ตอนที่ ๖
ว่าที่สามีสายเปย์
เด็กสาวไม่ได้หันมองไปตามสายตาของมิเกลต่างจากซาร่าที่หันมองไปสุดสายตา บรรจบกับสายตาของชายหนุ่มที่หันมองมาแต่เขากลับจ้องมองใครอีกคนที่กำลังยืนตัดสินใจว่าจะเอารองเท้าคู่ไหน
วาดิมจ้องมองลิเลียนโดยไม่สนใจเสียงพูดหวานหูของหญิงสาวอีกคน จนกระทั่งได้รับการสะกิดเข้าที่ลำแขนหน้าอกอวบอิ่มถูกเบียดเสียดรับรู้ได้ถึงความใหญ่โตของหญิงสาวข้างกาย
“คุณมองอะไรคะ” ลูกสาวเจ้าของโรงแรมชื่อดังเอ่ยถาม แล้วมองตามสายตาของชายหนุ่ม “นั่นเด็กที่เดินชนกับฉันไม่ใช่เหรอ คุณรู้จักเหรอคะ”
“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนหันมองมาทางเธอแล้วขยับออกห่าง “วันนี้ผมมีเวลาไม่มาก” วาดิมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา ก่อนเดินไปที่พนักงานบอกว่าตนเองจะขอเหมาสินค้าในร้าน
“ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหมคะ?” เธอเดินยิ้มเข้ามาหาเขาไม่คิดว่าวาดิมจะทำอะไรเพื่อเธอมากขนาดนี้
“ใช่ คุณฟังไม่ผิด” เขาหันมาพูดกับเธอ “ทั้งหมดให้เธอคนนั้น” เขาหันมองไปทางลิเลียนที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อน ๆ
“อะไรนะคะ!!” ใบหน้าสวยของหญิงสาวอีกคนดูไม่พอใจ แต่ก็ยังเก็บอาการระบายยิ้มออกมา เธออยากรู้นักว่าเด็กสาวคนนั้นมีความสัมพันธ์กับวาดิมเช่นไร
“ไปเถอะ” เขาหันมองมาทางเธออีกครั้ง “วันนี้ผมทำให้คุณเสียเวลา”
ชายชุดดำที่ทำหน้าที่เป็นการ์ดคอยรักษาความปลอดภัยให้วาดิมเดินออกมาจากมุมหนึ่งของห้างสรรพสินค้า แน่นอนว่าเขาไม่เคยทำให้ใครเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
“หมายความว่าคุณจะทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่แล้วกลับเหรอคะ”
“นี่คือของขวัญจากนายครับ” การ์ดใบหน้าเข้มเดินเข้ามาส่งถุงใบใหญ่หลายใบ
“คุณมันผู้ชายเฮงซวย!!” เธอมองถุงหลายใบก่อนหยิบแล้วเดินจากไป
วาดิมไม่ได้สนใจคำพูดที่ลอยมาตามหลังวันนี้เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากพอแล้ว อย่างน้อย ๆ เขาก็ไม่ติดค้างเรื่องใดกับเธออีก มีแต่เธอที่ได้กำไรและเขาก็ขาดทุนในวันนี้
“เรือเทียบท่าเมื่อสิบห้านาทีครับ” เสียงของบรูโน่ดังขึ้นเมื่อเขาเดินขึ้นมานั่งบนรถยนต์ “ตารางงานวันนี้ ตอนเย็นมีร่วมงานเลี้ยง”
“อืม”
ครืด ครืด เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น บรูโน่หันมองหน้าจอไอแพดของวาดิมอย่างรวดเร็ว เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน
“นายใช้บัตรเครดิตส่วนตัว ซื้อของมากขนาดนี้เลยเหรอครับ”
“ยุ่งอะไรกับเงินกู” เขาตอบปัดก่อนยกไอแพดออกจากสายตาของลูกน้องคนสนิท ยอดเงินแค่นี้ไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วงสักเส้น
“เปล่าครับ ผมแค่กลัวว่าบัญชีโดนแฮกเกอร์หรือเปล่าเงินถึงได้ออกบัญชีรัวขนาดนี้ ถ้านายใช้เงินเองผมก็หายห่วงครับ” บรูโน่พูดความสงสัยของตนเอง ทุกวันนี้มิจฉาชีพมักมาในหลายรูปแบบ ต่อให้รักษาความปลอดภัยมากแค่ไหนก็ยังคงมีคนที่คอยหาช่องว่างทำลายความปลอดภัยนั้น
“ของรอบนี้ได้ครบหรือเปล่า” วาดิมเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรวดเร็ว
“เรียบร้อยดีครับ ฟังจากคนที่ส่งมอบของบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรครับ มีการติดต่อจากทางฝั่งใต้ครับ อยากสั่งของเพิ่มครับ”
“ช่วงนี้เร่งไม่ได้” เขาวางไอแพดลงบนหน้าตัก “งานล็อตนี้จบพักไปอีกสามเดือน ใครอยากได้ก็ต้องรอ รอไม่ได้ก็ให้มันไปหาที่อื่น”
“ของล๊อตนี้สั่งมากกว่าปกตินะครับ นายจะปล่อยไปเลยจะดีเหรอครับ” บรูโน่ไม่อยากเสียกำไรมหาศาลจากสินค้าสั่งซื้อล็อตนี้ ถึงแม้สินค้าที่ผลิตออกมาจะไม่พอขายและได้กำไรมากกว่าทุกครั้งก็ตามที
“มึงเห็นข่าวฝั่งใต้ไหม?” เขาเริ่มตั้งคำถามกับลูกน้องคนสนิท
“ข่าว? อ๋อ ครับ” เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนใต้กำลังมีการปะทะกันเกิดขึ้น “นี่เป็นโอกาสไม่ใช่เหรอครับ”
“โอกาสที่มาพร้อมกับความโชคร้าย กูไม่ขาย” วาดิมตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังในตอนท้าย “ยิ่งมีสงคราม เรายิ่งควรระวังตัวให้มาก ของขายดีมันคือกำไรของเรา แต่ถ้าต้องเสียมากกว่าเงินที่ได้มา มันไม่คุ้ม”
“ครับ” บรูโน่เข้าใจในสิ่งที่วาดิมกล่าว ยิ่งมีสงครามการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ภาครัฐยิ่งเคร่งครัดมากยิ่งขึ้น
ต่อให้มีเส้นสายแค่ไหนเรื่องแบบนี้ก็ควรเว้นเอาไว้สักช่วงเพื่อให้สถานการณ์มันคลี่คลาย การค้าขายอาวุธของเขามีชื่อเสียงโด่งดังในหมวดกลุ่มคนสีเทา แต่ใช่ว่าเขาจะรับผลิตของให้กับใครก็ได้ มีเพียงลูกค้าวีไอพีเท่านั้นที่เขาจะรับจ้างทำของให้
“วันนี้นายจะเดินดูของที่โกดังถึงกี่โมงครับ ผมต้องไปพบลูกค้าที่โรงแรมใกล้ ๆ ครับ ถ้าผมมาไม่ทันจะได้ให้คนเอารถยนต์อีกคันมารอรับครับ”
“อีกสองชั่วโมง” ชายหนุ่มมองนาฬิกาข้อมือของตนเองอีกครั้ง ก่อนเดินลงจากรถเข้ามาในโกดังใหญ่ ที่เป็นพื้นที่บนภูเขาภูมิทัศน์ที่คนภายนอกไม่สามารถเข้ามาได้โดยง่าย
“ยิ้มหน่อยสิ” มิเกลเอ่ยกับลิเลียนที่กำลังทำหน้าบึ้งมองสิ่งของที่พนักงานกำลังเตรียมใส่ถุง “ไม่ดีเหรอสามีในอนาคตเปย์ให้ถึงที่เลยนะ”
“ฉันแอบไปเห็นตอนออกไปเข้าห้องน้ำ” ซาร่าที่นั่งข้างหันมองมาทางลิเลียน “ผู้หญิงคนนั้นดูไม่พอใจที่สามีในอนาคตของแกเปย์ของให้แก แทนที่จะเป็นนาง”
“เป็นฉันก็ไม่พอใจ มาด้วยกันกลับซื้อของเปย์ผู้หญิงคนอื่น” มิเกลตอบกลับ
“ฉันจะเอาของพวกนี้ไปคืนเขา” ลิเลียนไม่อยากรับสิ่งของเหล่านี้ ยิ่งมองเห็นวาดิมควงแขนมากับผู้หญิงคนอื่นเธอยิ่งไม่พอใจ ของเหล่านี้เขาอยากให้เธอเพื่อขอโทษหรือปลอบใจ
“คืนจริงเหรอ เสียดายเอาให้ฉันเถอะ” มิเกลส่งสายตาออดอ้อนถึงฐานะทางบ้านจะรวยแต่การได้ของแบรนด์เนมมากมายขนาดนี้ ใครจะไม่เสียดาย
“อย่าตะกละ” ซาร่ากล่าว “เอาไปคืนเขาเถอะ รับไว้ก็ไม่สบายใจสู้เอาไปคืนดีกว่า ให้พวกฉันช่วยไหม”
“ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจัดการเอง เอานี่ฉันให้” ลิเลียนหยิบของที่ซื้อมาด้วยตัวเองส่งให้กับซาร่าและมิเกล “รับไปสิ นาน ๆ ทีจะได้ของจากฉันนะ”
“ก็ใช่” ซาร่ารีบหยิบของไปจากมือเธอ “ใช้ได้เลยนะ” พอมองเห็นรองเท้าที่ตัวเองหมายตาเอาไว้ทั้งสองสาวถึงกลับยิ้มออกมา
“สวย ฉันเล็งคู่นี้อยู่รู้ได้ไง” มิเกลเอ่ยแล้วยิ้ม “รอขอขวัญจากฉันก่อนนะ เดือนหน้าก็งานวันเกิดแก อดใจรอหน่อยฉันกำลังหาของขวัญที่เหมาะกับแกอยู่”
“ไม่ต้องเอาอะไรมา ขอแค่ใจมาก็พอ” ลิเลียนพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนหันมองไปทางข้าวของที่วางอยู่ตรงหน้าพนักงาน “ขอโทษนะคะ”
“มีอะไรให้รับใช้ค่ะ” พนักงานสาวยิ้มกว้าง
“ขอคืนของทุกอย่างได้ไหมคะ เดี๋ยวฉันจ่ายค่าเสียเวลาให้ค่ะ” ลิเลียนยิ้ม พนักงานสาวอีกสองคนมองหน้ากันไปมา “ฉันขอคุยกับผู้จัดการร้านหน่อยได้ไหมคะ”
“สักครู่นะคะ” พนักงานสาวเดินเข้าไปด้านในก่อนที่หญิงสาววัยกลางคนจะเดินออกมาแล้วพูดคุยกับลิเลียนอยู่ไม่นาน
สิ่งของที่ถูกวาดิมซื้อให้ถูกส่งคืนทุกชิ้น เด็กสาวกำบัตรเครดิตสีดำเอาไว้ในมือซึ่งเธอตัดสินใจจะส่งคืนบัตรเครดิตนี่แก่เจ้าของ ไม่ใช่แค่อยากส่งคืนเธออยากพูดคุยกับวาดิมให้รู้เรื่อง
“ฉันแยกกับพวกเธอตรงนี้เลยนะ” ลิเลียนเดินออกมายืนรอรถยนต์ด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าเมื่อเห็นรถยนต์ของตัวเองขับมาจอดจึงกล่าวขึ้น
“แน่ใจนะว่าจะไปหาเขาคนเดียว จะไม่เป็นอะไรแน่เหรอ” ซาร่าเป็นห่วงเพราะมองเห็นวาดิมที่ดูน่ากลัวเขามีผู้ติดตามหลายคน แน่นอนว่าคงไม่ใช่ผู้ชายที่ร่ำรวยเพียงเท่านั้น
“ใช่ ให้พวกเราไปเป็นเพื่อนไหม” มิเกลก็เป็นห่วงเช่นเดียวกัน
“ไม่เป็นไรพวกแกกลับเถอะ ฉันไปคนเดียวได้” เธอยิ้มเล็กน้อย “แล้วจะโทรหานะ” เธอเดินขึ้นมาบนรถยนต์ที่จอดสนิท ก่อนบอกจุดหมายปลายทางให้แวนด้าทราบ
“ตอนนี้คุณวาดิมอยู่ที่ชานเมืองค่ะ แต่ช่วงเย็นจะไปงานเลี้ยง คุณหนูไปเจอคุณวาดิมที่งานเลี้ยงดีไหมคะ กว่าจะเดินทางไปที่ชานเมืองคงได้สวนทางกันค่ะ”
“ค่ะ”