ตอนที่ 1ความจำเสื่อม
แสงไฟสีขาวนวลจากหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานทอดตัวลงมาอย่างไร้ชีวิตชีวา กลิ่นยาเจือจางคลุ้งไปทั่วห้อง ปลุกสติของหญิงสาวที่เพิ่งฟื้นจากภวังค์ให้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เปลือกตาหนักอึ้งคล้ายถูกถ่วงด้วยหิน
ความรู้สึกแรกหลังจากที่หลับไปนาน คือความรู้สึกปวดหนึบที่เล่นงานบริเวณขยับทั้งสองข้างอย่างหนัก มือเล็กยกขึ้นนวดขมับหวังไล่ความรู้สึกพวกนั้นทิ้งไป ก่อนจะพบว่าที่มือข้างซ้ายของตน เห็นเป็นสายน้ำเกลือที่พ่วงระโยงระยางอยู่ นั่นมันดึงความสนใจและสายตาของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
"โรงพยาบาลงั้นเหรอ... อ่า คงเพราะตอนนั้นสินะ" เสียงแหบพร่าเอ่ยแผ่ว ริมฝีปากซีดเผือดยกยิ้มขื่น ก่อนเสียงหัวเราะในลำคอจะดังขึ้นเบาๆ อย่างฝืดเคือง มือข้างว่างเปล่ายกขึ้นลูบหน้าตัวเองไปมาแรงๆ ความรู้สึกเจ็บและปวดหนึบตรงอกข้างซ้ายยังเล่นงานเธอเหมือนเคย ราวกับว่าเรื่องที่หญิงสาวเพิ่งพบเจอมาเมื่อ 'ไม่กี่ชั่วโมงก่อน' มันยังตั้งฉายอยู่ตรงหน้านี่เอง
"พวกคนเลว..." เธอพูดลอดไรฟันเสียงแผ่วแต่อัดแน่นด้วยอารมณ์ มือเล็กกำแน่นจนเส้นเอ็นปูด ความทรงจำแสนเจ็บปวด นัยน์ตาเห็นเป็นหยดน้ำเอ่อคลออยู่ มันไม่ใช่หยดน้ำที่บ่งบอกถึงความเสียใจ แต่เป็นความเจ็บแค้นของคนที่โดนทรยศมากกว่า
.
.
“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นจากมุมห้อง แต่ชัดเจนพอจะเรียกให้สติของเธอหันเหจากความคิดวกวนในหัว
หญิงสาวหันขวับไปตามเสียงนั้นอย่างอัตโนมัติ นัยน์ตาทอดมองผ่านม่านขาวบางของเตียงคนไข้ก่อนจะพบว่า เจ้าของเสียงคือชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดกาวน์สีขาวสะอาด สวมแว่นกรอบบางทว่าชัดเจนว่าไม่ใช่แค่หมอธรรมดา...ใบหน้าหล่อเหลาแบบที่น่าจะทำให้คนไข้สาวกว่าครึ่งโรงพยาบาลเต็มใจมาหาหมอทุกวันด้วยความสมัครใจ หากว่าคำทักทายของเขาจะผิดแปลกไปจากคนไข้และหมอดั่งควรจะเป็น
“เป็นไงบ้าง...เรนเดียร์ ยังปวดท้องอยู่ไหม?”
หัวคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น...ชื่อที่ไม่ใช่ของเธอ ชื่อที่ฟังดูคุ้นราวกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ทว่ากลับไม่เคยเป็นของเธอเลยสักครั้งในชีวิต นิ้วชี้เรียวยกขึ้นแตะอกตัวเองอย่างไม่แน่ใจ ดวงตากลมโตสบประสานกับชายหนุ่มในชุดกาวน์ด้วยแววตาสงสัยเจือระแวง
“คุณ…เรียกฉันเหรอคะ?” เสียงเอ่ยขึ้นเบาแผ่ว แต่เปี่ยมไปด้วยคำถามมากมายที่ตีกันวุ่นในหัว
เขาหยุดยิ้มไปชั่วครู่ ดวงตาหลังกรอบแว่นกะพริบหนึ่งครั้งราวกับกำลังประเมินท่าทีของเธอ ก่อนจะพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
“ใช่สิ เธอชื่อเรนเดียร์นี่นา หรือว่ายังเบลอยาอยู่?”
ความเข้าใจของหญิงสาวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา คืออีกฝ่ายน่าจะเข้าใจหรือทักผิดแน่ๆ ด้วยว่าเธอนั้นไม่ได้ชื่อ 'เรนเดียร์' สักหน่อย แล้วเท่าที่จำได้ก่อนจะมาโผล่ที่นี่ คือเธอขับรถตกน้ำไม่ใช่หรือ แล้วท้องของเธอมันมาเกี่ยวอะไรด้วย
“นี่... เรน ไม่เล่นแบบนี้สิ พี่ใจไม่ดีนะ” เสียงทุ้มที่เคยรื่นหู ฟังดูสั่นพร่าแปลกไปเล็กน้อย คล้ายกับเจ้าของเสียงเริ่มไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็นตรงหน้าอีกต่อไป สีหน้าของหมอหนุ่มในชุดกาวน์ที่ดูมั่นใจมาตลอดเริ่มแตกร้าวด้วยความกังวล เขาก้าวเข้ามาใกล้ข้างเตียง เสียงเอี๊ยดเบาๆ เมื่อฝ่ามือหนาวางลงบนขอบเตียงที่เธอนอนอยู่
แต่หญิงสาวยังคงนิ่ง ดวงตาคู่นั้นมองเขาเหมือนมองคนแปลกหน้า…ไม่มีแววล้อเล่น ไม่มีแม้กระทั่งประกายแห่งความคุ้นเคย
“ขอร้องล่ะ…เรนเดียร์ นี่พี่ไง…ไรเฟิล จำไม่ได้จริงๆ เหรอ ไม่แกล้งแบบนี้สิ!!” เสียงของหมอหนุ่มอ่อนลงในวินาทีถัดมา แววตาฉายชัดถึงความว้าวุ่น ปลายนิ้วเรียวของชายหนุ่มเผลอแตะหลังมือเรียวเล็กเบาๆต้องการปลอบ ทั้งที่เธอไม่ได้สั่น…แต่เขาสิที่เหมือนจะสั่นแทน
ทว่า...สัมผัสนั้นกลับทำให้เธอขมวดคิ้วยิ่งขึ้นกว่าเดิม คำเรียกขาน คำเว้าวอน ความสนิทสนมแปลกประหลาด รวมถึงชื่อที่เขาย้ำกับเธอไม่หยุด ทั้งหมดมันเหมือนหลุดมาจากความฝันของใครสักคนราวกับไม่ใช่ความจริง
เธอไม่ได้ชื่อเรนเดียร์ เธอไม่รู้จักผู้ชายตรงหน้าที่เรียกตัวเองว่า พี่ไรเฟิล และเธอ...ก็ไม่ใช่ เรนเดียร์หรือซานตาคลอส หรือม้าโพนี่อะไรทั้งนั้น
หญิงสาวขยับมือหลบจากการสัมผัสนั้นช้าๆ ดวงตานิ่งสงบในแบบที่ทำให้หัวใจของอีกฝ่ายเจ็บจี๊ดอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ฉันจำไม่ได้จริงๆค่ะ”
เพียงคำพูดสั้นๆประโยคนั้น...กลับราวกับระเบิดลูกใหญ่ที่ปาใส่ใจกลางห้องผู้ป่วย
หมอหนุ่มชะงักงันไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนสีหน้าที่เคยเปื้อนรอยยิ้มจะถูกแทนที่ด้วยความตระหนกขั้นรุนแรง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ ทั้งร่างที่เคยดูสุขุมเยือกเย็นถึงกับขยับตัวถอยออกเล็กน้อยราวไม่แน่ใจว่าควรทำอะไรต่อไป
“เรนเดียร์…เธอหมายความว่าไง? จำพี่ไม่ได้เลยเหรอ?” เขาถามย้ำด้วยเสียงแหบพร่า แม้ใจจะหวังคำตอบที่ต่างออกไป แต่เธอกลับส่ายหน้าช้าๆอย่างอ่อนแรง
เท่านั้น…ทั้งห้องก็แทบจะแตกตื่นขึ้นในทันที
เสียงฝีเท้าดังขึ้นรัวๆจากด้านนอก กลุ่มพยาบาลและเจ้าหน้าที่ประจำวอร์ดกรูกันเข้ามา พร้อมเสียงเรียกชื่อหมออีกคนที่เธอได้ยินแว่วๆ ผ่านม่านหูมัวซัว หญิงสาวถูกจับเข้าเครื่องมือทางการแพทย์มากมาย กว่าจะเสร็จสิ้นก็เล่นเอานานพอสมควรเหมือนกัน ก่อนที่หมอไรเฟิลจะแจ้งกับเธอด้วยสีหน้ากังวลเต็มขั้นว่า เธอน่าจะความจำเสื่อม