ! อยากได้แม่กลับคืน” คุณนิภาร้องลั่น ศรุตพยักหน้าแทนคำตอบ และนั่นยิ่งทำให้ท่านถึงกับเบ้ปาก “โอ๊ย! อย่าได้พามาเหยียบบ้านฉันเป็นครั้งที่สองเชียวนะ ผู้หญิงสกปรกพรรณนั้นมีอะไรให้น่าพิศวาสไม่ทราบ” แค่นึกถึงก็พานให้ขนกายลุกพอง “สำหรับเราเขาอาจไม่ใช่คนดี แต่สำหรับรัน… บางทีเด็กก็ต้องการแม่นะครับ” ศรุตมีท่าทีใจอ่อน คุณนิภารีบส่ายหน้าพัลวัน “อย่าเชียวนะตารุต อย่าคิดพาแม่นั่นเข้ามาในตระกูลเราอีกเด็ดขาด!” มารดาชี้หน้าสั่ง หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงสารเลวกลับมามีบทบาทในสายตาอีก “ผมไม่ได้คิดจะพาเขากลับมาสักหน่อย” ศรุตรู้ดีว่ามารดาเกลียด ‘อดีตภรรยา’ เข้าไส้ ความเลวทรามที่หล่อนสร้างไว้กลายเป็นเรื่องน่าขยะแขยงสำหรับทุกคนในบ้าน ตัวเขาเองกว่าจะผ่านจุดๆ นั้นมาได้ต้องใช้เวลาทำใจอยู่เป็นปี หลุดพ้นจากนรกแล้วศรุตก็ไม่คิดอยากหวนกลับไปอีก สู้เดินหน้าต่อเพื่อลูกยังจะดีซะกว่า “ฉันก็เตือนไว้ก่อน เห็นแกทำหน้าละห้อยแล้วก็กลัวใจ” เพราะเมื่อก่อนศรุตนั้นรักและหลงแม่นั่นมาก คุณนิภาจึงต้องคอยพูดเตือนสติบุตรชาย ไม่อยากให้ไปคว้าก้อนกรวดมาชื่นชมเหมือนในอดีต “ตอนนี้ผมคิดแต่เรื่องรันครับ ผมไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กก้าวร้าว” “ถ้าห่วงลูกจริงก็ไม่ต้องทำมันแล้วงานน่ะ ออกมาดูแลตารันซะก็สิ้นเรื่อง” คุณนิภาเสนอแนะ ศรุตรีบส่ายหน้าทันที “ไม่ได้หรอกครับคุณแม่ ที่บริษัทฯ งานเยอะมาก ถ้าผมวางมือสักคนโครงการต่างๆ จะไปต่อยังไง” ห่วงลูกก็ห่วง แต่หน้าที่ของผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบคุณภาพชีวิตของพนักงานนับพันนั้นมีมากกว่า ศรุตไม่อาจละเลยความสำคัญตรงส่วนนี้ได้ “ส่วนหนึ่งที่ตารันมันดื้อก็เพราะแกนั่นแหละ” คุณนิภาว่าใส่ “ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ” “ก็ถ้าแกเลิกบ้างานแล้วใส่ใจมันมากกว่านี้ เด็กมันคงไม่โหยหาแม่หรอก” คุณนิภาลองมองในมุมของหลานชาย “รันเขารู้ว่าผมต้องทำงาน อีกอย่างผมก็จ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลแล้ว แต่คุณแม่ก็เห็นว่ารันเป็นยังไง ซึ่งจะว่าลูกผมอย่างเดียวก็ไม่ถูก แม่พี่เลี้ยงพวกนั้นก็ไม่อดทนเอาซะเลย นิดๆ หน่อยๆ ก็พากันลาออก” คนเข้าข้างลูกกล่าว คุณนิภาถอนหายใจปลงตก ดูเหมือนปัญหาหลานชายจอมดื้อรั้นคงลากยาวไปอีกนาน “เรื่องของแกนะ จะจ้างใครมาคราวนี้ก็ช่วยดูให้มันดีๆ หน่อย ประเภทหนักไม่เอาเบาไม่สู้ก็ไม่ต้องไปรับมัน” ว่าไปอย่างนั้นแหละ ต่อให้คนหนักเอาเบาสู้มาทำงานแล้วต้องเจอเด็กอย่างศรัน