bc

ผมนี่แหล่ะ อภิมหาเศรษฐี

book_age16+
detail_authorizedAUTHORIZED
2.0K
FOLLOW
25.3K
READ
revenge
lighthearted
straight
brilliant
ambitious
realistic earth
horror
kingdom building
poor to rich
weak to strong
like
intro-logo
Blurb

เขาตกหลุมรักซ่งอวี่ถงอย่างสุดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ เขาเชื่อว่าเวลาและความรักจะหล่อหลอมซ่งอวี่ถงได้ เขาจึงยอมเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซ่งโดยแลกกับศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างไม่ลังเล......

แต่เป็นเวลาห้าปีแล้วที่เขาเข้ามาอยู่ในตระกูลซ่ง ไม่มีสักวันที่หลิงอวิ๋นผ่านพ้นไปได้อย่างสุขใจ

ห้าปีที่ทุ่มเทไปได้อะไรกลับคืนมา?

ก็คำพูดจากลมปากของคนอื่นไง ‘แย่ยิ่งกว่าสุนัข! ’

“ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ! ”

หลิงอวิ๋นกำหมัดขึ้นและออกแรงทุบลงไปที่โต๊ะบาร์ รอยแตกเล็ก ๆ ปรากฏบนแผ่นไม้

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 แต่งเข้าบ้านตระกูลซ่ง
“ฟิ้ว” แก้วชาคริสตัลใบหนึ่งพุ่งตรงมาที่หลิงอวิ๋น หลิงอวิ๋นโยกตัวหลบเล็กน้อย “เพล้ง!” แก้วชาตกกระทบลงบนพื้น แตกเป็นเสี่ยง ๆ เศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่ว “โอ้ หลบได้หรือนี่” เสียงแหลมเล็กระคนไปด้วยความโกรธ คนที่ระเบิดอารมณ์ใส่หลิงอวิ๋นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นภรรยาของเขาเอง ซ่งอวี่ถง คุณหนูรองแห่งจาวฮุยกรุ๊ป ลูกสาวของตระกูลผู้มั่งคั่งที่มีชื่อเสียงของเมือง วันนี้ซ่งอวี่ถงสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าครามพร้อมด้วยกระโปรงหนังรัดรูป ด้วยรูปร่างผอมเพรียว ประกอบกับขาเรียวคู่งามดั่งหยกขาว ทำให้เธอดูมีเสน่ห์อย่างสุดจะพรรณนา ความงามของซ่งอวี่ถงนั้นทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นไม่อาจลืมเลือน หลิงอวิ๋นถึงกับตกตะลึงเมื่อแรกเห็น เขาไม่เคยพบหญิงสาวที่ทำให้ใจสั่นได้เฉกเช่นเธอคนนี้ หลิงอวิ๋นและซ่งอวี่ถงนั้นถูกหมั้นหมายกันตั้งแต่ทั้งสองยังอยู่ในท้อง เป็นการหมั้นหมายกันโดยรุ่นปู่ ต่อมาเมื่อคุณปู่ลาจากโลกนี้ไป พ่อและแม่ของเขาก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปอีก เคราะห์ร้ายโจมตีหลิงอวิ๋นอย่างต่อเนื่องจนเขาไม่รู้จะทำอย่างไร เวลานั้นตระกูลซ่งเสนอสองทางเลือกให้ คือ ยกเลิกการหมั้นหมาย หรือแต่งเข้าตระกูลซ่ง หลิงอวิ๋นอับจนหนทาง จำต้องยอมจำนนและตกลงที่จะเดินเข้าสู่ครอบครัวตระกูลซ่ง