บ้านหรูตระกูลโรจนจินดา
คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาที่รัดสัดส่วนบวกกับกระโปรงสั้นอวดเรียวขายาวกำลังเดินลงมาจากชั้นสอง พร้อมกับถือกระเป๋าคู่ใจที่ด้านในมีเพียงเครื่องสำอางราคาแพงเท่านั้น
ใบหน้าอิดโรยจากการพักผ่อนน้อยเพราะมัวแต่คิดมากทั้งคืนซึ่งกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้า แต่ถึงจะดูอ่อนเพลียเช่นไรก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางจนสวยอย่างมีเสน่ห์เหมือนทุกวันไม่มีเปลี่ยน
พริ้งหย่อนตัวนั่งลงร่วมทานข้าวกับพ่อแม่ที่รออยู่ก่อนแล้ว
“มาแล้วหรอคนเก่งของแม่”
“เก่งไม่พอสวยด้วยค่ะ คิกคิก”
“ลูกแม่ก็ต้องสวยอยู่แล้ว รู้ไหมข่าวของหนูทำหุ้นบริษัทเราดีดตัวขึ้นสูงมากเลยนะลูก”
“จริงหรอคะ ดีใจจัง”
รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าสวยต้อนรับเรื่องราวดี ๆ ในรอบครึ่งปีจนลืมเรื่องที่เครียดไปเสียสนิท
เนื่องจากก่อนหน้านี้สำนักข่าวเจดีที่เป็นธุรกิจของครอบครัวเธอเกือบจะล้มละลาย ส่งผลกระทบให้การเงินภายในบริษัทสั่นคลอนจนเกือบจะต้องปิดตัวลง
แต่หลังจากที่พริ้งเสนอข่าวใหญ่โตให้แก่คุณการันต์ผู้เป็นพ่อ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นท่านประธานได้ร่วมพิจารณากับผู้บริหารท่านอื่น จนได้ลงมติที่จะเผยแพร่ข่าวออกสื่อมวลชนและผลตอบรับก็ดีเกินคาดพลอยให้สำนักข่าวเจดีกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง
งานนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับลูกสาวสุดสวยคนนี้แล้ว
“วันนี้เลิกเรียนกี่โมงล่ะพริ้ง”
“เย็น ๆ เลยค่ะพ่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พ่อจัดงานเลี้ยงที่บริษัท แวะไปสิ”
“งั้นพริ้งคงต้องเตรียมท้องไว้ใส่อาหารเยอะ ๆ แล้วสิคะ”
มือบางลูบท้องป้อย ๆ พลางคลี่ยิ้มอย่างน่ารักทำเอาคนมองถึงกับหลุดยิ้มตามลูกสาวเพียงคนเดียวที่กินจุแต่หุ่นยังสวยเพอร์เฟคตามรอยแม่ไม่มีผิดเพี้ยน
มหาวิทยาลัยที
ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่เต็มไปด้วยนักศึกษาชายหญิงกำลังตั้งอกตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน เว้นก็แต่สองสาวที่มาเรียนแบบไม่เต็มร้อยเพราะอีกคนก็ยังเมาค้างไม่เลิก ส่วนอีกคนก็อดหลับอดนอนเพราะคิดมากจนสมองไม่สามารถเปิดรับความรู้ใด ๆ ได้แล้ว
จึงได้แต่พากันนอนหมอบโต๊ะอยู่หลังห้องไม่เกรงใจสายตาดุดันจากอาจารย์เลยแม้แต่น้อย
“ถ้าดื่มแล้วเรียนไม่ได้ ทีหลังแกไม่ต้องมาชวนฉันเลยนะยัยปราง”
“อือหือ แกก็ไม่ต่างจากฉันเหอะ”
“มันไม่เหมือนกันหนิ เห้อออ~”
“เป็นไรอะ หรือที่บริษัทมีปัญหาอีกแล้วหรอ”
“เปล่าหรอก”
มะปรางที่ยังแฮงค์จากการจัดหนักจัดเต็มเมื่อคืนไม่หายดีดตัวผึงทันทีที่เพื่อนสนิทถอนหายใจคล้ายกับคนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ ถึงจะอยากรู้มากเพียงใดแต่คนปากหนักก็ยังไม่ยอมปริปากบอกความจริงอีกอยู่ดี
“ฉันก็เพื่อนแกนะ”
“ไว้พร้อมจะบอกเองก็แล้วกัน”
“หรือหนักใจที่หนุ่ม ๆ รุมล้อม ถ้ารับไม่ไหวก็โยนมาให้ฉันสักคนสองคนก็ได้นะ”
“หนุ่มไหนของแก อยู่เป็นโสดแบบนี้ดีกว่าเยอะ”
“ถึงจะเมาแต่ความจำฉันก็ยังดีนะจ๊ะ”
มะปรางว่าพลางหรี่ตามองเพื่อนสนิทที่ช่วงนี้เสน่ห์แรงจนหนุ่มบริหารที่สาว ๆ ทั้งมหาวิทยาลัยพากันหมายปองมาติดพันพริ้งจนน่าอิจฉา
แต่สาวสวยที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างเช่นพริ้งกลับไม่คิดใส่ใจหรือสนใจใครเป็นพิเศษเลยสักคน
“มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดเลยจ้ะ ไม่ต้องมาสนใจเรื่องฉันแล้ว สนใจอาจารย์นู่น”
“จ้า ๆ ว่าแต่มีปากกากี่ด้ามฉันยืมมั้งสิ”
“นี่มาเรียนจริงปะเนี่ย”
“อย่าบ่นนักเลย คนยิ่งปวดหัว”
“ฉันบังคับแกไปมั้งผับน่ะ”
ถึงปากจะบ่นเพื่อนสนิทที่ดื่มไม่ดูกำลังจนพาลให้เสียการเรียน แต่มือบางก็ยอมค้นหาปากกาในกระเป๋าซึ่งจะมีแต่เครื่องสำอางไปซะส่วนใหญ่
จู่ ๆ สายตาก็สะดุดเข้ากับปากกาด้ามสีขาวไม่คุ้นตาที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยหรู
“นี่ของแกป้ะ”
“เปล่า ยืมด้านนี้แหละสวยดี”
“โนจ้ะ”
พริ้งโยกปากกาที่ถือไว้หลบมือไวของเพื่อนก่อนจะยื่นอีกด้ามให้มะปรางแทน เพราะคิดไปว่าพ่อและแม่อาจจะแอบเอามาใส่กระเป๋าเพื่อเป็นรางวัลของคนเก่งจึงอยากเก็บไว้ใช้เอง
ชั้นยี่สิบห้าของโรงแรมหรูเอดีกรุ๊ป
ร่างสูงของทายาทมาเฟียนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ผู้บริหาร กำลังตั้งใจฟังเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากเครื่องดักฟังในด้ามปากกา ซึ่งติดจีพีเอสไว้สำหรับปฏิบัติภารกิจสำคัญนี้ด้วย
เนื่องจากวันนี้ไม่มีเรียนเขาจึงอยู่ในชุดกางเกงสแล็คกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว เปลี่ยนมาดจากนักศึกษาเป็นหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงถึงกระนั้นก็ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ไม่เปลี่ยน
แอ๊ดดดด
“เฮียทัพเรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“มีงานให้ทำ”
“ครับ”
นิ้วเรียวกดปุ่มปิดเสียงก่อนจะยื่นอุปกรณ์ที่เขาสั่งทำพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะให้กับลูกน้องมือขวาที่อายุมากกว่าเขาเพียงสามปี ถึงจะอายุน้อยแต่ไทกลับมากไปด้วยความสามารถ อดทนฝึกฝนควบคู่มากับกองทัพตั้งแต่เด็ก และด้วยความไว้ใจบวกกับฝีมืออันเก่งกาจทำให้เขาถูกเลื่อนขั้นเป็นถึงลูกน้องคนสนิทของทายาทมาเฟียจนถึงทุกวันนี้
“คืนนี้เริ่มงานได้ อย่าให้เป็นข่าว”
“ครับเฮีย ว่าแต่ไปพบกันที่โรงไม้หรือมาที่นี่ครับ”
“ลากตัวมานี่ หวังว่าพี่จะไม่ทำให้ผมผิดหวัง”
“งานนี้ไม่พลาดแน่นอนครับเฮีย”
“อืม ไปได้”
สุ้มเสียงอันน่าเกรงขามเอ่ยสั่งงานลูกน้องที่ก้มหน้าก้มตาตั้งใจฟังคำสั่งจากเจ้านายจนเสร็จสิ้นจึงปลีกตัวออกไปทำหน้าที่ทันที
สายตาคมกริบฉายแววอาฆาตแค้นมองไปยังภาพหญิงสาวที่ถือไว้ในมือ ก่อนจะขยำเกร็งมือจนเส้นเลือดปูดนูนขึ้นแล้วเขวี้ยงทิ้งด้วยความโมโห
“เธอบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะพริ้งพราว”