ก็ไม่มีใครทานทนพิษสงได้นานหรอก ข้อนี้คุณนิภารู้ดี “ครับคุณแม่ ครั้งนี้ผมจะเลือกคนที่หน่วยก้านดีมารับหน้าที่ดูแลตารัน” สนทนากับมารดาเสร็จสิ้น ศรุตก็เตรียมตัวออกไปทำงานเนื่องจากมีเอกสารสำคัญเข้าด่วน เขาเลยต้องยอมสละช่วงเวลาวันหยุดทิ้ง ศรันยืนมองรถคันหรูของพ่อค่อยๆ ขับเคลื่อนออกพ้นรั้วประตูบ้านผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เด็กน้อยกำหมัดแน่น สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยไยดีลูกอย่างเขา…! หลังจากเซ็นเอกสารเสร็จสิ้น ศรุตก็รีบกลับบ้านไปพักผ่อนเนื่องจากรู้สึกปวดหัว สองมือหนานวดคลึงขมับเบาๆ เพื่อสร้างความผ่อนคลาย หลับตาปลดปล่อยความเหนื่อยล้า สารถีคนสนิทที่ทำงานอยู่กับครอบครัวมานานเหลือบมองเจ้านายสุดหล่อ “คุณรุตอย่าเพิ่งคิดมากเรื่องคุณหนูนะครับ เด็กๆ ก็แบบนี้ เดี๋ยวอะไรๆ ก็จะดีขึ้น” ลุงสมหมาย ผู้ทำหน้าที่ขับรถให้กับศรุตตั้งแต่เด็กจนโตกล่าว เขาเห็นชายหนุ่มมาแต่เล็กแต่น้อย รักใคร่เสมือนบุตรหลาน มีความหวังดีให้อีกฝ่ายเสมอ ศรุตเองก็ไม่ใช่คนถือตัวว่าเป็นนาย เคารพลุงสมหมายประหนึ่งญาติคนหนึ่งในครอบครัว อาจเป็นเพราะว่าชายกลางคนทำงานให้วงศ์ตระกูลมานาน ตั้งแต่ตอนที่บิดาของเขายังมีชีวิตอยู่ ศรุตก็มีลุงสมหมายเป็นเพื่อนเล่นมาโดยตลอด “แต่รันไม่เหมือนเด็กคนอื่นนะครับลุง ทั้งดื้อและรั้นไม่ฟังใคร” ศรุตถอนหายใจ คนฟังยิ้มขัน “ก็คงเหมือนคุณรุตในวัยเยาว์ ตอนนั้นก็ช่างเถียงช่างรั้นใส่คุณท่านเป็นประจำ” “โธ่ลุงครับ ผมตอนนั้นดื้อตามประสา แต่รันเขามีปมเรื่องแม่ ผมสงสารลูก” แววตาคมคายรู้สึกผิด เขารู้ตัวดีว่าศรันมองเขาเป็นผู้ร้าย เป็นคนพรากแม่ออกไปจากอก “เด็กอย่างคุณหนูต้องใช้ความเข้าใจในการเข้าหาครับ” ลุงสมหมายว่า “ผมก็พยายามเต็มที่แล้วนะครับ แต่ลุงก็รู้ว่าผมมีภาระต้องดูแล ถ้าจะให้หมกตัวอยู่กับรันทั้งวันผมคงทำไม่ได้” “ก็เลยต้องจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลใช่ไหมครับ” เรื่องพี่เลี้ยงนี่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับบุตรชายมาหลายปี ศรันต่อต้านทุกทาง แผลงฤทธิ์จนไม่มีใครกล้ามาทำงานด้วย “ครับ ตอนนี้ผมก็กำลังหาคนใหม่อยู่ คงต้องเลือกดีๆ หน่อย พวกหนักไม่เอาเบาไม่สู้ต้องปล่อยผ่าน” กี่รายๆ เข้ามาเต็มที่อยู่ได้ไม่เกินห้าวัน ศรุตเหนื่อยใจ ดูเหมือนความหวังที่จะให้ลูกชายเข้ากับผู้อื่นได้นั้นริบหรี่เหลือเกิน “ถ้าคุณรุตไม่รังเกียจ ผมพอจะรู้จักอยู่คนหนึ่ง หนักเอาเบาสู้ แล้วก็มีความอดทนสูง” “ใครครับลุง?” ศรุตให้ความสนใจต่อคำพูดประโยคนั้นทันที “หลานสาวผมเองครับ แต่ไม่ใช่ญาติแท้ๆ หรอก เรียกว่าเป็นคนรู้จักที่มักคุ้นกันมานานจะดีกว่า” ลุงสมหมายขยายความ ศรุตพยักหน้ารับ “แล้วเขาทำงานอะไรครับ” ก่อนจะรับใครเขาต้องแน่ใจก่อนว่าบุคคลนั้นๆ มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ไม่ใช่อ้าแขนรับแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ขึ้นชื่อว่าเอาคนนอกเข้าบ้านอะไรก็ไม่น่าไว้ใจทั้งนั้น “ตอนนี้ก็ทำงานเป็นผู้ช่วยครูสอนเด็กอนุบาลครับ ที่ผมเสนอก็เพราะเห็นว่าฝ่ายนั้นคุ้นเคยกับเด็กๆ ดี เลยคิดว่าน่าจะดูแลคุณหนูรันได้” “ผู้หญิงหรือผู้ชายครับลุง” ลุงสมหมายอมยิ้ม เหลือบตามองเจ้านายหนุ่มผ่านกระจกบานเล็กเหนือศีรษะ “ผู้หญิงครับ สวยด้วยน้า” น้ำเสียงหยอกเย้าในท่าที ศรุตส่ายหน้าพลางพูดว่า “สวยจริงเปล่า ลุงจะอวยโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้นะ” เขาแสร้งว่า จังหวะที่รถคันหรูติดสัญญาณจราจรนั้น ชายกลางคนก็รีบหยิบมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ แล้วเลื่อนเปิดรูปคนสวยที่ว่าให้ชายหนุ่มดูเป็นขวัญตา “นี่ครับคุณรุต” ลุงสมหมายยื่นมือถือให้ศรุต ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอสี่เหลี่ยมกว้างทำให้เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ ใบหน้ารูปไข่จิ้มลิ้มพริ้มเพรา จมูกโด่งรั้นมาพร้อมริมฝีปากอวบอิ่มน่ารัก ผมยาวสลวยดำขลับน่าสัมผัส นัยน์ตาหวานกลมโตเป็นประกาย คุณพ่อลูกหนึ่งถึงกับเผลอตัวยิ้มออกมายามมองภาพสตรีผ่านมือถือของลุงสมหมาย “ไงครับคุณรุต สวยอย่างที่ผมคุยไว้ไหม” “ยังรับประกันไม่ได้หรอกลุง บางทีรูปมันก็หลอกตาเรา ผู้หญิงสมัยนี้สวยได้แอพเยอะแยะไป” เขาว่าไปงั้น แต่ใจลึกๆ ดูออกว่าภาพที่เห็นจริงแท้ร้อยเปอร์เซ็น “ว่าแต่คุณรุตสนใจไหมครับ ถ้าคุณรุตสนใจผมจะไปติดต่อเรื่องคุณหนูให้” ชายกลางคนไม่ถือสาคำพูดของศรุต รู้ดีว่านั่นคือฟอร์มของผู้ชายอย่างเขา “ผมน่ะสนใจ แต่หลานลุงเขาจะสนใจหรือเปล่า” แววตาคนพูดเป็นประกาย คำว่า ‘สนใจ’ ของเขามันมีนัยยะบางอย่างแอบแฝงอยู่ลึกๆ “ถ้าคุณรุตเสนอเงินเดือนดีๆ ผมว่าไม่ยากครับ” เรื่องเงินเดือนไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว ถ้าผู้หญิงคนนี้ปราบพยศบุตรชายของเขาได้ เสียเท่าไหร่เท่ากัน “ว่าแต่… เธอโสดไหมครับ?” เสียงเข้มเอ่ยถาม สารถีคนสนิทถึงกับหัวเราะลั่นรถ “โสดสนิทครับ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม