Chapter I ฆาตกรในเงามืด...[1]
Chapter I ฆาตกรในเงามืด
“กรี๊ดดดดดดดดดด!! อย่าเข้ามานะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือๆๆ”
เสียงกรีดร้องโหยหวนเชิงเจ็บปวดดังก้องทั่วผืนป่า ต้นไม้ใบหญ้าพลิ้วไหวตามแรงลม ภูเขาสูงตั้งตระหง่านต้านแรงลมอย่างไม่ไหวติง หญิงสาวหุ่นเพรียวสวย นั่งทรุดกับพื้นหญ้าแห้ง ข้างโขดหินใหญ่ ชุดเดรสสีขาวสวยด่างดำจากการล้มลุกคลุกคลานกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง ผิวขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและคราบเลือดสีแดงคล้ำแห้งเกรอะกรังบนเนื้อตัวบ่งบอกถึงความยากลำบากในการเอาชีวิตรอดที่กินเวลามานานพอสมควร สองมืองามพนมก้มหน้าก้มตา ปากก็พร่ำขอชีวิตร่ำไป แก้มใสเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาที่ยังคงไหลลงมาไม่ขาดสาย ดวงตากลมสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
ความเงียบของผืนป่าใหญ่ประกอบกับความมืดมิดของท้องฟ้าในยามค่ำคืนเป็นเหมือนเครื่องกระตุ้นจิตใต้สำนึกจุดประกายความหวาดกลัวให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ความรู้สึกสิ้นหวังเกาะกุมทั่วหัวใจดวงเล็ก แม้นเพียงคำอธิฐานขอให้มีชีวิตต่อไปได้อีกเพียงสักวันก็ไม่อาจส่งไปถึงพระผู้เป็นเจ้า หญิงสาวร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ชีวิตของเธอต้องมาจบลงแบบนี้งั้นเหรอ? ฟ้าช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ทำไมถึงต้องเป็นเธอ?
“ฮือๆๆ ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะนะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฮึก..ฮือ”เสียงอู้อี้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ร้องขอชีวิตด้วยความหวังว่าเขาจะเห็นใจและยอมปล่อยเธอไป
“ฮื่อ..ฮือ..ฮื้อ..ฮื้อ..ฮื่อ..ฮื่อ ..ฮื้อ..ฮื้อ..”เสียงฮัมเพลงเบาๆดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ร่างบางสั่นระริกก้มหน้าก้มตาไม่กล้าแม้แต่จะจ้องมองใบหน้าเปื้อนยิ้มภายใต้หมวกแก๊ปสีดำสนิทที่ถูกใส่ไว้เพื่อปิดบังใบหน้า ชายหนุ่มเจ้าของเสียงฮัมเพลงสวมถุงมือหนังสีดำค่อยๆเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ แล้วนั่งลงข้างๆเธอ
“ฮือๆๆๆๆ อย่าทำอะไรฉันเลย”หญิงสาวร้องขอชีวิตตัวสั่นเทาราวกับลูกนกเกิดใหม่ยังไม่แข็งแรง
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกสัมผัสเย็นยะเยือกจากมือหนาบริเวณไหล่บอบบางที่โพล่พ้นเดรสแขนสั้นกุดตัวสวยออกมา มือหนากดบ่าร่างบางจนเลือดซิบอย่างไร้ความปราณี
ชายหนุ่มก้มลงไปมองหน้าเธอชัดๆ ก่อนจะยิ้มบางๆให้เธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือหนาข้างที่ว่างอยู่เชยคางสวยให้หันมาสบตาเขา
“ชู่...”ปากหนาห่อเข้าหากันพร้อมกับวางนิ้วชี้ลงบนริมฝีปากบาง เหมือนดั่งคำสั่งจากพระเจ้า ร่างบางกลั้นเสียงสะอื้นไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ความกลัวถาโถมเข้าเกาะกุมจิตใจอย่างมหาศาล
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนให้เธออีกครั้ง มือหนาที่เคยปิดปากเธอค่อยๆเลื่อนขึ้นไปหยิบเส้นผมที่บังหน้าสวยออกแล้วลูบหัวเธอเบาๆ ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเยาะแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว
ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะกระชากผมร่างบางเต็มแรง
“โอ๊ย!! ฮือๆๆ”สองมือบางจับมือหนาที่กระชากผมเธออย่างไร้ความปราณีไว้แน่น ความเจ็บปวดที่ราวกับหนังศีรษะจะหลุดออกมาได้นั้นทำให้ร่างบางกรีดร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้
แกรกๆ!!
