บทนำ
บทนำ
ภายในโรงพยาบาลชื่อดังของรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร มีคนไข้เข้าคิวรอพบแพทย์ ทั้งที่มาตามนัดและมาตรวจร่างกายประจำปี ห้องตรวจยาวเหยียดไปจนสุดอาคาร มีทุกชั้น ทุกซอกมุม คนไข้หลายรายต้องนั่งรถเข็น บ้างนอนเตียง หน้าตาซีดเซียวรอคอยความหวังว่าจะหายขาดจากโรคที่เป็นอยู่
เช่นเดียวกับวงศ์เดือน สารสินธุ์ หญิงสาวร่างบางวัยยี่สิบเจ็ดปี ดวงหน้ารูปไข่ปราศจากซึ่งเครื่องสำอางทุกชนิด แม้แต่เรียวปากที่ควรอิ่มเอิบยังซีดเซียว ทว่านั่นหาใช่สิ่งที่หญิงสาวต้องกังวล แต่เป็นลูกชายตัวน้อยวัยสามขวบข้างกายคนนี้ต่างหากที่ทำให้หล่อนเป็นกังวลที่สุด
“เด็กชายวงศ์กวี สารสินธุ์ ขอเชิญพบคุณหมอที่ห้องตรวจหมายเลขห้าค่ะ”
เสียงเรียกของนางพยาบาลทำให้วงศ์เดือนลุกจากเก้าอี้แล้วจูงมือลูกชายวัยสามขวบตรงไปยังห้องเบอร์ห้า
นายแพทย์รติสรวง กุมารแพทย์หนุ่มเงยหน้าขึ้นจากแฟ้ม ใบหน้าขาวตี๋แจ่มใสยิ้มให้สองแม่ลูกที่ก้าวเข้ามานั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ
“สวัสดีครับ ไหนขอหมอตรวจหน่อยนะ” คุณหมอ รติสรวงทำการตรวจร่างกายของหนูน้อยเบื้องต้น จากนั้นเขาก็ออกใบสั่งยาให้ แล้วบอกสิ่งที่วงศ์เดือนต้องทำตาม
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ น้องก้องสวัสดีคุณหมอสิลูก”
หนูน้อยดวงหน้าแจ่มใสยกมือกระพุ่มไหว้คุณหมอ รติสรวงตามที่แม่สั่งทันที
หมอยิ้มให้สองแม่ลูกแล้วมองตามทั้งคู่จนลับสายตา...
วงศ์เดือนอดครุ่นคิดถึงหมอไม่ได้ หวังว่าคงไม่ใช่หมอคนเดียวกับที่หล่อนเคยเจอเมื่อหลายปีก่อนนะ ขณะเดียวกันก็อุ้มลูกชายตรงไปยังป้ายรถเมล์เพื่อรอเรียกแท็กซี่กลับไปยังห้องชุดของตน หญิงสาวต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน จึงต้องลาออกจากงานประจำมาเป็นแม่ค้าออนไลน์ แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่มีสักวันที่รู้สึกท้อ เพราะทุกครั้งที่จิตใจอ่อนล้า แต่แค่ได้เห็นใบหน้าเล็กๆ รอยยิ้มสดใสและแววตาไร้เดียงสาคู่นั้นความทุกข์ทรมานทั้งหลายทั้งปวงก็จางหายลงไปภายในพริบตา
หญิงสาวจูงมือลูกชายเดินตรงไปตามทางเดินภายในคอนโด พอถึงห้องจึงปล่อยมือน้อยๆ แล้วหยิบกุญแจออกมา
“อย่าวิ่งไปมาสิลูก” หันไปบอกกับลูกชายที่กำลังวิ่งเล่นเหมือนทุกครั้ง หญิงสาวยิ้มพลางส่ายหน้าพร้อมกับไขกุญแจเปิดประตูออก “เข้าห้องได้แล้วจ้ะ”
เจ้าหนูน้อยหันมาตามเสียงแม่แล้วยิ้มแป้น รีบวิ่งตรงไปหาทันที
หญิงสาววางของกินของใช้ที่แวะซื้อระหว่างทางกลับห้องลงบนโต๊ะ แล้วหันไปมองลูกชายที่เดินไปกดทีวีพร้อมกับนั่งลงบนเบาะนุ่มประจำตัว
“แม่ ก้องดูการ์ตูนได้ไหม”
เจ้าของดวงตาคู่เล็กที่วงษ์เดือนสบตาด้วยทีไรมักทำให้นึกถึงใครบางคนเสมอนั้นถอนหายใจแล้วยิ้มหวาน
“ได้สิจ๊ะ”
เจ้าหนูน้อยยิ้มแป้น
“ขอบคุณค้าบ” จากนั้นเสียงภาพยนต์การ์ตูนเรื่องโปรดของพ่อหนูก็ดังขึ้นทันทีที่แม่อนุญาต
ร่างเพรียวนั่งลงข้างลูกชาย มองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน ดวงหน้าเรียวเจือยิ้มแห่งความรักเต็มเปี่ยม จากนั้นจึงก้มลงจูบศีรษะเล็กๆ ของเจ้าเด็กน่ารักข้างกาย ดีใจเหลือเกิน ที่ในอดีตไม่ได้ทำสิ่งผิดพลาดมหันต์ลงไป
ภายในห้องนอนสีขาวสะอาด ก้องภพ เกียรติกำชัย นายแพทย์ศัลยกรรมกำลังนอนหลับ ข้างกายของเขาคืออริศรา นักธุรกิจสาวสวยร่างซึ่งเป็นคู่หมั้นเคียงกายแนบสนิท ทั้งคู่หมั้นหมายมานานแรมปีแต่ก็ยังไม่มีใครคิดอยากแต่งงาน ต่างพอใจกับการใช้ชีวิตอิสระ เพราะยังสนุกกับการทำงานโดยเฉพาะหญิงสาวที่ต้องเดินทางบ่อยครั้ง
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ก้องภพจึงเอื้อมมือไปกดปิด เขาขยับตัวเล็กน้อยแล้วมองคนตัวนุ่มนิ่ม ริมฝีปากของเขาแต้มยิ้มยามมองคนที่ยังหลับสนิทก่อนเดินเข้าห้องน้ำ
เมื่อชายหนุ่มแต่งตัวพร้อมออกไปทำงานหญิงสาวก็ตื่นขึ้นพอดี
“จะไปแล้วหรือคะ”
คนที่กำลังติดกระดุมเสื้ออยู่หน้ากระจกยิ้มให้คนที่เพิ่งตื่น
“ใช่ ผมไปก่อนนะ วันนี้สายแล้ว” เขาเดินไปหาคู่หมั้นแล้วก้มลงจูบแก้มนุ่ม หญิงสาวยิ้มให้คนรักพยักหน้าเบาๆ
“ค่ะ วันนี้หลิวอาจไม่กลับห้องนะคะ เพราะต้องออกงานกับคุณพ่อ”
“โอเค งั้นผมไปก่อนนะ”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้คู่หมั้นหนุ่มหล่อ จนอีกฝ่ายปิดประตูห้องจึงล้มตัวลงนอนอีกครั้งอย่างเกียจคร้าน
ภายในโรงพยาบาล เช้าวันนี้ยังคงวุ่นวายเหมือนเช่นทุกๆ วันที่ผ่านมา ก้องภพในฐานะแพทย์ศัลยกรรมยังทำหน้าที่ของเขาเช่นเดิม นอกจากตรวจร่างกายคนไข้ของตนแล้ว ในวันนี้เขายังต้องเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด คงกินระยะเวลานานหลายชั่วโมงเพราะเป็นผ่าตัดใหญ่
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเตรียมตัวอยู่นั้น นางพยาบาลสาวสวยก็ก้าวเข้ามาหา
“คุณหมอคะ ลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องอีกแล้วนะคะ”
อารยายิ้มหวานพร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือให้คุณหมอหนุ่ม ก้องภพทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้หญิงสาวแล้วส่ายหัวอย่างนึกระอาตัวเอง
“ขอบคุณมากครับ ลืมตลอด”
“ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อครู่รู้สึกว่ามีสายเข้านะคะ”
ก้องภพสแกนใบหน้าแล้วเลิกคิ้วเมื่อเห็นสายเรียกเข้า เป็นสายของคู่หมั้น จึงยิ้มให้นางพยาบาลสาวสวยตรงหน้าอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ”
อารยายิ้มตอบ ดวงตาคู่งามที่มองเขานั้นแฝงความหมายลึกซึ้ง แต่ก้องภพไม่อาจตอบสนองความต้องการของหญิงสาวได้ เมื่ออีกฝ่ายก้าวออกจากห้อง จึงกดโทรศัพท์ถึงคนรักทันที
ก้องภพออกจากห้องผ่าตัดพร้อมกับการถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ในขณะที่เขาเองก็อ่อนล้าเต็มทีเช่นกัน
“ดูเพลียนะคะหมอ” นางพยาบาลสาวสวยคนเดิมก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นเฉียบ “น้ำเย็นค่ะ”
ก้องภพกล่าวขอบคุณพร้อมกับรับแก้วน้ำไปดื่ม แม้จะรู้ว่าอารยามีใจให้ตนมานาน แต่ในเมื่อหล่อนยังไม่ได้ล้ำเส้นกันจนเกินไปเขาจึงทำได้แค่เว้นระยะห่าง เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันเท่านั้น
“นิดหน่อยครับ ผมกลับก่อนนะครับพี่” ชายหนุ่มหันไปบอกลาหัวหน้านางพยาบาลสาวใหญ่
“จ้า ขับรถดีๆ นะคะหมอ”
“ขอบคุณครับ” เขาขอบคุณนางพยาบาลรุ่นพี่ โดยไม่ลืมเอ่ยลาอารยาอีกคน
เมื่อก้องภพก้าวออกไป อารยาจึงกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ประจำตัว ใบหน้างามเจือยิ้ม ทำให้เพื่อนพยาบาลรุ่นเดียวกันแอบส่ายหน้า แต่ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย เพราะต่างรู้ดีว่าหมอหนุ่มมีคนรักแล้ว ทั้งสวยและรวยมาก แต่เพื่อนของพวกตนก็ยังคงฝันลมๆ แล้งๆ แต่ดีที่ว่าไม่ล้ำเส้นจนเกินไป
ก้องภพขับรถออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพักก็ติดไฟแดง ชายหนุ่มมองบรรยากาศยามเย็นแล้วรับรู้ได้ถึงความวุ่นวายจอแจ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เดินเล่นกินอาหารริมทางแบบนี้ ร้านรวงมากมาย ดูเหมือนจะมากกว่าเมื่อก่อน ผู้คนเดินไปมาเหมือนมด มองไปทางไหนก็พบเจอแต่บรรยากาศจอแจ เรียกได้ว่าเป็นกับดับชีวิตของคนในเมืองหลวงเลยก็ว่าได้ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเจอ
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังกวาดตามองบรรยากาศรอบกาย สายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับใครบางคนที่กำลังซื้อของริมทาง ชายหนุ่มเขม้นตามองเพื่อให้แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกัน พอดีกับที่สัญญาณไฟเขียวเด้งขึ้นมา ทำให้เขาต้องขับรถออก เป็นเวลาเดียวกับที่ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้น พลันหัวใจของก้องภพกระตุกไหววาบก่อนที่รถของเขาจะผ่านเลยไป
วงศ์เดือน...ผู้หญิงคนนั้นชื่อวงศ์เดือน ระหว่างนั้นเรื่องราวในอดีตก็วนเวียนเข้ามาให้นึกถึง บางครั้งเขาก็ฝันถึงหล่อน เป็นฝันธรรมดาทั่วไป อาจเป็นปฏิกิริยาทางเคมีในสมอง ที่บางครั้งเราจะฝันถึงคนรู้จัก เพื่อน ญาติพี่น้องหรือใครก็ได้ที่อาจเคยพบเจอแต่ไม่รู้จัก หรือไม่ได้เจอมานานแล้ว...
เขาไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ภาพที่เห็นวันนี้ทำให้มั่นใจว่าหล่อนเติบโตขึ้นกว่าแต่ก่อน สำหรับเขากับหล่อนมันคืออดีตที่ขาดตอน พวกเขาเคยคบหากันอยู่ระยะหนึ่ง กระทั่งต้องเดินทางไปเรียนต่อเฉพาะทางยังต่างประเทศ เขาเรียนหนักมาก แล้วจู่ๆ ก็ขาดการติดต่อกัน เขาคิดว่าหล่อนคงมีแฟนใหม่ไปแล้ว เพราะเขาเองก็มีแฟนใหม่ที่กลายมาเป็นคู่หมั้นในทุกวันนี้ ดีไม่ดีหล่อนอาจแต่งงานไปแล้วด้วยซ้ำ
อันที่จริงตอนคบกันนั้นเขาเอ็นดูหล่อนมาก มากเสียจนเรียกว่าจริงจังก็ยังได้ วงศ์เดือนเป็นผู้หญิงน่ารักสำหรับเขา ทำให้คบหากันได้นานนับปี แต่ก็ต้องมาห่างกันไปตอนที่เขาไปเรียนต่อ พยายามติดต่อกลับไปเช่นกันแต่ตอนนั้นหล่อนเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว และเขาก็ไม่รู้ว่าหล่อนพักอยู่ที่ไหน เพราะบ้านที่หล่อนเคยอยู่ก็ย้ายออกไปเช่นกัน เวลานั้นเขาค่อนข้างสับสน ไม่รู้ว่าทำอะไรผิดพลาดไป แต่การเรียนที่หนักหนาสาหัสทำให้เขาต้องวางเรื่องหล่อนเอาไว้ก่อน...
ชายหนุ่มพรูลมหายใจบางเบาเมื่อพารถยนต์เข้าไปจอดยังลานจอดรถ เขาเคาะปลายนิ้วกับพวงมาลัยอยู่อึดใจก่อนไหวไหล่ ทุกวันนี้เขามีชีวิตที่แทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์ คงไม่มีความจำเป็นอะไรให้ต้องคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปราวสายน้ำ แต่การได้พบเจอหล่อนอีกครั้งในวันนี้กลับมีบางอย่างกวนตะกอนที่นอนก้นอยู่ในใจมาช้านานให้ลอยขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
แน่นอน เขายังคาใจกับการจบกันครั้งนั้น เป็นการจบที่เหมือนไม่จบ เขาทำผิด หรือเป็นหล่อนที่เบื่อหน่ายกันแน่...