ฉันมาเรียนด้วยหัวใจที่ลิงโลด มันมีความหวังว่าวันนี้เราจะได้เจอกันและคงไม่ถูกเมินอีกแล้วละ มีวิชาที่เรียนด้วยกัน...แต่เรายังนั่งกันคนละมุมห้อง ฟาร์มนั่งด้านหลังแบบที่ฉันก็ไม่กล้าหันกลับไปมองระหว่างเรียน
“โอเคครับ วันนี้เอาไว้แค่นี้” พอสิ้นเสียงนั้นของอาจาร์เท่านั้นแหละก็รีบหันหลังไปมองแถวหลังสุดติดประตูทางเข้า ทันเห็นตอนที่ร่างสูงลุกขึ้นพร้อมเพื่อนๆ ของเขา ฟาร์มต้องเห็นฉันแหละ เล่นจ้องเขาขนาดนี้...แต่ว่า...เออ รู้ว่ายิ้มยากแต่ช่วยทำอะไรสักอย่างให้รู้ว่ามองเห็นฉันเหมือนกันก็ไม่ได้เหรอ
“มองอะไรอะใบชา อย่าบอกนะว่ามองฟาร์มของฉันอยู่เหมือนกัน” นิดหน่อยเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่ชอบทำเหมือนชอบฟาร์มนักหนาสะกิด...คำถามนั้นทำให้ฉันตกใจจริงๆ
“แน่ะ มีตกใจ แหม ซุ่มนะเธอ อร เรามีคู่แข่งอีกคนแล้วละ” นิดหน่อยแซวฉัน อรก็ทำเป็นหันมาค้อนใส่
“ชอบทีหลังก็ต้องต่อคิวย่ะ”
“โอ๊ย พวกแกไม่ต้องกลัวใบชามันจะไปแย่งฟาร์มกับพวกแกหรอก นู่น คนของมันเดินมานู่นแล้ว” มิ้งเบรกทั้งสองคน แล้วก็พยักพเยิดให้ฉันมองตาม พีร์ยิ้มแป้นมาแต่ไกล
“พีร์ ตกลงแกจีบใบชาจริงดิ” อรรีบทักอีกฝ่ายทันที พีร์ก็ยิ้มๆ ส่ายหน้าด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“ยังไม่ได้จีบสักหน่อย”
“แล้วตกลงจะจีบไหม”
“ขอประเมินสถานการณ์ก่อน กลัวแห้ว”
“โห ป๊อด” อรทำหน้าเซ็งๆ
“ว่าฉัน ทีแกน่ะ ไม่เห็นจะเดินไปจีบไอ้ฟาร์มเลย” พอพีร์พูดถึงฟาร์มก็เพิ่งนึกได้รีบหันกลับไปมองด้านหลังอีกที...ใจหายขึ้นมาชั่ววูบเมื่อไม่เห็นกลุ่มฟาร์มอยู่ตรงนั้น
“ฉันยังตัดสินใจไม่ได้นี่ว่าจะจีบฟาร์มหรือกัปตันดี พี่นนท์อีก โอ๊ย คนสวยเครียด”
ฉันไม่ได้ฟังเลยว่าเพื่อนๆ แซวอะไรกันอีก จับใจความสำคัญไม่ได้ ความรู้สึกนึกคิดยังติดอยู่กับคนที่หายไปตอนไหนก็ไม่รู้...ไม่บอกฉันสักคำ เราเพิ่งกินมาม่าด้วยกันที่ห้องเอง หรือฉันแค่ฝันไป
มันก็กลายเป็นว่าฉันกับฟาร์มยังไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์จนข้ามมาถึงวันศุกร์ของอีกสัปดาห์ มีกิจกรรมรับน้องในช่วงเย็น พี่ๆ ให้นั่งเป็นแถวสองแถว หันหน้าเข้าหากัน โดยสลับหมุนเวียนไปเรื่อยๆ เป็นการละลายพฤติกรรม จนสุดท้ายฉันก็ได้นั่งตรงข้ามกับกลุ่มฟาร์ม
เขามองฉันนั่นแหละ แบบที่พอให้รับรู้ได้ว่านั่นเป็นการทักทาย แต่ฉันที่งอนเขามาทั้งสัปดาห์ก็ยังงอนอยู่ แม้จะนึกภาพไม่ออกว่าถ้าฟาร์มจะทักฉันเป็นคำพูดเขาจะทักแบบไหน...ไม่เคยทักมาแต่ไหนแต่ไร เจอหน้ากัน มองหน้า แล้วก็ให้รู้เองว่าควรทำอะไรในสถานการณ์นั้น
“ใบชา เราเอสนะ จำได้ไหม” เพื่อนที่นั่งข้างๆ ฟาร์มทักฉัน สีหน้าแววตาดูเป็นคนขี้เล่น
“ออ จำได้” จริงๆ จำไม่ได้หรอก แม้เอกดนตรีสากลกับเอกร้องรวมกันจะไม่ได้เยอะมาก แต่ฉันก็ไม่ใช่คนจำเก่งอะไรมากมาย
“เราขอไลน์ได้ไหม”
“ฮู้ย” พอเอสถามแบบนั้นทั้งเพื่อนฉันเพื่อนเขาก็แซวกัน
“แรง ไอ้พีร์มันยังไม่เคยขอไลน์ใบชาเลย”
“เรื่องของมันสิ ของแบบนี้ใครไวกว่าชนะ” เอสพูดอารมณ์ดี แล้วก็ยิ้มแป้นให้ฉันเหมือนรอฉันให้ไลน์
“เราไม่ค่อยเล่นไลน์นะ เอาไว้แค่อ่านงานกลุ่มต่างๆ เท่านั้น แบบปิดการสื่อสารไว้ตลอด ว่างๆ ถึงเปิดอ่านข้อความ” พอฉันตอบแบบนั้นทั้งเพื่อนฉันเพื่อนเขาก็พากันขำ
“แบบนี้เรียกว่าการปฏิเสธนะเอส” มิ้งทำเป็นพูดเยาะเย้ย เอสทำหน้าเซ็งๆ
“โอเค งั้นแอดเฟรนด์ไปรับด้วยได้ไหม” ยังไม่ยอมแพ้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแอดต่อหน้าเลย
“อืม” ก็ต้องจำใจตอบรับ ซึ่งฉันเป็นคนรับเพื่อนง่ายๆ อยู่แล้ว เพื่อนๆ กันก็รับแอดไว้หมด แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกับใครหรอก
“เออ แอดเฟรนด์ไป เพื่อนๆ กัน เนี่ยกูก็เป็นเพื่อนใบชาแล้ว” เกมที่นั่งข้างๆ เอสตบไหล่ให้กำลังใจเพื่อน
“เนอะ เพื่อนๆ กัน แอดเฟรนด์ไม่แปลก งั้นเราขอแอดฟาร์มกับกัปตันบ้าง” อรก็หยิบโทรศัพท์มาแอดเฟรนด์ฟาร์มและเพื่อนๆ รวมถึง นิดหน่อยกับมิ้งด้วย...จริงๆ พี่ๆ ก็ให้แอดเฟรนด์เพื่อนๆ เอกอื่นอยู่แล้วในกิจกรรมนี้ แต่ก็ถือโอกาสได้แซวกันนิดหน่อย
“ฟาร์มกับใบชายังไม่แอดกันเหรอ” ก็นั่งแอดกันเป็นกลุ่ม กัปตันก็เลยน่าจะถามขึ้นมาเฉยๆ เพราะฉันกับเขาก็ไม่คุยกันเหมือนเพื่อนคนอื่นจริงๆ นั่นแหละ
“เขาเป็นเพื่อนกันแล้วเว้ย เนี่ยมีเพื่อนร่วมกัน” ต้นกล้าเป็นคนตอบแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ให้กัปตันดู
“อ้าว มึงไปแอดกันตอนไหน” เอสทำเป็นหันไปโวยฟาร์ม
“เขาจะแอดกันมาก่อนมันผิดปกติเหรอ ฉันกับแกยังเป็นเพื่อนกันนานแล้ว” มิ้งถามอย่างกวนๆ
“แปลกเว้ย ฟาร์มมันไม่แอดเฟรนด์หรือรับแอดใครไปทั่วนะ ถ้าพวกแกไม่มานั่งกดดันให้มันกดรับมันก็ไม่กดหรอก” พอเอสตอบแบบนั้นนิดหน่อยกับอรก็มองแรง
“เขาอาจจะอยากรับแอดใบชาก็ได้” แต่มิ้งยังอารณ์ดี แซวต่อ เอสเลยหันไปโวยวายฟาร์ม
“มึงมันซุ่มนี่หว่า กูบอกแล้วว่าชอบใบชา ไม่เห็นมึงว่าอะไร จะชอบแข่งกูให้กูรู้ตัวสักหน่อยไม่ได้ เพื่อนกันทำกันได้ลงคอ แค่นี้ศัตรูหัวใจกูก็เยอะเป็นโหลแล้ว” เอสทำเป็นบ่นแบบเซ็งๆ แบบไม่รู้ว่าเขาจริงจังแค่ไหน
“เอาน่า เขาแค่แอดเฟรนด์กันเว้ย คิดไปเรื่อย” กัปตันตบไหล่ให้กำลังใจเพื่อน แต่ถึงจะบอกแบบนั้นเพื่อนๆ ก็ดูอยากรู้ว่าฟาร์มยังไงกับฉัน ไปแอดเฟรนด์กันตอนไหน แต่ฟาร์มก็ทำหน้าเบื่อโลกไปตามนิสัย... ส่วนฉันก็ได้แค่ยิ้ม
เฮ้อ ก็ลุ้นให้เขาบอกอยู่นะว่าเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว หรือไม่อยากให้คนอื่นรู้เหรอ เป็นเพื่อนกับฉันมันทำไมกัน
“น้องๆ คะ วันนี้พี่มีอีกกิจกรรมที่สำคัญคือการเลือกตัวแทนเฟรชชี่ของคณะเรา จริงๆ พวกพี่ก็แอบมองจากการทำกิจกรรมร่วมกันมาสักพักแล้วเนอะ แต่อยากให้น้องๆ ได้มีส่วนร่วมด้วย” หลังจากละลายพฤติกรรมกันพอหอมปากหอมคอพี่ๆ ก็ให้นั่งรวมกันเป็นกลุ่ม ทั้งคณะศิลปกรรมจริงๆ คนเยอะพอสมควร แต่ตอนนี้กลุ่มของฉันก็นั่งด้วยกันกับกลุ่มฟาร์มนั่นแหละ
เพื่อนๆ แย่งกันเสนอชื่อ คณะศิลปกรรมศาสตร์นี่รวมคนเด็กกิจกรรมอยู่แล้ว
“ฟาร์มค่ะ” แล้วก็มีเสียงเสนอมาแต่ไกลๆ
“ฟาร์มไหนคะ” พี่ๆ ก็ตามหา กัปตันรีบจับแขนฟาร์มยกขึ้น เห็นเขาหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ
“โอเคค่ะน้องฟาร์ม เชิญข้างหน้าเลย”
“มึงเสนอใบชานิ” กัปตันสะกิดเอส
“ไม่ๆ เงียบไว้ กูหวง” ทางเอสก็ยังเล่นบทจีบฉันได้สมจริง ขณะที่ฟาร์มก็อิดออดได้ไม่นาน ก่อนจะลุกไปด้านหน้า