เสียงการเสียดสีกันของผิวหนังที่เต็มไปด้วยรอยช้ำของหญิงสาวกับผืนดินที่เต็มไปด้วยเศษซากของหิน ดินและกิ่งไม้ใบไม้แห้ง เมื่อชายหนุ่มออกแรงกระชากลากตัวหญิงสาวไปยังใต้ต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากใกล้ๆโขดหินนั้น ก่อนจะโยนร่างบางเข้ากระแทกกับต้นไม้อย่างจัง
ตุบ!!
ร่างบางล้มลงพื้นเสียงดัง จุก! จนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลยสักคำ ทำได้เพียงนอนร่ำไห้อย่างเดียวดาย
ชายหนุ่มนั่งลงข้างหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนจะใช้มือลูบไล้เรือนร่างเธอแผ่วเบา แววตาหื่นกระหายราวกับสัตว์ป่าอยากอาหาร
แควก!!
เดรสสวยขาดวิ่นด้วยแรงกระชากจากมือหนา เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบ เอวคอดกิ่วอย่างคนดูแลตัวเอง ผิวขาวนวลเนียนถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเขียวเข้มอมม่วงเล็กน้อยจากรอยฟกช้ำและสีแดงของเลือดจากร่องรอยถูกกิ่งไม้เกี่ยว สวยงามราวกับภาพศิลปะอันงดงามของจอร์โจเน*
“ฮึกๆ...ฮือ.. ปล่อย..ฉันไป..เถอะนะ”ร่างบางนอนหืดหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ก็ยังไม่วายร้องขอชีวิต แม้นจะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้
“หึหึ”เสียงหัวเราะเบาๆ ที่ฟังดูเหมือนกำลังสนุกกับการมองดูร่างบางร้องขอชีวิตตัวสั่นยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งขึ้น เรี่ยวแรงที่เคยมีถูกพรากไปจนหมดยิ่งทำให้เธอไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย
เศษชิ้นส่วนที่ได้จากการฉีกกระชากเดรสตัวสวย ถูกนำมาใช้สำหรับพันธนาการข้อมือทั้งสองข้างของร่างบางไว้ราวกับว่าเธอจะสามารถทำร้ายเขาได้หากไม่พันธนาการเธอเอาไว้
“ฮึกฮืออออออออออ”ร่างบางร่ำไห้หนักขึ้นเมื่อตาคู่สวยมองไปเห็นแสงวาววับสีเงินจากมีดที่ชายหนุ่มดึงออกมาจากด้านหลัง นี่เธอคงไม่รอดแล้วจริงๆสินะ
ชายหนุ่มใช้เรียวลิ้นลากผ่านใบมีดเบาๆ พร้อมทั้งจ้องมองหญิงสาวไม่วางตา ก่อนจะลากไล้ปลายมีดคมผ่านลำคอระหงเรื่อยลงมาตามเนินอก ก่อนจะหยุดที่หน้าท้องแบนราบ แล้วบรรจงกรีดปลายแหลมคมลงบนผิวสวย
เขานั่งมอง XX สัญลักษณ์ที่เป็นเหมือนดั่งตราประทับแสดงความเป็นเจ้าของที่ถูกแต่งแต้มไว้บนร่างเล็กโดยฝีมือของเขา ชายหนุ่มมองอย่างพอใจ ก่อนจะเลียมีดที่เต็มไปด้วยเลือดอีกครั้งอย่างพออกพอใจ ก่อนจะเริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งตันหาลงบนเรือนร่างบาง ที่สั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด
“ฮึก..ฮึก..”ร่างบางยังคงร่ำไห้ไม่หยุด ความเจ็บปวดทรมานเหมือนดั่งตายทั้งเป็น เสียงหายใจหอบหนักขึ้นราวกับลมหายใจกำลังจะขาดหายไป
ร่างสูงดึงกระชากแพนตี้ตัวสวยที่แทบไม่เหลือเค้าโครงของความสวยทิ้งอย่างไร้ซึ่งความใส่ใจ ก่อนจะยัดท่อนไม้แห้งใหญ่ที่หยิบมาจากบริเวณนั้นเข้าไปในช่องคลอดหญิงสาวอย่างไม่มีการเตรียมความพร้อมใดๆ
“กรี๊ดดดดดด!! ร่างบางร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลรินมาเป็นสาย ราวกับส่วนนั้นถูกฉีกขาด เลือดสีแดงสดรินไหลเป็นทางยาว แม้นจะเจ็บปวดรวดกับจะขาดใจแต่แกนกลางกายสาวกลับตอดรัดสิ่งแปลกปลอมนั้นเหมือนเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
“หึหึ”ร่างสูงมองผลงานตัวเองอย่างพึงพอใจ รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งไปให้ร่างบางอีกครั้ง แต่สำหรับเธอแล้วเหมือนเป็นดั่งรอยยิ้มจากปีศาจร้าย
ชายหนุ่มชักท่อนไม้เข้าออกรุนแรง ทั้งรัวเร็วเหมือนต้องการระบายอารมณ์ของตัวเองเสียมากกว่า โดยที่ไม่สนใจร่างเล็กที่ต้องเจ็บจากการกระทำนั้นเลยสักนิด และดูเหมือนเขาจะมีความสุขมากเสียด้วย
“อึก..อือ..”ร่างบางสั่นสะท้านไม่มีอารมณ์เสียวซ่านใดๆ มีเพียงความเจ็บปวดที่ได้รับจากแรงกระแทกเข้าออกเท่านั้น หญิงสาวหอบหายใจแรงเหมือนใจจะขาด ความเจ็บปวดพุ่งพล่านไปทั่วร่างกายทั้งจากแกนกลางร่างกายและบริเวณหน้าท้องที่ชายหนุ่มสร้างรอยแผลไว้
“อือ...ฮึก..ฮือ..อือ” หญิงสาวทำได้เพียงนอนสะอื้นไห้ หอบหายใจอย่างคนต้องการออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ร่างบางสั่นคลอนตามแรงกระแทกกระทั้นจากชายหนุ่ม เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกอยากจะตายไปให้พ้นๆ ไม่อยากอยู่รับรู้อะไรทั้งนั้น
ชายหนุ่มยังคงสนุกสนานกับการทรมานร่างบางด้วยการชักเข้าออกไม่ขาดสาย และก่อนที่ร่างบางจะขาดใจตายไปซะก่อน เขาก็ดึงท่อนไม้ออก แล้วจับท่อนไม้นั้นยัดใส่ปากของเธออย่างรุนแรง
“อึกๆ” ด้วยท่อนไม้ที่ใหญ่คับปากประกอบกับช่องลมที่ถูกปิดจากการใส่ท่อนไม้เข้ามา ทำให้ออกซิเจนที่เคยถูกเติมเต็มขาดหายไป ร่างบางกระตุก ตาเบิกโพลงราวกับจะขาดใจ เพียงไม่กี่นาทีร่างบางก็หยุดนิ่งลงพร้อมๆกับลมหายใจที่ขาดหายไป ร่างบางกึ่งเปลือยนอนแน่นิ่งบนพื้นดิน เนื้อตัวมอมแมม สองมือเกร็งแน่น ดวงตาเบิกโพลงราวกับยังมีเรื่องค้างคาใจที่ยังไม่สามารถทำได้หลงเหลืออยู่ ท่อนไม้ใหญ่โผล่พ้นปากเล็กออกมาเหมือนดั่งกับว่าถ้ารดน้ำมันอาจจะเติบโตขึ้นไปได้อีก ภาพชวนสยดสยองนั้นสำหรับคนธรรมดาอาจจะไม่มีใครกล้ามองเลยด้วยซ้ำไป
ร่างสูงนั่งมองอย่างใจเย็น ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วจัดการทำความสะอาดมือหญิงสาวด้วยน้ำมันก๊าดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่หลงเหลือหลักฐานให้สาวมาถึงตัวเขาได้ และไม่ลืมจัดท่าทางการนอนของเธอใหม่ให้อยู่ในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่ง ขาสองข้างหุบเข้าหากัน เขายืนมองพิจารณาภาพหญิงสาวที่ถูกจัดอย่างลงตัวกับธรรมชาติทั้งต้นไม้ด้านหลังเธอ และต้นไม้เล็กๆข้างๆเธอ เขามองความสวยงามของศิลปะตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเดินหายไปในความมืดมิด