สองวันต่อมา ณ เมืองสตุสกาส ประเทศเยอรมันนี
“คุณอาฟารีเดินทางมาถึงแล้วครับท่าน ตอนนี้เธอกำลังเดินทางเพื่อเข้าพักที่โรงแรมของเราครับ”
เลขานุการส่วนตัวรายงานถึงการเคลื่อนไหวของนางแบบสาวให้ท่านประธานได้ทราบ แววตาของเทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ แวววาวขึ้นทันทีจนเลขาหนุ่มรู้สึกแปลกใจ แต่มันก็เป็นแค่แป๊บเดียวก่อนที่จะกลับมาเป็นแววตาเรียบสนิทเหมือนอย่างที่เคยเป็น ทำไมมาคัสจะไม่รู้ว่าเจ้านายของเขามีความรู้สึกอย่างไรกับนางแบบสาวเทียร์รีไม่เคยปิดบัง แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังและมาคัสเองก็ไม่ซักถามเพราะถือว่าเป็นเรื่องของเจ้านาย
“อึ่มปล่อยให้เธอพักผ่อนให้พอแล้วบอกเธอด้วยว่า พรุ่งนี้เช้าจะให้คนไปรับมาคุยงานกันที่บริษัท”
เขาสั่งงานก่อนจะก้มหน้าก้มตาเปิดเอกสารบนโต๊ะทำงานตรงหน้า ไม่สนใจเลขาหนุ่มอีกเลยว่าเขาจะมีข้อสงสัยขนาดไหน
“เอ่อ บอสครับ.....”
เลขาหนุ่มสุดแสนจะเกรงใจที่จะถาม แต่ถ้าไม่ถามเขาก็คงไม่หายข้อข้องใจเสียที เทียร์รีถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเอนตัวลงกับพนักพิง จ้องเขม็งไปยังเลขาส่วนตัวของเขานิ่งจนคนถามรู้สึกว่าเย็นวาบไปทั้งตัว
“มีอะไรอีก”
“คือว่า พรุ่งนี้วันหยุดครับบอส”
“แล้วไง”
“ก็....บอสจะให้คุณอาฟารีมาประชุม”
คราวนี้ท่านประธานหนุ่มถึงบางอ้อ เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด แต่จะให้เขาเสียฟอร์มต่อหน้าเลขาหนุ่มก็ใช่ที่ ชายหนุ่มทำหน้าเรียบสนิท
“ทำตามที่ผมสั่ง อ้อ ไม่ต้องสั่งคนไปรับเธอแล้วนะ ผมจะไปรับเอง แล้วพวกคุณก็ไม่ต้องมาทำงาน ผมจะประชุมกับนางแบบสาวเป็นการส่วนตัว”
คำพูดท้ายประโยคสร้างความสงสัยให้กับเลขาหนุ่มมากขึ้น แต่คราวนี้เขากลับไม่กล้าที่จะถามออกมา เขาจึงเลี่ยงออกมาจากห้องของท่านประธานช้าๆ แต่แล้วเลขาหนุ่มอย่างเขาก็ต้องหยุดซะงักอยู่กับที่ เมื่อเปิดประตูออกมาแล้วเขาพบว่ามีหญิงสาวสวยไร้ที่ติ ยืนส่งยิ้มหวานมาให้
“อาฟารีค่ะ มาพบคุณเทียร์รี”
เลขาหนุ่มตกตะลึงอ้าปากค้าง เมื่อหญิงสาวนามอาฟารีก้มหัวเป็นเชิงทักทายก่อนจะเดินผ่านเขาเข้าไปในห้องท่านประธาน มาคัสจึงรีบปิดประตูแถมล็อกให้เรียบร้อยก่อนจะกลับมานั่งยังโต๊ะทำงานหน้าห้อง
“สมแล้วที่บอสเลือกมาเป็นพรีเซนเตอร์ ช่างสวยสง่าดูเป็นสปอร์ตเกิร์ลมากๆ ”
เลขาหนุ่มเอ่ยขึ้นมาด้วยความชื่นชม ใช่ว่าเขาจะไม่เคยพบเจอสาวสวยมาก่อน แต่เขาว่าอาฟารีไม่เหมือนคนอื่น เธอเป็นผู้หญิงที่สวยสง่า แต่สิ่งที่เธอแตกต่างจากคนอื่นก็คือ ความมีมนุษย์สัมพันธ์ เธอยิ้มง่าย มีความเป็นกันเองที่สำคัญเธอเป็นคนที่มีมารยาทมากทีเดียวมาคัสคิดไปยิ้มไป
“อะไรอีกมาคัส”
ท่านประธานหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาในห้อง และคิดว่าเป็นเลขาหนุ่มของเขาที่เข้ามาแต่พอเงยหน้าขึ้นมากสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้ากลับทำให้เขาชะงัก ภาพของหญิงสาวผิวขาวอมชมพูรูปร่างสูงโปร่งอุดมไปด้วยความสมบูรณ์ของผู้หญิงทุกคนพึงมี อาฟารีอยู่ในชุดเดินทางหนังสีดำสนิท ทำให้ผิวขาวๆ ของเธอดูกระจ่างใสขึ้นไปอีก ความรัดแน่นของชุดหนังทำให้เขาได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันแสนจะเซ็กซี่ของเธอได้เต็มตา หัวใจอันด้านชาของเทียร์รีเต้นแรงขึ้นทันที ยายตัวแสบของเขามายืนอยู่ตรงหน้านี้แล้วเขาฝันไปหรือเปล่านะ โดยไม่รู้ตัวขายาวๆ ของเขาก็ตรงเข้าไปหาร่างระหงคว้าเอาคนตรงหน้าเข้ามากอดอย่างแสนคิดถึง
ทางด้านอาฟารีเมื่อเธอเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเขาเธอก็กวาดสายตามองเขาอยู่นาน กว่าที่เขาจะรู้สึกตัวเงยหน้ามามองเธอ สายตาของเขาทำให้เธอไม่กล้าขยับ เขาทำเหมือนจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ อย่างนั้นแหล่ะ และในขณะที่เธอยืนนิ่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น เขาก็ลุกขึ้นเดินตรงเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว มารู้สึกตัวอีกทีเธอก็ตกอยู่ในวงแขนแข็งแรงของเขาเสียแล้ว
“ยินดีต้อนรับอาฟารี”
เทียร์รีพูดออกมาเป็นประโยคแรกแล้วค่อยดันเธอออกจากอ้อมแขน โหนกแก้มทั้งสองข้างของคนพูดแดงก่ำไปจนถึงใบหูด้วยความกระดากอายที่ตัวเองลืมตัววิ่งเข้ามาก่อนอาฟารีราวกับคนรักที่พลัดพรากกันไปไกล แต่ก็จะให้ทำอย่างไรได้ก็เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นี่นา ส่วนอาฟารีก็หน้าตาแดงก่ำด้วยความเขินอายอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน ท่าทางบิดไปมาของเธอแถมแก้มสาวเที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อทำให้ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว โดยไม่ทันได้ตั้งตัวปากของเธอก็ถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากบางเฉียบของเขา หญิงสาวอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ นี่มันอะไรกัน เธอมาหาเขาเพื่อที่จะบอกให้เขาพาไปหานัฐริทธิ์เพื่อนรักของเธอ ไม่ใช่มาให้กอดและก็จูบแบบนี้
ยายตัวแสบแฟรี่ ทำไมช่างดูน่ากอดน่าจูบอย่างนี้นะ แก้มนวลแดงระเรื่อกับท่าทางเขินอายของเธอทำให้เขาอดใจเอาไว้ไม่ไหวจนต้องก้มลงไปสัมผัสเธอ ริมฝีปากที่ทั้งนุ่มทั้งหอมทั้งหวานของคนในอ้อมกอด มันทำให้เขาแทบคลั่งหายใจไม่ออก เทียร์รีเฝ้าดูดซับเอาความหวานจากปากของเธออยู่นานจนเขาพอใจ ก่อนจะถอนริมฝีปากออกแต่เขาก็ยังคงจุมพิตไล้ไปตามใบหน้าและลำคอหอมกรุ่น แล้วกอดเธอเอาไว้อีกครั้งเป็นนาน อาฟารีหัวหมุนแข็งขาอ่อนไปหมดพอได้สติเธอก็โวยวายขึ้นมาทันที
“ปล่อยนะ คนบ้า คนฉวยโอกาส ปล่อย”
หญิงสาวดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน แต่เทียร์รีกลับรัดแน่นเข้าไปอีก อาฟารีโมโหทั้งตัวเองและก็เขาไปพร้อมๆ กัน เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาตาเขียวปัด แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มตาพราวก่อนจะกลับลงจุ๊บเธอที่มุมปากอีกครั้ง
“อ๊าย อีตาผีดิบ ปล่อยนะ”
หญิงสาวแว๊ดเขาเสียงดังลั่น เทียร์รียอมปล่อยเธอแต่โดยดี แล้วถอยไปยืนกอดอกพิงโต๊ะทำงานมองเธออย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นท่าทางของเขาอาฟารีถึงกับควันออกหู หญิงสาวหันซ้ายแลขวาเพื่อหาอุปกรณ์ทำร้ายร่างกายเขา ชายหนุ่มมองท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่านของเธออย่างขำๆ
“หึๆ นี่ยายตัวแสบ ถ้าคิดจะทำร้ายผมละก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากห้องนี้นะ เอ้หรือว่าจะติดใจ.....”
ท่านประธานหนุ่มทำท่าลูบริมฝีปากของเขาเบาๆ เป็นการสื่อความหมายพลางส่งสายตาพราวระยับมาให้เธอ อาฟารีแทบเต้น
“หลงตัวเอง ใครเขาติดใจกัน นี่แนะ”
และแล้วหมอนใบใหญ่ก็มีอันต้องลอยไปปะทะเข้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาจนแทบหน้าหงาย เทียร์รีมองเธอด้วยความไม่ชอบใจแล้วกระโจนเข้าหาเธอทันที แล้วเกมแมวจับหนูก็เกิดขึ้น
“หยุดนะยายตัวแสบ”
“ไม่หยุด แบร่ๆ”
หญิงสาววิ่งไปยังประตูแต่เธอก็ไม่สามารถเปิดได้ หญิงสาววิ่งกลับหลบมือใหญ่ได้อย่างหวุดหวิด เธอวิ่งไปยังโต๊ะทำงานของเขา สอดมือเข้ากดปุ่มเปิดประตูที่เธอจำได้ขึ้นใจว่าซ่อนอยู่ตรงส่วนไหนของโต๊ะ
“ว้าย...อีตาบ้าปล่อยนะ”
หญิงสาวดิ้นโวยวายใส่เขาเมื่อเทียร์รีรวบร่างของเธอเอาไว้ได้
“ไม่ปล่อย เตือนแล้วใช่ไหมว่าอย่าคิดทำร้ายผมแต่คุณก็ไม่ฟัง”
ชายหนุ่มแกล้งหญิงสาวด้วยการรัดเธอแน่นขึ้น
“ไม่ปล่อยใช่ไหม....”
“ไม่ปล่อย”
“เทียร์คะ...”
หญิงสาวกัดฟันแน่นก่อนที่เธอจะแกล้งเขา โดยการยกแขนเรียวคล้องคอเขาพร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนให้กับเขาชายหนุ่มเองก็เผลอสบสายตาอันน่าหลงใหลของเธอเข้าจนเขาตกอยู่ในภวังค์ อาฟารียิ้มก่อนจะกระแทกรองเท้าส้นเข็มแหลมลงบนเท้าของเขาเต็มแรง พร้อมกับออกแรงผลักเขาจนชายหนุ่มหงายหลังล้มลงบนโซฟา หญิงสาวรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที แต่เธอยังหันหน้ามาล้อเลียนเขาให้เขาเจ็บใจเล่นก่อนจะวิ่งปรุ๊ดออกจากห้องไป
“โอ๊ย.........”
“แบร่ๆ สมน้ำหน้าคนลามก”
“ยายตัวแสบ แฟรี่ โอ๊ยเจ็บซะมัดเลย”
ชายหนุ่มรีบถอดรองเท้าและถุงเท้าออกมาเพื่อดูบาดแผล แล้วเขาก็ต้องตกใจอีกครั้งที่เห็นนิ้วเท้านิ้วกลางของเขามีเลือดไหลออกมาซิบๆ ตรงซอกเล็บ
“ยายตัวแสบแฟรี่ทำฉันเจ็บขนาดนี้เลยหรือเนี้ย..ซีส...ยายบ้าคอยดูนะ ฉันจะเอาคืนเธอเป็นสองเท่าเลย.....”
ชายหนุ่มเจ็บทั้งเท้าเจ็บทั้งใจที่เสียรู้ให้กับอาฟารี เขาค่อยๆ เดินกระเผลกๆ ไปที่โต๊ะทำงาน เพื่อกดอินเตอร์คอมเรียกเลขาคู่ใจ เอากล่องพยาบาลมาให้ เพียงไม่ถึงนาที มาคัสก็เดินเร็วๆ เข้ามาหาท่านประธานด้วยสีหน้าท่าทางห่วงใย
“บอสครับเกิดอะไรขึ้นครับ”
สายตาเรียวของเลขาหนุ่มสำรวจตั้งแต่ศีรษะเขาลงมา เทียร์รีโบกมือไปมาแล้วเดินไปแย่งกล่องพยาบาลจากมือมาคัสมาถือไว้เสียเอง
“เอามานี้ฉันทำแผลเองนายออกไปข้างนอกเถอะ”
บอสหนุ่มสั่งพร้อมกับควานหาแอลกอฮอล์เพื่อทำแผล มาคัสมองตามมือของท่านประธานคิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“บอสโดนอะไรมาครับ”
มาคัสถามด้วยความห่วงใย เทียร์รีเงยหน้าขึ้นมองคนถามก่อนจะตอบออกมาอย่างหัวเสีย
“ก็ยายบ้าตัวแสบน่ะสิกระแทกเท้าลงมาได้เจ็บชะมัด”
มาคัสถึงกับอ้าปากค้าง แปลกใจที่บอสของเขาเจ็บขนาดนี้ยังพูดถึงคนทำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนติดจะเอ็นดูเสียด้วยซ้ำ
“ผมว่าบอสไปหาหมอดีกว่าครับ ดูท่าเล็บจะหลุดนะครับเนี่ย เอ้ ว่าแต่คุณอาฟารีเธอโกรธอะไรบอสหรือครับ เธอถึงกล้าทำขนาดนี้”
เลขาหนุ่มเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยจริงๆ ท่านประธานหนุ่มเกือบจะบอกความจริงออกไปเสียแล้วว่าเป็นเพราะเขาไปปล้ำจูบเธอเลยได้เจ็บแบบนี้ แต่เขาเลือกที่จะเงียบ แล้วไล่เลขาหนุ่มออกไปทำงานต่อ
“ช่างเถอะ นายออกไปทำงานได้แล้ว ขอบใจสำหรับยานี่”
พูดเสร็จเขาก็ก้มหน้าก้มตาทำแผลตัวเองต่อ แต่เมื่อพิจารณาแผลตรงหน้าแล้ว เห็นทีเขาต้องไปหาหมออย่างที่เลขาหนุ่มแนะนำเสียแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินช้าๆ ไปหยิบเสื้อสูทพร้อมกับโทรเรียกคนขับรถให้มารับหน้าบริษัท เหล่าบรรดาพนักงานของสปอร์ตอัฟ ทุกคนต่างก็มองมายังท่านประธานของพวกเขาด้วยความแปลกใจก่อนจะพากันกลั้นหัวเราะกับลุกส์ใหม่ของท่านประธาน
เทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ สวมเสื้อสูทผูกไทด์ดูหล่อเหลาแต่กางเกงนี่สิ กางเกงสแลคขายาวสีเทาข้างหนึ่งถูกพับขึ้นมาถึงหัวเข่า อีกข้างปล่อยเอาไว้เหมือนเดิมส่วนถุงเท้าก็ใส่แค่ข้างเดียว มือที่ว่างก็ถือรองเท้าคู่ใหญ่เอาไว้ มันเป็นภาพที่ดูไม่จืดเลยก็ว่าได้ พนักงานบางคนถึงกับหลุดขำออกมา เมื่อท่านประธานเดินกะเผลกๆ ไปยังหน้าบริษัท ในขณะที่ใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตรของเขาแดงก่ำจนถึงใบหู
“แฟรี่นะแฟรี่ ทำฉันอายไปทั้งกาสเตอร์เลยนะ ฝากไว้ก่อนเถอะ”
โรงแรมกาสเตอร์
อาฟารีกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ หลังจากที่เธอเดินเข้ามาในห้องพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวยกมือขึ้นถูแรงๆ ไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอจนรู้สึกเจ็บ เธออยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ให้สมกับความอัดอั้นตันใจ เร็วเท่าความคิดเสียงกรี๊ดดังลั่นของนางแบบสาวคนสวยก็ดังขึ้นติดๆ กันสองสามครั้งและกำลังจะมีครั้งที่สี่ แต่ทว่า
“กรี๊ดๆๆ”
ปั่งๆ “มิสครับมิส เป็นอะไรไปหรือเปล่ามิส..” ปั่ง
เสียงเคาะประตูรัวเร็ว พร้อมกับเสียงตะโกนของพนักงานโรงแรมดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อาฟารีกระโจนมาเปิดประตูแทบไม่ทัน หญิงสาวแทบล้มทั้งยืนเพียงแค่เธอเปิดประตูเท่านั้นแหล่ะ รปภ พนักงานของโรงแรมต่างก็กรูเข้าไปในห้องของเธอทันทีเพื่อตรวจสอบหาคนร้ายที่มาของเสียงกรี๊ดของนางแบบสาว
“หยุดๆ พวกคุณหยุดก่อน เฮ้...”
หญิงสาวร้องเรียกเหล่าบรรดาพนักงานที่กำลังวิ่งวุ่นเข้าออกในห้องพักของเธอ
“ไม่ต้องตกใจนะครับคุณผู้หญิง คนร้ายไม่รอดแน่นอน พวกเราต้องขอโทษจริงๆ ครับที่ดูแลความปลอดภัยไม่ทั่วถึงขอโทษจริงๆ ครับที่ทำให้คุณตกใจ”
พนักงานชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดปลอบใจเธอและกล่าวขอโทษด้วยท่าทางที่นอบน้อม หญิงสาวเห็นว่าพูดอะไรไปก็คงจะไม่ดีก็เลยเงียบเสีย ปล่อยให้พนักงานของโรงแรมสำรวจห้องจนพอใจ
“สงสัยเป็นแฟนคลับที่คลั่งดารา ตอนนี้พวกเราจัดการเปลี่ยนที่พักของคุณแล้วนะครับ เชิญตามพนักงานของเราไปเลยครับ”
คราวนี้อาฟารีถึงกับอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว เธอไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้ หญิงสาวได้แต่เดินตามพนักงานของโรงแรมต้อยๆ ความจริงเธอก็อดที่จะชื่นชมการบริการของโรงแรม กาสเตอร์ มากทีเดียว ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้า คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรก และสามารถจัดการทุกอย่างได้รวดเร็วไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำ
“เอ่อ คุณจะให้ฉันไปพักที่ไหนค่ะ เอ่อคือว่าความจริงแล้วฉันอยู่ห้องเดิมก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวบอกกับพนักงานของโรงแรมเบาๆ พนักงานได้แต่ยิ้มให้เธออย่างสุภาพก่อนจะตอบเธออย่างสุภาพ
“ไม่ได้ครับ คนร้ายอาจจะกลับมาอีกทุกเมื่อ เพื่อความปลอดภัยของคุณกรุณาทำตามด้วยนะครับ”
หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี
“เอาไงเอากัน ฉันไม่มีสิทธิ์ต่อรองอยู่แล้วนี่”
หญิงสาวสะบัดเสียงเข้าใส่ แต่พนักงานคนเดิมก็ยังคงยิ้มแล้วยิ้มเล่า ก้มศีรษะให้เธอก่อนจะเดินนำเธอไปยังรถคาดิแลกคันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าโรงแรม หญิงสาวเดินขึ้นไปนั่งบนรถพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะหลับตาลง ไม่ทันได้สังเกตว่าข้างๆ ของเธอมีใครคนหนึ่งกำลังนั่งจ้องหน้าคอมพิวเตอร์หน้าตาเคร่งเครียด ก่อนจะหันหน้ามามองนางแบบสาวที่พอเข้ามานั่งก็เอนตัวพิงเบาะหลับตาลงทันทีอย่างเหนื่อยอ่อน ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยใสของเธอด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะโกรธเธอที่ทำให้โรงแรมของเขาวุ่นวายไปหมดหรือจะขำดี
“เฮ้อ...”
ยายตัวแสบคงเก็บกดความโกรธที่เขาปล้ำจูบเอามากๆ เลยทีเดียว ถึงกับเข้าห้องไปใช้มือเช็ดปากตัวเองแล้วร้องกรี๊ดๆ จนเขาแตกตื่นไปทั้งโรงแรม
เทียร์รี่ กาสเตอร์ บีทไรท์ ได้รับแจ้งข่าวว่ามีเสียงกรี๊ดของนางแบบสาวดังออกมาจากห้องพัก เขาเป็นห่วงแทบแย่ แต่พอได้เห็นภาพในกล้องวงจรปิด แล้วเขาก็แทบจะพูดอะไรไม่ออก แต่สิ่งเดียวในขณะนั้นที่เขาคิดได้ก็คือการฉวยโอกาสย้ายอาฟารีให้มาอยู่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล เป็นที่ที่เธอคุ้นเคยอยู่แล้วนั้นเอง
“ไง ยายตัวแสบสนุกใช่ไหมที่ทำให้คนอื่นเขาวุ่นวายน่ะ”
น้ำเสียงอันคุ้นเคยดังอยู่ข้างๆ หู อาฟารีลืมตาแทบจะทันที แล้วเธอก็เบิกตาโต ชี้หน้าเขามือสั่นระริก
“นาย...นาย...”
“อึ่ม.....”
เขาเลิกคิ้วอย่างกวนประสาททำเอาอาฟารีถึงกับโกรธหน้าตาแดงก่ำ
“ลงไปเดี๋ยวนี้นะ” เธอสั่ง
“หึๆ สั่งผิดคนซะแล้วนี่รถใครคุณรู้หรือเปล่าแฟรี่”
น้ำเสียงกวนๆ ของเขายังป่วนไม่เลิกมือเข้าไปในกระเป๋าถือใบเล็กหยิบที่ช็อตไฟฟ้าขึ้นมาขู่เขาทันทีด้วยท่าทางที่เอาจริงจนเทียร์รีถึงกับหน้าเหวอไปเลยทีเดียว
“จอดรถ”
“ทำอะไรน่ะแฟรี่”
“บอกให้จอดไง”
เธอยื่นที่ช็อตไฟฟ้าไปใกล้เขาอย่างน่าหวาดเสียว
“โอเคๆ ….”
ชายหนุ่มกดปุ่มสั่งให้คนขับจอดรถ และพอรถจอดสนิท นางแบบสาวก็ก้าวลงจากรถทันทีโดยมีเทียร์รีเดินกะเผลกตามไปติดๆ
“เฮ้.......นี่คุณจะไปไหนน่ะดึกแล้วนะ”
“ฉันเกลียดคุณ.....อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันจะหาที่พักเอง อ้อไม่ต้องกลัวว่าฉันจะไม่ทำตามสัญญา ฉันทำแน่ ขออย่างเดียว คุณกรุณาอยู่ห่างๆ ฉัน”
หญิงสาวพูดออกไปแล้วก็รู้สึกผิดนิดๆ เมื่อเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเจื่อนแทบจะทันที ยิ่งสายตาของเขาที่มองมายังเธอมันมีทั้งความน้อยใจตัดพ้อยังไงก็ไม่รู้
“เอ่อ.....คือ...ฉัน...ฉัน..”
หญิงสาวอึกอัก สะบัดมือตัวเองไปมา เธอได้ยินเสียงเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาก้มลงมองพื้นซักครู่แล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสายตาที่ว่างเปล่าใบหน้าเรียบสนิทจนเธอเองก็รู้สึกใจหาย
“ไม่มีปัญหาผมจะจัดให้ตามที่คุณขอ ส่วนเรื่องที่พักคุณต้องพักที่โรงแรม กาสเตอร์ แล้วอยู่ในความดูแลของคนของผม ถ้าคุณไม่ตกลงพรุ่งนี้เชิญกลับประเทศไทยของคุณไปเลยแล้วไม่ต้องกลับมาอีก”
“นี่คุณไล่ฉันเหรอ คนบ้า” หญิงสาวแว๊ดเขาเสียงดัง
“ก็คุณเกลียดผมอยากอยู่ห่างผมนักไม่ใช่หรือไง”
เขาว่าแล้วเดินกลับไปที่รถก้มลงคุยอะไรบางอย่างกับคนขับรถก่อนจะเดินไปเรียกแท็กซี่ โดยไม่หันกลับมามองเธออีกเลย อาฟารีมองตามหลังของเขาที่เดินกะเผลกขึ้นรถแท็กซี่ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ใจหนึ่งก็ดีใจที่เขาไปเสียได้ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่าเธอทำเกินไป หญิงสาวเดินกลับมาขึ้นรถตามเดิม
“มิสครับจะให้ไปส่งที่พักหรือสนามบินครับ”
คนขับรถถามเธอเบาๆ
“ที่พัก”
เธอตอบสั้นๆ ถ้าหูเธอไม่ฝาดเธอได้ยินเสียงถอนหายใจของคนขับรถดังๆ ราวกับโล่งใจเป็นนักหนา คนของเทียร์รี พาเธอมาส่งยังโรงแรมกาสเตอร์สาขาใหญ่ หญิงสาวถูกพาไปยังชั้นบนสุด และเมื่อเธอเข้าที่พัก หญิงสาวก็ปิดประตูล็อกเรียบร้อย เธอตรงไปล้มตัวลงบนเตียงนุ่มเพียงไม่ถึงห้านาทีเธอก็หลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน เพียงแค่วันแรกเธอก็เจอเรื่องราวมากมายจนไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรขอนอนพักเอาแรงเพื่อสู้ในวันพรุ่งนี้ดีกว่า
“คุณแฟรี่เข้าห้องพักไปแล้วครับบอส”
“ขอบใจยังไงก็ดูแลเธอให้ดีล่ะ”
“รอล่าคอยดูเธออยู่ครับบอสไม่ต้องเป็นห่วง”
ชายหนุ่มยิ้มออกมาที่มุมปาก เมื่อคนของเขารายงานว่าอาฟารีเข้าที่พักที่โรงแรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็มีเมทของเขาคอยดูแลอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่แลัวท่านประธานหนุ่มก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียดขึ้นมาเมื่อนึกถึงคำพูดของเธอที่ว่าเกลียดเขา
“เธอเกลียดฉันจริงๆ เหรอแฟรี่”