รถเมล์

1548 Words
วันนี้พวกรุ่นพี่ปล่อยให้รุ่นน้องเลิกกิจกรรมเร็ว เพราะแค่จะมาบอกเรื่องงานกิจกรรมประกวดดาวเดือนเพียงเท่านั้น ทำให้กรและเพื่อนๆ ต่างก็พากันออกมาหาที่นั่งคุยกันอยู่ที่ใต้ตึกของคณะตัวเอง "หน้าบานเชียวนะไอ้กร นี่ตกลงนายอยากประกวดขนาดนั้นเลยเหรอ" แอนถามกรเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนจะลงประกวดจริงๆ "เปล่า" กรทำท่าทางไม่สนใจกับสิ่งที่แอนถาม "อ้าว แล้วนายจะลงประกวดทำไมล่ะ" นัทถามต่ออีกคน "เราก็แค่ไม่อยากเข้ากิจกรรมรับน้องก็แค่นั้น" กรยักไหล่แล้วยิ้มตอบ "แค่เนี้ยเหรอวะ มึงนี่มันจริงๆ เลยนะไอ้กร" เภาถึงกับส่ายหัวให้กับความคิดของเพื่อนตัวเอง "นี่นายไม่รู้หรอว่าประกวดเดือนเนี่ย มีกิจกรรมเยอะจะตาย แถมนายไม่สามารถที่จะโดดได้ด้วยนะ ไม่ว่ารุ่นพี่จะสั่งให้ทำอะไรนายก็ต้องทำตาม" แอนบอกกรจนยืดยาว แต่กรทำหน้าไม่เชื่อ เขาไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมสักเท่าไหร่ เขาไม่ใช่เด็กที่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าตัวเขานั้นจะเล่นกีฬาเก่งแต่ก็ไม่เคยลงแข่งขันอะไรเลยสักอย่างเดียว ได้แค่เล่นกับเพื่อนๆ เพื่อความสนุกเท่านั้น "ก็แค่ทำๆ ไปงั้นแหละ ยังไงซะก็ไม่คิดว่าจะชนะอยู่แล้วนี่" กรพูดออกมาหน้าตาเฉย "นี่ตัวแทนเดือนคณะกูหรอวะเนี่ย ไม่ต้องคิดถึงตำแหน่งเลย แม่งไม่มีทางได้อยู่แล้ว" กรหันหน้าไปมองและเบะปากใส่เภาอย่างไม่สนใจ "วันนี้มึงกลับยังไงวะกร" เภาถาม เมื่อทั้งคู่เดินออกมาด้วยกันที่หน้ามหา'ลัย เพราะแอนกับนัทแยกตัวกลับไปก่อนแล้วจึงเหลือแต่ทั้งสองคน "วันนี้ว่าจะลองขึ้นรถเมล์ดูอีกทีว่ะ อยากลองขึ้นดูซิว่าวันนี้จะหลงมั้ย" กรขำออกมาเบาๆ "เออ กลับดีๆ ล่ะมึง งั้นกูไปก่อน มึงเดินไปท่ารถคนเดียวได้ใช่ปะ" "เออน่า ไปและ บายมึง..." กรตั้งใจเต็มที่ว่าวันนี้เขาต้องขึ้นรถเมล์กลับบ้านให้ได้ และจะต้องไม่ลงผิดป้ายด้วย เขาเดินมารอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ตรงหน้ามหา'ลัย ซึ่งมีคนยืนรอกันอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่นานรถคันที่กรต้องการขึ้นก็มา เขารีบก้าวเท้าขึ้นรถมาอย่างไว เพื่อให้ทันได้นั่งเบาะ เขาเดินเข้าไปทางด้านในเรื่อยๆ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่เบาะแถวช่วงกลางรถซึ่งมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วคนนึง "ขอโทษครับ เบาะนี้มีคนนั่งมั้ยครับ" กรเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วทางด้านริมหน้าต่าง "ไม่มีครับ" คนด้านในหันมาพูด