บอสร้ายพ่ายเลขาเฉิ่ม

“คุณตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงนั้นคุ้นหูนัก ฉันหันมองไปยังต้นเสียง แม้จะมืดมากแต่ก็รู้ว่ามีคนนอนบนเตียงเดียวกันกับฉัน “คุณเป็นใครคะ แล้วที่นี่ที่ไหนกัน” “บอสไงครับ” ใบหน้าของเขาค่อย ๆ เคลื่อนมาใกล้ฉัน และเมื่อได้เห็นอย่างชัดแจ่มแจ้ง ก็ยิ่งทำให้ฉันตกใจเพราะใบหน้าตรงหน้าคือใบหน้าของ พี่ชายที่ฉันแอบชอบ หรือว่าฉันอยู่ในฝันกันนะ “คุณบอส” ฉันเลื่อนสายตามองพบว่าเขาเปลือยอกอยู่ตรงหน้า พอหันกลับมาดูตัวเองด้วยแล้วนั้นก็ยิ่งใจหวิวเพราะตัวฉันก็ไม่มีเสื้อผ้าอยู่เหมือนกัน มันยิ่งตอกย้ำว่าฉันกำลังฝันไปแน่นอน แต่ถ้านี่เป็นความฝันการที่ฉันคว้ามันสนองตัวเองจะผิดบาปกับพี่ที่แสนดีไหมนะ “คุณโกรธผมรึเปล่าที่ผมพาคุณมาที่ห้องของผม” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอื้อนเอ่ยให้ฉันได้ยิน ยิ่งทำให้ใจฉันล่องลอย ใช่ฉันเมาอยู่ และตอนนี้ก็กำลังฝันอยู่ด้วยเช่นกัน ฉันส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดตอบกลับไป “ไม่โกรธหรอกค่ะ เป็นฉันเองที่ทำให้คุณเสียเวลา” “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงครับ” มือแกร่งรวบเอวฉันดึงเข้าหาร่างเปลือยของเขา ผิวสัมผัสของเนื้อชนเนื้อทำให้ฉันรู้สึกวาบหวามขนลุกชูชันไปหมด “คือฉัน...” ฉันเม้มปากแน่นอยากจะเอ่ยถามเขามากมายว่าที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง มีแฟนหรือยัง เขากลับมาจากต่างประเทศเมื่อไหร่กัน เพราะปกติแล้วกำหนดการต่าง ๆ คุณหญิงพิมลจะต้องแจ้งให้ฉันทราบก่อน “คืนนี้อยู่ด้วยกันนะครับ” เสียงละมุนแผ่วรดรินข้างหู ทำให้ฉันสติกระเจิงหมด และหันไปมองใบหน้าคมที่อยากเห็นมานาน ทำเอาใจสั่นก่อนจะพยักหน้าตอบรับด้วยความเต็มใจ มือหนาที่กำลังลูบแผ่นหลังค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมายังท้ายทอยของฉัน ก่อนจะบรรจงใช้ริมฝีปากหนานั่นงับริมฝีปากบางของฉันอย่างอ่อนโยน เพียงแค่นั้นก็ทำฉันเสียวจนตัวสะดุ้งโหยงแล้วเผลอเม้มปากแน่น ฉันก็โอนอ่อนเชื่อฟังอย่างง่ายดาย เรียวปากที่เม้มค่อย ๆ คลายออก แล้วพี่บอสก็ค่อย ๆ รุกล้ำเข้ามาในโพรงปากของฉัน มือเขาที่ท้ายทอยออกแรงบีบเบา ๆ เป็นสัญญาณให้ฉันเผยอปาก ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมร่างกายนี้ถึงตอบรับเขาทุกอย่างที่เขาต้องการ อาจเป็นเพราะหัวใจของฉันมันร่ำหาละมั้ง “สวยจังครับ” “...” จังหวะที่เขานั้นหยุดจูบเพื่อหายใจ เขาก็เอาแต่พูดพร่ำให้ฉันเคลิ้มราวกับว่าพี่บอสตรงหน้านั้นรักฉันมาก ๆ มันเป็นสิ่งที่ฉันเคยจินตนาการไว้เสมอว่าอยากให้เป็น แล้วตอนนี้มันก็เป็นแบบนั้น ดูเหมือนว่าฉันจะฝันไปจริง ๆ แล้วล่ะ เพราะคนอย่างเขาไม่มีทางรักยัยเด็กที่ครอบครัวเขาเก็บมาอุปถัมภ์แน่ ๆ แม้ฉันจะแอบรักเขาก็เถอะ เขาใช้เรียวลิ้นร้อนสากนั้นโลมเลียไปทั่วทั้งใบหูจนเย็นชื้น ลากเรียวลิ้นไปตามซอกคอก ไหล่ และไหปลาร้า ก่อนจะหยุดอยู่ตรงเนินอกชั่วครู เขาเงยหน้ามองฉันแวบหนึ่งยกยิ้มมุมปาก ใบหน้านั้นทำให้ฉันอดกลืนน้ำลายไม่ได้เลยล่ะ และทันทีที่ฉันไม่ได้ตั้งตัว เรียวลิ้นสากของเขานั้นก็แตะเข้าไปที่ยอดถันชมพูระเรื่อ ร่างกายฉันตอบสนองโดยไม่รู้ตัว สองมือคล้องคอเขา แอ่นอกรับเรียวลิ้นนั้นอย่างโหยหา สะโพกบนตักเขาขยับไปมา จนรู้สึกได้ว่ากึ่งกลางกลายของฉันเฉอะแฉะแปลก ๆ แล้วยิ่งเขาไม่ใช่แค่โลมเลียแต่ทั้ง ขบ เม้ม ดูด เป็นจังหวะ ยิ่งทำให้ฉันใช้เรียวแขนที่คล้องคอเขากดให้ใบหน้าเขารับกับหน้าอกฉันอย่างตั้งใจ “แฮ่ก...แฮ่ก...” เสียงหอบแรงของฉันดังไม่หยุด รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว ฝามือร้อนของเขาที่ประคองท้ายทอยฉันอยู่ละออกไป เปลี่ยนมาบีบเฟ้นหน้าอกใหญ่เกินตัวของฉันอย่างแรงจนฉันสติเตลิดไปไกล แถมอุ้งปากเขาก็ดูดแรงกว่าเดิม ทำเอาฉันอดแหงนหน้าซู๊ดปากอย่างไม่อาย “อยากขึ้นสวรรค์ด้วยกันไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าเคล้ากามรมณ์ของเขาพูดขึ้น ฝัน...มันต้องเป็นฝันแน่ ๆ แต่ถึงมันจะเป็นแค่ฝัน และไม่เคยมีประสบการณ์บนเตียงกับใคร ฉันก็ไม่อยากให้เขาต้องรู้สึกว่าทำกับหมอนข้างหรอก ดังนั้น... “ฉันก็อยากไปถึงสวรรค์กับพี่ค่ะ” เขาจับฉันนอนราบไปกับเตียงแล้วเขาก็แทรกตัวระหว่างขาของฉัน “คะ...พี่จะทำอะไรเหรอ” “ก็ขึ้นสวรรค์ด้วยกันไง” มันจะเกิดขึ้นจริง ๆ เหรอ ฉันกำลังฝันอยู่ ทำใจร่ม ๆ ไว้ยัยพาย แกกำลังจะมีความสุขกับคนที่แกชอบนะ อกแทบระเบิด เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองแก่นกายของเขาที่กำลังจ่ออยู่รูร่องของฉัน “อะ...