“เป็นเช่นนั้น ยามนี้ในหัวข้ากำลังวางแผนและเจ้าคือผู้ร่วมมืออย่างไรเล่า” ^^ หันมายิ้มใส่สาวใช้
“เจ้าค่ะ” แต่ที่ไม่เข้าใจคือเหตุใดต้องวางแผน ‘หรือเรื่องของฮ่องเต้คือเรื่องซับซ้อน เช่นนั้นสาวใช้เช่นนางคงคิดไม่ทันแล้ว’
ปิงปิงพยักหน้าแล้วหันกลับไปมองหน้าต่างอีกครั้ง “วันพรุ่งนี้พี่อาฟั่นจะมาที่คลังสินค้าเพื่อเลือกปิ่นปักผมและข้าจะขอยืมชุดนางกำนัลของพี่อาฟั่นสักสองชุด” พร้อมกับสอบถามถึงทางเข้าวังด้านหลังของโรงครัว เหตุที่นางมิเข้าทางด้านหน้าเพราะเกรงว่ามันอาจจะดูเปิดเผยจนเกินไป อีกทั้งหากนางไปเองคนเดียวโดยไม่มีบิดาเชื่อเถอะว่าฝ่าบาทอาจจะไม่ให้นางเข้าพบยกเว้นเสียแต่ว่า…หุหุ
“อืมๆๆ” อาเปาผู้สงสัยพยักหน้าพลางคิดตาม ‘แสดงว่าคุณหนูของนางคงจะเริ่มทำอะไรบางอย่างด้วยชุดของพี่อาฟั่น’ ใจหนึ่งอยากจะเตือนคุณหนูเกี่ยวกับบุรุษสูงศักดิ์ผู้นั้น แต่ใจหนึ่งก็อยากเห็นคุณหนูสมหวัง แล้วจะสมหวังในตำแหน่งใดเล่า!! อาเปาอยากร้องไห้
“วันนี้เจ้าไปพักเถิด”
“เจ้าค่ะ” อาเปาผู้คิดไม่ตก ได้แต่เดินออกไปนอนในห้องของนางที่อยู่ไม่ไกลจากห้องของคุณหนู เมื่อหัวถึงหมอน สมองน้อยๆ ก็เริ่มคิดอย่างหนักหน่วง ‘ขอให้ทุกอย่างราบรื่นดังที่คุณหนูต้องการ’ แค่นั้นอาเปาก็ดีใจมากแล้ว
เจ้าของร่างบางขาวเนียนยกมือขึ้นเท้าคางกับหน้าต่าง ชีวิตในตอนนี้กับตัวนางในภพเก่าต่างกันราวฟ้ากับเหว ก่อนนั้นเคยพนมมือไหว้สากับพระจันทร์ให้มีชายมาหลงรักสักคนแต่ไหนเลยทั้งชีวิตนอกจากจะไม่มีชายใดเข้ามา บิดามารดาล้วนตายจาก ย้อนกลับมาภพนี้ ในเมื่อมีรูปเป็นทรัพย์แล้วเหตุใดนางจะต้องเป็นฝ่ายให้บุรุษมาเลือกและเมื่อถูกใจผู้ใดเข้า นางก็ต้องลองรุก!! ไม่ว่าบุรุษผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม “จันทร์เจ้าขา ข้าน้อยอยากขอ” ยกมือพนม “ขอให้ตัวข้าสมหวังในทุกเรื่องต่างจากชาติที่แล้วมาด้วยเทอญ” สาธุในใจโดยเน้นหนักๆ กับเรื่องความรักอันสูงส่งของนาง แม้เลือกที่จะเป็นหนึ่งไม่ได้ นางก็ขอเป็นแค่คนโปรด...สาธุ
๑----------------------๑
วันต่อมา ณ.คลังสินค้าท่าเรือ
หวังปิงปิงนั่งคัดปิ่นปักผมลวดลายงดงามตามที่ได้เอ่ยบอกกับพี่อาฟั่นเอาไว้ก่อนหน้า สินค้าในวันนี้มีให้เลือกมากกว่าสิบหีบคละกันไปและหลังจากนี้จะมีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับช่วงต่อ ตากลมมองไปยังพี่ชายรูปงามที่ยืนคิดเบี้ยหวัดจ่ายค่าสินค้าให้กับผู้ขนส่งทางเรือ จะว่าไปพี่ชายนางนั้นหล่อเหลาพอๆ กับรัชทายาทเลยก็ว่าได้ แต่เหตุใดพี่ชายจึงยังมิแต่งงาน “อาเปา เจ้าว่าพี่หลีปินเป็นต้วนซิ่วหรือไม่” ในความหมายของนางคือพี่ชายอาจจะรักชอบในเพศเดียวกัน
“ห๊า!!” อาเปาลนลานหันซ้ายหันขวา “จริงรึเจ้าคะ” กระซิบ
ปิงปิงมองบน “ข้าถาม มิใช่ว่าพี่หลีปินเป็นเช่นนั้นเสียหน่อย”
สาวใช้ทำหน้าโล่งอก “บ่าวตกใจหมดเลยเจ้าค่ะ” มองคุณชายรูปงาม “ไม่ใช่เจ้าค่ะ บ่าวจำได้ว่าหย่งเกอเพิ่งไปส่งคุณชายที่หอนางโลมมานะเจ้าคะ” เห็นว่าคุณชายกลับบ้านมาในยามเหม่า (05.00) เชียวนะ
“หอนางโลมรึ?” ครั้งหนึ่งในชีวิตนางก็อยากจะไปเห็นสถานที่แห่งนั้นสักครั้ง
“เจ้าค่ะ หอเริงรักตรงหัวมุมท้ายตลาด เป็นหอเดียวที่มีสตรีนางโลมเกือบห้าสิบคน บ่าวเคยผ่านไปแถวนั้นเห็นพวกนางแต่งกายยั่วยวนเปิดเผยเนื้อตัว ใบหน้างดงามจัดจ้านต่างจากสตรีในห้องหอ แต่จะว่าไป มีพวกนางก็ดีนะเจ้าคะตัดปัญหาเรื่องอารมณ์กำหนัดของบุรุษ” ก้มหน้ารื้อค้นปิ่นในหีบ
แต่ผู้ฟังที่ดีอย่างหวังปิงปิงนั้นคิดต่าง ยุคจีนโบราณจะมองอย่างไรบุรุษก็ได้เปรียบอยู่วันยังค่ำ มีสถานเริงรมย์แบบเปิดเผย มีอนุภรรยาแบบเปิดเผย หากภพเดิมของนางทำได้ก็คงจะมีเรื่องเช่นนี้ทั้ของบุรุษและสตรีเพราะปัจจุบัน ความเท่าเทียมของเพศสภาพนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว “ถ้าหากสตรีมีอารมณ์กำหนัดเล่า ข้าจะสร้างหอนายโลมบ้างดีหรือไม่” ‘อืม…คงแปลกพิลึก’
ขวับ!! “คุณหนู!! กล่าวเช่นนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ”
ปิดปากหัวเราะ “ทำไมจะกล่าวไม่ได้ รึถ้าข้าสร้างจริง เจ้าจะไม่ไปใช้บริการหรอกรึ”
“ไม่ไปเจ้าค่ะ บ่าวจะเก็บความสดใหม่ให้สามีเพียงหนึ่ง” เชิดหน้า
“ในขณะที่สามีเจ้ามีอนุอีกสามน่ะรึ? กว่าจะวนมาถึงเจ้ายามค่ำคืน เจ้าคงอดทนข่มตาอย่างเดียวดาย มิสู้ย่องออกมาที่หอนายโลมของข้า” ^^ แกล้งเย้าอีกฝ่ายทั้งๆ ที่นางเองก็ไม่ได้คิดจะสร้างมันขึ้นมาจริงๆ อีกทั้งบุรุษที่นางพึงใจยังมีหลายเมียอีกด้วย จะต่างอะไรกับคำถามที่ถามอาเปาแต่เข้าตัวเอง ‘เฮ้ออ ปิงปิงเหนื่อยใจเหลือเกิน แต่จะหาบุรุษที่มีรักเดียว ฮูหยินเดียวในชาติภพนี้คงไม่มีหรอก’
แม้จะคล้อยตาม แต่อาเปาก็ยังจะเถียง “บ้านใด สกุลใดก็เป็นเช่นนี้” ส่ายหน้าไปมา “อย่าทำให้บ่าวไขว้เขวเจ้าค่ะ”
^^ “หากเจ้าเป็นสาวเทื้อ ความสดใหม่คงไม่มีประโยชน์” ยิ้มแล้วเลือกปิ่นลายนกยูงมาใส่กล่องใบเล็กแยกเอาไว้
“คุณหนู” ปลายน้ำเสียงอ่อยๆ คล้ายกับหมดคำจะกล่าว ไม่รู้ว่าคุณหนูคิดเช่นนี้ได้อย่างไร จะว่าไร้ยางอายหรือกล้าเกินสตรีก็กล่าวได้ไม่เต็มปาก เพราะถ้าหากบ่าวเช่นนางต้องเป็นสาวเทื้อจริงๆ แล้วคุณหนูเปิดหอนายโลม นางก็คง...ไม่รอด ‘เข้าไปใช้บริการบุรุษรูปงามอย่างไม่ต้องสงสัย’
“มาแล้วๆๆ”
เสียงเรียกขานของผู้มาใหม่ทำให้ทั้งนายทั้งบ่าวต้องหันไปมอง
หวังปิงปิงยิ้มในหน้าเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเองกับคนที่นางอยากพบมากที่สุดในวันนี้ “พี่อาฟั่น” ^^ “ข้าเพิ่งคัดได้แค่สองหีบ ไม่ทราบว่าพี่จะรับไปมากน้อยแค่ไหนเจ้าคะ”
อาฟั่นในชุดนางกำนัลมองหีบมากกว่าสิบใบตาโต อันที่จริงนางต้องการคัดมันทั้งหมดแต่ด้วยเวลาของนางตรงจุดนี้มันมิได้มากมายขนาดนั้น เบี้ยหวัดจากการขายก็อยากได้ นางขมวดคิ้วอย่างหนักใจเพราะคิดไม่ตก “ถ้าคัดทุกหีบจะใช้เวลาเท่าใดนะ” เปรยออกมาเบาๆ
ปิงปิงลอบยิ้มและรู้สึกว่าโชคจะเข้าข้างนางมากทีเดียว ในเมื่อโอกาสมาถึงตามแผน ใยนางต้องรั้งรอ “ที่จริงแล้วหากพี่อยากได้มันทั้งหมดข้าสามารถนำไปส่งให้พี่ได้นะเจ้าคะ แต่ต้องหลังจากที่ข้าคัดอันสวยๆ ให้พี่แล้วเสร็จซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นยามเซิน” (16.00)
“แต่เราจะเข้าไปส่งด้านหน้า เรามิต้องอ้อมไปไกลหรอกรึเจ้าคะคุณหนู อีกอย่างคือทางเข้าออกด้านหน้ามีไว้สำหรับขุนนางหรือแขกต่างบ้านต่างเมืองหรือเปิดในวันงานสำคัญ เราเข้าไปแล้วจะผ่านทหารยามได้หรือเจ้าคะ” อาเปากล่าวตามที่นางรู้มา จะมียกเว้นก็แค่ตอนที่นายท่านหวังเข้าวังเท่านั้นล่ะ ‘ซึ่งนั่นเป็นกรณีพิเศษ’ มิใช่ขอเข้าไปเพื่อพบนางกำนัล
“นั่นสิ” อาฟั่นหน้ายุ่งเข้าไปอีก
หวังปิงปิงลอบชมสาวใช้ของตนเองที่ช่วยเกริ่นนำให้เรื่องมันง่ายกว่าเดิม “เช่นนั้นพวกพี่เข้าออกทางใดเจ้าคะ” ‘แผนของนางกำลังจะเริ่ม’
“นางกำนัลและคนครัวมักจะเข้าออกทางประตูเล็กท้ายวังน่ะ”
“เช่นนั้นเอาอย่างนี้ดีหรือไม่เจ้าคะ พี่เอาปิ่นที่ข้าคัดสองหีบเล็กพวกนี้กลับไปก่อนแล้วข้าจะให้อาเปาตามพี่ไปเพื่อดูเส้นทางเข้าออกของพี่ด้านหลังวัง หากมันจะยากเกินไปนักและหากพี่ไม่ว่าอะไรข้าจะขอยืมชุดนางกำนัลของพี่สักสองชุดเพื่อที่ข้าจะได้นำปิ่นที่เหลือไปมอบให้พี่” แอบกระซิบข้างหูอาฟั่น “อันที่จริงข้าแอบชมชอบบุรุษผู้หนึ่งในวังหลวงด้วย ข้าก็อยากจะไปแอบดูคนผู้นั้นเหมือนพี่มาแอบดูพี่หลีปินของข้าไง”
อาฟั่นหน้าตาเลิ่กลั่ก หูแดงตาแดงไปหมด…นางแอบดูหลีปินจริงๆ นั่นล่ะ ยิ่งยามนี้ฝ่ายนั้นหันหน้ามายิ้มใส่ นางถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว “ได้ๆ” ทำหน้าอายๆ
“เช่นนั้นเรามาช่วยกันตอนนี้เท่าที่พี่มีเวลา หากพี่กลับไปก็ให้อาเปาตามไปด้วย ตกลงนะเจ้าคะ”
“อื้ม ตกลง” ^^
อาเปา ‘เยี่ยมจริงๆ คุณหนูของบ่าว’
สองเค่อผ่านไป หวังปิงปิงมองหนึ่งนางกำนัล หนึ่งสาวใช้ของตนเดินตามกันออกจากคลังสินค้าท่าเรือด้วยรอยยิ้ม ^^ นี่แค่เริ่มต้นและยังหวังว่าทุกอย่างคงจะเรียบร้อยโดยไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ‘แต่เอ๊ะ?? อุปสรรคขัดขวางกลางทางย่อมมีแน่ นั่นคือสตรีข้างกายบุรุษรูปงามผู้นั้น!!’ “อืมมม จะทำเช่นไรดีหนอ” เปลี่ยนจากตรวจปิ่นปักผมมาเป็นนั่งเท้าคาง ทางเลือกของนางคือหนึ่ง เดินตามความรู้สึกโดยไม่สนใจสตรีอื่นใด ให้มองว่าพวกนางเป็นเพียงมดปลวก ‘แต่มดปลวกพวกนี้ช่างมีอำนาจมาก’ สองคือหยุดที่จะก้าวต่อ ก่อนจะเสียใจในทุกเรื่อง ‘ซึ่งเรื่องมันยังไม่เกิดแต่นางก็ต้องคิดเมื่อเข้าวังไปแล้ว’ “อืมมม หากเป็นจุ๊บแจง นางคงสู้ไม่ถอยนั่นเพราะนางงามและมั่นใจ”
“เจ้าก็งามและมั่นใจ เหตุใดไม่สู้”
ขวับ!! ปิงปิงมองพี่ใหญ่ราวกับมองเห็นพระเจ้า “พี่รู้รึเจ้าคะ?” นางหมายถึงเรื่องของบุรุษผู้นั้นที่คว้าหัวใจนางติดมือไปด้วยในเวลาอันรวดเร็ว
“ไม่รู้ แต่หากเจ้าคิดว่าตนเองงามแล้วไม่สู้ พี่ว่ามันไม่ถูกต้อง”
สาวงามพยักหน้าหงึกหงัก “ลองให้รู้” เรื่องสตรีอื่นตัดไปก่อน ถ้าไม่ถูกบุรุษผู้นั้นเลือกก็แค่ผิดหวัง “เลือกข้อหนึ่งมันคงมิถึงตาย” แต่จะตายก่อนก็ตรงที่จะลอบวังนี่ล่ะ ความลังเลมีไม่ถึงครึ่งให้นางเปลี่ยนใจ ดังนั้นก็ลองมันไปให้จบๆ “สู้!!”
หวังหลีปินมองท่วงท่ากำมือแล้วชูขึ้นฟ้าของน้องสาว ใบหน้าคมขมวดคิ้ว “อะไรของเจ้า”
“ท่าสู้”
“_” ไร้คำจะกล่าวกับสตรีในห้องหอนางนี้
๑-------------------๑
ยามเซิน (16.30)
สองนายบ่าวในชุดนางกำนัลเดินออกจากร้านเสื้อผ้าสาขาย่อยสกุลหวัง เตร็ดเตร่ในตลาดก่อนจะเดินเข้าวังทางประตูด้านหลังตามเวลาเข้าออกของแม่ครัว พี่อาฟั่นฝากมาบอกว่าทหารยามสองนายชอบทานบะหมี่ที่ร้านโกเหลียงซึ่งทั้งนางและอาเปาเพิ่งแวะไปซื้อมาเมื่อครู่อย่างเตรียมพร้อม หากทหารยามถามพวกนางก็ให้ตอบไปว่าเป็นนางกำนัลคนใหม่ พวกเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อให้เดินไปถามหาป้าฟ่างแม่ครัวใหญ่ ซึ่งเป็นมารดาของพี่อาฟั่น ความที่ฝากมา ทั้งสองสตรีล้วนทำตาม แต่แล้ว...ยังไม่ทันได้ปริปาก
“เจ้าช่างคล้ายอาเปาสาวใช้สกุลหวังยิ่งนัก” ทหารยามนายหนึ่งถามอาเปาเมื่อรับบะหมี่
เจ้าของนามทำตัวมีพิรุธลนลาน จะบอกว่านางเปลี่ยนมาอยู่ในวังมันคงไม่ถูกต้อง แต่อะไรคือ ท้วนหูสหายเก่าจึงมาเป็นทหารยามอยู่ตรงนี้!!
ปิงปิงมองคนครัวขนของอีกด้านเข้าไปโดยไม่สนใจพวกนางยกเว้นป้าฟ่างที่รับรู้ทุกเรื่อง หากมันจะเป็นปัญหามิสู้นางกล่าวไปเลยว่า “ที่จริงแล้วนางคืออาเปาเจ้าค่ะ มาจากสกุลหวังจริงแต่ที่ต้องสวมชุดนี้เพียงเพราะต้องการมาส่งปิ่นปักผมที่พี่อาฟั่นสั่งไว้” กล่าวเสียงเบา
“แล้วแม่นางคือ” ท้วนหูถามสตรีน่ารักสะกดใจตรงหน้า
“ข้าคือปิงปิง มากับอาเปา” ^^ ยิ้มหวานใส่ทหารผู้หน้าแดงจัด “ข้ากับอาเปาเข้าไปได้ใช่หรือไม่เจ้าคะ หากท่านทั้งสองไม่เชื่อก็ถามป้าฟ่างได้เจ้าค่ะ” มองไปยังท่านป้าเจ้าของนามที่ยังรออยู่พร้อมกับพยักหน้ายืนยัน
“หากเจ้ามิได้ไปทำเรื่องอื่นใดนอกจากส่งของ ข้าก็ไม่ว่าแต่ให้เวลาเพียงสองเค่อ” ทหารท้วนหูแสร้งหันหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบเลี่ยงการจ้องใบหน้านวลใสนั้น “แล้วครั้งต่อไปอย่าได้สวมชุดนางกำนัลมาที่นี่อีก”
^^ ปิงปิงเพียงยิ้มแต่มิได้ตอบรับ ก่อนจะเดินตามป้าฟ่างเข้าไปด้านในตามติดด้วยอาเปารั้งท้าย ‘นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่ เชื่อนางเถอะ’
๑---------------------๑
ห้องพักอาฟั่น
“ทั้งหมดนี่ข้าคิดราคาแค่สองร้อยตำลึงเงิน ที่เหลือคือส่วนแบ่งของพี่” ปิงปิงส่งปิ่นปักผมมากกว่าห้าร้อยชิ้นให้พี่อาฟั่น สายตากลมโตลอบมองออกไปนอกหน้าต่าง นางจำได้ว่าไม่ไกลจากตรงนี้ไปทางทิศตะวันออกคือตำหนักที่ประทับของบุรุษผู้นั้น เหนือสิ่งอื่นใดคือนางต้องรู้เส้นทางเสียก่อนมิใช่ว่าเดินหาไปเรื่อยในอาณาเขตกว้างใหญ่และเสี่ยงที่จะถูกจับได้ “และข้าอยากให้พี่ช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ”
“ช่วยเรื่องใด” นับเบี้ยหวัดของตนเองส่งให้อาเปาแล้วมองสตรีงดงามสมวัยตรงหน้า
“คราวก่อนที่งานประลองยุทธ์เลื่อนขั้นของขุนนางฝ่ายบู๊ ข้าได้พบกับบุรุษรูปงามผู้หนึ่งซึ่งเป็นคนของฮ่องเต้” ล้วงผ้าเช็ดหน้าสีครีมออกจากอกเสื้อให้พี่อาฟั่นดูหลักฐาน “ยามนั้นข้าล้มอยู่ข้างทางและได้คนผู้นั้นช่วยเหลือเอาไว้ ข้าจึงอยากนำผ้าผืนนี้ไปคืนบุรุษผู้นั้นด้วยตนเอง” ปดเล็กน้อย
“คนของฝ่าบาทรึ?”
“เจ้าค่ะ”
“หากเป็นเช่นนั้นอาจจะหายากสักหน่อยแต่ก็มิใช่ว่าจะหามิได้”