ตอนที่ 1
ณ. บ้าน ธนาภัทรโชติ
เสียงดังโวยวายออกมาจากในบ้านจนคนรับใช้แอบมองกันสลอนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายทั้งหลายที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกถึงได้เสียงดังขนาดนี้
“ไม่ครับแม่ ผมไม่ยอมครับยังไงก็ไม่ยอม” เด็กหนุ่มตะโกนใส่แม่ของเขาเสียงดังเมื่อฟังท่านพูดจบ
“ไม่ได้เพราะแม่สัญญากับป้าตีไว้ตั้งแต่น้องติชายังไม่เกิดแล้วยังไงโดมต้องแต่งงานกับน้อง” ฝ่ายแม่ก็ไม่ยอมเพราะได้สัญญากับเพื่อนไว้แล้วลูกๆของพวกเธอจะต้องแต่งงานกันเมื่อถึงเวลา
“แม่ครับ น้องติชายังเด็กอยู่นะครับ อ่อนกว่าผมเกือบสิบปีนะครับ” เด็กหนุ่มโต้แย้งเพราะคนที่แม่บอกว่าเป็นคู่หมั้นและจะแต่งงานกันอายุกน้อยกว่าเขาเกือบสิบปี
“ไม่รู้แหละ หากลูกรักแม่และอยากจะไปเรียนต่อแม่ไม่ว่าแต่ห้ามมีแฟนเพราะแม่จะไม่ยอมรับแล้วจำไว้ขึ้นใจว่าลูกจะต้องไม่มีแฟนจำไว้ด้วย” ฝ่ายแม่ยืนยันเสียงแข็งว่ายังไงลูกชายต้องแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนของเธอเท่านั้น
“คุณตา ช่วยผมด้วยสิครับ” วโรโดม ธนาภัทรโชติ หรือ โดม เด็กหนุ่มวัย18ปีหน้าตาคมเข้มหล่อเหลาผิวออกสีแทนเล็กน้อยเถียงกับแม่ของเขาเสียงดังก่อนหันมาขอร้องคุณตาให้ช่วยพูดกับแม่
“เรื่องนี้ตาไม่เกี่ยวนะตาโดม คงช่วยหลานไม่ได้” คุณสิงหา ธนาภัทรโชติ หรือคุณตาสิงห์บอกปัดหลานชายเพราะท่านก็สมรู้ร่วมคิดกับลูกสาว แต่ในตอนนั้นท่านพูดเล่นๆแต่ลูกสาวกลับเอาจริงท่านก็ปล่อยเลยตามเลยไม่ได้คิดว่าหลานชายจะปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนี้ทั้งๆที่รักและเอ็นดูกันติชาและสนิทสนมกันมาก
“คุณยายครับ” เด็กหนุ่มหันไปฝั่งคุณยายเมื่อพึ่งคุณตาไม่ได้
“ยายก็ไม่เกี่ยวเหมือนกันจ้ะ น้องติชาน่ารักมากนะลูกโตเป็นสาวมายายรับรองว่าสวยแน่ๆจ้ะ ดีออกหลานจะได้กินหญ้าอ่อนด้วยนะ คิกกๆ” คุณชญาภา ธนาภัทรโชติ หรือ คุณยายภา พูดกับหลานชายแล้วหัวเราะอย่างขบขันเมื่อเห็นใบหน้าของหลานชายแดงเรื่อ
“แม่คร้าบ” เด็กหนุ่มหันกลับมาหาแม่ของเขาอีกครั้ง
“แม่ยืนยันคำเดิมครับลูกรัก โดมคงไม่อยากให้ใครมาว่าแม่เป็นคนไม่มีสัจจะใช่มั้ยลูก หากแม่ผิดสัญญาแม่จะต้องเสียบริษัทให้กับป้าตีเพราะเราตกลงกันไว้ว่าหากฝ่ายไหนผิดสัญญาก่อนฝ่ายนั้นต้องยินยอมยกบริษัทให้อีกฝ่ายแล้วแม่สร้างบริษัทมากับมือโดมจะให้แม่เสียมันให้ป้าตีเหรอลูก” คุณทักษิณา ธนาภัทรโชติ หรือแม่ณา คุณแม่ยังสาวของวโรโดมที่ได้เลิกรากับ คุณวรชิต กิตติขจรศักดิ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยสามีจอมเจ้าชู้ของเธอตั้งแต่ลูกชายคนเล็กอายุได้6ขวบและลูกชายคนโตอายุได้9ขวบแต่เธอยอมให้ลูกชายคนโตคือ วทัญญู กิติขจรศักดิ์ไปอยู่กับอดีตสามีเพราะโตพอพูดรู้เรื่องแต่คุณทักษิณาและอดีตสามีก็ยังช่วยกันดูแลลูกชายทั้งสองสลับกันบางทีวโรโดมก็ไปค้างบ้านพ่อแล้ววทัญญูมาค้างบ้านแม่ลูกชายทั้งสองคนเรียนโรงเรียนเดียวกันพี่น้องก็สนิทสนมกันมาก
“งั้นแม่ก็ให้พี่ธันว์หมั้นและแต่งงานกับติชาสิครับ” จากที่เด็กหนุ่มเรียกน้องติชามาตลอดวันนี้จึงเหลือแค่ติชาเพราะไม่อยากหมั้นและแต่งงานกับน้องติชาที่เขาคิดว่าเป็นน้องสาวมาตลอดนั่นเอง
“จะเปลี่ยนได้ยังไงล่ะลูก พี่ธันว์เขาก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วเหมือนกันนี่นา” คุณทักษิณาบอกลูกชายคนเล็กที่เบิกตาโต
“ฮ้ะ อะไรนะครับแม่ นี่พี่ธันว์ก็มีคู่หมั้นเหรอครับ แล้วใครกันอ่ะพี่ธันว์หมั้นกับใครครับแม่” วโรโดมเริ่มจะปวดหัวขึ้นมาทันทีนี่พ่อแม่ของเขากลัวลูกหาเมียไม่ได้หรือไงถึงได้หาไว้ให้ตั้งแต่อยู่ในท้องเลย
“ก็พี่หทัยไงล่ะลูก”
“พี่หทัยเองเหรอครับ” วโรโดมยิ่งงเข้าไปใหญ่เพราะ หทัยภัทร์ วรบัญชร หรือพี่หทัย ลูกสาวคุณวิบูล กับคุณโฉมฉายเพื่อนของคุณวรชิตพ่อของเขาแล้วทั้งสองไม่ถูกกันนี่นาเจอกันทีไรจ้องแต่จะกัดกัน เอ่อ ทะเลาะกันทุกครั้ง
“แม่จะเผด็จการไปมั้ยครับสมัยนี้เขาไม่คลุมถุงชนกันแล้วนะครับ ผมว่ามันต้องมีทางออกแม่ลองคุยกับป้าตีสิครับเผื่อท่านจะเข้าใจ” เด็กหนุ่มยังคิดว่าแม่เขาจะยอม
“แม่จะพูดครั้งสุดท้ายนะโดม ตอนนี้แม่ฝากความหวังไว้ที่ลูกหากโดมไม่อยากหมั้นก็ไม่ต้องหมั้นแม่ยอมเสียบริษัทให้ป้าตีก็ได้แม่ให้ลูกตัดสินใจเอง” คุณทักษิณาพูดกับลูกชายแล้วเธอก็เดินออกไปจากห้องรับแขกทิ้งปัญหาหนักอึ้งไว้ให้ลูกชายวัยสิบแปดปีรับผิดชอบโดยที่คุณตากับคุณยายไม่สามรถช่วยเข้าได้ส่วนพ่อไม่ต้องพูดถึงยังเอาตัวเองไม่รอดจากแม่เลยเขาก็ไม่เข้าใจพ่อกับแม่เหมือนกันเรื่องงานเรื่องส่วนตัวนี่พูดกันไม่ได้ต้องทะเลาะกันตลอดแต่ถ้าเป็นเรื่องของลูกชายทั้งสองกลับสามัคคีกันซะงั้นเขาไม่รู้ว่าจะเลิกกันทำไมแต่ในเมื่อพ่อแม่ตัดสินใจเขาก็ไม่ยุ่งแต่เรื่องนี้เขาจะทำยังไงดีเด็กหนุ่มคิดไม่ตกแต่ยอมไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก่อน
เวลาผ่านไป9ปี
วโรโดมเรียนจบก็กลับมาช่วยงานที่บริษัทของแม่ครบหนึ่งปีเขาก็รับตำแหน่งสูงสุดในบริษัทเพราะเขาได้ฝึกงานในบริษัทผลิตภาพยนต์ยักษ์ใหญ่ที่ฝรั่งเศสจึงทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยสะสมประสบการณ์แล้วเขาก็นำมาพัฒนาบริษัทของแม่กับป้าตีให้ทันสมัยเทียบเท่าเมืองนอก แล้วได้เจอคู่หมั้นของเขาบ้างถึงแม้เธอจะสวยน่ารักยังไงแต่เขาก็จะไม่รักแต่เธอก็ทำให้ใจเขาแกว่งไปเหมือนกัน
ณ. บริษัทซิงเกิ้ลเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
วโรโดม ธนาภัทรโชติ หรือโดมวัย27ผู้บริหารหนุ่มรูปหล่อทายาทนักธุรกิจชื่อดังที่สานต่อธุรกิจของคุณทักษิณามารดาของเขาที่ลงทุนร่วมหุ้นกับคุณวีระตีเพื่อนรักเปิดบริษัทผลิตรายการทีวีเล็กๆต่อมาก็ประสบความสำเร็จมากมายทำรายได้เป็นกอบเป็นกำขยายกิจการขึ้นเรื่อยๆจนใหญ่โตมีบริษัทในเครือมากกว่าสิบบริษัทและมีจนตอนนี้ขึ้นแท่นหนึ่งในสิบทีวีช่องดังของประเทศ
วโรโดมเดินออกมาจากห้องประชุมด้วยท่าทางหัวเสียเมื่องานไม่ได้ดั่งใจเขาเป็นผู้บริหารที่สามารถตัดสินใจทุกเรื่องได้เป็นอย่างดีแต่กับไม่สามารถสั่งกันติชา เกริกสกุลหรือน้องติชาวัย21ปีลูกสาวของป้าระตีเพื่อนของคุณทักษิณาแม่ของเขาได้ร่างสูงสมาร์ทเดินหน้าตึงไปที่ห้องทำงานที่เลขาสาวสวยนั่งอยู่
“ผมไม่รับแขกนะคุณยุพา” เจ้านายสุดหล่อพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงานด้วยความหงุดหงิดและกรุ่นโกรธกันติชาเมื่อเขาขัดขวางไม่ให้เธอไปทำงานต่างจังหวัดพร้อมกับทีมงานชุดใหญ่ต้องไปถ่ายทำภาพยนต์เรื่องใหม่และต้องไปถ่ายทำหลายจังหวัดซึ่งมันไกลหูไกลตาแล้วเขาก็จะโดนแม่ว่าที่ปล่อยให้หลานสาวไปลำบากทั้งที่เจ้าตัวหาเรื่องไปเอง
“พี่ยุคะ พี่โดมอยู่ในห้องหรือเปล่าคะ” สาวน้อยกันติชาถามเลขาของพี่โดมที่โกรธเธอเดินหนีออกมาจากห้องประชุมก่อน
“อยู่ค่ะแต่สั่งไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนคะ” เลขาสาวสวยรุ่นใหญ่ตอบสาวน้อยน่ารักตรงหน้าที่เจ้านายใหญ่ฝากฝังให้ดูแลท่านหมายมั่นปั้นมือให้ทั้งสองใกล้ชิดกันเพราะได้หมั้นกันไว้ตั้งแต่เด็กรอแค่กันติชาเรียนจบทั้งสองก็จะแต่งงานกัน
“ติชาของเข้าไปหน่อยได้มั้ยคะ” สาวน้อยอยากคุยกับคู่หมั้นหนุ่มที่เธอแอบรักก่อนเพราะมันเป็นงานที่ท้าทายทำให้เธออยากสัมผัสมันด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมานั่งโต้ะสบายในห้องแอร์และไม่รู้เรื่องอะไรเธอมาฝึกงานก็อยากได้ประสบการณ์ไม่ใช่ว่าเธอเรียนจบมาจะเป็นผู้บริหารเลยเธออยากเรียนรู้งานตั้งแต่งระดับล่างขึ้นไปเพื่อจะได้เข้าใจปัญหาของพนักงานในบริษัท
“พี่คงให้น้องติชาเข้าไปไม่ได้ค่ะ เจ้านายสั่งเด็ดขาดพี่ยังไม่อยากตกงานค่ะ” ยุพาก็อยากจะให้สาวน้อยเข้าไปคุยกับเจ้านายให้รู้เรื่องแต่เธอเห็นหน้าของเจ้านายจึงไม่กล้าเสี่ยง
“แต่ติชา เฮ้อ ช่างเถอะคนเอาแต่ใจแบบนี้ติชาไม่ยุ่งก็ได” สาวน้อยพูดแล้วย่นจมูกใส่บานประตูแล้ว เดินไปที่ห้องทำงานแม่ที่อยู่คนละฟากกับห้องของป้าณาตรงกลางระหว่างห้องทำงานของผู้บริหารเป้ห้องประชุมใหญ่ห้องประชุมเล็กและห้องครัวเล็ก เด็กสาวมาฝึกงานกับเลขาของคุณวีระตี เกริกสกุล แม่ของเธอเป็นหุ้นส่วนกับคุณป้าณาแม่ของพี่โดมและให้เธอมาฝึกงานก่อนเรียนจบแต่งานที่เธอชอบก็คือออกแบบเสื้อผ้าจึงชอบไปวุ่นวายกับฝ่ายคอสตูมของบริษัทที่มีปานวาด พงษ์พิสุทธิ์หรือพี่ปานรุ่นพี่สาวคนสนิทหรือย่าระหัสที่เป็นหัวหน้าแผนกคอสตูมของบริษัท
นี่ก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้วด้วยอีกฝ่ายไม่ให้เธอเขาพบก็หมายความว่าวันนี้เธอต้องกลับบ้านคนเดียวอีกแล้วซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติที่เธอมักจะถูกพี่โดมทิ้งประจำตั้งแต่มาฝึกงานที่นี่แต่กันติชาก็ไม่ได้บอกป้านาหรือแม่ของเธอเพราะถ้าทั้งสองท่านรู้พี่โดมก็จะโดนดุแล้วเขาก็จะมาโกรธเธออีก
“เฮอะ อีกห้านาทีเองไปดีกว่าไหนๆก็ถูกทิ้งแล้วไปเดินเล่นที่ห้างดีกว่า” สาวน้อยหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงาน
“พี่หวานคะ ติชากลับก่อนนะคะ” เมื่อบอกเลขาเสร็จก็ก้าวเท้าเดินออกไป
“น้องติชาไม่รอคุณโดมก่อนเหรอคะ” หวานใจสาวสวยวัยยี่สิบเจ็ดปีเลขาของคุณวีระตีที่ดูแลลูกสาวเจ้านายถามสาวน้อยคนเก่งที่หน้างอขึ้นทันที
“ไม่ค่ะ พี่โดมคงไม่ไปส่งติชาเพราะเรื่องเมื่อกลางวันนั่นละมั้งคะ” เป็นอันรู้กันว่าวันนี้เธอต้องไปกับสาวน้อยคนนี้อีกแล้วเพราะทุกครั้งที่กันติชาถูกทิ้งหวานใจก็ตามไปด้วยทุกครั้งและส่งถึงบ้านตลอดตามคำสั่งของเจ้านาย
“งั้นรอพี่แป๊บนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ” นี่ก็อีกคนที่ไม่ปล่อยให้เธอได้ไปไหนมาไหนคนเดียวบ้างเหรอยกเว้นออกไปกับเพื่อนรักเท่านั้นที่เธอพอจะเป็นอิสระแต่ก็มีพี่ต้นหรือปองคุณ ภูมิใจภักษ์ช่างภาพมืออาชีพลูกชายป้าจิตรแม่บ้านกับลุงนำชัยคนขับรถของแม่ที่ต้องคอยรับคอยส่งเธออยู่บ่อยๆดีที่งานของเขาอิสระจึงทำให้มีเวลามารับมาส่งคุณหนูของเขาได้บ่อยถึงแม้จะมีงานเขาก็ปลีกตัวมาได้ทุกครั้งเพราะสนิทสนมคลุกคลีมาตั้งแต่เด็กกันติชาจึงรักและนับถือพี่ต้นเหมือนพี่ชายส่วนพี่ต้นก็รักเธอเหมือนน้องสาวในใส้เพราะคุณนิธิกับคุณวีระตีดูแลส่งเสียส่งเสียเขาเรียนจนจบปริญญาโทจากฝรั่งเศสพร้อมกับวโรโดมโดยที่ท่านไม่ได้บังคับให้เขามาทำงานในบริษัทแต่ทุกครั้งที่มีงานเขามักจะถูกเพื่อนรักอย่างนายโดมเรียกตัวมาช่วยตลอดจึงเหมือนเขามีงานประจำอยู่ที่ ซิงเกิ้ลเอนเตอร์เทนเม้นท์ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตภาพยนต์ละครรายการเกมโชว์มากมายออกอากาศทีวีดิจิตอลช่อง10 ของตัวเองและมีบริษัทในเครือกว่าสิบบริษัทที่ผลิผลงานออกมาให้ประชาชนได้ชมกันทั่วทั้งประเทศ
“เสร็จหรือยังคะพี่หวาน” เสียงหวานร้องถามสาวสวยที่ถือกระเป๋าคู่กายเดินมาหาเธอ
“เสร็จแล้วค่ะ จะกลับบ้านเลยหรือไปไหนก่อนคะ” ตั้งแต่กันติชามาฝึกงานด้วยกันเธอไปส่งลูกสาวเจ้านายบ่อยๆและทุกครั้งจะต้องไปเดินเล่นซื้อของหรือหาของอร่อยกินกันก่อนกลับโชคดีที่เธอยังโสดจึงไม่มีปัญหากับที่บ้านอีกอย่างเธอก็เป็นเด็กต่างจังหวัดและพักอยู่คนเดียวในคอนโดขนาดกลางอยู่เลยบ้านกันติชาไปนิดหนึ่งนี่คือสาเหตุที่เธอสามารถรับส่งสาวน้อยได้
“วันนี้เราไปช้อปปิ้งกันดีมั้ยคะ ติชาอยากได้ชุดทำงานเพิ่มคะหากออกต่างจังหวัดใส่ชุดแบบนี้คงไม่สะดวกค่ะ”
“ดีเลยค่ะ พี่ก็ไม่ได้ออกไปไหนนานแล้ว งั้นเราไปดูชุดเตรียมไปเที่ยว เอ้ย ไปทำงาน ตอจอวอ กันดีกว่าค่ะ”
สองสาวพูดคุยกันหัวเราะกันไปตลอดทางเดินไปลานจอดรถที่หวานใจจอดรถเก๋งสัญชาติญี่ปุ่นที่เธอเพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่ถึงปีเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
“ติชาอยากขับรถมาทำงานเองจังเลยค่ะ สงสัยต้องคุยกับม๊าอย่างจริงจังสักทีค่ะ” กันติชาพูดแล้วก็หน้างอเมื่อคิดถึงพี่โดมของเธอที่มักจะว่าเธอผิดตลอดทำอะไรก็ผิดแล้วอย่างนี้แม่กับป้านายังจะให้เธอแต่งงานกับเขาอีกคิดแล้วก็เครียดจึงส่ายหน้าไปมาเพื่อให้ลืม
“คุณตีคงจะเป็นห่วงน้องติชาก็เลยไม่อยากให้ขับรถ”
“แล้วมันต่างกันตรงไหนคะพี่หวาน เพราะติชาโดนเทบ่อยๆน่ะ หากไม่มีพี่หวานแล้วติชาทำยังไงละคะ” สาวน้อยพูดไปก็ตาแดงเม้มปากแน่นเพราะเขาคนเดียวหากไม่อยากมารับมาส่งก็บอกแม่เขาไปสิ ต่อไปกันติชาคนนี้จะไม่ยอมอีกแล้วเธอจะต้องช่วยเหลือตัวเองและจะทำให้ได้
“น้องติชาขา ไม่เอาค่ะเรามาช้อปปิ้งกันนะคะอย่ามาพูดถึงเรื่องนี้เลยไปเถอะค่ะ ลุย” หวานใจพูดให้สาวน้อยเปลี่ยนเรื่องไปสนใจเลือกซื้อเสื้อผ้าดีกว่า
“งั้นก็ลุยยค่ะ” สองสาวตะเวรเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนได้เสื้อผ้าถูกใจคนละสามสี่ชุดแล้วพากันไปกินข้าวก่อนพากันติชาไปส่งที่บ้าน