bc

คนนี้เมียผม

book_age18+
755
ติดตาม
3.2K
อ่าน
พ่อเลี้ยง
addiction
like
intro-logo
คำนิยม

ฉันเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกคลาสเหวี่ยงใส่ผนังอย่างแรงทันทีที่กลับมาถึงห้อง

“นายเป็นบ้าอะไรของนาย ปล่อยฉัน!” ฉันเหวใส่คนตรงหน้าด้วยความโมโหที่เขาไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรเลย

“ขนาดโดนฉันเอาทุกวัน เธอยังคันไปหาผู้ชายคนอื่น หรือว่าลีลาของฉันมันไม่เร้าใจ”

เพียะ! ฉันฟาดฝ่ามือเข้าไปที่ใบหน้าของคลาสเต็มแรง โดยที่ไม่รอให้เขาพูดจบประโยค

“หยุดพูดจาทุเรศๆ แล้วไปตั้งสตินะคลาส”

“...” คนตัวโตหยุดชะงัก พลางขบกรามกำมือแน่นอย่างทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ฉันคลาสคงสวนคืนกลับมาแล้ว

“ฉันกับขุนพลเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”

“ทำไมจะไม่ผิด มันผิดตรงที่เธอมีฉันเป็นผัวแล้วยังไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นไง!”

ฉันเบือนหน้าหันหนีเมื่อถูกเขาตวาดใส่หน้าด้วยเสียงดังลั่น เขากำลังหึงจนหน้ามืดตามัว โดยไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น

“แต่นี่มันสังคมของฉัน มันจะแปลกตรงไหนถ้าฉันจะมีเพื่อนผู้ชาย!?”

“แต่ฉันไม่ให้มี” คลาสกระชากคอเสื้อนักศึกษาฉันให้เข้าหา สายตาของเขามันเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“ไม่ว่าจะสถานะอะไรก็ไม่ให้มี ฉันหวงของฉัน ไม่เข้าใจหรือไงวะ!”

“...” ฉันได้แต่ยืนหน้าถอดสีให้กับความคิดประหลาดๆ ของเขา ขนาดเขามีเพื่อนผู้หญิง มีสังคมมากมาย ฉันยังไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเลยสักครั้ง

“ฉันว่าวันนี้เราคงคุยไม่รู้เรื่องแล้ว นายกลับบ้านไปก่อนเถอะ รอให้ใจเย็นแล้วค่อยมาคุยกัน”

ฉันพยายามพูดเพื่อให้คลาสใจเย็นที่สุด แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหม

“คิดจะไล่ฉัน มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรือไง!”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
EP.1
“เสร็จยังแบมแบม?” เสียงยัยมิกิดังขึ้นรบเร้าในขณะที่ฉันกำลังนั่งแต่งหน้าทาปากอยู่บนรถ วันนี้ฉันและเพื่อนๆ มีนัดกันที่คลับไฮโซแห่งนึงย่านทองหล่อเพื่อมาฉลองวันเกิดให้ปลายฟ้า เพื่อนรักของฉันอีกคน “ขออีกนิดนึงมิกิ แกอย่าเพิ่งเร่งตอนนี้” ฉันจิ๊จ๊ะพลางหยิบอายไลเนอร์ขึ้นมากรีดตาด้วยความระมัดระวัง “ขืนพวกเราไปช้ามีหวังปลายได้งับหัวกันพอดี” “ช้านิดช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่า ก็คนมันสวยก็ต้องลีลาเป็นธรรมดา” ไม่พูดเปล่าแต่ฉันยังไหวไหล่ด้วยความมั่นหน้า ซึ่งมิกิก็คงจะชินเสียแล้ว “……” มิกิกลอกตามองบนถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย เพราะไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ฉันก็มักมาช้ากว่าทุกคนเสมอ “แกเข้าไปข้างในก่อนไป ฉันขอเติมหน้าอีกสักหน่อย” “ถ้างั้นรีบๆ ตามมาแล้วกัน อย่าให้ต้องรอนาน” “รู้แล้วน่า” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวานออกมาพร้อมมองตัวเองในกระจกเมื่อแต่งเเต้มใบหน้าเสร็จแล้ว จะว่าไปฉันก็ดูสวยไม่ใช่น้อย แต่น่าแปลกที่ยังโสดซิงและไม่มีแฟน ตุบ! ตุบ! พลั่ก! ในขณะที่กำลังจะเดินออกมาจากตรงนั้น แต่แล้วจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังอยู่ไม่ไกลออกไป ด้วยความเผือกอันแรงกล้าทำให้ฉันหันขวับไปมองตามเสียงประหลาดที่เกิดขึ้น ก่อนที่ขาทั้งสองจะก้าวไปยังต้นตอของเสียงแบบอัตโนมัติ พอรู้สึกตัวอีกที ก็มาหยุดยืนที่ด้านหลังของโรงจอดรถ ที่ตรงนี้ค่อนข้างมืด แต่แสงโดยรอบก็พอทำให้เห็นเหตุการณ์ได้ลางๆ ตุบ! พลั่ก! “พอได้แล้วไอ้คลาส เดี๋ยวมันก็ได้ตายกันพอดี” “ได้กระทืบคนแบบนี้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง?” “ถ้ายังไม่พอใจก็กระทืบอีก หรือจะเอาให้ตายเลยก็ได้ เดี๋ยวกูปิดข่าวให้เอง” ฉันรีบยกมือปิดปากเพื่อกลั้นเสียง เมื่อภาพที่เห็นคือผู้ชายนับสิบคนกำลังยืนล้อมเป็นวงกลม โดยมีผู้ชายหนึ่งคนนอนสะบักสะบอมจมกองเลือดไม่ได้สติอยู่ที่พื้น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย! ทำไมต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วย แล้วไอ้คนพวกนี้ต้องมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดไหนถึงได้กล้าทำอะไรโจ่งแจ้งกันขนาดนี้ ดวงตากลมโตกลอกกลิ้งมองซ้ายมองขวาเพื่อหาคนช่วย ขืนไม่รีบตามคนมาช่วยมีหวังผู้ชายคนนั้นได้นอนตายอยู่ตรงนั้นแน่ๆ ‘อีแบมคนสวยรับโทรศัพท์กูด้วยค่ะ อีแบมคนสวยรับโทรศัพท์กูด้วยค่ะ’ ‘อีแบมคนสวยรับโทรศัพท์กูด้วยค่ะ อีแบมคนสวยรับโทรศัพท์กูด้วยค่ะ’ เสียงเรียกเข้าของฉันดังขึ้น ไอ้กลุ่มผู้ชายนับสิบพวกนั้น ต่างพากันหันขวับมามองตามเสียงในทันที มันจะมีจังหวะนรกอะไรกว่านี้อีกไหม “ใครอยู่ตรงนั้น!” “กูถามว่าใคร!?” “ไปลากคอมันมา ขืนมันหลุดไปได้ พวกเราซวยแน่!” “ซะ…ซวยแล้วไง!” พอตั้งสติได้ฉันจึงรีบกดปิดโทรศัพท์อย่างเร็ว เมื่อคนที่โทรเข้ามาคืออีปลายฟ้าเพื่อนเวร มันจะโทรเข้ามาทำไมตอนนี้ ฉะ…ฉิบหายกันหมดแล้ว ด้วยความที่เป็นนักกีฬาวิ่งเร็วมาสามปีซ้อนฉันจึงรีบสาวเท้าวิ่งออกมาจากตรงนั้นแบบไม่คิดชีวิต โชคดีที่วันนี้ใส่รองเท้ามาไม่สูงเท่าไหร่เลยพอจะทำให้วิ่งเร็วอยู่บ้าง “หยุดนะ กูบอกให้หยุด!” เสียงทุ้มต่ำของคนใจเหี้ยมพวกนั้นตะโกนตามหลังฉันมาติดๆ แต่มีเหรอที่ฉันจะยอมหยุด ขืนหยุดก็ตายฟรีน่ะสิ! “ว้ายย ไอ้บ้า! อย่าตามมานะ ออกไป” ฉันวิ่งไปร้องวี๊ดว้ายไป แต่ด้วยความปราดเปรียวและวิ่งเร็วเลยทำให้คลาดจากคนพวกนั้นอยู่ไกลพอสมควร เมื่อคิดว่าหนีพ้นแล้ว ฉันจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่อยู่แถวนั้น “พี่คะ พี่คะ มะ…มีคนตีกันอยู่ตรงนั้น” ฉันลุกลี้ลุกลนบอกพี่การ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าประตูอยู่ “ขอบใจมากน้อง เดี๋ยวพวกพี่จะรีบไปดูเดี๋ยวนี้” พี่การ์ดพูดเสร็จก็รีบพากันวิ่งกรูออกไป “แฮ่กๆๆ” ฉันวิ่งตาตื่นเข้ามาหาพวกเพื่อนๆ ที่นั่งรออยู่ในคลับก่อนหน้านั้น ก่อนจะมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่ากลุ่มชายฉกรรจ์พวกนั้นไม่ได้ตามมา “เป็นอะไรอีแบม หอบแฮ่กๆ อย่างกับหมา วิ่งหนีอะไรมา?” ปลายฟ้าเอ่ยถามพลางมองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “ปะ…เปล่า ไม่มีอะไร” ฉันพยายามรวบรวมสติที่มีอยู่น้อยนิดตอบกลับไป “ถ้าไม่มีอะไรก็นั่งลง” “....” “เอ้า! บอกให้นั่งลง” ไม่พูดเปล่าแต่มันยังกระตุกแขนอย่างแรงเพื่อให้ฉันนั่งลง ยอมรับเลยว่าเหตุการณ์เมื่อกี้ทำเอาเสียขวัญอยู่ไม่น้อย ขืนวิ่งหนีออกมาไม่ทัน มีหวังได้โดนกระทืบไส้แตกเหมือนผู้ชายคนนั้นแน่ๆ เลย แค่คิดก็ขนหัวลุกไปหมดแล้ว เคร้งงง เสียงแก้วเหล้าของฉันกับกลุ่มเพื่อนๆ กระทบกันครั้งแล้วครั้งเล่า จะบอกว่าไม่เมาก็คงไม่ได้ เพราะตอนนี้ฉันทรงตัวนั่งแทบไม่อยู่ เมาจนลืมเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นไปชั่วขณะ “กินแค่นี้ก็เมาแล้ว อ่อนชะมัดเลยมึงอ่ะ” ปลายฟ้าเลื่อนมือมาตบหน้าฉันเบาๆ เพื่อเรียกสติ ก็ใช่น่ะสิ ฉันมันคอกระดาษ ใครจะไปคอแข็งคอทองแดงเหมือนมันที่กินแค่ไหนก็ไม่เมา “อีแบม อีแบมหันดูพวกผู้ชายกลุ่มนั้นดิ” ปลายฟ้าสะกิดแขน ก่อนจะชี้ให้ฉันหันมองพวกผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ ไม่ใช่แค่พวกฉันที่มอง แต่ชะนีน้อยใหญ่ที่อยู่แถวนั้นก็พากันจ้องมองจนตาค้างเหมือนกัน “หล่อมากแม่เจ้า มึงคิดเหมือนกูไหม?” “หล่อตรงไหน นึกว่าหลุดมาจากเรือนจำบางขวาง!” ฉันทำสีหน้าเรียบนิ่งแล้วหันกลับมาดื่มเหล้าต่อ ไอ้ผู้ชายพวกนั้นฉันไม่สนใจหรอก ก็คนกลุ่มนั้นหน้าตาแต่ละคนดูโหดเหี้ยมอำมหิต ถ้าบอกว่าเพิ่งหลุดออกมาจากเรือนจำฉันก็เชื่อ “แต่กูว่าหล่อมาก ออร่าสุดๆ” อันนาเพื่อนสนิทอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงเคลิบเคลิ้ม ถ้ามันลากเขาไปกินได้คงทำไปนานแล้ว “อีแบม อีแบม พวกเขาหันมามองมึงด้วย มองแบบตาไม่กระพริบ” ปลายฟ้าพูดเสริม “มองทำไม ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไงย่ะ!” ฉันตะโกนถามกลับไปอย่างไร้สติด้วยความเมา เมื่อเห็นว่ากลุ่มคนพวกนั้นมองมาทางฉันจริงๆ แล้วไม่ใช่มองธรรมดา มองเหมือนรู้จักกัน เหมือนเคยเห็นกันมาก่อน แต่จะว่าไป อีตาหัวแดงที่เพิ่งเดินผ่านไปดูหน้าคุ้นๆ แฮะ ที่เรียกว่าตาหัวแดง เพราะว่าเขาย้อมผมสีแดงที่มองเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล ฉันพยายามทุบหัวไล่ความมึนเพื่อนึกว่าเขาเป็นใคร แต่ไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก แต่พอเมื่อนึกออก ฉันถึงกลับหดหัวตัวสั่นด้วยความกลัวแล้วรีบหมุนตัวกลับหลังอย่างไว เพราะอีคนกลุ่มนั้น มันคือผู้ชายที่ฉันมีเรื่องด้วยเมื่อกี้ OMG ทำไมถึงได้ซวยซ้ำซ้อนขนาดนี้ อีตาหัวแดงคนนั้นนั่นแหละที่เป็นหัวโจก ฉันจำไม่ผิดแน่ๆ ก็สีผมมันเด่นหลาซะขนาดนั้น ใครบ้างจะจำไม่ได้ “เป็นอะไรอีแบม?” ปลายฟ้าหันมาถามด้วยความสงสัยที่จู่ๆ ฉันก็นิ่งไปจนผิดสังเกต ว่าแต่ควรจะบอกเรื่องนี้กับพวกมันดีไหม ขืนบอกไปจะหมดสนุกกันหรือเปล่า วันนี้เป็นวันเกิดปลายฟ้าด้วย ฉันไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ จะขอตัวกลับก่อนก็ไม่ได้ ทางที่ทำได้ตอนนี้คือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะคิดว่าพวกมันคงจำฉันไม่ได้แน่นอน “มะ…ไม่มีอะไรหรอก” “ถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไป งั้นพวกเรามาเล่นเกมหมุนขวดกัน” “อีกแล้วเหรอ” อันนาถามอย่างปลงๆ “ขวดหมุนไปที่ใครต้องทำตามที่บอกทุกกรณี ถ้าไม่ทำต้องเป็นคนรับใช้พวกกู และเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้างกลางวันพวกกูหนึ่งเดือน!” ปลายฟ้าหันมาจ้องหน้าฉันพลางทำสายตากรุ้มกริ่ม จะมีอะไรได้ มันคงกำลังคิดแผนแกล้งฉันอยู่น่ะสิ ก็อีนี่มันเป็นเพื่อนรักเพื่อนชั่ว พร้อมจะขยี้และบดบี้ฉันอยู่ตลอดเวลา

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

กระชากกาวน์

read
5.3K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
5.9K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
4.3K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
8.1K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
16.9K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
3.8K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook