เวลา 17.00 น.
ทันทีที่อาจารย์ปล่อยเสียงของเหล่านักศึกษาก็ดังขึ้นทุกคนต่างพากันรีบลุกจากเก้าอี้ ทำเอาฉันที่คิดถึงแต่คำพูดของพี่ริวเมื่อตอนกลางวันไม่กล้าลุกไปไหน จะลงไปเลยดีไหมนะ เขาจะมารอที่หน้าตึกอย่างที่พูดจริงหรอ? เอาไงดีวะ!! ถ้าลงไปแล้วเจอเขารออยู่ตรงนั้นฉันจะทำไงดี ไม่กล้า ไม่ชิน ไม่คุ้นเคย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงไอ้เพื่อนพวกนี้ต้องเค้นถามฉันแน่ ๆ แถมเวลานี้ใต้ตึกคนต้องเยอะมากแน่ ๆ ขืนลงไปคงกลายเป็นประเด็นเด็ดพาดหัวข่าวที่หน้าเพจคนรักสิ่งอันตรายแหง่ ๆ ไม่ได้เด็ดขาด แฟนคลับพี่ริวหวงยิ่งกว่าดารานักร้องสะอีก ฉันขออยู่ในมหาลัยนี้อย่างสงบสุขเถอะ พลีสส
“พาย!!” ฉันต้องหลุดออกจากภวังเมื่อละอองเพื่อนสาวเรียกฉันเสียงดัง
“ห้ะ?”
“เหม่ออะไรของแก เรียกตั้งนาน”
“เปล่า ๆ”
“แล้วนี่ไม่เก็บของละจ้ะ ไม่กลับใช่ไหม?”
คะนิ้งพูดก่อนจะเอื้อมมาหยิบสมุดปากกาของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะลงกระเป๋าให้
“เห้ย ไม่ต้อง ๆๆ พวกแกไปก่อนเลย พอดีฉันมีธุระอยู่น่ะ” ฉันรีบปัดมือคะนิ้งออกพร้อมพูดปฏิเสธพวกมันทันที
“ธุระอะไร มัวชักช้าเดี๋ยวก็ไม่ทันไปทำงานหรอก”
ยัยเมลบอกพลางขมวดคิ้วเป็นปม ใช่สิ ฉันต้องเข้าไปทำงานตอนหกโมงครึ่งนี่น่า ลืมไปได้ไงเนี่ย ขืนช้ากว่านี้ต้องไม่ทันแน่ ๆ แท็กซี่ก็ไม่ค่อยจะวิ่งทางนั้นด้วยแต่ถ้าฉันลงไปตอนนี้....เกิดเจอพี่ริวขึ้นมาจริง ๆ ละ ฉันไม่ได้กลัวเขานะ ฉันกลัวสายตารอบข้างมากกว่า เขารุกฉันเกินไป ตั้งตัวไม่ทัน…
“ไม่เป็นไร ๆๆ ฉันโทรลากับพี่เมย์แล้ว พวกแกกลับก่อนเลยไม่ต้องห่วง”
พวกเพื่อน ๆ พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินหิ้วสัมภาระตัวเองออกจากห้องเรียน ทำให้ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงแต่ฉันแค่คนเดียว เอาไงดีวะ ลงไปสู้หน้าเขาเลยไหม อย่าป๊อดดิ แค่นี้ทำเป็นปอดแหก ปกติก็วิ่งตามจีบเขาไม่เห็นจะกลัวอะไรแล้วมาใจเซาะเอาอะไรตอนนี้ห้ะ!
ติ้ง ๆๆ
เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าทำให้ฉันต้องรีบหยิบมาดู
‘ทำไมพี่ริวถามถึงแก พี่เค้ารออยู่ใต้ตึกเนี่ย…ทำไมพี่เขาต้องตามหาแกด้วย ตอบ!’
นี่เป็นคำถามของเพื่อน ๆ เขามาจริง ๆ ด้วย
“พะพาย”
เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากประตูหน้าห้อง ฉันรีบหันไปมองถึงได้ตกใจเมื่อเห็นร่างสูงที่ฉันพยายามหลบหน้าหลบตากำลังเดินมาทางนี้ด้วยใบหน้ายุ่งขมวดคิ้วปม
“เธอทำให้ฉันรอนาน”
“คือ พายต้องเคลียร์งานค้างน่ะ เลยลงไปช้ากว่าเพื่อน”
“แต่เพื่อนเธอบอกว่าเธอจะไปทำธุระต่อ”
“กะ…ก็กำลังจะไปนี่ไง กำลังเก็บของพอดี แหะๆ "
แถเข้าไป แถให้สีข้างถลอกไปเลย ฉันบอกเขาก่อนจะรีบก้มลงเก็บของทันที รู้สึกว่ามีดวงตาพิฆาตมองมาทางฉัน ไม่กล้า..ไม่กล้าเงยขึ้นสบตาหรอกนะ ฉันกลัว
พรึบ!
อยู่ ๆ พี่ริวก็เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ จึงต้องหันไปมองอย่างสงสัย เขาจะมานั่งทำไมเดี๋ยวฉันก็ลุกแล้ว
“ฉันไม่ชอบรอใคร”
เขาว่าด้วยน้ำเสียงปนความหงุดหงิด แววตาแน่นิ่งอย่างไม่มีท่าทีจะเล่น เห็นแบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นยืนพยายามที่จะเปลี่ยนเรื่องให้เนียนที่สุด
“ขอโทษค่ะ เราไปกันเถอะ”
ว่าพร้อมพยักหน้าเป็นการบอกว่าพร้อมแล้ว พี่ริวเสมองไปทางอื่นพลางเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างที่ชอบทำก่อนจะถอนหายใจออกเฮือกใหญ่พยายามระงับอารมณ์ตัวเอง
เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงก้าวเท้าเดินไปก่อนทันที ใครกันจะอยากอยู่ให้โดนด่าแต่ทว่าเดินมาได้ไม่ไกลมือของฉันก็ถูกจับกุมด้วยมือหนาของพี่ริว ทำเอาฉันชะงักนิ่งหยุดฝีเท้าแล้วก้มดูมือตัวเอง เราสองคนไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวกันมาก่อนเลยนะ พระเจ้าาา
“ทำไม? จับไม่ได้รึไง?”
เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฉันยืนมองมือตัวเองที่ถูกกุมด้วยมือใหญ่ เขาทำท่าจะปล่อยแต่แล้วการกระทำนั้นเร็วกว่าความคิด เมื่อฉันรีบจับมือเขาไว้แน่นไม่ให้หลุดมือไปไหน มือนุ่ม ๆ อันนี้ฝันอยากจับมันมานานแล้ว จะปล่อยโอกาสดี ๆ อย่างนี้ไปได้ไง ฉันเงยใบหน้าขึ้นแล้วยกยิ้มหวานทำให้พี่ริ้วกระตุกมุมปากพลางเค้นหัวเราะในลำคอ
“น้องพาย”
เราเดินมาจนถึงลานจอดรถ ระหว่างทางก็มีคุยกันบ้างเป็นการทำความรู้จักไปในตัว
ทว่ากลับมีเสียงผู้หญิงตะโกนเรียกจากข้างหลัง ฉันรีบหันไปมองทันทีก็เห็นว่าเป็นพี่ครีม พี่ที่ฉันเคารพนับถือ เธอวิ่งมาหาพร้อมกับของในมือพะลุงพะลัง สีหน้าของเธอดูตกใจเล็กน้อยเมื่อเหลือบไปเห็นคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉัน ก็ไม่แปลกที่จะตกใจ พี่ริวเขาเป็นประธานรุ่นคณะวิศวกรรม อีกทั้งยังเป็นหนุ่มฮ็อตแบบที่ว่า โดนทาบทามให้ไปเป็นดาราหลายรอบแล้วแต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธเพราะความหยิ่งที่ปลูกฝังอยู่ในสายเลือด
“พี่ครีม มีอะไรรึเปล่าคะ?”
เธอเพียงหันมายิ้มก่อนจะมองฉันสลับกับพี่ริวอีกครั้ง
“คือ...พี่มีเรื่องให้พายช่วยหน่อยน่ะ”
“อะไรหรอ??”
“พอดีพี่เห็นว่าน้องทำเค้กเก่งอะ พี่อยากให้พายสอนพี่ทำเค้กหน่อย”
“เอ๋? พี่ครีมจะทำไปทำไมหรอ??”
“พี่ก็อยากทำเป็นเหมือนพายไง ไม่ได้หรอ??”
“ได้สิ ได้แน่นอนอยู่แล้วว่าแต่เมื่อไหร่ดีน้า??”
“เดี๋ยวพี่จะบอกอีกทีก็แล้วกัน ”
“โอเคค่ะ”
ฉันว่าพลางทำมือ โอเค ให้พี่ครีม เธอยิ้มรับก่อนจะเหลือบสายตาไปมองพี่ริวอีกครั้ง ทำเอาฉันต้องมองตามอย่างสงสัย
“ว่าแต่....พายรู้จักริวด้วยหรอ???”
พี่ครีมหันมาถามฉันทันที ยังไม่ทันได้อ้าปากตอบกลับมีมือหนาเลื่อนขึ้นมาโอบไหล่ฉันแล้วดึงเข้าหาตัวเอง เป็นแบบนั้นก็อดที่จะเงยขึ้นมองเจ้าของการกระทำนี้ไม่ได้
“เราเป็นแฟนกัน”