กรถึงกับชะงักเมื่อเห็นหน้าของคนที่นั่งอยู่ก่อน เขาคือรุ่นพี่หัวหน้าเฮดว้ากที่เขาไม่ชอบ ก็คือรุ่นพี่ที่ชื่อคิริวนั่นเอง "อ้าวน้อง จะนั่งมั้ย ถ้าไม่นั่งคนอื่นจะได้นั่ง" กระเป๋ารถเมล์เดินจี้ตามตูดเข้ามาติดๆ กรจำใจต้องนั่งลง คิริวหันไปมองหน้าคนข้างๆ และหันกลับไปทางเดิม "กี่คนน้อง" กระเป๋ารถเมล์ถามกรเสียงดัง "คนเดียวครับพี่" กรส่งเงินให้กับกระเป๋ารถเมล์ "โห่น้อง ไม่เคยขึ้นรถเมล์รึไง ค่ารถแค่ 15 บาท แต่น้องให้แบงค์ 500 เนี่ยนะ" "2 คนครับ" คิริวยื่นแบงค์ 20 และเหรียญ 10 ให้กับคนเก็บเงิน "ทีหลังน่ะจะขึ้นรถเมล์ ก็หัดเตรียมตังค์มาให้มันพอดีด้วยนะน้อง พี่ไม่มีทอนหรอกแบงค์ใหญ่แบบนี้" กระเป๋ารถฉีกตั๋วและยื่นมันส่งให้กับคิริว "อะตั๋วรถ เผื่อเขาเดินมาตรวจ" คิริวส่งตั๋วใบนึงให้กรเอาไปถือไว้ "เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมคืนเงินให้พี่ก็แล้วกัน" กรพูดขึ้นแต่อีกฝ่ายกับเงียบกริบ ไม่มีเสียงพูดจาตอบโต้กลับมาเลยสักคำ กรถึงกลับยกมือขึ้นแล้วทำท่าจะทุบหัวของคิริว แต่ติดที่ว่าคนเยอะจนเขาไม่กล้า คิริวเองก็นั่งหันหน้ามองออกไปทางข้างนอกอยู่แบบนั้นตลอดทาง กรนั่งทำท่าลุกลี้ลุกลนตลอดทางไม่รู้ว่าเจ้าตัวนั้นเป็นอะไร จนคิริวถึงกับต้องหันมามองกรอยู่หลายต่อหลายรอบ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ซึ่งมันจะมีอะไรซะอีกล่ะ ก็เพราะว่ากรกลัวว่าวันนี้เขาจะลงรถเลยป้ายอีกน่ะสิ เจ้าตัวจึงได้เอาแต่ชะเง้อคอมองทางอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ไม่พลาดอย่างเมื่อวานอีก วันนี้รถค่อนข้างติด เคลื่อนตัวได้ค่อนข้างช้าขยับไปได้เพียงแค่ทีละนิด เพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาเลิกงานและทุกคนต่างก็กำลังกลับบ้าน รถบนท้องถนนจึงค่อนข้างเยอะมากกว่าเวลาปกติ กรแอบมองคิริวบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีทีท่าว่าอีกคนจะขยับ คิริวยังคงมองออกไปทางด้านนอกหน้าต่าง อันที่จริงบ้านของทั้งคู่ต่างก็ค่อนข้างรวย และที่บ้านก็อนุญาตให้ทั้งสองคนขับรถยนต์มาเรียนเองได้ ซึ่งปกติคิริวก็มักจะขับรถมามหา'ลัยเองอยู่แล้ว แต่ว่าวันนี้เขาไม่ได้เอารถมาด้วย เพราะคิดไว้แล้วว่าวันนี้ต้องกลับช้า และรถก็คงจะต้องติด เขาเลยเลือกที่จะขึ้นรถเมล์กลับบ้านบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนกรเอง ที่บ้านจะมารับมาส่งเจ้าตัวก็ไม่ยอม พ่อให้ขับรถมาเรียนเองเขาก็ไม่เอา เขาบอกว่าอยากลองดูก่อน เขาอยากลองนั่งรถไปเรียนเองบ้าง เพราะตั้งแต่เด็กจนจบมัธยมปลาย เขาจะมีคนขับรถคอยขับไปรับไปส่งที่โรงเรียนอยู่ตลอดทุกวัน แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว เขาไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาเป็นลูกคุณหนูซึ่งทำอะไรเองไม่เป็นอีกแล้ว เขาจึงเริ่มพยายามที่จะทำอะไรด้วยตัวเองให้ได้เหมือนกับพวกเพื่อนคนอื่นๆ คิริวลุกขึ้นยืน เขาขอทางอีกคนเพื่อจะลงจากรถ กรเองก็หลบขาให้เขาไปข้างๆ กรหันมองซ้ายมองขวาไปมา ซึ่งเขารู้สึกคุ้นๆ กับเส้นทางนี้ จึงรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งลงไปจากรถอย่างรวดเร็วเช่นกัน "โห ฉิวเฉียดนึกว่าจะลงไม่ทันซะแล้ว" กรยืนบ่นอยู่ข้างหลังคิริวที่เดินลงมาก่อนหน้าเขา "เฮ้ย...นี่มันตรงไหนวะเนี่ย เมื่อกี้ก็ดูดีแล้วนี่หว่า ก็ปั๊มน้ำมันอยู่ตรงนั้น เราก็ต้องลงป้ายนี้มันก็ถูกแล้วดิวะ" กรยืนงง เขาเกาหัวตัวเอง ก่อนจะหันมองไปมารอบๆ ที่ไม่คุ้นตาอย่างที่คิด "บ้านน้องอยู่ไหน" คิริวได้ยินจึงหันกลับมาถาม "เชี่ย...ชื่อซอยอะไรวะ แม่งเสือกจำชื่อซอยไม่ได้อีก" กรยืนบ่นพึมพำอยู่คนเดียวจนคิริวเริ่มรำคาญ "ที่บอกว่าลงป้ายที่มีปั๊มน่ะ มันปั๊มอะไร" คิริวหันไปถามกรต่อ "ก็ปั๊มเชลล์ไง เชี่ย...นี่มันปั๊ม ปตท. นี่หว่า นี่เราลงผิดป้ายอีกแล้วหรอวะเนี่ย" กรถึงกับหน้าเสียขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองลงรถผิดป้ายอีกแล้ว "ป้ายที่เราจะลงน่ะ อยู่ถัดไปอีก 3 ป้าย เอางี้เดี๋ยวพี่ไปส่ง บ้านพี่อยู่ในซอยใกล้ๆ นี่แหละ" กรจำใจต้องเดินตามคิริวไปเพราะเขานั้นไม่มีทางเลือก จะให้ขึ้นรถเมล์ไปอีกก็ไม่มีเศษเงินที่จะจ่าย จะให้ที่บ้านออกมารับก็กลัวว่าที่บ้านจะไม่ยอมให้ขึ้นรถไปเรียนเองอีก คิริวให้กรยืนรออยู่ที่หน้าบ้าน เขาเข้าไปเอารถเพียงคนเดียว คิริวขับรถบิ๊กไบค์สีเขียวคันใหญ่ออกมาจากรั้วบ้าน กรถึงกับมองรถคันนั้าตาค้างทันที นี่มันเป็นรถคันที่เขาอยากได้มาก ซึ่งตัวเขาเองขอพ่อกับแม่ซื้อแต่พวกท่านไม่ยอมซื้อให้ บอกว่ามันอันตราย เลยเปลี่ยนเป็นซื้อรถสปอร์ตให้เขาได้ขับแทน แต่เจ้าตัวก็จอดเอาไว้นานๆ ถึงจะเอาออกมาขับสักที "อะ ใส่หมวกด้วย" คิริวส่งหมวกกันน็อคให้กับกร "บอกด้วยละกันว่าทางเข้าบ้านอยู่ซอยไหน จะได้ไม่เลย ว่าแต่จำทางเข้าบ้านได้รึเปล่าเนี่ย" คิริวยกยิ้มและหัวเราะเล็กน้อยที่ได้กวนประสาทรุ่นน้อง "เออ รู้แล้วน่า ใครมันจะจำทางเข้าบ้านตัวเองไม่ได้กันล่ะ" กรบ่นอุบก่อนจะก้าวขาขึ้นรถซ้อนท้ายคิริวไป กรเกาะไหล่คิริวแน่น เนื่องจากความเร็วของรถ ถึงแม้ว่าเขาจะอยากได้รถบิ๊กไบค์มาขับเพราะความชอบส่วนตัว แต่นี่เขาก็เพิ่งเคยขึ้นรถแบบนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD