ตอนที่ 4
(ไอรีน)
ฉันเดินตามหลังพี่เก้ามาถึงร้านอาหารที่อยู่ด้านล่างของคอนโดแห่งนี้ แล้วฉันกับพี่เก้าก็นั่งลงที่โต๊ะอาหาร เรานั่งหันหน้าชนกัน เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้มองหน้าพี่เก้าชัดๆ ผู้ชายอะไรหน้าหวานกว่าผู้หญิงซะอีก ปากแด๊งแดง ดวงตาคมเข้ม ขนตายาว คิ้วดกหนาได้รูปสวย ผิวหน้าขาวหมดจด นี่ผู้ชายจริงๆ เหรอนี่ ฉันแอบคิดในใจ
"น้องไอ...น้องไอครับ" อุ๊ย!! ตกใจหมด ก็ฉันเผลอมองหน้าพี่เก้านานไปหน่อย ทำไมหล่อขนาดนี้นะ พึ่งจะได้มองใกล้ๆ ชัดๆ ก็วันนี้นี่แหละ โอ๊ยฉันแพ้คนหล่อ
"อ่อ…คะ" ฉันรีบกระพริบตาถี่ๆ แล้วก็หยิบเมนูมาเลือกแก้เขินทันที พี่เก้าจะรู้หรือเปล่านะว่าฉันแอบมองหน้าหวานๆ ของเขาอยู่ ฉันละสายตาจากเมนูอาหารมองหน้าพี่เก้าใหม่อีกครั้ง เห็นเขามองมาที่ฉันแล้วอมยิ้ม โอ้โหว่าหน้านิ่งๆ หล่อแล้ว ยิ้มนี้หล่อเข้าไปอีก
"สั่งสิครับ น้องไออยากท่านอะไร" น้ำเสียงก็นุ๊มนุ่ม อายุป่านนี้คงมีแฟนแล้วมั้ง
"เอาแบบพี่เก้าก็ได้ค่ะ" ฉันวางเมนูอาหารลง ตอบแบบขอไปที ตอนนี้อะไรก็เอามาเถอะ มีน้ำอะไรแก้เขินไหม เอามาก่อนเลยตอนนี้ ถูกจับได้ว่าแอบมองเสียเชิงชะมัด ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟฉันก็นั่งทานไปเงียบๆ ส่วนพี่เก้าก็มองมาแล้วอมยิ้มให้ฉันบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่เราทานอาหารเย็นกันอิ่มแล้ว ฉันก็เดินตามหลังพี่เก้าไปติดๆ โดยที่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก แล้วก็แยกย้ายกลับเข้าห้องใครห้องมัน เมื่อประตูปิดลงฉันก็เดินลงไปหงายหลังนอนลงบนเตียงแล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพี่เกียร์
"มีอะไรเตียงพี่นอนไม่สบายเหรอ" พี่เกียร์รับสายฉันแล้วก็พูดถึงเรื่องเตียงขึ้นมา เกี่ยวอะไรกับเตียงกันนะ ที่ฉันโทรหาก็เรื่องพี่เก้าต่างหากล่ะ
"ทำไมพี่เกียร์ไม่บอกก่อนคะ ว่าห้องพี่เก้าอยู่ติดกับห้องของไอ" ถ้ารู้ว่าอยู่ติดกันขนาดนี้ ฉันอยู่บ้านเหมือนเดิมก็ได้ มีค่าเท่ากันแหละ มีคนคอยจับตาดูอยู่แบบนี้ไม่ได้แตกต่างอะไรกับตอนอยู่บ้านเลย
"อ้าวจริงเหรอ ฮ่าๆๆๆ" หมายความว่ายังไงกันนะ อย่าบอกนะว่าพี่เกียร์ก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน
"หัวเราะอะไรคะไอไม่ตลกด้วยหรอกนะ"
"พี่ไม่รู้จริงๆ พึ่งจะรู้ก็ตอนที่ไอบอกพี่นี่แหละ" พี่เก้าก็ไม่รู้ พี่เกียร์ก็ไม่รู้ ฉันก็ไม่รู้ นี่มันเรื่องบังเอิญหรือเรื่องบ้าอะไรกันนี่
"แล้วไป! คิดว่ารู้แต่ไม่ยอมบอกไอซะอีก" ถ้ามันจะบังเอิญขนาดนี้ ฉันก็คงต้องยอมรับ กะว่าออกมาอยู่คนเดียวจะได้อิสระ กลับต้องมาเจอคนรู้จักอยู่ห้องติดกันอีก แล้วอย่างนี้ฉันจะออกไปไหนได้ แล้วถ้าไปมามี้กับป๊ะป๋าจะรู้ไหมนะ หวังว่าพี่เก้าจะไม่ใช่คนขี้ฟ้องหรอกนะ แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจเขาอยู่ดี ถ้าขืนพี่เก้าขี้ฟ้องมีหวังฉันต้องกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิมแน่ๆ เพราะฉันมีแพนกับเพื่อนๆ ของฉันว่าเราจะไปฉลองห้องใหม่กัน
"ทำไม พี่เก้าเขาไปทำอะไรให้ ไอถึงได้โทรมาหาพี่" เขาไม่ได้ทำอะไร แต่ฉันไม่ชอบอยู่ใกล้กับคนรู้จัก
"เปล่าค่ะ เขาแค่ชวนไอไปทานข้าวเฉยๆ" ฉันตอบพี่เกียร์เสียงอ่อย ฉันก็แค่กลัวไปเอง กลัวว่าพี่เก้าจะเอาความประพฤติของฉันไปรายงานให้มามี้กับป๊ะป๋ารู้ก็เท่านั้น
"ไอรีน...พี่มีอะไรจะบอก" แหม!! เรียกชื่อฉันซะเต็มยศเลยต้องมีอะไรแน่ๆ แถมน้ำเสียงของพี่เกียร์ยังฟังดูแล้วมันน่าตื่นเต้นดีจัง
"อะไรเหรอคะ" ฉันรีบถามทันที ก็อยากรู้ไง มันจะมีอะไรเซอร์ไพรส์มากไปกว่าเจอพี่เก้าอยู่ห้องติดกับห้องของฉันอีก
"พี่เก้าเขาจะจีบไอน่ะ พี่อยากให้ไอเปิดใจให้เขา พี่เก้าเขานิสัยดีนะ" ฉันฟังพี่เกียร์พูดอย่างตั้งใจ แล้วรอยยิ้มของฉันก็ปรากฏบนใบหน้า จากนั้นฉันก็ใช้นิ้วม้วนผมเล่นเหมือนกับคนกำลังเขินอยู่ แต่!!เอ๊!! ฉันจะเขินทำไมนี่ ฉันไม่ได้ชอบพี่เก้าสักหน่อย พี่เก้าอายุมากกว่าพี่เกียร์ พี่แพรอีก อายุของพี่เก้าน่าจะยี่สิบปลายๆ แต่ฉันพึ่งจะยี่สิบเอง ฉันรีบสลัดความคิดบ้าๆ ออกไปทันที
"ห๊ะ!! จีบไอ เขาเป็นผู้ชายหรือเปล่าก็ไม่รู้ ปากแด๊งแดง หน้าข๊าวขาว ผิวส๊วยสวย" ฉันรีบพูดติดตลกทันที กลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองที่เมื่อสักครู่นี้รู้สึกเขิน
"ไอรีน…พี่พูดจริงๆ นะ พี่เก้าเขาเป็นผู้ชาย คิดไปได้ยังไงนี่" นี่พี่ชายของฉันไม่คิดจะหวงน้องสาวอย่างฉันบ้างหน่อยเหรอ ฉันยังเรียนไม่จบเลยนะ
"จะไปรู้เหรอหน้าหวานซะขนาดนั้น หวานกว่าไออีกนะพี่เกียร์" แต่พี่เก้าเขาก็หล่อมากๆ เลยล่ะ ฉันชอบแอบมองหน้าหวานๆ นั่นอยู่บ่อยๆ ก็มันน่ามองนี่ แล้วหนวดที่กำลังขึ้นอยู่รำไรฉันก็มองว่าเขายิ่งหล่อเข้าไปอีก
"คนเรามันเลือกเกิดได้หรือไงล่ะ เอาเป็นว่าไอเปิดใจให้พี่เก้านะ พี่รู้ว่าเรายังไม่มีแฟน" แน่!! ไอ้พี่เกียร์นี่แอบร้าย รู้ได้ยังไงว่าฉันยังไม่มีแฟน แต่ฉันก็ยังไม่มีจริงๆ แหละ จะเอาเวลาที่ไหนไปมี มามี้เข้มงวดซะขนาดนั้น
“ขอไอคิดดูก่อนนะคะ” พี่เก้าเขาจะจีบฉันจริงๆ เหรอ อ๊ายยยย...ฉันแอบเขินอีกแล้ว
“ถ้างั้นแค่นี้นะ รีบๆ คิดล่ะ”
“ค่าาาาาา” ฉันลากเสียงยาว แอบอมยิ้มนิดๆ อยู่ด้วย แต่ไม่มีใครเห็นหรอกก็ฉันอยู่คนเดียว คิกๆๆ
ทางด้านนพเก้า
"ฮะโหลว่าไง" ผมกดรับสายเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอมือถือคือเบอร์น้องเขยของผมนั่นเอง
"ได้ข่าวว่าห้องติดกันเหรอครับพี่” นึกว่าโทรมามีเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องน้องสาวที่อยู่ข้างห้องของผมนี่เอง
“อือ...มีอะไร” ผมถามมันแบบขอไปที บังอาจจะมาสอดแนมเรื่องของผม
“ไปทานข้าวกันมาด้วย เป็นยังไงบ้างครับ น้องสาวผมน่ารักไหม" นั่นไง!! มาแนวนี้ชัวร์ ผมคิดไว้ไม่มีผิด แล้วมันรู้ได้ยังไง สงสัยก่อนที่มันจะโทรมานี่ มันคงโทรไปคุยกับน้องไอก่อนแล้ว
"อือ...น่ารักดี" ผมพูดเสียงเรียบ ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอะไรมากนัก แต่ผมก็มองว่าน้องไอน่ารักดีแบบที่ผมพูดไปนั่นแหละ ในเมื่อผมไม่มีเวลาหาแฟน แถมผู้หญิงที่รุ่นราวคราวเดียวกับผม ผู้หญิงพวกนั้นก็มีสามี มีลูกไปกันหมดแล้ว จีบเด็กนี่แหละ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผมตอนนี้แล้ว
"ได้ยินแบบนี้ พ่อสื่ออย่างผมค่อยมีกำลังใจหน่อย" ดูมันว่า ได้ผมเป็นพี่เขยอย่างเดียวยังไม่พอ มันยังอยากได้ผมเป็นน้องเขยของมันอีก จะนับญาติกันถูกไหมนี่
"โทรมาเรื่องนี้!!" ผมทำเสียงสูงใส่มันทันที ที่มันพูดจบประโยค ดูจากสีหน้าและท่าทางของเธอวันนี้ ดูเธอไม่ค่อยอยากจะเป็นมิตรกับผมสักเท่าไหร่ อย่าว่าแต่จีบเลย แค่คุยด้วยผมยังไม่ค่อยกล้าเลย
"ครับ ก็ยัยไอนะสิ โทรมาว่าผม มันบอกว่าผมไม่ยอมบอกมันว่าห้องของพี่เก้าอยู่ติดกับห้องของผม ซึ่งผมก็พึ่งรู้ตอนน้องมันบอกนี่แหละ" เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ พึ่งจะรู้ก็ตอนที่ผมเปิดประตูออกมาเจอเธอที่หน้าห้องนี่แหละ
"พี่ก็พึ่งรู้เหมือนกัน" สรุปไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างผม ที่ทำให้เธอมาอยู่ใกล้ผมอย่างนี้
"ฮ่าๆๆๆ สรุปคือไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย" ไอ้เกียร์มันขำ น้ำเสียงมีความสุขมาก แหม! ยิ่งกว่ากูซะอีก
"อือ แล้วน้องสาวนายชอบอะไรไม่ชอบอะไร พี่จะได้ทำตัวถูก" ผมถามมัน ก็เผื่อว่าวันไหนอยากจะทำคะแนนก็ถามเผื่อๆ ไว้
"อันนี้ผมก็ไม่รู้นะ เห็นมันก็ชอบหมดนั่นแหละ ไอรีนเป็นคนง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกครับพี่เชื่อผม" อะไรวะตอบกว้างจัง สรุปคำถามนี้ผมไม่ได้คำตอบจากมัน
"อือขอบใจมาก" จากนั้นผมก็วางสายจากเกียร์ไป แล้วก็อาบน้ำเตรียมตัวนอน แต่ก่อนนอนผมหยิบผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นครีมบำรุงผิวหน้าสูตรใหม่ขึ้นมาลองใช้กับหน้าของผมดู จากนั้นผมก็หงายท้องนอนลงไปบนเตียงแล้วก็คิดอะไรไปเพลินๆ จากนั้นผมก็หลับไป
เช้าวันใหม่ วันนี้ผมต้องออกไปทำงานแต่เช้าเหมือนเดิมอีกตามเคย แต่วันนี้ผมต้องรีบเป็นพิเศษหน่อย เพราะผมเผลอหลับไปน่ะสิ ตื่นสายเลยครับ ที่จริงจะสายนิดสายหน่อยมันก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะผมเป็นเจ้าของบริษัท แต่วันนี้ผมมีนัดกับลูกค้านี่สิ ผมเปิดประตูออกมาก็เจอกับน้องไออีกตามเคย เธอคงกำลังจะไปเรียน ผมยิ้มให้เธอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะผมรีบ จากนั้นผมก็รีบเดินไปเข้าลิฟต์ทันที...