ชายหนุ่มเดินเข้าไปเขาได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์และคิดว่ามีคนเดียวเท่านั้นที่ขึ้นมาได้จึงเดินเบาๆไปที่เก้าอี้ตรงมุมสวนสวยแอบฟังว่ายัยเด็กแสบคุยกับใคร
“อย่าให้พูดเลยวลีเขาเอาแต่สั่งๆอย่างเดียวแล้วตัวเองทำไม่ได้จะไม่ให้ติชาโมโหได้ยังไง” กันติชาระบายความอัดอั้นกับเกวลี จิรัตนศักดิ์ หรือวลีเพื่อนรักลูกสาวเสี่ยร้านทองเยาวราชที่ฝึกงานกับที่บ้านเหมือนกัน
“ฝึกงานอีกแป๊บเดียวเองติชาก็ทนๆไปเถอะ วลียังเอาตัวไม่รอดเลย” เกวลีก็เหมือนเพื่อนเพราะถูกพี่ชายเคี่ยวเข็ญให้ดูทองชั่งน้ำหนักทองคิดราคาทองและจิปาถะ
“รู้อย่างนี้ไปฝึกงานที่อื่นก็ดีไม่น่าเชื่อแกเลย คอยดูนะถ้ายังเผด็จการกับติชาอีกจะกระโดดกัดคอเลย พูดแล้วก็อารมณ์เสีย งั้นแค่นี้นะวลีเดี๋ยวคืนนี้ค่อยเม้าท์กันนะ บ่ายจ้ะ”
“โอเครจ้า สู้ๆนะติชา บ่ายจ้า”
เมื่อวางสายจากเพื่อนกันติชาก็เอนตัวลงนอนราบกับเก้าอี้อาบแดดครุ่นคิดถึงคำพูดของแม่ที่บอกเธอตอนอายุสิบห้าว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว
“น้องติชาจำพี่โดมลูกป้าณาได้มั้ยลูก”
“จำได้ค่ะแม่” จำได้สิพี่โดมกับพี่ธันว์ลูกชายป้าณาของเธอที่ตอนนี้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้วเธอก็ไม่ได้เจอเขาตั้งแต่นั้นมาจนนึกหน้าไม่ออกแล้วเพราะเขากลับบ้านช่วงที่เธอเรียนซัมเมอร์ที่ออสเตรเรียทุกครั้งจึงไม่ได้เจอกัน
“พี่โดมเป็นคู่หมั้นหนูนะลูก ป้าณาหมั้นหนูให้พี่โดมตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้วและแม่ก็รับของหมั้นมาแล้วจากนี้ไปหนูไม่มีสิทธิ์ไปคบกับผู้ชายคนอื่นเพราะหนูมีคู่หมั้นที่จะแต่งงานกันแล้ว เข้าใจที่แม่พูดมั้ยจ้ะ” คุณวีระตีบอกลูกสาวคนเดียวของเธอเพราะเธอมีลูกยากกว่าจะมีกันติชาลูกชายเพื่อนก็เกือบสิบขวบแล้วทั้งที่เธอแต่งงานก่อนทักษิณาเพื่อนรักร่วมสาบานเพราะพ่อแม่ของเธอสนิทสนมกับพ่อแม่ของทักษิณาลูกๆก็เลยสนิทกันและอยากเป็นทองแผ่นเดียวกันพอรู้ว่าเธอได้ลูกสาวทักษิณาก็หอบของหมั้นมากำปั่นใหญ่เพื่อหมั้นลูกสาวที่อยู่ในท้องของเธอให้วโรโดมลูกชายคนเล็ก
“แม่คะ ลูกยังเด็กอยู่นะคะจะมีคู่หมั้นได้ยังไงแล้วป่านนี้พี่โดมคงมีเมียไปแล้วล่ะคะ” กันติชาเถียงแม่ของเธอแล้วสาวน้อยคิดว่าพี่โดมของเธอคงมีแฟนหรือไม่ก็มีเมียไปแล้ว
“ไม่มีจ้ะลูกรัก เพราะแม่กับป้าณาทำสัญญากันไว้ ยังไงหนูกับพี่โดมก็ต้องแต่งงานกันลูก” จากนั้นมาเธอก็เสาะหารูปของพี่โดมจากป้าณาหรือในเฟสที่เธอไปแอบส่องเป็นประจำจึงรู้ว่าเขาหล่อมากจนเธอใจสั่นหลงรักพี่โดมในภาพที่เห็นทางโซเชียลและแอบถามจากพี่ต้นที่กลับมาเมืองไทยทุกปีเพราะพวกเขาไปเรียนด้วยกันจนพี่ต้นสงสัยและถามเธอจึงรู้ว่าน้องสาวตัวน้อยของเขาหลงรักวโรโดมเพื่อนรักของเขาซะแล้ว
ปองคุณรู้ว่ายังไงวโรโดมต้องแต่งงานกับกันติชาแน่นอนแต่จะรักหรือไม่รักนั่นอีกเรื่องหนึ่งเพราะยังไงก็ขัดผู้ใหญ่ไม่ได้ ทำให้เด็กสาวรักฝังใจกับพี่โดมของเธอคนเดียวตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นคู่หมั้นจนชายหนุ่มกลับมาจากฝรั่งเศสเพื่อมาช่วยงานที่บริษัทเธอก็ยังแอบมองอยู่บ่อยถึงแม้จะรู้ว่าเป็นคู่หมั้นแต่สาวน้อยกันติชาก็พยายามไม่สนใจเขาตั้งแต่ได้ยินวโรโดมเถียงกับป้าณาเรื่องไปรับไปส่งเธอเพื่อทำความสนิทสนมกันก่อนจะแต่งงานเมื่อกันติชาเรียนจบ เขาปฏิเสธที่จะไปรับไปส่งจนถูกป้าณาบังคับแล้วยังบอกว่าจะแต่งงานกับเธอก็ได้แต่แค่ในนามแล้วก็จะหย่าเพราะไม่ได้รักเธอ ทำให้สาวน้อยพยายามตัดใจเลิกรักเขาแต่ใจเจ้ากรรมนี่มันไม่รักดีคอยแต่คิดถึงเขาอยู่ร่ำไป
“เฮ้อ เมื่อไหร่แม่จะกลับมาคะ ติชาไม่อยากให้นายพี่โดมมารับมาส่งแล้วค่ะ” กันติชาพูดจบก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนมองนาฬิกาบนข้อมือก็ได้เวลาทำงาน “ไปทำงานดีกว่าเดี๋ยวจะโดนยักษ์เขียวกินหัวอีก” กันติชาลุกขึ้นแล้วลงไปทำงาน
“ตกลงฉันเป็นอะไรกันแน่วะเนี่ย ยัยเด็กแสบนี่ช่างสรรหามาพูดจริงๆ” วโรโดมไม่รู้ว่าเขาจะโกรธหรือจะขำดีชายหนุ่มเดินมานั่งที่เดิมของกันติชา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบเธอตอนเด็กยัยเด็กแสบติดเขาเป็นตังเมมาบ้านเขาทีไรไม่เคยห่างกายเขาก็รักน้องสาวตัวน้อยน่ารักของป้าตีแต่พอรู้ว่าเป็นคู่หมั้นต้องแต่งงานกับเธอเขาก็ตีตัวออกห่างแล้วมันก็ห่างจริงๆสมใจเขาพอมาเจออีกทีน้องติชาของเขาก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเพิ่มเติมก็สวยสะดุดตาทั้งรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นใบหน้าหวานเขาเจอเธอครั้งแรกในรอบแปดปีที่เขาแทบไม่เจอแลยเพราะยัยเด็กแสบหลบลี้หนีหน้าตลอดแต่เขาก็ได้ยินปองคุณพูดถึงน้องติชาของเขาบ่อยๆถึงเขาจะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากมายหลายเชื้อชาติตอนที่อยู่ต่างประเทศทุกคนไม่ได้เป็นแฟนเขาเพราะชายหนุ่มบอกผู้หญิงทุกคนที่อยากมีความสัมพันธ์กับเขาว่าแค่สนุกไม่ผูกพันครั้งเดียวจบไม่มีสานต่อหรือยืดเยื้อความสัมพันธ์สาวๆทุกคนก็ยินยอมเพราะชาวต่างชาติไม่ถือเรื่องนี้จึงทำให้เขาไม่มีปัญหาเรื่องนี้แต่กับสาวไทยที่ปากบอกว่าโอเคแต่ในหัวกลับคิดแต่จะจับเขาจึงทำให้ชายหนุ่มเบื่อหน่าย
“นี่อะไร ของยัยเด็กแสบเหรอ” วโรโดมหยิบสมุดขึ้นมาดูแต่ยังไม่เปิดอ่านเพราะเขาไม่อยากละลาบละล้วงของหญิงสาวแม้ว่าอีกใจอยากจะเปิดอ่าน “สมุดบันทึกการทำงานของกันติชาตอนฝึกงานก่อนจบก็อีกแค่ไม่กี่เดือนเองจ้า สู้ สู้” หนุ่มหล่ออ่านหน้าปกของสมุดบันทึกก่อนจะขยับตัววางสมุดไว้ที่เดิมเมื่อได้ยินเสียง
ประตูเปิดจึงเดินไปหลบอยู่มุมสวนเหมือนเดิม
“โอ้ย เหนื่อย แฮ่ก แฮ่ก” ปากอิ่มจิ้มลิ้มพูดแล้วพ่นเสียงหายใจหอบแฮ่ก “อยู่นี่เองทำไมขี้ลืมอย่างนี้นะยัยติชาเอ้ย” เสียงหวานบ่นให้ตัวเองก่อนจะเดินกลับไปที่เดิมจนเสียงประตูปิดวโรโดมก็เดินออกมาแล้วตามสาวน้อยลงไปทำงาน
“ก๊อก ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเสียงเลขาสาวก็ดังตามมาแม้จะเกรงใจเจ้านายแต่ว่าตอนนี้มีเรื่องด่วน
“ผู้กำกับตี๋เล็กขอเข้าพบค่ะ” เมื่อแจ้งเจ้านายแล้วเลขาสาวก็เชิญผู้กำกับฝีมือดีของบริษัทเข้าไปพบเจ้านาย
“เชิญครับ”
“สวัสดีครับคุณโดม ขอโทษที่มารบกวนนะครับ”
“สวัสดีครับพี่ตี๋เล็ก ไม่เป็นไรครับ มีอะไรหรือเปล่าถึงมาพบผมกะทันหันอย่างนี้ครับ” เจ้านายหนุ่มหล่อถามผู้กำกับที่หน้าตาเคร่งเครียด
“ผมจะมาปรึกษาคุณโดมเรื่อนางเอกละครครับ” ตี๋เล็กพูดอย่างหนักใจเพราะที่ทางทีมงานถ่ายละครกำลังมีปัญหาและเกิดขึ้นในตึกที่ชั้นสิบสามที่ถูกตกแต่งสถานที่ให้เป็นห้องนอนห้องครัวห้องทำงานสุดหรูและออฟฟิศและอื่นอีกเพื่อเป็นฉากในละครหรือถ่ายทำรายการจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยและยังมีสถานที่นอกเมืองที่สร้างฉากจำลองไว้มากมายในบริเวรเนื้อที่ยี่สิบไร่ที่นครปฐม
“ว่ามาได้เลยครับ”
