bc

ลำนำรักปักษาสวรรค์

book_age16+
333
FOLLOW
1.7K
READ
HE
time-travel
bxg
kicking
campus
secrets
like
intro-logo
Blurb

เทพเซียนอายุสามหมื่นปีถึงจะมีชื่อคู่บุพเพขึ้นในศิลาสวรรค์ นับประสาอะไรกับเทพมังกรฟ้าที่อายุนับสิบหมื่นปีองค์นี้

     เขาหลับไปนานนับสิบหมื่นปีเพื่อหวังว่าคู่ครองบนศิลาสวรรค์จะหายไป หวนคืนสู่จุดกำเนิดดังเช่นเทพบรรพกาลหลายองค์ที่ดับสูญไปหลังจากสงครามเทพมารสงบลงและสร้างเสาค้ำยันสวรรค์เสร็จสิ้น เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งเทพมังกรฟ้าจึงรีบไปที่ศิลาสวรรค์เพื่อตรวจสอบดูว่าชื่อของนางหายไปหรือไม่

     ชื่อของนางหายไป ทว่ากลับกลายเป็นชื่อของใครอีกคน เขา...ย่อมใจหายและรู้สึกวูบโหวงอย่างประหลาด จนกระทั่งได้พบกับหลานสาวของเทียนจวินองค์ปัจจุบัน

     ชื่อของนาง...ขนของนาง ช่างเหมือนกับสตรีจอมเกียจคร้านนั้นไม่ผิดเพี้ยน

     หรือว่าดวงจิตของสตรีนางนั้นมาจุติใหม่กันแน่?

     เทพมังกรฟ้าจึงตัดสินใจสร้างบุพเพใหม่ หวังเปลี่ยนชื่อในศิลาสวรรค์ให้กลับมาเป็นชื่อเดิมของนาง เทียนจวินจึงส่งหลานสาวตนไปจุติในภพมนุษย์เพื่อช่วยให้นางกับเขาสมหวังในรัก

chap-preview
Free preview
บทนำ
บทนำ  ฤดูกาลผ่านผัน หมื่นพฤกษาเจริญงอกงาม หนึ่งร้อยยี่สิบปีในโลกมนุษย์ ในที่สุดก็ได้มอบใบไม้ผลิให้แก่แดนสวรรค์แล้ว เมื่อดอกท้อแรกในตำหนักตะวันตกผลิบาน สัญญาณของงานชุมนุมบุปผชาติจึงได้เริ่มต้นขึ้น งานเลี้ยงที่มีแต่เทพเซียนชั้นสูงและผู้ที่ได้รับการยอมรับจากทำเนียบเซียนเท่านั้นจึงจะเข้าร่วมได้ ทำให้ชาวสวรรค์ที่ทราบข่าวคาดหวังว่าตนเองจะมีบุญได้เข้าร่วมสักครา เซียนชั้นผู้น้อยที่บำเพ็ญเพียรยังไม่ครบสามหมื่นปีย่อมหวังให้ตนเองนั้นได้สร้างบุพเพกับใครสักคนก่อนจะถึงเวลาที่ศิลาสวรรค์จะจารึกนามพวกเขาไว้บนนั้น ดอกท้อผลิบาน พานพบบุพเพ ดวงตาหงส์กลอกกลิ้งไปมาคล้ายกับเบื่อหน่ายเหลือคณาเมื่อเห็นลายมืออันวิจิตรของเทพอาลักษณ์ พลันขยับปลายนิ้วเคาะลงบนเทียบเชิญเป็นจังหวะ ก่อนจะพูดกับเซียนนกกระเรียนทองผู้ซึ่งก้มศีรษะจรดแทบพื้นเพื่อหลบเลี่ยงรัศมีเทพของนาง “เทียบเชิญนี้มีอะไรไม่เหมาะสมเจ้ารู้หรือไม่” น้ำเสียงกังวานทว่าเรื่อยเอื่อยดุจสายน้ำรินดังขึ้น กระแสกดดันหลายขุมทำให้เซียนน้อยตัวสั่นงันงก แม้แต่จะอ้าปากก็ยังไร้สามารถ แดนสวรรค์มีการจัดลำดับชั้นที่แปลกประหลาดนัก หากท่านมีชาติกำเนิดจากเก้าชั้นฟ้า ก็จะได้รับเกียรติตั้งแต่แรกกำเนิด หากท่านเป็นเซียนที่บำเพ็ญเพียรด้วยตนเอง ก็จะมีชะตากรรมที่แตกต่างออกไป กล่าวคือเมื่อสิ้นอายุขัยจากภพมนุษย์ หลังจากข้ามสะพานไน่เหอ[1]ไปสู่ปรภพ ดวงจิตก็ถูกส่งมายังประตูกำเนิดเซียน หลังจากนั้นจึงเสี่ยงทายวาสนาว่าตนเองนั้นเหมาะสมกับการบำเพ็ญเพียรโดยใช้ร่างพื้นฐานเป็นสิ่งใด ตัวเขามีวาสนากับเผ่าปักษา เคราะห์ดีหน่อยที่สวรรค์มีเมตตาส่งมาอุบัติในเผ่าปักษา เป็นเซียนกระเรียนทองที่บรรดาเทพเซียนบำเพ็ญทั้งหลายต่างก็ให้ความเคารพและเกรงอกเกรงใจ เนื่องด้วยภารกิจในการนำส่งข่าวสารในแดนสวรรค์นั้น เหล่าผู้เฒ่ากระเรียนทองล้วนรับผิดชอบ บนโลกมนุษย์มีคำกล่าวว่าหากเจ้ามีเงินเจ้าก็มีอำนาจ หากเจ้ามีชาติตระกูลที่มีอำนาจเจ้าก็จะถูกปฏิบัติอย่างนอบน้อ สวรรค์ไม่ใส่ใจเรื่องเงินทอง ทว่าสวรรค์กลับใส่ใจเรื่องอำนาจบารมี แม้จะกล่าวว่าทั้งหกภพภูมินี้เทียนจวินผู้ครองสวรรค์เป็นใหญ่ที่สุด ทว่าแท้จริงแล้วยังมีปฐมเทพตัวแทนของสัตว์ในตำนานเป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงระหว่างฟ้าดิน และสตรีตรงหน้าก็เป็นหนึ่งในทายาทของปฐมเทพที่ผู้คนยกให้เป็นมหาเทพผู้พิทักษ์หกภพภูมิ ในยามนี้นางยังถือว่ามีอำนาจสะท้านฟ้าสะเทือนดิน เพียงแค่ดีดปลายนิ้ว เทพเซียนตัวน้อยๆ ก็แหลกสลายกลับสู่แดนกำเนิดได้อย่างง่ายดายราวกับเศษธุลี เขาเพิ่งบำเพ็ญจนได้เป็นเซียนแค่สองหมื่นปี กลับถูกส่งมาที่แดนปักษาเสียแล้ว เซียนกระเรียนเฒ่าทั้งหลายเจ้าเล่ห์ร้ายกาจนัก พวกเขาต่างก็รู้จักพิษสงของเทพปักษาท่านนี้ดี หากมีกิจธุระสำคัญจะรบกวนนางกี่ครั้งก็ย่อมได้ เว้นเสียแต่จะส่งเทียบเชิญงานชุมนุมที่เหลวไหลตามที่นางเคยปรามาสไว้มาให้ เมื่อเด็กใหม่อย่างเขาเข้าไปรับหน้าที่แทนเซียนคนก่อน ก็ถูกเตะกระเด็นมาทำงานนี้เป็นงานแรกในทันที หากขนปีกของเขาไม่ร่วงจนหมดเหมือนเซียนนกกระเรียนที่เคยมาเมื่อปีที่แล้ว คงนับได้ว่าตัวเขายังพอมีบุญกุศลอยู่บ้าง เมื่อเซียนน้อยไม่ยอมเอ่ยปากแม้เพียงครึ่งคำ ดวงตาของหญิงสาวพลันโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากกลั่นแกล้งผู้น้อยอีกสักหน่อย “เจ้าชื่ออะไรนะ ข้าลืมไปแล้ว” จริงอยู่ว่าก่อนเข้ามาเขาแจ้งชื่อไปแล้ว แต่พอนางได้ยินว่าเทียนโฮ่วรับสั่งให้เขามา ก็จำต้องให้คนของตัวเองออกไปรอข้างนอก แล้วให้เซียนกระเรียนน้อยตนนี้เข้ามามอบเทียบเชิญให้เพื่อไว้หน้าเทียนโฮ่วสักสามส่วน พอหันกลับมาสนใจเซียนน้อยก็ลืมชื่อเขาเสียแล้ว เสี่ยวหัวเสวียนร่ำไห้ในใจ ก้มศีรษะต่ำกว่าเดิมพลางเอ่ยเสียงสั่น “เสี่ยวหัวเสวียนขอรับท่านมหาเทพ” ที่จริงเขาชื่อหัวเสวียน แต่เพราะด้อยอาวุโสที่สุดในหน่วยกระเรียนทอง ผู้อื่นจึงเติมเสี่ยว[2]ให้เพื่อเป็นสิริมงคล ศิริมงคลที่ว่านี้ ก็เป็นเพียงแค่คำพูดที่อุปโลกน์ขึ้นมาให้ผู้ฟังรู้สึกดีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้แต่คนปัญญาอ่อนยังมองออกเลยว่าเซียนที่เข้ามาใหม่ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นที่รองมือรองเท้าของผู้ที่มาก่อน เทพปักษาเท้าแขนอย่างเกียจคร้าน นางโบกมือครั้งหนึ่งเทียบเชิญสีทองอันตรธานหายไป ดวงตาหงส์หลุกหลิกไปมาขณะที่แอบหยิบขนสีนกทองออกมาจากแขนเสื้อเส้นหนึ่ง หว่างคิ้วของนางกระตุกเล็กน้อย ซึ่งเสี่ยวหัวเสวียนที่ก้มหน้าก้มตามองพื้นอยู่เบื้องหน้าก็หามีโอกาสได้เห็นไม่ “เงยหน้าขึ้น” นางกล่าวเสียงขรึม เสี่ยวหัวเสวียนสะดุ้งตัวโยนรีบเงยหน้ามองเทพปักษา พลันรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงฝัน รัศมีเทพสีทองเจิดจ้าตัดกับอาภรณ์สีเพลิงจนมองไม่ออกว่าใบหน้าที่แท้จริงของนางเป็นอย่างไร พลางชื่นชมในใจว่านางคือเทพบรรพกาลองค์หนึ่งที่มีพลังล้ำลึก เพราะถือกำเนิดจากมหาเทพบรรพกาลจูเชว่ เทพปักษาองค์นี้จึงโชคดีเหลือเกินที่ไม่ต้องรับอสนีสวรรค์และไม่ต้องฝ่าด่านเคราะห์ก็ได้เป็นเทพที่ทั้งหกภพภูมิให้ความเคารพแล้ว แม้แต่เทียนจวินก็ยังไว้หน้านาง เมื่อครั้งที่หลานสาวของเทียนจวินประสูติ พระองค์ยังต้องส่งเทียบเชิญเทพปักษาถึงสามครั้ง กว่าที่นางจะยอมเดินทางไปที่สวรรค์เก้าชั้นฟ้าเพื่อตั้งชื่อให้องค์หญิงน้อย ยามนี้ได้มองหน้าเทพหญิงผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง เสี่ยวหัวเสวียนก็รู้สึกว่าที่ผู้คนต่างกล่าวขานว่านางคือหญิงงามคนหนึ่ง แต่กลับไม่มีใครบอกได้ว่างามเพียงใดนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างยิ่ง เซียนน้อยช่างจำนรรจาเหล่านั้นฌานตบะยังไม่สูง จะสามารถเพ่งมองใบหน้าของนางได้อย่างไรกัน เฉกเช่นเดียวกับเสี่ยวหัวเสวียนที่มองไม่ออกว่าใบหน้าของนางเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงว่ารัศมีเทพของนางหาได้ร้อนแรงดุจเพลิงสุริยะแม้แต่น้อย แต่กลับอบอุ่นชวนให้รู้สึกสงบจิตใจอย่างยิ่ง เทพสาวเป่าขนนกสีทองส่งให้เสี่ยวหัวเสวียน กล่าวว่า “นำขนของข้าติดตัวไป กลับไปแจ้งหัวหน้าของเจ้า ฝากบอกกระเรียนเฒ่าหัวเซิงด้วยว่าขนของเจ้ามิได้กระเด็นออกจากตัวแม้สักเส้น” ขนนกสีทองนุ่มนวลล่องลอยในมือของเซียนน้อย เขายกมือทูนเหนือศีรษะ ดีใจจนน้ำตาไหลพราก “ขอบคุณท่านเทพ” เสี่ยวหัวเสวียนนับว่าเป็นเซียนนกกระเรียนทองตนแรกที่รอดพ้นจากการตะเพิดของเทพปักษาผู้นี้ นางโบกมือไล่เซียนกระเรียนทองน้อยพลางป้องปากหาว เซียนน้อยรู้ตัวว่าท่านเทพเหนื่อยมามากพอแล้วจึงรีบถอยออกไปอย่างรู้งาน ครั้นเซียนน้อยจากไป คิ้วเรียวเหนือดวงตางามก็ยับยุ่ง แขนซ้ายของนางปวดตึง ของเหลวสีแดงเข้มไหลซึมอาภรณ์จนเป็นสีแดงเข้ม นางสกัดจุดที่หัวไหล่ตะโกนเรียกคนสนิทให้รีบเข้ามา “เสิ่นอวี้ ฝูซ่าง เอายาบัวหยกมาให้ข้าที” เซียนปักษาสองตนเคลื่อนตัวเข้ามาในห้องในชั่วพริบตา ขนนกหลากสีกระจายว่อนตามทาง ใบหน้าหล่อเหลาของเสิ่นอวี้มีรอยฟกช้ำ เสื้อผ้าฉีกขาด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ทว่าสีหน้ากลับเรียบสงบไร้คลื่นอารมณ์ “ตีกันอีกแล้วหรือ ครานี้ตีกันเรื่องอะไรอีกเล่า” นางถามเสียงเย็น ช่วงหลังมาสองคนนี้ตีกันบ่อยจนนางคร้านจะซักไซ้อย่างละเอียด ได้แต่โมโหจนแทบจุกอกตายกับท่าทางเยือกเย็นของคนหนึ่ง อีกคนก็ตีสีหน้าใสซื่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นี่ยาบัวหยกขอรับ” เสิ่นอวี้รีบยื่นยาให้ผู้เป็นนาย ฝูซ่างหลุบตาลง เห็นอาการของนายสาวแล้วรีบกล่าว “ข้าจะไปเอาผ้ามาซับโลหิตให้ท่าน” “ไม่ตอบหรือ” ทั้งสองเงียบไป ราวกับว่าต่อให้นางใช้กำลังบังคับก็ไม่มีทางบอกอย่างแน่นอน ความเจ็บปวดทำให้ใบหน้าของเทพปักษาเหยเก เลิกสนใจเรื่องของทั้งสองชั่วคราว ยามนี้นางต้องใช้ความอดทนจนถึงขีดสุดแล้ว หญิงสาวถลกแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นลำแขนเรียวงามที่มีรอยแผลสีแดงเป็นทางยาวคล้ายกับรอยมีดกรีดลึก โลหิตหยุดไหลแล้ว หลงเหลือเพียงบาดแผลและรอยเปรอะเปื้อนเท่านั้น “ไปเอาผ้ามา ข้าเจ็บจะตายแล้ว ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ ถอนขนทีหนึ่งทำไมถึงได้เจ็บขนาดนี้” เมื่อก่อนไม่ว่าจะสลัดขนกี่ทีนางก็ไม่มีความรู้สึกขนาดนี้ ทว่าตั้งแต่ที่ขนของนางกลายเป็นสีทอง ถอนขนทีหนึ่งก็รู้สึกเจ็บเหมือนถูกมีดกรีดเนื้อหนัง ยิ่งนานวันก็ยิ่งเจ็บหนัก ช่วงหลังมานางจึงไม่เคยรับคำช่วยเหลือผู้ใดอีกเลย ฝูซ่างใช้ผ้าซับโลหิตให้เทพสาวอย่างเบามือ ดวงตาเผลอมองรอยแผลเป็นที่ปรากฏบนหลังมือของนางโดยไม่ได้ตั้งใจ อดถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ “นายหญิง บัวหยกของท่านรักษาแผลเป็นได้จนหายดี เหตุใดจึงทิ้งรอยแผลนี้ไว้เล่าเจ้าคะ” เทพสาวพลิกหลังมือมองรอยแผลที่ถูกกรีดเป็นทางยาว ดวงตาสงบลง “เทพเซียนอายุยืนยาว หากไม่ทิ้งรอยแผลไว้เตือนใจ กลัวว่าเมื่อเวลาผ่านไปก็จะลืมไปแล้วว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง” “ถ้าหากเป็นเรื่องร้ายๆ ลืมไปไม่ดีหรือ” นางอายุเก้าหมื่นปี ตั้งแต่อยู่ข้างกายเทพปักษามาก็เห็นรอยแผลที่มือซ้ายของนายสาวมาตลอด ผู้อื่นมักเกรงว่าร่างกายของตนจะมีแผลเป็นกันทั้งนั้น ด้วยนิสัยของเผ่าปักษาที่รักสวยรักงาม ไม่น่าจะต้องรักษารอยแผลนี้ไว้ให้เคืองใจเลย เนื้อโอสถเย็นลื่นช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจนสีหน้าของเทพปักษากลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง นางกุมมือฝูซ่างพลางกล่าวขอบคุณ ครั้นสัมผัสได้ถึงความผิดปกติจากชีพจรของสตรีตรงหน้า คิ้วเรียวพลันกระตุก คิดใคร่ครวญอยู่พักหนึ่งจึงหันไปพูดกับเสิ่นอวี้เสียงดุ “ช่วงนี้อาฝูอารมณ์แปรปรวน เจ้าต้องยอมนางหน่อย อีกไม่นานคงได้ข่าวดีแล้วล่ะ” “นายหญิง” ทั้งสองเรียกนางด้วยน้ำเสียงตกใจ ฝูซ่างกำลังจะเอ่ยแก้ตัวให้สามี ฝ่ายเสิ่นอวี้ก็กังวลว่าภรรยาจะถูกท่านเทพดุด่า ทว่ากลับถูกเทพสาวจุ๊ปากขัดเสียก่อน “อีกไม่นานท้องของฝูซ่างก็คงเริ่มโตจนเห็นได้ชัด ช่วงนี้ต้องระมัดระวังให้มากรู้หรือไม่ ข้าจะมีหลานแล้วนะ” สองสามีภรรยาสบตากันโดยมิได้นัดหมาย ระลอกคลื่นในดวงตาช่วยบรรยายแทนความรู้สึกของทั้งสองได้เป็นอย่างดี เทพสาวคลี่ยิ้มงดงาม น้อยเรื่องที่จะทำให้เทพปักษาอย่างนางตื่นเต้น นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่ง ตอนที่ฝูซ่างช่วยทำแผลให้ นางก็รับรู้ได้ถึงชีพจรเบาบางในท้องของฝูซ่างแล้ว มิน่าเล่าเสิ่นอวี้ถึงเก็บอาการยามทะเลาะกัน เพื่อมิให้นางรู้ว่าฝูซ่างทำตัวร้ายกาจใส่เขาจนต้องลงโทษผู้เป็นภรรยา เผ่าปักษาโดยเฉพาะเชื้อสายที่สืบทอดพลังมาจากมหาเทพจูเชว่ เมื่อตั้งครรภ์มักจะมีอารมณ์รุนแรงเสมอ มารดาของฝูซ่างถือกำเนิดจากขนเส้นหนึ่งของมหาเทพจูเชว่ ศักดิ์ฐานะแม้ด้อยกว่าเทพปักษาแต่ก็ถือว่าอีกฝ่ายเป็นน้องสาว ฝูซ่างจึงเปรียบเสมือนหลานสาวคนหนึ่งของนาง คิดไม่ถึงว่าผ่านไปเกือบสิบหมื่นปี นางไม่เพียงไม่ได้แต่งงาน แต่กลับจะได้เป็นท่านยายเสียแล้ว ฝูซ่างน้ำตาคลอ เสิ่นอวี้รีบเข้ามาประคองนางด้วยความรักใคร่ ด้วยนิสัยของเสิ่นอวี้ ทำมากกว่าพูด แม้ไม่เคยใช้คำพูดจาหวานหู แต่ความรักที่มีให้ภรรยานั้นกลับมากล้นเสียจนไม่มีใครกล้าเข้ามาแทรกกลาง หกหมื่นปีก่อน นางยอมรับอสนีสวรรค์เจ็ดสายเพื่อดูคู่บุพเพให้ฝูซ่าง หวังเพียงว่าตนจะช่วยทำให้ทั้งคู่ได้มีวาสนาอยู่เคียงกัน บัดนี้...ลูกในท้องของพวกเขาก็คือของขวัญจากการเสียสละของนางในครั้งนั้น [1] ตามความเชื่อในคติจีน สะพานไน่เหอก็คือสะพานที่คนตายใช้ข้ามไปสู่ปรภพ [2] เสี่ยว ภาษาจีน  **พินอิน Xiǎo เมื่อใช้เติมหน้าชื่อหรือนามที่เรียก หมายถึงน้องเล็ก ตัวเล็กๆ หรือผู้ที่มีลำดับอาวุโสน้อยกว่า

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เป็นพระรองก็ไม่ได้แย่ แต่ถ้าได้เป็นพระเอกก็หนักใจ เลือกได้ขอ

read
1K
bc

ดวงใจในจักรวาล

read
1K
bc

นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย

read
2.0K
bc

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

read
17.4K
bc

ทาสรักของจอมมาร

read
1K
bc

หนิงหรง หงส์ครองภพ

read
3.6K
bc

บุพเพรักชายาตัวร้าย

read
4.5K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook