EP.2
“ชา แม่ง มึงนี่ท็อปเซคตลอดเลยนะ” โจ้พูดขณะเดินมาโรงอาหารของคณะเพื่อนกินข้าวกลางวัน หลังจากผ่านมรสุมมิดเทอมมาได้ก็เป็นช่วงเวลาของการทำใจฟังคะแนน ผมไม่ได้เครียดอะไรมากกับวิชาคณะเพราะมันง่ายกว่าวิชาคำนวณมากสำหรับผม
“กูเก่งและกูหล่อมากไง มึงต้องเข้าใจนะ” ผมบอกยิ้มๆทำให้ไอ้โจ้หมั่นไส้และผลักหัวผมจนเกือบติดพื้น
“หน้ามึงสวยอย่างกับผู้หญิง แถมเตี้ยอย่างกับหลักผูกควาย แถวบ้านกูไม่เรียกว่าหล่อหรอกแบบเนี้ย”
“เค้าเจ็บ...” ผมแกล้วเบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และเอนหัวซบแขนไอ้โจ้พลางกอดแขนมันแน่น
“ชา ไอ้ชา กูขนลุก ปล่อยแขนกูเดี๋ยวนี้!” ไอ้โจ้ดันหัวผมสุดแรงและพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของผม ผมหัวเราะดังลั่นเพราะขำกับอาการโอเวอร์แอ็คติ้งของเพื่อน
“ไหนมึงบอกว่าหน้ากูสวยเหมือนผู้หญิงไง จะขนลุกทำไมวะ”
“ห่า ยังไงมึงก็เป็นผู้ชายป่ะวะ” ผมชะงักกับคำพูดของโจ้ และเลิกแกล้งมัน
“เออ...กูรู้หรอกน่า” ผมพูดเบาๆแล้วเดินนำไอ้โจ้ไปหาโต๊ะนั่ง เรื่องที่ผมชอบผู้ชายผมไม่เคยบอกหรือแสดงให้ใครรู้เลย มันเป็นความลับเพียงคนเดียวของผมมาตลอด และหวังให้มันเป็นความลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ ท่าทีของโจ้เมื่อครู่ทำให้ผมนึกถึงพี่เธนส์ ถ้าเค้าคิดกับผมแบบที่โจ้พูดผมคงเสียใจจนไม่เป็นอันทำอะไรแน่นอน
“อ้าว ไอ้ชา มึงงอนกูเหรอ ชา!” โจ้วิ่งทั่กๆมากอดคอผม แล้วโยกหัวผมไปมา
“...”
“มึงนี่งอนเป็นผู้หญิงเลยนะ โอ๋ๆๆ เค้าขอโทษนะตัวเอง”
“ตัวเองพ่องงงงงง ขนลุก จะกินมั้ยข้าวอ่ะ เล่นอยู่ได้”
“ไอ้ชา บางทีกูก็รู้สึกเหมือนมึงเป็นแม่อ่ะ ไม่ใช่เพื่อน” โจ้ผลักหัวผมเบาๆแล้วลากคอผมไปซื้อข้าว เรานั่งกินด้วยกันจนถึงคาบเรียนวิชาช่วงบ่าย
“ผมมีงานให้พวกคุณ 1 ชิ้น เป็นงานเดี่ยว”
“โห ̴ อาจารย์” คำว่างานของอาจารย์เรียกเสียงโอดครวญจากนักศึกษาได้ดีมาก
“งานง่ายๆน่าทุกคน ผมอยากให้คุณวาดรูปโครงสร้างกระดูกในร่างกายมนุษย์มาส่ง เพราะผมจะเอาเรื่องนี้มาสอบตอนไฟนอล ดังนั้นเลยอยากให้ทุกคนจำได้ว่ากระดูกอะไรอยู่ตำแหน่งไหนและทำหน้าที่อะไร” พอฟังงานอาจารย์แล้วผมถึงกับอ้าปากค้างทันที เพราะสำหรับผมมันช่างห่างไกลกับคำว่างานง่ายๆเสียเหลือเกิน
“ซวยแล้วชา มึงตายแน่ ฮ่าๆๆ” โจ้หันมากระซิบกับผมเบาๆแล้วหัวเราะด้วยสีหน้าสะใจ ผมหันไปมองค้อนมันหนึ่งทีแล้วหันมาฟังรายละเอียดงานจากอาจารย์ต่อ
“ส่งอาทิตย์หน้านะครับ วันนี้เลิกเซคได้ เจอกันคราวหน้า อย่าลืมงานที่ผมสั่งด้วย” อาจารย์พูดเท่านั้นแล้วเก็บของเดินออกจากห้องไป ผมนึกถึงคำโกหกที่บอกพี่ไม้ว่ามีงานวาดรูปที่ต้องทำส่งอาจารย์แล้วอยากเดินไปตีปากตัวเองในห้องน้ำ แค่โกหกเพื่อเอาตัวรอดฟ้าดินต้องลงโทษผมเร็วขนาดนี้เลยเหรอ
“ไอ้โจ้ มึงต้องช่วยกู” ผมหันไปบอกโจ้แล้วส่งสายตาอ้อนวอนแกมบังคับไปให้
“คุณชาครับ กระผมก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกันครับ ช่วยเหลือตัวเองไปก่อนนะครับคุณชา” ไอ้โจ้บอกแค่นั้นแล้วเก็บของวิ่งหนีผมไปอย่างรวดเร็ว ไอ้เพื่อนเวร ทีตอนแลปกริ๊งอ้อนวอนให้ผมติวให้จนดึกดื่น
“กูจะไม่ติวอะไรให้มึงแล้วไอ้โจ้ มึงช่วยตัวเองไปเลยนะ!” ผมตะโกนด่ามันและพยายามวิ่งตามไปมันให้ทัน
“กูช่วยตัวเองทุกวันแหละโว้ย ฮ่าๆๆๆ” มันตะโกนกลับมาอย่างหน้าไม่อายแล้ววิ่งเข้าลิฟท์ไปทันที ผมเริ่มสงสารตัวเองที่มีมันเป็นเพื่อน
ที่บ้าน
“พี่ไม้ เสาร์นี้ว่างมั้ย ช่วยชาหน่อย”
“ไม่ว่าง นัดสาวไว้” พี่ไม้ตอบแล้วก้มหน้าก้มตาไถจอมือถือตอนกินข้าว ผมเลยแย่งมือถือพี่ไม้มาถือไว้ด้วยความหมั่นไส้
“ชายังไม่อยากมีอาซ้อ แต่ตอนนี้ชาอยากได้คนช่วยวาดรูป”
“โตขนาดนี้แล้ววาดรูปเองไม่เป็นเหรอ”
“ชาวาดหมาเป็นหมีพี่ไม้ก็รู้ ทีพี่ไม้ยังทำบัญชีเองไม่เป็นเลย”
“เดี๋ยวพี่บอกไอ้เธนส์ให้ มันว่างอยู่แล้วล่ะ”
“ชาให้พี่ไม้ช่วยนะ ไม่ใช่พี่เธนส์สักหน่อย” ผมบ่นพึมพำ
“เออน่า ไอ้เธนส์มันก็เห็นชาเป็นน้องคนนึง อย่ามากเรื่องน่า พี่ต้องไปคุยงานกับลุกค้า” พี่ไม้บอกปัดๆแล้วกินข้าวต่อ ผมใจกระตุกเล็กน้อยกับคำพูดของพี่ไม้ ทำไมทุกคนต้องย้ำว่าพี่เธนส์เห็นผมเป็นแค่น้อง ผมรู้แล้ว รู้มาตั้งแต่ ม.4 แล้ว ไม่ต้องย้ำหรอก ผมรู้สถานะตัวเองดี
“อ้าว ดูทำหน้า ทำไม อยากให้มันมองเป็นเมียเหรอ”
“พี่ไม้!” ผมพูดเสียงดังและรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมาทันทีก่อนจะรีบก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้พี่ไม้สังเกตเห็น พี่ไม้มองผมงงๆแล้วดึงมือถือของตัวเองกลับไป ก่อนจะพิมพ์อะไรยิกๆแล้ววางลง
“บอกไอ้เธนส์ให้แล้ว เดี๋ยววันเสาร์ 9 โมงมันมาหา”
“อือ” ผมพยักหน้ารับแล้วนั่งกินข้าวเงียบๆ แต่ใจเต้นจนจะทะลุออกมาจากอกอยู่แล้ว วันเสาร์จะได้เจอพี่เธนส์แถมอยู่ด้วยกันทั้งวัน ผมจินตนาการไม่ออกจริงๆว่าผมจะใจเต้นได้มากกว่านี้อีกมั้ย -///-