“ผมอยากเปลี่ยนตัวนางเอกครับ” เมื่อพูดออกไปแล้วตี๋เล็กที่ตี๋จริงๆเพราะเขาเป็นลูกคนจีนแต่สูงขาวหน้าตาก็ไม่ดีเสียแต่ตาเล็กไปหน่อยที่แหกกฎไม่ยอมค้าขายตามพ่อแม่จึงไต่เต้าขึ้นมาจนเป็นผู้กำกับชื่อดัง
“ทำไมถึงเปลี่ยนครับ” เรื่องนี้งเขาไม่ค่อยอยากยุ่งแต่บังเอิญเขากับผู้กำกับสนิทกันพี่ตี๋เล็กจึงมาปรึกษาเขาก่อนเพราะไม่อยากมีปัญหากับใครแต่ให้เจ้านายจัดการให้ม้วนเดียวจบไปเลยดีกว่า
“ก็คุณวนิดา เธอมีปัญหากับทุกคนในกองถ่ายจนนักแสดงช่างภาพช่างไฟคอสตูมก็ทั้งกองแหละแบนเธอไม่ยอมร่วมงานด้วยจนพี่ทำงานไม่ได้ปวดหัวไปหมดแล้วครับ” ตี๋เล็กเล่าให้เจ้านายฟังทั้งหมดรวมถึงเธอวีนเหวี่ยงใส่แม่บ้านเทอาหารทิ้งและหลายอย่างจนทุกคนลงความเห็นว่าถ้าดาราสาวคนนี้ยังเป็นนางเอกของละครเรื่องนี้ทุกคนจะถอนตัวกันหมดเลยทำให้ผู้กำกับต้องแจ้นมาคุยกับเจ้านาย
“ทำไมไม่มีใครรายงานผมล่ะครับ”
“ตอนแรกพี่คิดว่าไม่เป็นไรได้เตือนไปแล้วแต่เธอยังทำอีกจะทำยังไงกันดีครับคุณโดม” ตี๋เล็กพูดอย่างหมดแรงเขาก็ไม่อยากโทษแต่ดาราสาวชื่อดัง แต่เธอก็ทำจริงๆทั้งที่เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นแบบนี้แต่ตอนนี้เธอมีชื่อเสียงมากขึ้นจึงทำให้เล่นตัวเหวียงวีนเอาแต่ใจ
“งั้นพี่ตี๋เล็กว่าใครเหมาะจะมาแทนเธอล่ะครับ” วโดมไม่อยาเอ่ยชื่อของดาราสาวที่เขาเคยควงอยู่พักหนึ่งแต่ไม่เป็นข่าวเพราะตอนนั้นเธอยังไม่ดัง
“ผมว่าจะให้คุณกุลอาภามาแทนครับ”
“งั้นเดี๋ยวผมจะจัดการให้ครับ”
“ขอบคุณมากครับคุณโดม เฮ้อ งานนี้ทำเอาพี่ปวดหัวจริงๆทำงานมาเกือบยี่สิบปีมาเจอคนนี้พี่ยอมเลย” เขาทำงานมาหมดทุกรูปแบบกว่าจะได้เป็นผู้กำกับชื่อดังแต่ดาราสาวทำให้เขาไปไม่เป็นเลย
“ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าพี่ตี๋เล็กน่ะอึด ทำงานอึดนะครับ งั้นคืนนี้ไปดื่มแก้เครียดกับผมหน่อยมั้ยไหนๆก็เลิกกองไปแล้วนี่” วโรโดมชวนผู้กำกับคนสนิทไปดื่มด้วยกันเพราะจะได้คุยกันต่อและจะต้องติดต่อรอคิวนางเอกคนใหม่ที่ยังไม่รู้เลยว่าจะให้คิวได้เมื่อไหร่
“ตกลงครับ งั้นพี่ไปเคลียกับทีมงานก่อนนะครับไม่รู้ว่าป่านนี้เก็บของกลับบ้านไปกันหมดแล้วหรือยัง ขอบคุณอีกครั้งครับคุณโดม” หนุ่มตี๋ร่างโย่งบอกเจ้านายแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานของวโรโดม
“คุณยุพา โทรหาคุณวนิดา บอกเขาว่าผมต้องการพบเธอว่างเมื่อไหร่ให้เข้ามาพบผมด้วย” วโรโดมกดอินเตอร์คอมบอกเลขาสาว
“ค่ะเจ้านาย” ยุพารับคำสั่งแล้วโทรหาดาราสาวในสังกัดช่องตามคำสั่งเจ้านายทันทีแล้วดาราสาวก็ว่างทันทีเหมือนกันเพราะตอนนี้เธอกำลังมีปัญหากับกองถ่ายละครและเธอก็ขอถอนตัวไปแล้วด้วยจึงเตรียมตัวขึ้นไปหาชายหนุ่มในดวงใจที่ครั้งหนึ่งเคยควงกับเขาแต่เสียดายที่ตอนนั้นเธอยังไม่ดังไม่งั้นคงเป็นข่าวกับเขาแน่ แล้ววันนี้วโรโดมให้เลขาโทรมานัดเธอก็คงจะเป็นเรื่องงานเพราะตั้งแต่เขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอก็ไม่ได้เจกันอีกเลยเหมือเส้นทางจะขนานกันทั้งๆที่เธอเป็นดาราในสังกัดช่องสิบของเขา
“หนูนิดว่างค่ะ จะให้ไปพบคุณโดมตอนนี้เลยมั้ยคะ” วนิดาถามเลขาของวโรโดม
“ได้ค่ะ เดี๋ยวยุพาจะแจ้งให้เจ้านายทราบ อีกครึ่งชั่วโมงนะคะคุณวนิดา” ยุพาบอกดาราสาวที่ฟังดูน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจพิกลเธอพอรู้อยู่บ้างว่าครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วเจ้านายก็เคยควงวนิดาอยู่พักหนึ่งแต่ไม่นานก็เงียบหายไป
“ได้ค่ะ” วนิดารับปากแล้วหญิงสาวก็หยิบแป้งพับมาเช็คหน้าตาสีลิปสติกว่าตัวเองดูดีดูสวยแล้วหรือยังหากจะไปพบหนุ่มในดวงใจที่เธอยังติดใจในรสสวาทถึงอกถึงใจของเขา
“จะไปไหนอีกคะน้องนิดา” เสียงแหลมดัดจริตถามดาราสาวในความดูแลที่แต่งหน้าทาปากเหมือนมีนัดเพราะวันนี้มีปัญหาทางทีงานจึงยกกองไม่ถ่ายทำต่อ
“นิดามีนัดค่ะพี่ตุ้ยนุ้ย ให้ทายว่าใคร” วนิดายิ้มหน้าบานที่จะได้เจอวโรโดมและคิดในใจว่าจะต้องว่านเสน่ห์ใส่เขาอีกครั้งตอนนี้เธอสวยอึมมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมากเพราะได้อัพหน้าอัพเต้ามาเรียบร้อย
“ใครคะ คุณบอย ใช่มั้ย” ตุ้ยนุ้ยเอ่ยชื่อคู่ควงคนล่าสุดของดาราสาวในความดูแลที่กำลังเป็นข่าวฝ่ายชายเป็นไฮโซหนุ่มเนื้อหอมที่สาวๆรุมล้อมเพราะเงินที่เขาเปย์ไม่อั้นหากถูกใจใคร
“ไม่ใช่ค่ะ คนนั้นน่ะของตายค่ะ แต่นี่คุณโดมให้เลขาโทรมานัดเจอค่ะ” ดาราสาวพูดแล้วเชิดหน้าขึ้นเมื่อเห็นแม่บ้านคนที่เธอเทอาหารทิ้งตรงหน้าเมื่อเอาอาหารพื้นๆมาให้เธอจึงพูดเสียงดังเพื่อให้อีกฝ่ายได้ยินก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัว
“เช้อะ อีแต๋นจะคอยดูเวลาร่วงลงมาแล้วจะสมน้ำหน้าให้ดู” แม่บ้านแต๋นที่ดูแลเรื่องอาหารในกองเธออุตส่าห์เอาอกเอาใจดาราสาวในดวงใจแต่ที่ไหนได้แม่คุณเผยทาสแท้ออกมาให้เห็นก่อนไม่งั้นเธอยังคงชื่นชมต่อไป
วนิดาขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสิบเก้าที่เป็นห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุดหรือประธานบริษัทเมื่อลิฟต์เปิดออกวนิดากับตุ้ยนุ้ยก็มองทางเดินที่สว่างไสวมองป้ายติดผนังห้องที่บอกว่าห้องทำงานของท่านรออยู่ด้านซ้ายก่อนจะเดินไปตามทางเดินที่ปูพรมนุ่มตลอดทางเดินไปที่ห้องทำงานของวโรโดม
ยุพานั่งทำงานอยู่ที่โต้ะหน้าห้องของเจ้านายที่มีสองโต้ะของเธอและเมธาและเจ้าของก็นั่งอยู่เมื่อได้ยินเสียงคุยกันยุพากับเมธาก็หันไปมองตามเสียงก็เห็นดาราสาวสวยเดินนวยนาดมาหาเธอ
“มาพบคุณวโรโดมค่ะ” เสียงแหลมแจ้งแก่เลขาของหนุ่มหล่อแต่ไม่สนใจจะทักทายเมธาที่ครั้งหนึ่งเคยเอาเช็คไปให้เธอตามคำสั่งเจ้านาย
“รอสักครู่นะคะ เชิญคุณผู้จัดการรออยู่ในห้องนี้ก่อนนะคะ” ยุพาบอกดาราสาวก่อนจะเปิดประตูห้องที่อยู่ใกล้โต้ะทำงานเธอและบอกผู้จัดการของวนิดาเข้าไปนั่งคอยดาราสาวที่เจ้านายของเธอเรียกมาคุย
“จะให้นิดารออีกนานมั้ยคะคุณเลขา” วนิดาตวัดเสียงใส่ยุพาที่ยืนรอคำสั่งของเจ้านาย
“รอคำสั่งเจ้านายค่ะ ดิฉันบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงเจ้านายจะว่างแต่นี่แค่สิบนาทีคุณมาถึงก่อนเวลานัดก็ต้องรอค่ะ” ยุพาพูดเสียงเรียบแต่ในใจนี่เคืองมาก
“แต่นิดามาแล้วก็ให้เข้าไปพบเลยสิคะ เวลาของนิดาเป็นเงินเป็นทองนะคะ” วนิดาพูดแล้วแบะปากใส่ยุพาเพราะคิดว่าเลขาสาวไม่เห็นแต่ยุพาเห็นเต็มตาและไม่สนใจ
“เจ้านายคะคุณวนิดามาแล้วค่ะ” ยุพากดอินเตอร์คอมรายงานเจ้านายหนุ่ม
“งั้นเชิญเธอเข้ามา” เสียงห้าวดังมาจากอินเตอร์คอมทำให้ดาราสาวถึงกับขนลุกเพราะนานแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขาเลย
“เชิญค่ะ” ยุพาเดินไปเปิดประตูให้ดาราสาวที่เดินนวยนาดมาดนางพญาเข้าไปในห้องทำงานของวโรโดม
“สวัสดีค่ะคุณโดม” วนิดาเดินไปยืนตรงหน้าโต้ะทำงานแล้วฉีกยิ้มกว้างให้หนุ่มหล่อที่นั่งอยู่หลังโต้ะทำงานหมุนปากาในมือเล่นตาก็มองดาราสาวที่ยืนอวดหุ่นไม่ยอมนั่ง
“สวัสดีคุณวนิดา เรียกผมว่าวโรโดมดีกว่านะ” เขาไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทเรียกโดมถึงแม้จะเคยมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวตรงหน้าแต่เขาก็ไม่เคยให้เธอเรียกว่าโดม
“ค่ะคุณวโรโดม นัดนิดามมีอะไรหรือเปล่าคะ” วนิดาถามหนุ่มหล่อมาดแมนแอนด์แฮนซั่มตรงหน้าวโรโดมไม่เปลี่ยนเลยชายหนุ่มยังดูหล่อเหลาสมาร์ทเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือคมเข้มดูเถื่อนมากขึ้น
“นั่งก่อนสิ” เขาบอกดาราสาวอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณคงจะรู้นะที่ผมนัดมาคุยด้วยเรื่องอะไร”
“นิดาไม่รู้ค่ะ คุณวโรโดมบอกมาสิคะ” ดาราสาวเล่นลิ้นเพราะเห็นสายตาของผู้บริหารหนุ่มมองเธอและคิดว่าเขาสนใจเธอจึงขยับตัวเล็กน้อยไปข้างหน้าเพื่อให้เต้าใหญ่มันโดดเด่น
“เรื่องที่เกิดขึ้นในกองถ่าย” ผู้บริหารหนุ่มหล่อพูดแล้วรอฟังว่าดาราสาวจะพูดแก้ตัวว่ายังไง
“ค่ะ แต่เรื่องจะมาโทษนิดาคนเดียวไม่ได้นะคะ นิดาเป็นนางเอกจะต้องสวยแต่งตัวนานเป็นธรรมดาอยู่แล้วจะให้ช่างไม่มีฝีมือมาแต่งให้ได้ยังไงคะหากนิดาหน้าพังใครจะรับผิดชอบ” ดาราสาวพูดซะยาวตอนแรกเหมือนจะยอมรับผิดแต่ไปๆมาก็โทษคนอื่น
“แล้วไงต่อ” ชายหนุ่มยังใจเย็นรอฟังคำแก้ตัวของดาราสาวที่จะฟังขึ้นได้บ้าง
“พี่ตี๋เล็กก็เอาแต่เข้าข้างลูกน้องน่ะสิคะ ช่างไฟก็ปรับไฟจนนิดาออกกล้องแล้วดำปี๋พอบอกก็หาว่านิดาเรื่องมากตัวประกอบก็เล่นไม่ได้เท็คอยู่นั่นแหละแล้วให้นางเอกอย่างนิดานั่งรอใครจะไปทนไหวคะ”
“พอแล้ว ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมคุณนิดาถึงมีปัญหากับทุกคนในกอง”
“คุณโดม เอ่อ คุณวโรโดมเข้าใจนิดาใช่มั้ยคะ นิดาก็เลยขอถอนตัวค่ะ” วนิดยังลำพองใจว่าเธอเป็นฝ่ายถูกขนาด วโรโดมยังเข้าใจเลยแล้วทำไมพวกทำงานกระจอกพวกนั้นถึงได้ไม่เข้าใจโง่จริงๆ
“ครับ ผมอนุมัติไปแล้ว เพราะผมก็ไม่ชอบทำงานกับพวกที่เรื่องมาก เอาแต่ใจวีนเหวี่ยงใส่ทุกคนเพื่อให้ได้ดั่งใจตัวเองคนในกองสามสิบสี่สิบกว่าชีวิตทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อให้ผลงานออกมามีคุณภาพแต่คนๆเดียวทำให้กองถ่ายปั่นป่วนเรียกร้องนั่นเรียกร้องนี่คิดว่าตัวเองดีกว่าเหนือกว่าคนอื่น แล้วคุณคิดว่าผมจะอยู่ฝ่ายไหนล่ะคุณวนิดา” วโรโดมพูดออกไปทำเอาดาราสาวอึ้งกิมกี่ที่ถูกผู้บริหารหนุ่มว่าให้อย่างเจ็บแสบจนพูดไม่ออกทั้งที่ตอนแรกเขาก็เข้าใจเธอนี่แล้วทำไม
“เอ่อ”