เจย์หยิบมือถือที่สั่นขึ้นมาดู เขามองหน้าเอิงเอยเหมือนลังเลเล็กน้อยที่จะกดรับ และทำท่าเหมือนจะกดตัดสายไปเลยด้วย ทว่าเอิงเอยชิงพูดก่อน “พี่เจย์รับเถอะค่ะ ไม่เป็นไร” เอิงเอยเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายลังเล เจย์พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปคุยโทรศัพท์ที่นอกร้าน ไม่นานก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูก็ว่าสีหน้าดูเคร่งเครียด แต่เอิงเอยก็ไม่กล้าถามว่ามีเรื่องด่วนอะไร ได้แต่มองเจย์ที่นั่งทานอาหารต่อ ทว่าอีกห้านาทีต่อมามือถือของเจย์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เจย์ถึงกับถอนหายใจออก ก่อนจะมองหน้าเอิงเอย “เชิญค่ะ ตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ” เอิงเอยอนุญาตอีกครั้งพลางคิดในใจว่าเขาอาจจะมีเรื่องด่วน ไม่นานเจย์ก็กลับที่โต๊ะ แต่สีหน้าเขาดูเหมือนดูอึดอัดเล็กน้อย ส่วนเอิงเอยก็ยังคงนิ่งเหมือนเคยจนกระทั่งมือถือของเจย์ดังขึ้นอีกครั้งเป็นรอบที่สาม “คือว่า...ถ้าเจย์มีธุระก็กลับไปก่อนได้นะคะ เอิงไม่เป็นไร” เอิงเอยตั

