เจ้าของน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบแห้งหลบอยู่ในมุมมืดอีกฝั่ง
“..พวกท่าน...พวกท่านเป็นคนของโต่วฉ่างใช่หรือไม่มาทำอะไรที่นี่ ข้าบอกแล้วจะเอาเงินไปให้ รอสักหน่อยพวกเราไม่ค้างนานหรอก”
“หุบปาก!”
เฝิงหลี่จวินข่มขู่หวงเจียวหม่า ปลายเท้าเตะก้นเยี่ยหูชงจนตัวงอ หวงซื่อเข้าใจว่าเป็นคนของบ่อนพนันโต่วฉ่างได้แต่เบิกตาโตชี้หน้าเฝิงหลี่จวิน
“พวกเจ้ากล้าทรมานเขาได้อย่างไร ข้าบอกแล้วว่าพวกเรามีจ่าย”
“อ้อ” ปลายเท้าเฝิงหลี่จวินเหยียบนิ้วมือเยี่ยหูชงซ้ำอีก เสียงร้องอู้อี้เพราะมีเศษผ้าอุดปากดังมาทันที
“เจ้า! เจ้าจะเอาอย่างไร ปล่อยหูชงเดี๋ยวนี้นะ”
หวงเจียวหม่าปรี่เข้าไปหมายลงไม่ลงมือกับเฝิงหลี่จวิน พลันข้อเท้านางรู้สึกเจ็บแปลบหมดแรงล้มลงไป นางไม่ทันระวัง ที่แท้คนของโต่วฉ่างมากันสองคน
“เจ้า! พวกเจ้ากล้าทำร้ายข้า คอยดูข้าจะเรียกคนมาช่วย”
“ลองเรียกดูสิ”
คราวนี้เฝิงหลี่จวินเหยียบมือเยี่ยหูชงจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น บุรุษใจเสาะส่งเสียงร้องออกมาก่อนหมดสติไป หวงเจียวหม่าลดเสียงลงทันที
“พวกเจ้ามีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ เหตุใดต้องทำคนเจ็บตัวด้วย”
“อ้อ” เฝิงหลี่จวินขานรับขอไปที “อยากพูดอะไร”
“ข้ามีเงิน ข้าบอกพวกเจ้าแล้วว่าข้ามีเงินแต่มอบให้วันนี้ไม่ได้ เอาอย่างนี้ดีหรือไม่อีกสองสามวันข้ากับหูชงจะเอาเงินไปให้ที่บ่อนเอง ยินดีเพิ่มส่วนต่างให้ด้วย”
“ไหนเจ้าบอกไม่มีเงิน แล้วอีกสองสามวันเงินจะงอกมาจากไหนกัน”
“พวกเราเคยบอกแล้วบ้านน้องสามีร่ำรวย ทรัพย์สินพวกนั้นพวกเจ้าก็เคยเห็นแล้ว น้องสะใภ้ข้าสัญญาจะมอบเงินให้”
“น้องสะใภ้งั้นหรือ? นางไม่ใช่เจ้าหนี้เหตุใดต้องจ่ายเงินให้พวกเจ้าด้วยเล่า”
หวงเจียวหม่าละล่ำละลัก “นางเป็นคนบอกเองว่าจะเอามาให้ นางบอกจะไปเอาเงินจากบ้านสวนมาให้”
“จะได้สักกี่ตำลึงเชียว หนี้ที่พวกเจ้าค้างอยู่ไม่น้อยเลย”
“สามร้อยตำลึงเท่านั้น ไม่มาก!”
หวงซื่อปากพูดไปสายตาจับจ้องปลายเท้าเฝิงหลี่จวิน คนของบ่อนโต่วฉ่างเคร่งครัดวินัยพูดคำไหนคำนั้น ยามนี้เยี่ยหูชงคงเจ็บจนเป็นลมไปแล้ว
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะเพิ่มส่วนต่างให้ ข้ามาธุระให้เจ้าถึงหน้าบ้านส่วนต่างที่ต้องจ่ายสมควรคิดเท่าไหร่ดี”
“ข้าเพิ่มให้หนึ่งตำลึงเป็นอย่างไร ไม่สิ! ข้าเพิ่มให้พวกเจ้าสามตำลึงเลย”
“สามตำลึง” เฝิงหลี่จวินหัวเราะในลำคอ “สามตำลึงนับเป็นอะไรได้ ค่าน้ำร้อนน้ำชาข้ายังไม่พอเลย สามร้อยตำลึงนั่นพอฟังขึ้นหน่อย”
“เจ้าจะมากไปแล้ว สามร้อยตำลึงอะไรบ้านข้าไม่มีเงินสามร้อยลำตึงให้หรอก”
“บ้านเจ้าไม่มีเงินสามร้อยตำลึงงั้นหรือ [1] พูดไปใครจะเชื่อ ขนาดข้ายังไม่เชื่อเจ้าเลย”
พูดจาเสียดสีหวงเจียวหม่าเสร็จปลายเท้าเฝิงหลี่จวินเปลี่ยนตำแหน่งเหยียบลงไป คราวนี้เป็นท่อนแขนข้างหนึ่ง เสียงร้องอืออาดังออกจากปากเยี่ยหูชงทันที วิธีเรียกสติคนให้ตื่นไม่มีผู้ใดเก่งไปกว่าแม่ทัพใหญ่เฝิง
“..อื้อ!..อื้อ!!..อื้อ!!”
“หุบปาก”
ปลายเท้าแข็งแรงเตะเข้าแผ่นหลังโค้งงอหนึ่งที ร่างเยี่ยหูชงกระตุกสั่นไม่หยุด ดวงตาหลึกโหลเบิกค้าง
“พวกเจ้า! พวกเจ้าจะขูดรีดกันเกินไปแล้ว บ่อนโต่วฉ่างเคร่งครัดคำพูด พวกเจ้าไม่เชื่อใจลูกค้าเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่กลัวข้าเอาเจ้าไปฟ้องนายท่านหรอกหรือ”
“..อ้อ...บังเอิญว่าข้าก็คือนายท่าน”
“หา?”
ถ้อยคำเผ็ดร้อนของหวงเจียวหม่าหยุดชะงักทันที นางกับสามีเป็นลูกค้าประจำบ่อนโต่วฉ่าง รู้เพียงว่านายท่านนั้นไม่ใช่คนเจิ้งโจวจะมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น ที่ผ่านมานางอาศัยรู้จักผู้คุมไม่กี่คนถึงได้กล้าติดเงินบ่อนโต่วฉ่างหลายร้อยตำลึง
“หกร้อยตำลึง ข้าอยากได้เดี๋ยวนี้”
“จะบ้าเรอะ! หากร้อยตำลึงข้าจะไปหามาจากไหน ขายคนยังได้ไม่ถึงหกร้อยตำลึงเลย”
“ไม่มีงั้นหรือ” เฝิงหลี่จวินยกปลายเท้าเปลี่ยนตำแหน่ง คราวนี้เล็งต้นคอเยี่ยหูชง หวงเจียวหม่าปากคอสั่นทันที
“..พวก...พวกเจ้าไม่กล้าฆ่าคนหรอก”
ปลายเท้าเฝิงหลี่จวินเหยียบหัวไหล่เยี่ยหูชง เสียงกระดูกลั่นกรอบแกรบได้ยินชัดเจน บุรุษโชคร้ายดวงตาเบิกค้างไม่ทันหมดสติกลับโดนเตะแผ่นหลังกระตุ้นซ้ำอีก
“พอแล้ว! พวกเจ้าพอได้แล้ว! หกร้อยก็หกร้อยแต่เจ้าต้องให้เวลาข้าด้วย”
“พรุ่งนี้”
“อะไรนะ! พรุ่งนี้” หวงซื่ออ้าปากค้าง
“ถูกต้อง ข้าให้เวลาเจ้าถึงแค่พรุ่งนี้”
“..นายท่าน...นายท่านคนดีท่านก็เห็นแล้ว ตอนนี้บ้านข้าไม่มีอะไรเลย เงินหกร้อยตำลึงเช่นนั้นข้าต้องเอาคนมาแลกท่านแล้ว”
“หน้าอย่างเจ้า สังหารทิ้งยังเสียเวลาข้า”
“นายท่านฟังก่อน บ้านข้าไม่มีของมีค่าก็จริง ส่วนข้ากับสามีชีวิตไร้ค่าแต่น้องสะใภ้ข้ากับบุตรสาวนางไม่เหมือนกัน สองคนนั้นงดงามมาก ทั้งงามทั้งน่ารัก ลั่วเอ๋อร์ปีนี้สิบขวบแล้วช่างพูดช่างเจรจา กัวซื่อนิสัยอ่อนโยนเชื่อฟัง รับรองนายท่านเห็นพวกนางจะต้องชอบแน่”
เฝิงหลี่จวินกำหมัดแน่น ข่มโทสะสูงเสียดฟ้าฟังวาจาเต็มไปด้วยเศษสวะของหวงเจียวหม่า รายงานที่หงเทาหามาไม่มีเรื่องนี้อยู่ด้วย แต่ดูจากความสารเลวของหวงซื่อกับสามี ช้าเร็วต้องขายสองแม่ลูกออกไปแน่ โชคดีที่เขาซ้อนแผนทัน
“นายท่านหากท่านไม่เชื่อข้า ลองให้คนไปถามพ่อค้าแถวนี้ดูได้ ทั่วถนนตั๋วถ่ง ไม่สิ! ทั่วเมืองเจิ้งโจวข้ากล้าสาบานไม่มีสตรีคนใดงามกว่าน้องสะใภ้ข้าแน่เจ้าค่ะ”
“ในเมื่อนางเป็นน้องสะใภ้ จะยอมให้เจ้าขายงั้นหรือ”
“สามีนางน้องชายของสามีข้าตายไปสามปีแล้ว นายท่านก็รู้ ตามธรรมเนียมสตรีหม้ายพอถึงกำหนดสามปีสามารถแต่งออกได้ ญาติผู้ใหญ่ในตระกูลเยี่ยคือหูชงสามีข้า พวกเรามอบนางให้นายท่านไม่มีอะไรไม่ถูกต้อง”
เห็นเฝิงหลี่จวินไม่พูดอะไรทั้งยังไม่ทรมานเยี่ยหูชงเพิ่ม หวงเจียวหม่าใจชื้นรีบพูดโน้มน้าว
[1] สำนวน หมายถึงเก็บความลับไม่อยู่ เอาความลับมาตีแผ่แล้วบอกว่าไม่มีความลับ
(กดอ่านตอนต่อไปเลยจ้า)
~~~~~~~~~~~~~~~~~
หากชื่นชอบอย่าลืมกด ❤️ กดติดตามเพิ่มเข้าชั้น ✅
คอมเม้นท์ให้กำลังใจกันนะคะ