bc

ปลายฝนต้นเหมันต์

book_age16+
259
FOLLOW
1.1K
READ
drama
sweet
like
intro-logo
Blurb

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่จักรวาลแห่งฤดูกาล

แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าว ฝนจะตก พายุจะเข้า หรือแม้แต่ลมหนาวที่กำลังจะพัดผ่าน

ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ใครต่อใครก็โหยหาความรัก

เพราะความรักจักปกป้อง โอบกอด และเยียวยาทุกอย่าง

เหมันต์ วรภัทร (อาเหม)

‘ปีศาจร้าย’ หรือ ‘เจ้าชายน้ำแข็ง’ ก็สุดแล้วแต่จะนิยาม

หนุ่มใหญ่ผู้ขังตัวเองอยู่ในโลกมืดมิด เขาลึกลับและเย็นชา

หากแต่มีสายตาเป็นอาวุธเอาไว้เฝ้ามองและจ้องจะงาบ

อย่าเผลอเข้าไปใกล้เชียวนะ โปรดระวังหัวใจคุณไว้ให้ดี

วัสสาน แก้วมณี (เรน)

หนุ่มน้อยผู้ที่มีใบหน้าสวยหวานเหมือนรักแรก

โชคชะตานำพาให้เขาได้เข้ามาอยู่ในโลกของเหมันต์

ผู้ชายในฝันที่วัสสานไม่คิดว่าจะได้เจอ

แต่กลับต้องมาอยู่ร่วมบ้าน มานอนร่วมห้อง

แถมเขายังต้องฝันเหมือนเดิมแบบนั้นทุกคืน

ฝันจัญไร! ที่พาให้หัวใจผูกพัน

นี่มันเป็นลิขิตจากฟ้าหรือว่ามีใครจงใจขีดเขียนขึ้นมากันแน่?

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1
พ.ศ. 2544 ณ บ้านดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี “กรมศิลปากรได้มาทำการสำรวจที่นี่เมื่อปี พ.ศ. 2525 พบโครงกระดูกในบริเวณนี้หลายร้อยโครง ตลอดจนดาบโบราณ กรามช้าง และเครื่องม้าอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงซากเจดีย์สมัยกรุงศรีอยุธยาด้วย จึงเชื่อว่าบริเวณนี้เคยเป็นสนามรบในการทำยุทธหัตถีในสมัยกรุงศรีอยุธยา” หยาดพิรุณกำลังฟังอาจารย์เล่าถึงเรื่องราวการค้นพบเศษซากประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยาอย่างตั้งใจ แต่ก็จำต้องตัดใจค่อย ๆ ก้าวเท้าออกมาให้ห่างจากบริเวณนั้นเพราะแรงสั่นสะเทือนจากเพจเจอร์ที่เธอเสียบไว้กับขอบกระโปรงนักศึกษาทรงเอ ‘โทรกลับเหมด้วย’ หยาดพิรุณอ่านข้อความที่ห้าของวันนี้ที่เหมันต์เพียรส่งมันมาตั้งแต่ช่วงสาย น่าจะตั้งแต่รู้ว่าเธอหนีมาออกภาคสนามกับรุ่นพี่ที่คณะโบราณคดีโดยที่ไม่อยู่ช่วยจัดงานวันเกิดของเขา แต่หากจะพูดให้ถูกมันคืองานวันเกิดของทั้งเขาและเธอนั่นแหละ เธอและเหมันต์ลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ในวันเดียวกัน ในวันฝนพรำที่คุณแม่พุดซ้อนของเหมันต์เจ็บท้องจะคลอดเขาออกมา แต่กลับพบว่ามีเด็กทารกแรกเกิดถูกวางทิ้งไว้ที่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านของตัวเอง เพราะเธอและสามีจะรีบไปโรงพยาบาลจึงต้องหอบหิ้วทารกตัวน้อยไปด้วย และหลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเหมันต์ก็ลืมตาขึ้นมาดูโลก ด้วยความสงสาร พุดซ้อนและสามีจึงเลี้ยงดูเธอคู่กับเหมันต์มาตั้งแต่วันนั้น หยาดพิรุณได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อและแม่บุญธรรมรวมทั้งความรักจากเหมันต์ในรูปแบบที่เปลี่ยนไป หลังจากเขาจบจากโรงเรียนประจำที่ถูกส่งไปดัดนิสัยที่นั่นตลอดสามปีในช่วงชีวิตมัธยมปลาย กว่าสองปีที่ได้ศึกษาดูใจในฐานะคนรัก มันคือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต เหมันต์ดูแลเธอเป็นอย่างดี เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งพี่ชายในคนเดียวกัน และในอีกสองปีข้างหน้าหลังจากที่จบการศึกษา ทั้งสองก็ได้วางแผนที่จะแต่งงานกัน แต่ทว่าเส้นทางความรักที่โรยด้วยกลีบกุหลาบมักมีอุปสรรคเสมอ และทุกอย่างมันมาจากตัวเธอเอง หยาดพิรุณมีความสนใจในประวัติศาสตร์ ภาพวาด โบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่ซึ่งเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงระหว่างตัวเธอกับเรื่องราวเหล่านั้น เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน รู้สึกมีความสุขในทุก ๆ ครั้งที่ได้ค้นหามัน เมื่อมีโอกาสเธอจึงรีบคว้าเอาไว้ โดยทิ้งเหมันต์ไว้ข้างหลังอยู่เสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน “ไม่ไปสักครั้งไม่ได้หรือไง พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเรานะ และคุณแม่ก็เตรียมงานเอาไว้แล้วด้วย” เหมันต์โวยวายทันทีที่เธอบอกว่าในวันรุ่งขึ้นต้องออกสนามกับพี่ ๆ และอาจารย์ที่คณะ “ฝนสัญญาว่าจะกลับมาให้ทัน เหมไม่ต้องเป็นห่วงนะ” เธอรับปากคนรักเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ดูเหมือนเหมันต์จะรู้ทัน “ไปต่างจังหวัดจะกลับมาทันได้ยังไง เหมไม่ให้ไปนะ” หยาดพิรุณเม้มริมฝีปากไว้แน่น อาการดื้อเงียบภายใต้บุคลิกเรียบร้อยอ่อนหวานถูกแสดงออกมาทางสายตาเท่านั้น “ค่ะ” ปากตอบรับแต่ดวงตาสีดำกลับฉายแววมุ่งมั่น และวันถัดมาเธอก็มาปรากฎกายอยู่อีกจังหวัดจนได้ หญิงสาวกวาดสายตามองหาตู้โทรศัพท์สาธารณะ แต่ในตำบลเล็ก ๆ แบบนี้คงหาไม่ได้ง่ายนัก “มีอยู่ตู้หนึ่งตรงสามแยกโน่นแน่ะหนู” แม่ค้าขายกาแฟโบราณที่อยู่ในโบราณสถานชี้บอกทาง หยาดพิรุณมองตามปลายนิ้วของหญิงท้องแก่แล้วก็รู้สึกท้อ แสงแดดยามบ่ายของที่นี่ก็ไม่ปรานีเธอเลย ร้อนจนเหงื่อซึมและรู้สึกคอแห้งไปหมด ทั้ง ๆ ที่ช่วงนี้มันเป็นปลายฝนต้นหนาว “ซื้อน้ำแดงถุงหนึ่งค่ะพี่” แม่ค้าท้องแก่ยิ้มให้ก่อนจะใช้กระบวยตักน้ำร้อนในหม้อ แสตนเลสทรงกระบอกใส่แก้วใบใสแล้วเทน้ำแดงเฮลบลูบอยลงไปเกือบครึ่งแก้ว ของเหลวสีแดงทิ้งตัวลงที่ก้นก่อนจะถูกคนด้วยช้อนชาสีเงิน เสียงช้อนกระทบแก้วดังเป็นจังหวะ เมื่อของเหลวทั้งแก้วเป็นสีแดงใสเสมอกัน มันก็ถูกเทลงไปในถุงน้ำแข็งป่นก้อนเล็กๆ แม่ค้ามัดมุมถุงด้วยหนังยางสีเดียวกับน้ำ ก่อนจะยื่นมันมาให้เธอพร้อมกับรอยยิ้ม “ห้าบาทจ้ะหนู” หยาดพิรุณตื่นจากภวังค์หลังจากมองเพลิน ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกตัว มือเรียวรีบควานหาเหรียญในกระเป๋าสะพายที่ถักจากปอเทือง สายตามองช่วงท้องนูน ๆ ของแม่ค้า พลางริมฝีปากอิ่มก็เริ่มเอื้อนเอ่ยอย่างชวนคุย “ท้องกี่เดือนแล้วคะ” “แปดเดือนกว่าแล้วจ้ะ” แม่ค้าคนสวยตอบอย่างอารมณ์ดี มือหนึ่งยกขึ้นลูบท้องของตัวเอง “ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ” หยาดพิรุณส่งเหรียญให้อีกฝ่าย สายตายังไม่ละจากหน้าท้องนูน “ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ รอลุ้นเอา” หญิงสาวสองคนส่งยิ้มให้กันอย่างมีไมตรี อีกฝ่ายรับเหรียญไป อีกฝ่ายรับน้ำมาก่อนจะกล่าวลากัน “ขอให้น้องแข็งแรงนะคะ” หยาดพิรุณเลื่อนหลอดมาจ่อที่ปากแล้วดูดน้ำแดงอย่างกระหาย พร้อมกับหันหลังให้แล้วรีบออกเดินไปตามทางที่แม่ค้าบอกว่ามันมีตู้โทรศัพท์สาธารณะตั้งอยู่ ส่วนแม่ค้าท้องแก่ก็ส่งยิ้มให้แล้วมองตามแผ่นหลังของนักศึกษาสาวคนสวยอย่างชื่นชม ฝ่ามือบางลูบลงบนหน้าท้องของตัวเองอย่างทะนุถนอม “ขอให้หนูเกิดมาหน้าตาน่ารักเหมือนพี่เขานะลูก แม่จะส่งหนูเรียนสูง ๆ ให้ได้ใส่ชุดนักศึกษาสวย ๆ เหมือนพี่เขานะคะ” สิ้นประโยคแม่ค้าสาวก็นิ่วหน้า มือบางคว้าเก้าอี้ไม้เก่า ๆ เข้ามารองไว้ใต้สะโพก ก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงด้วยท่าทางเจ็บปวด กว่าจะพบตู้โทรศัพท์สาธารณะตามที่แม่ค้าชี้บอกก็เล่นเอาเหงื่อโชก เสื้อนักศึกษาสีขาวบัดนี้เปียกปอนไปกว่าครึ่ง หยาดพิรุณใช้หลังมือปาดเหงื่อก่อนจะดึงประตูออกมาแล้วพาตัวเองเข้าไปยืนในตู้กระจกทรงสี่เหลี่ยม หญิงสาวพ่นลมออกมาเมื่อพบว่าในกระเป๋าสะพานเหลือเหรียญบาทอยู่เพียงสองเหรียญเท่านั้นเพราะเธอใช้มันซื้อน้ำเพื่อดับกระหายไปก่อนหน้า ปลายนิ้วเรียวกดตัวเลขบนแป้น ไม่นานเสียงหวานที่คุ้นเคยจากปลายสายก็ดังขึ้น “สวัสดีค่ะ บ้านวรภัทรค่ะ” “คุณแม่ ฝนเองนะคะ” “อ้าว ยายฝน อยู่ที่ไหนแล้วล่ะลูก ตาเหมบ่นหาหนูตั้งแต่เช้าแล้วนะ” “ฝนขอโทษนะคะคุณแม่ที่ทำให้วุ่นวาย ฝากบอกเหมด้วยนะคะว่าฝนจะกลับไป…” ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็ถูกขัดด้วยเสียงดังตู๊ดถี่ ๆ เป็นสัญญาณว่าสายได้ถูกตัดไปเสียแล้ว “ให้ทันค่ะ” หญิงสาวพูดต่อจนจบประโยค สายตาเศร้าจ้องมองกระบอกสีฟ้าอย่างเคือง ๆ ก่อนจะวางมันลงไว้ที่เดิม เพราะตอนนี้มันเป็นแค่โลหะชิ้นหนึ่งที่ไม่สามารถใช้สื่อสารกับคนปลายสายได้อีกต่อไป หยาดพิรุณเดินคอตกกลับมาในโบราณสถาน ในจังหวะเดียวกับที่ชาวคณะกำลังเคลื่อนขบวนไปที่รถตู้ “หายไปไหนมาน่ะฝน เรากำลังจะกลับกันแล้ว” นารีเพื่อนสาวเพียงคนเดียวที่หยาดพิรุณลากมาเป็นเพื่อนกล่าวอย่างตำหนิ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยกถุงน้ำแดงชูขึ้นมาตรงหน้าก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ นักศึกษาแปดชีวิตพร้อมกับอาจารย์ประจำภาควิชาพากันเดินขึ้นรถตู้ที่มาจอดเทียบเพื่อเดินทางออกจากโบราณสถาน หยาดพิรุณที่ขึ้นรถเป็นคนสุดท้ายค่อย ๆ ดึงประตูปิดแล้วเอนหลังพิงเบาะรถ ใบหน้าสวยผินมองออกไปนอกกระจก รถตู้กำลังเคลื่อนผ่านไร่อ้อยสีเขียวอมเหลืองเหี่ยวแห้งเพราะความแห้งแล้ง แสงแดดแรงจากภายนอกทำให้หยาดพิรุณต้องหรี่ตา มือเรียวกำลังดึงผ้าม่านเพื่อปิดกันแดด แต่สายตากลับปะทะเข้ากับบางอย่าง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อสมองประมวลผลได้ว่าคืออะไร “แม่ค้าขายน้ำคนนั้นนี่ พี่หยุด ๆ ๆ” เธอตะโกนลั่นจนคนขับรถตู้ต้องรีบเหยียบเบรคกะทันหัน หยาดพิรุณกระชากประตูเปิดออกกว้างทั้ง ๆ ที่ล้อรถยังจอดไม่สนิท ร่างบางที่ใหญ่เฉพาะช่วงท้องกำลังทรุดอยู่ข้างป่าอ้อยพร้อมกับกระเป๋าผ้าใบใหญ่ สีหน้าของเธอแสดงความเจ็บปวดและทรมาน “พี่ พี่เป็นอะไรคะ” หยาดพิรุณพุ่งตัวเข้าไปประคองเจ้าของร่างที่กำลังนั่งร้องโอดโอยอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้าร้อนระอุ “พี่เจ็บท้องจะคลอด พี่ต้องรีบไปโรงพยาบาล” “ฮะ!!!” เสียงประสานจากนักศึกษาทั้งรถที่วิ่งกรูกันตามลงมาทำให้หยาดพิรุณได้สติรีบหันขวับมาสั่งอย่างไม่สนว่าใครเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง “ยืนงงอะไรอยู่ล่ะคะ รีบเข้ามาช่วยเร็ว เราต้องรีบพาพี่เขาไปโรงพยาบาล” “ทำใจดี ๆ ไว้นะคะ” หยาดพิรุณบีบมือซีดของสาวท้องแก่ไว้อย่างให้กำลังใจ คุณแม่เข้มแข็งและสู้มากจนเธอนับถือ ใจคอจะเดินไปคลอดที่โรงพยาบาลคนเดียวหรือยังไง แล้วสามีของเธอหายไปไหน หญิงสาวไม่กล้าถามและไม่เสียเวลาคิดนาน เมื่อพาคนท้องขึ้นมาบนรถได้ก็ออกปากเร่งคนขับ “ไปเร็ว ๆ เลยค่ะพี่” สีหน้าเจ็บปวดของคนใกล้คลอดบ่งบอกว่าเธออดทนจนใกล้ถึงขีดสุด น้ำใส ๆ เริ่มไหลลงตามปลีน่อง พร้อม ๆ กับน้ำตาที่กำลังหยดริน หยาดพิรุณรู้สึกว่าลำคอตีบตันจนคำปลอบโยนไม่สามารถหลุดรอดออกมาได้ มีเพียงฝ่ามือเรียวที่พยายามบีบนวดส่งกำลังใจให้และปลอบโยน เส้นทางแคบ ๆ จากไร่อ้อยสู่ถนนชนบทไม่มีรถสวนมามากนักจึงทำให้คนขับเร่งความเร็วได้ แต่นั่นก็ยังไม่เป็นที่พอใจ นักศึกษาสาวจึงร้องขอเสียงสั่น “เร็วกว่านี้ได้ไหมพี่ พี่เขาจะไม่ไหวแล้ว” แรงบีบที่มือของเธอบ่งบอกว่าคนข้าง ๆ กำลังเจ็บปวดเพียงใด เธอรู้ว่ามันมากกว่าความเจ็บที่มือของเธอตอนนี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า คนขับเหลือบมองกระจกมองหลังด้วยแววตากังวล ฝ่าเท้ากดลงบนคันเร่งลึกลงไปอีก รถตู้สีขาวจึงทะยานอยู่บนถนนเส้นเล็กด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ในนาทีชีวิตแบบนี้ใครจะสนกัน ทว่าหากรถตู้พุ่งตัวเร็วกว่านี้อีกสักนิดก็คงจะพ้นสี่แยกข้างหน้าไปเร็วกว่านี้อีกสักวินาที แต่เพราะรถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของมหาวิทยาลัยของรัฐทำความเร็วได้จำกัดมันจึงไปได้แค่นั้นจริง ๆ ยังไม่ทันจะพ้นสี่แยกตรงโค้งอันตราย ก็ปรากฎรถบรรทุกคันใหญ่ที่บรรทุกลำอ้อยมาเต็มคัน มันพุ่งทะยานชนท้ายรถตู้เพียงแค่คืบเดียว แต่ความเร็วและแรงทำให้รถตู้สีขาวหมุนคว้างทะยานขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะกระแทกลงบนป่าอ้อยที่เหลือแต่ตอ “กรี๊ด!” โครม!...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.8K
bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.7K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook