
โคแก่ปากร้าย ปะทะ หญ้าอ่อนหัดอ่อย รักที่คิดว่าจะกร่อยจึงแซบสะเด็ดเผ็ดมันซาบซ่านสุดซึ้งทุกอณูทรวง
************
เด็กน้อยในอุปการะน่ารักน่าใคร่ขึ้นทุกวัน เธอยังแสดงออกว่าคิดเกินเลยกับเขา โรมรันไม่อยากขึ้นชื่อว่าเลี้ยงต้อย เป็นสมภารกินไก่วัด ก่อนตบะแตก จึงตัดใจส่งเธอออกไปอยู่ไกลตัว
*************
ด้วยแอบปลื้ม แอบรักผู้มีอุปการะคุณอย่างเขา เธอถึงยอมเสนอตัวให้ หากเขากลับฉีกหน้า ซ้ำเสือกไสส่งเธอออกไปจากไร่ เธอตั้งใจไว้จะไม่กลับมาให้เขาเห็นหน้าอีกตลอดชีวิต
**************
“พุดได้งานแล้วค่ะ ตั้งใจจะทำงานอยู่ที่นี่ พุดต้องขอกราบขอบพระคุณ” สาวน้อยกระพุ่มมือไหว้ “คุณเข้มมากนะคะที่เป็นธุระส่งเสียค่าใช้จ่ายให้พุดมาตั้งมากมาย”
รู้หรอกว่า สาวน้อยตั้งใจไม่กลับ เขาถึงได้วิ่งหน้าตั้งมาถึงเมืองฟ้าอมรแห่งนี้ หลังจากสั่งให้วิชาลกลับไร่ได้ แต่การได้ยินเธอพูดจากปากมันกระตุ้นความหงุดหงิดสะกิดต่อมโมโหของโรมรันขึ้นมาทันที
“รู้ว่าเสียเงินเสียทองไปไม่น้อยแล้วจะเนรคุณไม่กลับไร่ใช้ได้ที่ไหน งานที่ไร่เยอะแยะยังกับอะไร”
พุดแก้วหน้าชา ฟังเสียงกรุ่นๆ เจืออารมณ์โมโหของเขาอย่างไม่เข้าใจ โรมรันโกรธอะไร ในเมื่ออยากให้เธอมาจากไร่เองแท้ๆ
“คุณเข้มพูดแรงไปหรือเปล่าคะ พุดยังไม่ว่าจะเนรคุณเสียหน่อย” สาวน้อยเชิดหน้าโต้ตอบ
“การที่เธอไม่กลับไปทำงานให้ฉันแบบนี้ ควรจะบัญญัติศัพท์ใหม่อะไรดีล่ะ ไหนลองบอกซิ ถ้าไม่ใช่คำว่าเนรคุณนั่น”
“พุดว่าคุณเข้มกำลังพาลมากกว่านะคะ ถ้าโกรธอะไรมาจากไหนไว้ค่อยคุยกันวันหลังก็ได้ แต่พุดยืนยันค่ะ พุดจะทำงานที่นี่ ขอเวลาพุดเก็บเงินสักพักแล้วจะทยอยใช้คืนให้ ถ้าคุณเข้มไม่ว่า”
“ว่าสิ ฉันต้องว่าอยู่แล้ว กี่ปีที่เธอจะใช้คืนฉันได้หมด มาอยู่ไกลแบบนี้ เผื่อวันดีคืนดีหนีหายเข้ากลีบเมฆ ฉันหาเธอไม่เจอทำไง”
พุดแก้วชักโมโหบ้าง โรมรันจะเอาไงแน่ ก่อนหน้าทำเป็นไล่ให้มาเรียน มาอยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้กลับตามมาต่อว่าอีก
“พุดไม่เคยมีนิสัยแบบนั้น ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ คุณเข้มทำรายการมาเลย กี่บาทกี่สตางค์ ต่อให้ต้องใช้ทั้งชีวิต พุดก็จะหามาคืนให้ครบ”
คนฟังขบกราม มองจ้องสาวน้อยที่ปีกกล้าขาแข็ง ร้องปาวๆ จะหาเงินมาคืน ต่อมความโกรธมันแทบระเบิด เส้นเลือดที่ขมับกระตุกตุ้บๆ ชายหนุ่มลุกยืนช้าๆ ยัดมือใส่กระเป๋ากางเกงยีน พยายามนับหนึ่งถึงร้อย...ถึงพัน
เมื่อก่อนเขาเคยควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี ทำไมวันนี้จะมาหลุดฟอร์มเสียได้ ไม่มีทาง
“อ้อ... เก่ง”
กายแกร่งเคลื่อนช้า ขณะที่ตาคมมองรอบห้องไปเรื่อย ชักนึกสนุกขึ้นกับความดื้อรั้นของสาวน้อย
“ยังไงก็จะใช้ทั้งชีวิต ก็ไปใช้ด้วยกันที่โน่นเลยซิ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคอยจับตาดูกันให้วุ่นวาย”
“ไม่ค่ะ คุณเข้มเคยอยากให้พุดมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอคะ พุดก็มาแล้วไง”
***************
“ผัวทั้งคนนะแม่คู้ณ ช่วยให้ความสำคัญกันมั่ง” คนหน้าไม่อายโวยวายลั่นบ้าน ชนิดไม่คิดถึงหน้าสวยๆ แสนบอบบางของสาวน้อย ป่านนี้คนทั้งไร่คงได้ยินเสียงแหกปากของเขาหมดแล้ว
พุดแก้วกัดปาก ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ตบมือข้างเดียวดังที่ไหน
“รึเธอยึดสุภาษิตสมัยใหม่ มีเงินท่วมหัวไม่มีผัวยังได้ คิดงี้ใช่มั้ย เวลาเห็นผู้หญิงพวกนั้นมาเกาะแกะฉัน ถึงได้ไม่สนใจ”
คนโวยวายพาลซ้ำ หน้าบูดหน้าบึ้ง ด้วยความฉุนเฉียว คิดดู อุตส่าห์จะทำให้หึง ให้หวง ให้ห่วง แบบผัวฉันใครอย่าแตะ แต่แม่เจ้าประคุณมองเฉย เดินหนี แถมยังสนับสนุนให้เขาไปกับคนอื่นอีก มันน่าโวยวายไหม
“นี่ผัวนะ ผู้ชายคนเดียวที่เธอต้องสนใจ จับให้มั่นคั้นให้ตาย ไม่รู้รึไง”
คราวนี้คนเก็บปากชักทนไม่ไหว ตาแก่ขี้โวยวาย สำคัญตัวเองมากไปแล้ว พุดแก้วตวัดสายตาที่เปลี่ยนจากความเจิดจ้า เป็นประกายพราวระยิบ ยิ้มขบขัน เสมือนหนึ่งฟัง เด็กขี้โวยวายเล่าเรื่องตลก
“ผิดค่ะ ทุกวันนี้ใครเค้าจับผู้ชาย เค้าฮิตจับโปเกมอนกัน ตามโลกไม่ทันเหรอคะคุณเข้ม”

