ผ่านไปไม่นานเสื้อผ้าของหล่อนก็ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวผลจากฝีมือของเขา พายุลุกขึ้นนั่งพร้อมปลดกระดุมเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องเป็นชั้นๆ ผิวกายของเขาขาวนวลสมกับเป็นลูกคนมีชาติตระกูล พร้อมซุกไซร้ตามซอกคอระหง
"อึก ฮื่อ!"เสียงสะอื้นของคนใต้ร่างที่เธออดกลั้นน้ำตาไม่ได้อีกแล้วถึงรู้ว่าเขาจะไม่ชอบที่เธอร้องไห้ แววตาของชายหนุ่มร่างกำยำพะงกหัวขึ้นมาก่อนจะมองใบหน้าหญิงสาวอย่างไม่พอใจ ทำไมเธอต้องเสียใจมากมายขนาดนี้
"เสียใจมากขนาดนั้นเลยหรอตะวันที่ได้ฉันเป็นผัว"เขาตะคอกใส่หญิงสาวอย่างไม่พอใจ
สองมือบางเรียวกำเข้าหากันแน่นเธอไม่พูดอะไรออกมาอีกเพราะกลัวว่ามันจะแย่ไปกว่านี้
"โถ่เว้ย!" พายุภัคกัดฟันแน่นก่อนจะลุกออกจากร่างของเธอ พอเห็นท่าที่ของตะวันฉายเขาก็อารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ชายหนุ่มตรงไปหน้าต่างก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมา หญิงสาวพอรู้ว่าปลอดภัยแล้วเธอพยายามยันกายลุกขึ้นนั่งก่อนจะจับชุดเสื้อผ้ามาสวมใส่เหมือนเดิมอย่างช้าๆ เธอรู้ว่ากำลังทำให้เขาไม่พอใจทุกครั้งที่ชายหนุ่มสูบบุหรี่คือเขากำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่ เสียงถอนหายใจดังออกมาอย่างเห็นได้ชัด มือหนากำเข้าหากันแน่นยิ่งตะวันฉายที่มีท่าทีรังเกียจเขามากเท่าไหร่ใจของเขาก็ยิ่งเจ็บปวดและไม่พอใจมากเท่านั้น
ไม่นานนักรถหรูก็ขับกลับเข้ามา ตลอดทางต่างคนต่างไม่พูดไม่จา เขาจอดให้ตะวันฉายลงที่หน้าหมู่บ้านส่วนเขาย้อนกลับไปที่ทำงาน ทันทีที่ลงจากรถน้ำตาใสๆของหญิงสาวก็ไหลออกมาเธอยังจำคำพูดของเขาได้ดี
'อย่าทำตีหน้าเศร้าเธอคิดหรอว่าผู้หญิงอย่างเธอจะมีค่าให้ฉันสงสาร ฉันแค่ต้องการและเธอก็ต้องสนอง อย่าสำคัญตัวเองว่าพอพ่อกับแม่รักเธอเชิดหน้าชูตาเธอแล้วจะมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของฉัน มันไม่มีวันนั้นแน่ตะวันฉาย!'
คำพูดของเขาทำให้เธอเจ็บปวด เธอดูไร้ค่าขนาดนั้นเชียวหรือ หญิงสาวสีหน้าไม่สู้ดีนักเธอถอนหายใจหยุดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่พร้อมมองไปข้างนั้นบ้าน ที่ๆเหมือนกรงคอยขังเธอไว้มีชีวิตสุขสบายแต่ไร้อิสระเธอไม่มีความสุขเลยสักนิด
"เอ้าหนูตะวันลูกทำไมวันนี้กลับมาเร็ว แล้วนี้นั่งรถมาเองหรอ?"
"ค่ะคุณแม่ พอดีส่งงานเสร็จอาจารย์ก็ปล่อย"เธอจำต้องโกหกออกไป มีหวังถ้าคุณแม่รู้เธอต้องโดนบ่นแน่ๆว่าวันนี้ไม่ได้ไปเรียน
"ทีหลังโทรให้คนขับรถที่บ้านไปรับสิมาเองได้ไง คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ยิ่งวาที่ลูกสะใภ้แม่ทั้งสวยทั้งน่ารักอย่างนี้โดนคนเลวรังแกจะทำยังไง"
"ไม่เป็นไรหรอกคะ คนดีก็มีเยอะไปนะคะคุณแม่อีกอย่างตะวันเห็นว่ามันยังกลางวันอยู่คงไม่มีอันตราย ตะวันขอตัวไปบนห้องก่อนนะคะ"
"ได้สิจ้ะ แม่จะออกไปทำธุระพอดีหนูพักผ่อนเถอะ" เธอยิ้มให้หญิงชราทันทีที่เดินขึ้นห้องไปสีหน้าอมทุกข์ก็เผยให้เห็น เธอยิ่งหนักใจเมื่อคนอื่นในบ้านดีกับเธอขนาดนี้
ณ บริษัท
ท่านมานพมองดูลูกชายอย่างพายุภัคที่เข้ามาในบริษัทก่อนจะสั่งให้เลขาตามชายหนุ่มมาพบ สีหน้าเรียบนิ่งของพายุเดินเข้ามาในห้องท่านประธานอย่างบิดาก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตัวหรูตรงหน้า
"พ่อให้คนไปตามผมมีอะไรรึเปล่าครับ" เขาถามออกไปอย่างตรงๆ ชายชรานอนคิดวิตกมั้งคืนเมื่อตัวเขาเองก็พอเดาเรื่องลูกชายกับตะวันฉายได้ ยิ่งคุณหญิงรุจีเร่งอยากให้จัดการแต่งงานของทั้งสองคนขึ้น
"เรื่องลูกกับหนูตะวัน!" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาสบตาบิดาก่อนจะเบี่ยงหน้าหนี
"เรื่องผมกับเธอ ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกันนิครับ!"
"พายุ ลูกก็รู้ว่าแม่เขาอยากจะให้ลูกแต่งงานกับหนูตะวัน ถ้าไม่รักไม่ชอบลูกจะไปยุ่งกับน้องทำไมอย่าคิดว่าพ่อไม่รู้นะเรื่องลูกกับน้อง!"
"หึ ยัยนั้นคงขี่ม้าสามศอกไปฟ้องคุณพ่อสินะครับ ไงละเรียกเงินเท่าไหร่"
ตุบ! เสียงตบโต๊ะดังลั่นอันที่จริงเขาเองก็เป็นเคยเห็นบิดาจริงจังแบบนี้
"นี่ไม่ใช่เรื่องตลก สรุปลูกจะต้องแต่งงานกับหนูตะวันรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำไหม!"
"พ่อกับแม่เองไม่ไปถามยัยเด็กนั่นดูบ้างละครับ ว่าเธอสมยอมผมเองรึเปล่าอีกอย่างคุณแม่ก็บอกเองว่าเธอเป็นของผม ผมจะแต่งหรือไม่แต่งคุณพ่ออย่าเดือดร้อนเลย!"
"นี่พ่อไม่คิดเลยนะว่าลูกจะใจร้ายขนาดนี้ ตกลงลูกจะไม่ยอมแต่งงานใช่ไหมพายุ!" ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องทำงานบิดาโดยที่เจ้าตัวยังไม่ตอบอะไรเขาสักคำ แต่งงานอย่างนั้นหรอ? สำหรับพายุเขาไม่เคยคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำรวมถึงเเต่งกับตะวันฉายเขาไม่ยอมเด็ดขาด
Rrrrr เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่อย่างเหนื่อยล้าสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาพร้อมมือกดรับสายอย่างงัวเงีย หลังจากที่พายุภัคระเบิดลงทำลายข้าวของเธอ วันต่อมาหญิงสาวก็เอามือถือไปซ่อมทันที
"ตะวัน นี่พี่เตนะครับ"ทันทีที่ได้ยินเสียงแววตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นมาพร้อมดึงโทรศัพท์มาดูเบอร์ปลายสาย
"ค่ะพี่เต มีอะไรรึเปล่าคะ"เธอพูดถามเขาอันที่จริงเธอไม่อยากติดต่อกับเขาอีกเพราะกลัวพายุภัคมาต่อว่าหล่อน แต่ในตอนนี้เธอไม่สนใจแล้วว่าเขาจะต่อว่าเธอยังไง เธอจะไม่อ่อนข้อให้กับเขาอีก
"คือพรุ่งนี้วันเกิดพี่ พี่จะเอาของไปบริจาคให้บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าพี่เลยอยากชวนน้องตะวันไปด้วย"ทันทีที่ได้ยินเธอก็ยิ้มดีใจขึ้น เธอคิดถึงคุณแม่ใหญ่ที่เคยเลี้ยงดูเธอมา
"ไปค่ะ ตะวันไป"หญิงสาวรีบตอบตกลงเพราะตั้งแต่ถูกอุปการะเธอก็ไม่ค่อยได้กลับไปนานๆถึงจะเอาของไปให้น้องๆที่บ้านเติมฝันสิ่งที่เธอเคยจากมา
ตกเย็นของวัน
เป็นช่วงเวลาเดิมที่เธอแสนจะกดดันก่อนที่ทั้งท่านมานพและพายุภัคจะกลับมาหญิงสาวลงมาช่วยแม่บ้านจัดเตรียมของ
"หนูตะวันอย่ามาช่วยป้าเลย ป้าไม่อยากโดนคุณท่านบ่น"
"ป้าอ่อนคะตอนนี้ยังไม่มีใครกลับมา ไม่มีใครรู้หรอกคะใช่ไหมใบตอง"
"จริงจ้ะพี่ตะวัน ป้าอ่ะกลัวมากไปแล้ว"
"แหมใครๆก็รู้ว่าคุณท่านสั่งห้ามไม่ให้หนูตะวันมาทำงานบ้าน ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณพายุรู้มีหวังป้าโดนบ่นตาย!" จู่ๆเสียงรถคันหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดทุกคนต่างรีบออกไปแต่แปลกที่ไม่เห็นรถท่านมานพเห็นแต่รถของพายุภัคคนเดียว แม่บ้านยันคนสวนมายืนรอต้อนรับพร้อมก้มหน้าก้มตา
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ/ครับ"ทุกคนต่างพูดพร้อมกัน
"ว้ายยคนใช้ที่นี้น่ารักดีนะคะคุณพายุ วันนี้เป็น เกียรติจริงๆที่คุณพาแซนดี้มาทานมื้อค่ำด้วย"เสียงสาวสวยปากแดงที่ยืนเกาะแขนของพายุภัคพร้อมทำเสียงออดอ้อนชายหนุ่มอย่างเอาใจ ทุกคนยังคงก้มหน้าไม่พูดไม่จารวมถึงตะวันฉาย หางตาของพายุมองมาที่หล่อนก่อนจะยกมือขึ้นมาโอบเอวบางของแซนดี้นางแบบดาวรุ่งที่เขารู้จักได้ไม่นาน
"เข้าบ้านกันก่อนเถอะครับ อีกสักพักก็ได้เวลาทานอาหารแล้วผมพาไปเดินดูรอบๆบ้านดีไหม"
"ดีค่ะ ตั้งแต่เข้ามาบ้านคุณพายุสวยถูกใจแซนดี้มากจริงๆ สวยจนอยากเข้ามาอยู่มากเลยคะ"หญิงสาวพูดพร้อมมองชายหนุ่มหวานซึ่งเขายิ้มมุมปากก่อนจะพาแซนดี้ไป ป้าอ่อนและใบตองต่างมองมาที่ตะวันฉายแต่เธอกลับไม่แสดงท่าทีใดๆออกมาเลย
"พี่ตะวันคุณท่านทั้งสองจะไม่เข้ามาทานข้าวเย็นด้วยนะคะ ท่านคงกลับดึก"เสียงเด็กน้อยวัย17ปีมารายงานให้หญิงสาวได้ทราบ
"งั้นก็จัดขึ้นโต๊ะเลยได้เวลาแล้ว แค่สองที่นะใบตองพี่ไม่อยากรบกวนคุณพายุกับแขก" ตะวันเห็นว่าวันนี้ป้าอ่อนเจ็บแขนเธอจึงอาสาช่วยจัดโต๊ะให้ แซนดี้เดินมาก่อนจะมองดูหญิงสาวอย่างไม่พอใจที่เห็นคนน่าตาดีอยู่ในบ้านเดียวกับพายุ
"นี่หล่อนไปเอาน้ำส้มมาให้ฉันหน่อย!"เสียงเรียกใช้ของแซนดี้ทำให้หญิงสาวหันไปมองก่อนจะยอมทำตามที่เขาบอกเพราะไม่อยากมีปัณหา พายุออกมาคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอก ตะวันถือแก้วน้ำส้มก่อนจะวางให้แซนดี้ที่เดินชมบ้านอยู่
"ขอบใจ! เธอเป็นคนใช้ที่นี้นานรึยัง"เธอชักถามตะวันต่อ
"นานแล้วคะ"
"ก็คงพอรู้สินะ คุณพายุมีผู้หญิงมาที่นี้บ่อยไหม"
"ไม่ค่ะ"เธอตอบสั้นๆ แซนดี้ยิ้มอย่างพอใจ
"งั้นก็ดี จำไว้นะฉันเป็นเเฟนคุณพายุอีกไม่นานก็คงเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาของเขาถ้าเธอดูแลฉันอย่างดีฉันอาจจะเอ็นดูเธอให้เธอเป็นรับใช้คนสนิท"
"ไม่เป็นไรคะ ดิฉันเป็นคนของคุณมะ เอ่อคุณหญิงรุจีถ้าไม่มีอะไรเเล้วดิฉันขอตัว"เมื่อถูกปฏิเสธสีหน้าแซนดี้ก็แสดงความไม่พอใจออกมา
"นี่แกจะไปไหนฉันยังไม่สั่งให้แกไปนะ!"
เพล้ง!