เจ็บ!” นั่นคือคำอุทานหลังจากที่เขาดันแก่นกายของเขาเข้ามาในรูร่องของฉัน เขาค่อย ๆ ดันเข้ามา สองมือแกร่งรวบแขนฉันไว้เหนือหัว แม้ฉันจะพูดร้องขอให้เขาหยุด แต่เขาก็ไม่หยุดกลับค่อย ๆ ดันแก่นกายนั้นเข้ามา จนในที่สุดมันก็เข้าไปจนสุดโคนความอึดอัดถาโถม ในความเจ็บมีความรู้สึกแปลก ๆ แทรกกลางเข้ามา เขาหยุดแช่มันไว้แบบนั้น ก่อนจะโน้มตัวก้มลงจูบฉันอย่างร้อนแรง และในจังหวะเดียวกันจากที่เขาสอบเอวเข้าออกจากช้า ๆ ก็ เร่งจังหวะเร็วขึ้น แรงขึ้นจนฉันเริ่มบิดตัวไปมา มือจิกแขนเขาแรงตามความเสียวซ่านที่ได้รับ เสียง พั่บ...พั่บ...พั่บ ดังสนั่นในห้วงแห่งความฝัน “ฉันจะ ไม่ไหว แล้ว...อ่ะ...อ่ะ” “ไม่ไหวก็ปลดปล่อยสิครับ” “อ๊าส์....” ตัวฉันกระตุกแรงเกร็งไปทั้งตัวสติเลือนลอยไปก่อนหน้า มือที่จิกแขนเขาคลายออก แต่พี่บอสยังไม่ถึงฝั่งสองมือเขาเปลี่ยนมาจับเอวฉันก่อนจะสอบเอวแรงยิ่งกว่าเดิม พานทำให้เสียงเนื้อกระทบเนื้อชวนให้วาบหวามไปทั้งทรวง “ไม่ไหวจะแตกแล้วแน่นชิบหาย” สิ้นคำเขาชักแก่นกายออกฉีดน้ำขุ่นรักใส่เต็มหน้าท้องฉัน “แฮ่ก...แฮ่ก” เสียงเหนื่อยหอบของสองเราประสาน ฉันนอนแผ่บนเตียงอย่างหมดแรงส่วนเขาที่คร่อมตัวฉันอยู่ด้านบนก็ล้มลงนอนข้างกัน พลางดึงร่างเปลือยฉันเข้าไปสวมกอดแน่นราวกับเป็นหมอนข้าง “ผมอยากได้คุณมาอยู่ข้างกาย มาเป็นเลขาผมไหม” “ฉันเหรอคะ” “ครับ” “ถ้ามีโอกาส ฉันก็อยากเป็นเลขาของคุณคะ” ดวงตาฉันค่อย ๆ ปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า แม้ฉันจะได้ยินเขาพึมพำอะไรต่าง ๆ มากมาย แต่สติฉันก็ไม่อยู่แล้วล่ะ (Zzz) ) เปลือกตาที่แสนหนักอึ้งของฉันค่อย ๆ คลี่ออก ฉันขยับตัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะหยัดตัวขึ้นด้วยความเพลียหนัก “ปวดหัวจัง...เมื่อคืนฉันคงเมาหนักไปหน่อยไม่ได้ดื่มหนักแบบนี้มานานแล้วสิ จนฝันหวานอะไรแบบนั้นออกมาได้...โอ๊ย!” ฉันที่กำลังฉุกคิดถึงฝันหวานที่ผ่านมา จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวโดยเฉพาะตรงนั้นเมื่อก้มดูร่างกายของตนก็พบว่ามันเปลือยล่อนจ่อน เหมือนกับในฝันไม่มีผิด “เอ๊ะ เหมือนฝันงั้นเหรอ หรือว่า...” ฉันกลืนน้ำลายไปหลายอึกภาวนาให้สิ่งที่คิดไม่ใช่ความจริง “ขอให้ฉันเมาจนแก้ผ้าอยู่คนเดียวด้วยเถอะ” ฉันค่อย ๆ หันไปมองข้าง ๆ ผ้าห่มที่พองโป่งราวกับมีอะไรอยู่ใต้นั้น “อะ...อาจจะเป็นหมอนข้างก็ได้ใจเย็น ๆ เข้าไว้” ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงผ้าห่มนั่นอย่างเบามือ และแล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็ดันปรากฏตรงหน้า “เรื่องราวนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ ขอคิดย้อนก่อนนะ หัวจะปวด!”