ด้วยนิสัยของเขาเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลือกเส้นทางนี้ แต่ทว่า เขาตกหลุมรักซ่งอวี่ถงอย่างสุดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ เขาเชื่อว่าเวลาและความรักจะหล่อหลอมซ่งอวี่ถงได้ เขาจึงยอมเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซ่งโดยแลกกับศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างไม่ลังเล น่าเสียดายเรื่องราวไม่เป็นดังหวัง เวลาไม่ได้ทำให้ซ่งอวี่ถงเปลี่ยนแปลงเลย ในทางกลับกัน เธอกลับทวีความร้ายกาจยิ่งขึ้น เดิมทีเรื่องราวในวันนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ซ่งอวี่ถงเลิกประชุมก่อนกำหนด แต่เธอไม่ได้แจ้งหลิงอวิ๋นให้รับรู้ เป็นเหตุให้เธอต้องรอคอยถึงสิบกว่านาที เธอจึงระเบิดใส่หลิงอวิ๋น  “นายรู้ไหมว่าแก้วชาใบนั้นราคาเท่าไร?” ซ่งอวี่ถงถามเลิกคิ้วขึ้น เธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา  “ผมไม่รู้” หลิงอวิ๋นตอบพลางเก็บกวาดเศษแก้วชาคริสตัล “ฮึ ไอ้คนบ้านนอก ที่นายไม่รู้ก็พอจะเข้าใจได้อยู่ นี่เป็นชุดน้ำชาสำหรับราชสำนักรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ผลิตโดยโรงงานหลวงแห่งราชวงศ์ฝรั่งเศส ชุดหนึ่งมี 12 ชิ้น ราคาในท้องตลาดตกชุดละแสนแปด นายคิดเอาเองแล้วกันว่าแก้วใบหนึ่งราคาเท่าไร? " หลิงอวิ๋นตะลึงไปชั่วขณะ ความหนาวเย็นแผ่ไปทั่วร่างกายของเขาราวเหมือนเขาได้ตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง หรือว่าในสายตาของเธอ ตัวของเขายังเทียบไม่ได้กับแก้วชาคริสตัลใบหนึ่ง? หลิงอวิ๋นก้มศีรษะลง เขากัดฟันแน่น นี่มันข่มเหงกันเกินไปจริง ๆ หลิงอวิ๋นอยากจะเอาเศษแก้วปาใส่หน้าของซ่งอวี่ถง เพื่อเป็นการชำระล้างความอัปยศอดสูที่เขาได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา มือของเขาค่อย ๆ ยกขึ้น ... แต่แล้ว ก็วางลงอย่างช้า ๆ ท้ายที่สุดเขาก็ทำไม่ลง อย่างไรเสียก็เป็นคนที่ตนเองรักมากมาตั้งหลายปี เมื่อซ่งอวี่ถงเห็นท่าทางของหลิงอวิ๋น ความโกรธก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง เดิมทีคิดอยากจะด่าทออีกสักหลายประโยค แต่เมื่อเห็นเบ้าตาแดงก่ำของหลิงอวิ๋น คำหยาบคายที่เตรียมจะออกจากปากก็ชะงักลง  “ไม่ได้เรื่องเลย ยังไม่รีบเก็บขยะพวกนี้ออกไปอีก ต้องรอให้ฉันเก็บแทนนายหรือไง? ” ซ่งอวี่ถงตะคอกใส่หลิงอวิ๋น ไม่ให้เกียรติเลยแม้แต่น้อย หลิงอวิ๋นคว้าเอาที่โกยผงเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างกลัดกลุ้มใจ เขาเดินตรงไปยังห้องพักผ่อน ระหว่างทางก็เห็นพนักงานของบริษัทชี้มาที่เขาและกระซิบกระซาบกัน แน่นอนว่าพวกเขากำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของตนเอง หลิงอวิ๋นชินชาไปเสียแล้ว เมื่อเขามาถึงหน้าห้องพักผ่อน มีเสียงคนคุยกันลอยมาจากด้านใน  “เธอรู้ไหม ประธานซ่งระเบิดใส่คนคนนั้นอีกแล้ว? ” เจ้าของเสียงนั้นก็คือ จ้าวซินหรุ่ย เลขาของซ่งอวี่ถง แม่สาวคนนี้ปากร้ายมาก “ใครกัน? ” นี่คือเสี่ยวเจิ้งจากแผนกบุคคล ปกติถือว่ามีความเคารพเขาอยู่บ้าง ทุกครั้งจะเรียกเขาว่าพี่ หรือ พี่หลิงอวิ๋น “จะเป็นใครไปได้ ก็ไอ้เศษสวะหลิงอวิ๋นนั่นไง” “อ๋า เขาไม่ใช่คนรักของท่านประธานซ่งหรือ? ” “ฮึ! ” น้ำเสียงถากถางดังออกมาจากด้านใน “คนรักอะไรกัน ฉันว่าเป็นแค่บ่าวรับใช้และคนขับรถ เวลาประธานซ่งไม่พอใจก็ชักสีหน้าเข้าให้ บางทีก็ด่าว่า ดูสิ ไม่ได้เรื่องขนาดไหน” เมื่อหลิงอวิ๋นได้ยินดังนี้ มือที่จับที่โกยผงของเขากำแน่น จนด้านบนของที่โกยผงเป็นรอยบุบ “อา... ถ้าอย่างนั้น ฐานะของเขาก็ไม่ต่างจากเหล่าจางยามหน้าประตูเลยสินะ! ”  “ฮ่า ๆ ๆ ฉันว่าเขายังเปรียบไม่ได้กับลาบราดอร์พันธุ์แท้ที่บ้านประธานซ่งเลยล่ะ...”  “อุ๊บ... งั้นก็แย่กว่าสุนัขอีก...” หลิงอวิ๋นทนฟังต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เขาเอาขาเตะกระแทกประตูให้เปิดออกเสียงดังลั่น ทำให้ผู้หญิงสองคนที่กำลังนินทากันอยู่ข้างในตื่นตกใจ ทั้งคู่ก้มหน้าลงอย่างรู้งานทันที ต่างก็เอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก... สวัสดีคุณหลิง จากนั้นก็รีบเผ่นออกไป สายตาดุร้ายของหลิงอวิ๋นจ้องมองเธอทั้งสองอย่างไม่ลดละ จนทั้งคู่รู้สึกขนลุกตั้งชัน ทั้งสองหนีออกจากห้องพักผ่อนและสูดหายใจเข้าลึกๆ นับว่ารอดแล้ว “โอ้ เธอเห็นแววตาของเขาไหม มันน่ากลัวมาก” เสี่ยวเจิ้งพูดขึ้นด้วยความหวาดผวา จ้าวซินหรุ่ยโบกมือและพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด "ชิ ฉันคิดว่าเขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ ต่อหน้าพวกเรามาทำเป็นหมาป่าอวดหาง จะมีความสามารถอะไรไปได้..." จ้าวซินหรุ่ยจงใจพูดเสียงดังให้หลิงอวิ๋นได้ยิน เสี่ยวเจิ้งรีบปิดปากจ้าวซินหรุ่ย และลากเธอเดินจากไป ไม่ว่าอย่างไร เขาเป็นสามีของประธานซ่ง ก็ไม่ควรให้มันมากเกินไป เขาอยู่ในห้องพักผ่อนได้ยินอย่างชัดเจน หากเป็นแต่ก่อน ไม่ว่าอย่างไรเขาล้วนอดทนได้ ครั้งนี้ คำว่า ‘ยังแย่กว่าสุนัข’ ที่พ่นออกจากปากเลขากระจอก ๆ คนหนึ่ง ทำให้ความอดทนของหลิงอวิ๋นขาดสะบั้น แต่เดิมหลิงอวิ๋นมีภูมิหลังทางครอบครัวที่ร่ำรวย ปู่ของเขารับราชการทหารมาทั้งชีวิตและเกษียณด้วยตำแหน่งผู้นำ พ่อและแม่ของเขาเป็นนักธุรกิจ ไม่ว่าอาหารและอาภรณ์ ไม่เคยต้องกังวลทั้งสิ้น หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เขาเข้าร่วมกองทัพเพื่อฝึกฝน  แต่ใครจะพยากรณ์ได้ โรคเก่าของคุณปู่กำเริบขึ้น และอาการป่วยเป็นดังภูผาถล่ม เพื่อแสดงความกตัญญู หลิงอวิ๋นจึงลาออกจากกองทัพก่อนกำหนด ครึ่งปีต่อมา คุณปู่ก็ถึงแก่กรรม พ่อและแม่โศกเศร้าเสียใจมาก ธุรกิจเกิดความผิดพลาด และทั้งคู่ก็ประสบกับอุบัติเหตุเสียชีวิตลงอย่างไม่คาดฝัน เมื่อตระกูลซ่งรับรู้ ท่าทีของพวกเขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที และเสนอให้ยกเลิกการหมั้นหมาย ต่อมาตระกูลซ่งได้เสนอข้อเรียกร้องให้เขาแต่งงานเข้าตระกูล เวลานั้นหลิงอวิ๋นไร้ซึ่งญาติพี่น้อง เขาจึงต้องจำใจตอบตกลง เป็นเวลาห้าปีแล้วที่เขาเข้ามาอยู่ในตระกูลซ่ง ไม่มีสักวันที่หลิงอวิ๋นผ่านพ้นไปได้อย่างสุขใจ ห้าปีที่ทุ่มเทไปได้อะไรกลับคืนมา? ก็คำพูดจากลมปากของคนอื่นไง ‘แย่ยิ่งกว่าสุนัข! ’ “ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ! ” หลิงอวิ๋นกำหมัดขึ้นและออกแรงทุบลงไปที่โต๊ะบาร์ รอยแตกเล็ก ๆ ปรากฏบนแผ่นไม้ ในใจของหลิงอวิ๋นพลันเกิดความเชื่อมั่น สักวันหนึ่งซ่งอวี่ถงจะต้องมองเขาใหม่ ให้คนในตระกูลซ่งรู้ว่า นกที่ไม่เคยร้อง เมื่อมันร้องขึ้นมาจะกังวานจนน่าตกใจขนาดไหน ความเจ็บปวดทะลวงเข้าสู่หัวใจของหลิงอวิ๋น ความเจ็บปวดบนร่างกายภายนอกไม่สู้ความเจ็บปวดจากเลือดที่หยดอยู่ภายในใจ น้ำแข็งก็ยากที่จะหลอมเลือดที่เดือดพล่านอยู่ภายในถึงห้าปีให้เย็นลงได้ หลิงอวิ๋นไม่รู้เลยว่าจะต้องอย่างไรจึงจะสามารถครอบครองหัวใจของซ่งอวี่ถงได้อีกครั้ง หากไม่เคยเป็นเจ้าของ เรื่องเอาคืนจะกล่าวถึงได้อย่างไร? หลิงอวิ๋นเข้าใจได้ในทันทีว่าการเผชิญหน้ากับคนอย่างซ่งอวี่ถง ต่อให้พากเพียรและอ่อนโยนสักแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ บางที เวลาที่ต้องลาจากมาถึงแล้ว หลิงอวิ๋นตัดสินใจแน่วแน่ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของเขาในตระกูลซ่ง เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง เขาจะไปจากบ้านตระกูลซ่ง ไม่ว่าที่ไหนคงจะดีกว่าอยู่ที่ตระกูลซ่งอย่างแน่นอน เมื่อหลิงอวิ๋นแน่วแน่ชัดเจนแล้วจึงกลับไปที่ห้องทำงานของซ่งอวี่ถง สีหน้าของซ่งอวี่ถงเขียวคล้ำ ยังคงเอ่ยวาจาถากถางไม่หยุด “ให้นายไปเทขยะแค่นี้ นายกลับแอบขี้เกียจ” หลิงอวิ๋นสงบเงียบ เขาคิดตกแล้ว แล้วแต่ซ่งอวี่ถงจะพูดอะไรก็ช่าง เวลานี้ โทรศัพท์มือถือของซ่งอวี่ถงดังขึ้น  “ฮัลโหล คุณแม่ มีเรื่องอะไรคะ? ” “อ่อ พี่ใหญ่และน้องสามก็มาทานข้าวที่บ้านด้วย ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันก็กลับไปกินข้าวด้วย อีกสักพักก็ถึงค่ะ” ประธานกรรมการของจาวฮุยกรุ๊ป ซ่งเหรินฮุยมีลูกสาวด้วยกันสี่คน ซ่งอวี่ถงเป็นคนที่สอง คนโตซ่งอวี่โหมว คนที่สามซ่งอวี่เหมียน คนเล็กสุดซ่งอวี่ฉิง ความงดงามของสี่สาวตระกูลซ่งนั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งเมือง คนโตได้คู่กับคังเล่อเหว่ย ลูกชายคนโตของฝูติ่งเรียลเอสเตท คนที่สามแต่งงานกับอวี๋จิ่ง รองศาสตราจารย์คณะเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอวิ๋นโจว น้องนุชคนสุดท้องยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอวิ๋นโจว และเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยอีกด้วย ซ่งอวี่ฉิงนั้นยังเด็กเกินกว่าจะกล่าว ทั้งคนโตและคนที่สามล้วนแต่ได้คู่ครองที่สมดังใจหมาย เพียงลูกคนรองอย่างซ่งอวี่ถงได้คู่ครองที่ไม่น่าพึงพอใจ กระทั่งมีข่าวโคมลอยประมาณว่า ซ่งอวี่ถงดื่มจนเมามายและพลาดพลั้ง จึงถูกบังคับให้แต่งงาน และนั่น ก็เป็นอีกเหตุผลที่ซ่งอวี่ถงมองหลิงอวิ๋นแล้วไม่สบอารมณ์ และเมื่อเธอหันไปมองดูพี่เขยและน้องเขย ช่องว่างนั้นก็ห่างกันเหลือเกิน ซ่งอวี่ถงโยนกุญแจรถให้หลิงอวิ๋น พร้อมบอกให้เขาขับรถไปที่ชั้นล่างของบริษัทเพื่อรอรับเธอ หลิงอวิ๋นรับกุญแจรถมา และลงเอารถที่โรงจอดด้านล่าง เมื่อเขาขับรถมาถึงหน้าประตูบริษัท ซ่งอวี่ถงมาถึงพอดี เธอก้าวขาขึ้นรถ และหลิงอวิ๋นก็ขับรถออกมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์สุดหรูของตระกูลซ่ง ระหว่างทางกลับบ้าน ทั้งสองต่างนั่งเงียบ หลิงอวิ๋นขับรถอย่างชินชา ส่วนซ่งอวี่ถงนั้นจ้องมองทิวทัศน์ผ่านกรอบหน้าต่างรถ และยังคงไม่พูดจา ระยะทางระหว่างบริษัทและคฤหาสน์ตระกูลซ่งนั้นไม่ไกลกันมาก ใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีก็ถึงแล้ว ซ่งอวี่ถงลงจากรถโดยไม่พูดอะไร ส่วนหลิงอวิ๋นก็ขับต่อไปที่โรงรถ เวลานี้เขาได้เจอกับซ่งอวี่เหมียนและอวี๋จิ่งโดยบังเอิญ เมื่อหลิงอวิ๋นจอดรถเสร็จเรียบร้อยจึงพยักหน้าทักทายพวกเขา อวี๋จิ่งได้เจอหลิงอวิ๋นก็ดีใจ เตรียมจะทักทาย แต่กลับถูกซ่งอวี่เหมียนดึงรั้งไว้ ส่งสายตาให้เขา อวี๋จิ่งจำใจต้องถอนมือ ยักไหล่ รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย และเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับซ่งอวี่เหมียน หลิงอวิ๋นยิ้มแหย ๆ อยู่ข้างนอกก็ถูกคนอื่นดูแคลน แม้กระทั่งสิ่งที่เรียกว่าบ้านก็ไม่ต่างกัน เมื่อเข้าไปถึงห้องรับแขก หลิงอวิ๋นพบว่าทุกคนมากันครบแล้ว ซ่งอวี่โหมวและคังเล่อเหว่ยต่างก็มาถึงแล้ว สาว ๆ ตระกูลซ่งจับกลุ่มคุยกัน หลิงอวิ๋นรู้สึกว่าไม่ว่าตรงไหนก็ไม่เหมาะกับเขา เขาจึงบอกหวางอวิ๋นแม่ยายว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและต้องการขึ้นไปพักผ่อนด้านบน หวางอวิ๋นเป็นคนเลือกปฏิบัติ นับตั้งแต่หลิงอวิ๋นแต่งเข้าตระกูลมา เธอไม่เคยดีกับเขาเลย หวางอวิ๋นเงยหน้าขึ้นและพูดขึ้น “อวี่ถง ดูหลิงอวิ๋นของเธอสิ เดี๋ยวนี้เก่งใหญ่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ไร้สาระไปวัน ๆ ยังจะมาเหนื่อยอีก...” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซ่งอวี่ถงสะกดอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ สีหน้าพลันดำมืดลง  ในเวลานี้ หลิงอวิ๋นเดินเข้ามาอย่างผึ่งผายและตรงไปที่บันได ในเมื่อเขาตัดสินใจจะจากไปก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำดีกับพวกเขาอีกต่อไป หวางอวิ๋นเห็นลูกเขยที่ปกติจะยอมจำนนต่อเธอ กลับกล้าที่จะหักหน้าและชักสีหน้าใส่เธอ ทำให้เธอโกรธจนพ่นลมหายใจออกมา เป็นบรรยากาศที่ชวนอึดอัดมาก อวี๋จิ่งเห็นท่าทางไม่ดีจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย ลากหลิงอวิ๋นไปอีกทางหนึ่งและขยิบตาให้เขา “หลิงอวิ๋นขับรถมาคงจะเหนื่อย นั่งพักสักครู่คงจะดีขึ้น ใช่ไหม หลิงอวิ๋น? ” อวี๋จิ่งกดหลิงอวิ๋นลงบนโซฟา และพยายามคลี่คลายความขัดแย้งนี้ แน่นอนว่าหลิงอวิ๋นรู้ดี อวี๋จิ่งเป็นส่วนน้อยในครอบครัวนี้ที่สุภาพกับเขามาตลอด คงต้องไว้หน้าเขาบ้าง หลิงอวิ๋นจำต้องนั่งลงบนโซฟาอย่างเงียบสงบ เวลานี้ซ่งอวี่ฉิงก็ปราดเข้ามาออดอ้อนเอาใจหวางอวิ๋น บอกว่าวันนี้มาทานข้าวด้วยกัน อย่าโกรธเคืองกันเลย จากนั้นเธอก็ขยิบตาให้หลิงอวิ๋น กับน้องสาวภรรยาคนนี้ หลิงอวิ๋นโกรธไม่ลงจริง ๆ เธอมันจะเรียกเขาพี่เขยอย่างนั้น พี่เขยอย่างนี้ ฟังดูแล้วอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ ในเวลานี้ สีหน้าของซ่งอวี่ถงหม่นหมอง แม้เพียงเรื่องไกล่เกลี่ยยังต้องพึ่งพาน้องสาวและน้องเขย นี่มันอะไรกัน

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะดุดรัก Lady cook.

read
1.0K
bc

สตรีแกร่ง หลินซูเหมย

read
2.7K
bc

เถื่อนรักมาเฟีย | NC+++

read
1.9K
bc

เมีย(น้อย)ของมาเฟีย

read
6.0K
bc

ราชินีหนังโป๊

read
14.2K
bc

คนหัวใจเถื่อน

read
1.0K
bc

รักใส ๆ ของนายรุ่นน้อง

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook