ตอนที่ 5 วางแผน

1105 คำ
บ้านหรูตระกูลโรจนจินดา คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาที่รัดสัดส่วนบวกกับกระโปรงสั้นอวดเรียวขายาวกำลังเดินลงมาจากชั้นสอง พร้อมกับถือกระเป๋าคู่ใจที่ด้านในมีเพียงเครื่องสำอางราคาแพงเท่านั้น ใบหน้าอิดโรยจากการพักผ่อนน้อยเพราะมัวแต่คิดมากทั้งคืนซึ่งกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้า แต่ถึงจะดูอ่อนเพลียเช่นไรก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางจนสวยอย่างมีเสน่ห์เหมือนทุกวันไม่มีเปลี่ยน พริ้งหย่อนตัวนั่งลงร่วมทานข้าวกับพ่อแม่ที่รออยู่ก่อนแล้ว “มาแล้วหรอคนเก่งของแม่” “เก่งไม่พอสวยด้วยค่ะ คิกคิก” “ลูกแม่ก็ต้องสวยอยู่แล้ว รู้ไหมข่าวของหนูทำหุ้นบริษัทเราดีดตัวขึ้นสูงมากเลยนะลูก” “จริงหรอคะ ดีใจจัง” รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าสวยต้อนรับเรื่องราวดี ๆ ในรอบครึ่งปีจนลืมเรื่องที่เครียดไปเสียสนิท เนื่องจากก่อนหน้านี้สำนักข่าวเจดีที่เป็นธุรกิจของครอบครัวเธอเกือบจะล้มละลาย ส่งผลกระทบให้การเงินภายในบริษัทสั่นคลอนจนเกือบจะต้องปิดตัวลง แต่หลังจากที่พริ้งเสนอข่าวใหญ่โตให้แก่คุณการันต์ผู้เป็นพ่อ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นท่านประธานได้ร่วมพิจารณากับผู้บริหารท่านอื่น จนได้ลงมติที่จะเผยแพร่ข่าวออกสื่อมวลชนและผลตอบรับก็ดีเกินคาดพลอยให้สำนักข่าวเจดีกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง งานนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับลูกสาวสุดสวยคนนี้แล้ว “วันนี้เลิกเรียนกี่โมงล่ะพริ้ง” “เย็น ๆ เลยค่ะพ่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ” “พ่อจัดงานเลี้ยงที่บริษัท แวะไปสิ” “งั้นพริ้งคงต้องเตรียมท้องไว้ใส่อาหารเยอะ ๆ แล้วสิคะ” มือบางลูบท้องป้อย ๆ พลางคลี่ยิ้มอย่างน่ารักทำเอาคนมองถึงกับหลุดยิ้มตามลูกสาวเพียงคนเดียวที่กินจุแต่หุ่นยังสวยเพอร์เฟคตามรอยแม่ไม่มีผิดเพี้ยน มหาวิทยาลัยที ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่เต็มไปด้วยนักศึกษาชายหญิงกำลังตั้งอกตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน เว้นก็แต่สองสาวที่มาเรียนแบบไม่เต็มร้อยเพราะอีกคนก็ยังเมาค้างไม่เลิก ส่วนอีกคนก็อดหลับอดนอนเพราะคิดมากจนสมองไม่สามารถเปิดรับความรู้ใด ๆ ได้แล้ว จึงได้แต่พากันนอนหมอบโต๊ะอยู่หลังห้องไม่เกรงใจสายตาดุดันจากอาจารย์เลยแม้แต่น้อย “ถ้าดื่มแล้วเรียนไม่ได้ ทีหลังแกไม่ต้องมาชวนฉันเลยนะยัยปราง” “อือหือ แกก็ไม่ต่างจากฉันเหอะ” “มันไม่เหมือนกันหนิ เห้อออ~” “เป็นไรอะ หรือที่บริษัทมีปัญหาอีกแล้วหรอ” “เปล่าหรอก” มะปรางที่ยังแฮงค์จากการจัดหนักจัดเต็มเมื่อคืนไม่หายดีดตัวผึงทันทีที่เพื่อนสนิทถอนหายใจคล้ายกับคนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ ถึงจะอยากรู้มากเพียงใดแต่คนปากหนักก็ยังไม่ยอมปริปากบอกความจริงอีกอยู่ดี “ฉันก็เพื่อนแกนะ” “ไว้พร้อมจะบอกเองก็แล้วกัน” “หรือหนักใจที่หนุ่ม ๆ รุมล้อม ถ้ารับไม่ไหวก็โยนมาให้ฉันสักคนสองคนก็ได้นะ” “หนุ่มไหนของแก อยู่เป็นโสดแบบนี้ดีกว่าเยอะ” “ถึงจะเมาแต่ความจำฉันก็ยังดีนะจ๊ะ” มะปรางว่าพลางหรี่ตามองเพื่อนสนิทที่ช่วงนี้เสน่ห์แรงจนหนุ่มบริหารที่สาว ๆ ทั้งมหาวิทยาลัยพากันหมายปองมาติดพันพริ้งจนน่าอิจฉา แต่สาวสวยที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างเช่นพริ้งกลับไม่คิดใส่ใจหรือสนใจใครเป็นพิเศษเลยสักคน “มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดเลยจ้ะ ไม่ต้องมาสนใจเรื่องฉันแล้ว สนใจอาจารย์นู่น” “จ้า ๆ ว่าแต่มีปากกากี่ด้ามฉันยืมมั้งสิ” “นี่มาเรียนจริงปะเนี่ย” “อย่าบ่นนักเลย คนยิ่งปวดหัว” “ฉันบังคับแกไปมั้งผับน่ะ” ถึงปากจะบ่นเพื่อนสนิทที่ดื่มไม่ดูกำลังจนพาลให้เสียการเรียน แต่มือบางก็ยอมค้นหาปากกาในกระเป๋าซึ่งจะมีแต่เครื่องสำอางไปซะส่วนใหญ่ จู่ ๆ สายตาก็สะดุดเข้ากับปากกาด้ามสีขาวไม่คุ้นตาที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยหรู “นี่ของแกป้ะ” “เปล่า ยืมด้านนี้แหละสวยดี” “โนจ้ะ” พริ้งโยกปากกาที่ถือไว้หลบมือไวของเพื่อนก่อนจะยื่นอีกด้ามให้มะปรางแทน เพราะคิดไปว่าพ่อและแม่อาจจะแอบเอามาใส่กระเป๋าเพื่อเป็นรางวัลของคนเก่งจึงอยากเก็บไว้ใช้เอง ชั้นยี่สิบห้าของโรงแรมหรูเอดีกรุ๊ป ร่างสูงของทายาทมาเฟียนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ผู้บริหาร กำลังตั้งใจฟังเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากเครื่องดักฟังในด้ามปากกา ซึ่งติดจีพีเอสไว้สำหรับปฏิบัติภารกิจสำคัญนี้ด้วย เนื่องจากวันนี้ไม่มีเรียนเขาจึงอยู่ในชุดกางเกงสแล็คกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว เปลี่ยนมาดจากนักศึกษาเป็นหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงถึงกระนั้นก็ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ไม่เปลี่ยน แอ๊ดดดด “เฮียทัพเรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” “มีงานให้ทำ” “ครับ” นิ้วเรียวกดปุ่มปิดเสียงก่อนจะยื่นอุปกรณ์ที่เขาสั่งทำพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะให้กับลูกน้องมือขวาที่อายุมากกว่าเขาเพียงสามปี ถึงจะอายุน้อยแต่ไทกลับมากไปด้วยความสามารถ อดทนฝึกฝนควบคู่มากับกองทัพตั้งแต่เด็ก และด้วยความไว้ใจบวกกับฝีมืออันเก่งกาจทำให้เขาถูกเลื่อนขั้นเป็นถึงลูกน้องคนสนิทของทายาทมาเฟียจนถึงทุกวันนี้ “คืนนี้เริ่มงานได้ อย่าให้เป็นข่าว” “ครับเฮีย ว่าแต่ไปพบกันที่โรงไม้หรือมาที่นี่ครับ” “ลากตัวมานี่ หวังว่าพี่จะไม่ทำให้ผมผิดหวัง” “งานนี้ไม่พลาดแน่นอนครับเฮีย” “อืม ไปได้” สุ้มเสียงอันน่าเกรงขามเอ่ยสั่งงานลูกน้องที่ก้มหน้าก้มตาตั้งใจฟังคำสั่งจากเจ้านายจนเสร็จสิ้นจึงปลีกตัวออกไปทำหน้าที่ทันที สายตาคมกริบฉายแววอาฆาตแค้นมองไปยังภาพหญิงสาวที่ถือไว้ในมือ ก่อนจะขยำเกร็งมือจนเส้นเลือดปูดนูนขึ้นแล้วเขวี้ยงทิ้งด้วยความโมโห “เธอบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะพริ้งพราว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม