Section 01 เปลือยกาย
"เท่าไหร่นะคะ"
"อาทิตย์ล่ะสองพันห้าแต่ต้องทำทุกเช้านะ งานไม่หนักหรอกทำชิว ๆ ทำก่อนไปเรียนได้สบาย ก็แค่ทำความสะอาดห้อง เดือนนึงก็ได้ประมาณหมื่นนึงชิวกว่าทำงานพาร์ทไทม์ตั้งเยอะแน่ะ" พี่กุ้งหยิบเครื่องคิดเลขมาคำนวณตัวเลขคร่าว ๆ ให้กับงานของฉัน เรื่องของเรื่องก็คือฉันมาอ้อนวอนขอร้องพี่กุ้งรุ่นพี่ในคณะให้ช่วยหางานให้น่ะ ทีนี้พี่แกก็ทำงานนี้อยู่พอดีและเขาก็รับพนักงานอยู่เลยได้โอกาสที่จะได้งาน แถมค่าตอบแทนก็น่ารักดี งานก็ดูไม่ได่หนักหนาอะไร
แต่งานที่ว่าน่ะนะ.. มันคือการเป็นแม่บ้านน่ะ
"หมื่นนึงต่อเดือนก็โอเคอยู่นะคะ หนูก็ไม่ใช่คนที่ใช้เงินเปลืองแถมที่บ้านก็ส่งให้ใช้อยู่เรื่อย ๆ หมื่นนึงนี่สบายบรือเลยค่าหอก็ไม่ต้องจ่ายเอง" ฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ที่จริงบ้านฉันไม่ได้จนเลยสักนิดแถมยังไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินด้วย แต่ฉันก็แค่อยากหางานทำเหมือนเด็กมหา'ลัยทั่วไป ฉันคิดว่ามันคงเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับฉันน่ะ
"ทำไหม?"
"ทำค่ะ!" ฉันพยักหน้าหงึกหงักตอบรับงานที่พี่กุ้งเสนอมาให้ ถึงจะเป็นงานทำความสะอาดแต่ฟังจากที่พี่กุ้งรีวิวมามันก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมาย เป็นบริษัทรับจ้างทำความสะอาดตามห้องคอนโดเราเสียค่านายหน้าให้บริษัทที่หางานให้แค่เดือนล่ะไม่กี่บาทเอง แถมงานนี้ถ้าเจอเจ้าของห้องที่สะอาดหน่อยเราก็ไม่ต้องเหนื่อยมากมายเลย
แค่คิดก็สนุกแล้ว!
"งั้นเดี๋ยวพี่โทรคุยกับหัวหน้าให้ มิลินไปเรียนเหอะยังไงเดี๋ยวพี่ติดต่อหาอีกที" พี่กุ้งว่าพร้อมกับเปลี่ยนจากเครื่องคิดเลขมาเป็นโทรศัพท์มือถือของเขาแทน ส่วนฉันก็มองนาฬิกาข้อมือเพื่อดูเวลาก่อนจะพบว่าตอนนี้มันสายมากแล้ว
ฉันยิ้มกว้างให้กับพี่กุ้งก่อนจะโบกมือลาแล้วรีบวิ่งไปยังตึกเรียนของตัวเอง
ส่วน 'มิลิน' คือชื่อของฉัน ฉันเป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์สาขาการออกแบบแฟชั่นในมหาวิทยาลัยแห่งนึง ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปีสองและคิดเอาไว้ว่าอนาคตจะต้องเป็นเจ้าของแบรนเสื้อผ้าชื่อดังให้ได้! แน่นอนว่าปีนี้ฉันพึ่งจะอายุยี่สิบ แต่บอกเลยว่าประสบการณ์ด้านงานแฟชั่นโชกโชนมาก เพราะที่บ้านฉันก็ทำงานสายนี้อยู่เหมือนกัน
ฉันเข้าไปนั่งในคลาสเรียนของตัวเองในเวลาต่อมา ถึงจะมาสายไปหน่อยแต่โชคยังดีที่อาจารย์ยังไม่เข้ามาสอน
"ได้งานยัง?" สกายเพื่อนร่วมคลาสเอ่ยทักทายหลังฉันนั่งได้ไม่นาน สกายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่กุ้งน่ะ ที่ได้งานนี้ก็เป็นเพราะสกายแนะนำให้รู้จักกับพี่กุ้งเลยแหละ
"คิดว่าได้!"
"งั้นก็ดี แต่แน่ใจนะว่าจะแบ่งเวลาได้ไม่กลัวว่าจะเหนื่อยไปไง๊?"
"ไม่หรอก งานดูชิวจะตายไป" ถ้าเอาตามที่คิดเอาไว้น่ะนะ เอาจริงมันก็คงไม่ได้หนักหนาอะไรหรอกเพราะขนาดพี่กุ้งที่ทำมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้พี่แกยังไม่เลิกทำเลย
"ให้มันเป็นงั้น" ว่าแล้วสกายก็ขยับไปนั่งที่ของตัวเอง สกายเป็นชายไม่แท้น่ะตอนแรกเขาลือกันว่าเป็นเกย์แต่ตอนนี้ยอมรับแล้วว่าเป็นจริงไม่ใช่แค่ข่าวลือ แถมยังเป็นฝ่ายรุกซะด้วย มีสาว ๆ หลายคนเสียดายเลยแหละเพราะว่าสกายน่ะหล่อมาก!
ฉันแอบมองสกายอยู่ครู่นึงก่อนจะหยิบไอแพดขึ้นมาวางบนโต๊ะเตรียมตัวเรียน เพราะหลังจากคุยกับสกายเสร็จได้ไม่นานอาจารย์ก็เข้ามาสอนพอดี
หลังเลิกเรียนฉันก็กลับหอรอฟังข่าวจากพี่กุ้ง แล้วก็เตรียมตัวอย่างดีที่จะเริ่มงานในวันพรุ่งนี้ แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าตัวเองได้งานแล้วหรือยังก็เหอะ ฉันวางแผนเอาไว้ว่าจะไปทำความสะอาดเช้าหน่อยตีห้าครึ่งออกจากหอ สักประมาณหกโมงก็น่าจะได้เริ่มทำงาน คิดไว้หมดแล้ว.. ขอให้เป็นแบบที่คิดก็พอ
ติ๊ง!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นดึงดูดความสนใจจากฉัน ฉันรีบคว้ามันขึ้นมาไว้ในมือรีบปลดล็อกหน้าจอเพื่อดูข้อความที่ส่งมาใหม่และก็ต้องยิ้มกว้างเพราะว่าได้งานอย่างที่คิด
พี่กุ้งส่งโลเคชั่นมาให้กับฉันเป็นคอนโดแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากหอของฉันมากซึ่งเป็นทางผ่านไปมหา'ลัยฉันพอดี หมายเลขห้องคือ712เจ้าของห้องเป็นผู้ชายด้วย รายละเอียดยิบเลยแหละที่พี่กุ้งส่งมา
อ๋อ.. แล้วก็ไม่ต้องกลัวโดนทำมิดีมิร้ายเลย เพราะบริษัทเขามีมาตรการสำหรับพนักงานของเขาอยู่
พรุ่งนี้ฉันมีเรียนตอนบ่ายซึ่งมันก็เป็นผลดีกับฉัน เพราะจะได้ทำงานวันแรกได้อย่างเต็มที่และคำนวณเวลาถูก ฉันเข้านอนทันทีหลังได้รับข้อความจากพี่กุ้งไม่นาน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่เช้าตรู่แล้วข่มตานอนจนผลอยหลับไป รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่นาฬิกาปลุกดังขึ้น พอถึงเวลานั้นฉันอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาเสื้อยืดกางเกงวอร์มแล้วรีบไปยังคอนโดนั้นทันที
เอาจริงก็แอบตื่นเต้นอยู่หรอก เป็นผู้หญิงมาทำงานในห้องของคนแปลกหน้าที่เป็นผู้ชาย ขืนโดนทำไรขึ้นมาจริงใครจะช่วยได้..
ฉันมองหมายเลขห้องอย่างชั่งใจอยู่พักหนึ่งมองตัวเลขซ้ำ ๆ ว่าตัวเองมาถูกหรือผิดห้อง พอมั่นใจว่าใช่ในขณะที่นิ้วกำลังจะกดกริ่งหน้าห้องนอนก็มีผู้หญิงคนนึงเปิดประตูห้องออกมาพอดี..
หรืออาจจะเป็นแฟนของเจ้าของห้องเขาก็เป็นได้ ถึงจะดูเหมือนไม่ใช่เท่าไหร่ก็เถอะ ผู้หญิงผิวขาวหน้าตาสระสวยในชุดเดรสสายเดี่ยวรัดรูปสีดำที่แค่มองก็ดูออกว่าเมื่อคืนผ่านศึกหนักมาแค่ไหนเดินผ่านร่างของฉันไปโดยไม่มีคำพูดใดใดออกมาจากปากเธอทั้งนั้น
ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคออีกครั้งและกลับไปดูหมายเลขห้องอีกทีเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะกดกริ่งตามมารยาทแม้ว่าจะสามารถเดินเข้าห้องได้เลยก็ตาม คิดว่าตาเจ้าของห้องคงไม่ธรรมดาแล้วแหละ..
นิ้วเรียวของฉันยังกดกริ่งซ้ำ ๆ เพื่อสร้างความรำคาญให้คนภายในห้องที่คาดว่าน่าจะยังไม่ตื่น พอฉันฉันรัวเข้าเรื่อย ๆ นานอยู่เป็นนาทีสองนาทีได้ถึงจะมีคนออกมาเปิดประตู
"มาทำความสะอาดค่ะ!" ฉันตะเบ่งเสียงออกไปด้วยความลนลานหลังมีผู้ชายสวมชุดคลุมอาบน้ำสภาพหัวยุ่งเหยินมาเปิดประตูให้
"นี่คีย์การ์ดครับ คราวหลังไม่ต้องกดกริ่งเข้ามาทำความสะอาดได้เลย" เขาว่าพร้อมกับยื่นคีย์การ์ดสีดำให้กับฉัน นี่ไม่คิดว่าฉันจะเป็นมิจฉาชีพบ้างเลยหรือไง ให้ซะง่ายดายเชียว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องรีบรับไว้
"ค่ะ!" ฉันพยักหน้าหงึกหงักไม่ได้มองหน้าคุณเจ้าของห้องเลยสักนิดเพราะมัวแต่ประหม่า รู้แค่ว่าเสียงของเขาหล่อมากแค่นั้น พอรับคีย์การ์ดเสร็จฉันก็เดินตามเขาเข้ามาในห้องพอเห็นว่าเขาเดินเข้าไปในห้องนอนที่เปิดประตูเอาไว้ฉันจึงรีบแทรกถาม "นะ ในห้องต้องทำความสะอาดไหมคะ?"
คาดว่าเขาคงจะต้องกลับไปนอนแน่ ๆ ฉันจึงต้องรีบถามไว้จะได้รู้ว่าต้องทำความสะอาดห้องนอนเขาหรือเปล่า
"อือ" เขาขานตอบกลับสั้น ๆ ก่อนจะถอดชุดคลุมอาบน้ำออกเปลือยกายแล้วฟุบลงบนเตียง ทำฉันหันหน้าหนีแทบไม่ทันแน่ะ!
ทั้งที่มีผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดอยู่แท้ ๆ ยังจะกล้าเปลือยกายไม่อายฟ้าไม่อายดินนอนอีก!