มารยาที่ 2

4107 Words
“ผมต้องการไปเกาะสายน้ำ” คำตอบที่ได้จากเทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ ท่านประธานหนุ่มของโรงแรมชื่อดังกาสเตอร์ ทำให้คุณอนันต์คิดหนัก หากเขาต้องพาลูกค้าไปดูเกาะสายน้ำ เขาก็คงต้องคุยรายละเอียดของโครงการเสียก่อน เขาเกรงว่าทางโน้นจะไม่พอใจที่ หัสฎี โฮเทล ไม่ได้มีสวนเกี่ยวข้องในการทำโครงการนี้ และที่สำคัญเขายังคุยกับอาฟารีไม่สำเร็จ “อามานิตย์ ผมขอเอกสารของเกาะสายน้ำด่วนนะครับ” คุณอนันต์กดอินเตอร์คอมไปยังนายมานิตย์ผู้ดูแลโครงการนี้ “รายละเอียดมีการเปลี่ยนแปลง อาคงเห็นแล้ว อาคิดว่าไงครับ” “จะรอให้เขามาดูก่อนดีไหมค่อยว่ากันอีกที ยังไงโครงการนี้ก็เป็นของหัสฎี โฮเทล” นายมานิตย์บอกเสียงเข้ม “ผมไม่อยากมีปัญหากับคุณแม่ อาก็ทราบนี้ครับว่าเพราะอะไร อีกอย่างแฟรี่ก็ยังไม่ตกลงให้ทำโรงแรมที่นั่น” คุณอนันต์พูดก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆ “ทำพินัยกรรมยกหัสฎี โฮเทล ที่เกาะสายน้ำให้เป็นกรรมสิทธิ์ของหนูแฟรี่ซะ อย่างนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” นายมานิตย์แนะนำ เพราะคิดว่าหากยกโรงแรมส่วนบนเกาะสายน้ำให้กับอาฟารีแล้วล่ะก็ ท่านผู้หญิงจิตราภาก็คงไม่มีปัญหาอะไร “เห็นทีจะไม่ได้หรอกค่ะคุณอา” เสียงแหลมๆ ของคุณแม้นดังเข้ามาก่อนที่เธอจะพาร่างอวบอิ่มสวยงามตามวัยสี่สิบเจ็ดเข้ามานั่งข้างๆ กับสามีของเธออย่างถือสิทธิ์ “ตาอ้นนี่เป็นลูกของคุณพี่คนหนึ่งเหมือนกัน น้องไม่ยอมแน่ๆ คุณพี่ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน ไม่ยุติธรรม” คุณแม้นมาศต่อว่าสามีด้วยความไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าทรัพย์สมบัติจะต้องถูกยกให้เป็นของอาฟารีแต่เพียงผู้เดียว แล้วลูกของเธอล่ะ “เกาะสายน้ำเป็นของเทพนรากรณ์ เธอก็รู้” คุณอนันต์อธิบาย “แล้วไงคะคุณพี่จะสร้างโรงแรมบนนั้น เกาะเป็นของเทพนรากรณ์ก็จริงค่ะ แต่หัสฎี โฮเทล ไม่ใช่” คุณแม้นมาศยังคงไม่ยอม “เธอพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะแมนมาศเธอเองก็ไม่มีสิทธิ์ในหัสฎี โฮเทล ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องด้วยซ้ำไป” นายมานิตย์ปรามเสียงเรียบ เพราะเขาเองก็ไม่ชอบใจนักที่คุณแม้นมาศเข้ามาก้าวก่ายเรื่องธุรกิจทั้งๆ ที่เธอเองไม่มีสิทธ์อะไรเลย คุณแม้นมาศหันมามองนายมานิตย์ด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ “คุณอา....แต่ตาอ้นมีสิทธิ์ค่ะ ดิฉันเรียกร้องสิทธิ์ให้ลูกมันผิดตรงไหน” คุณแม้นมาศเถียง ยังไงเธอก็ไม่ยอมแน่ๆ “เอาล่ะๆ ตอนนี้ผมยังไม่มีคำตอบให้ใคร โครงการนี้จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของแฟรี่เพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าลูกสาวผมไม่อนุญาตทุกอย่างก็คงต้องหยุด” คุณอนันต์ตอบออกมาเสียงเหนื่อยๆ คุณคุณแม้นมาศหน้างอง้ำด้วยความไม่พอใจ “แล้วคนที่จะมาร่วมทุนล่ะค่ะ เขาจะมาเมื่อไหร่” คุณแม้นมาศหันไปถามสามีเสียงสะบัด “อีกสามวัน เขาจะเดินทางไปที่เกาะสายน้ำ หลังจากเราคุยรายละเอียดกันก่อน ถ้าเขาตกลงเขาก็จะได้ชมเกาะสายน้ำ แต่ถ้าไม่ เขาก็จะต้องกลับ” สมองของคุณแม้นมาศทำงานอย่างหนัก เธอกำลังหาวิธีทำให้นายทุนสร้างโครงการนี้โดยร่วมกับหัสฎี โฮเทล เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น บุตรชายคนเล็กของเธอก็มีสิทธิ์ในโรงแรมครึ่งหนึ่ง เรื่องอะไรจะปล่อยให้นั่งอาฟารี ยึดไปเป็นของมันคนเดียว “เอ่อคุณพี่ค่ะ...เอ่อ...” คุณแม้นมาศเหลือบสายตาเป็นเชิงไล่นายมานิตย์ ซึ่งนายมานิตย์เองก็พอจะทราบจึงขอตัวจากห้องท่านประธาน “มีอะไรรึ” “คุณพ่อของน้องเอ่อ....” คุณแม้นมาศอ้ำอึ้งคุณอนันต์ถอนหายใจดังเฮือก “เท่าไหร่ล่ะ” “สองล้านค่ะ” เธอรีบบอกจำนวนตัวเลขทันที คุณอนันต์เซ็นเช็คแล้วยื่นให้ภรรยา “ผมจะช่วยคุณพ่อคุณเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ามีคราวหน้าอีกก็ปล่อยให้พวกมันจัดการกันเอาเองก็แล้วกัน บอกคุณพ่อคุณด้วย คุณเองก็รู้นะว่าหัสฎี โฮเทลกำลังต้องการเงินอัดฉีด” คุณอนันต์เตือนภรรยาเสียงเข้ม “คุณมีเงินเป็นพันๆ ล้าน เงินแค่นี้ให้ฉันไม่ได้หรือไง” คุณแม้นมาศต่อว่าสามี “เงินนั่นของใครคุณเองก็ทราบ อยากได้คุณก็ไปขอลูกสาวผมเอาสิ เท่าที่มีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้ก็บุญแล้ว ประหยัดบ้างสิคุณ เงินนะไม่ใช่กระดาษ” คุณอนันต์อบรมภรรยายาวเหยียด สร้างความเกลียดชังในตัวของอาฟารีมากขึ้น “เพราะแกเลยเชียว นังอาฟารี” “เรื่องโครงการที่เกาะสายน้ำผมตัดสินใจทุกอย่างเองหวังว่าคุณคงเข้าใจนะ คุณแม้นมาศหน้าที่ของคุณก็คือดูแลตาอ้นให้เติบโตอย่างมีความสุข อย่ายัดเยียดความเกลียดชังในตัวอาฟารีให้กับลูกชายผม ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่ได้อะไรจากการกระทำของคุณเลยหวังว่าคุณคงเข้าใจ ที่ผมยอมให้คุณเลี้ยงตาอ้นทุกวันนี้ คุณก็น่าจะพอใจไม่ใช่เหรอ..” คุณแม้นมาศเม้มปากแน่น อยากจะกรี๊ดออกมาให้สาสมกับความแค้นใจ แต่เธอก็ได้แต่นิ่งสงบอยู่ตรงหน้าสามีที่ไม่เคยรักเธอเลย เมืองสตุสกาส ประเทศเยอรมันนี ณ บริษัทสปอร์ตอัฟ เทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อกำลังนั่งฟังข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับรายละเอียดของการถ่ายทำโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังสูตรใหม่ ซึ่งเป็นสูตรสำหรับบำรุงร่างกายไปในตัว อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามินซีสกัดจากผลไม้ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะลอริ้วรอยก่อนวัยภายใต้แบรนด์ สปอร์ตอัฟ “ตอนนี้ทุกอย่างเกือบเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว รายละเอียดอยู่ในแฟ้มเอกสารครับบอส” เลขาหนุ่มยื่นแฟ้มเอกสารให้กับท่านประธาน เขารับมาแล้วเปิดออกดูทีละหน้าช้าๆ ตรวจตราอย่างละเอียด “แพ็คเกจไม่ค่อยจะดูโดดเด่นมากท่าไหร่ รูปทรงของขวดเครื่องดื่มไม่น่าสนใจเท่าที่ควร ผมอยากให้คุณลอร่าออกแบบผลิตภัณฑ์โดยดูจากบุคลิกท่าทางของพรีเซนเตอร์ อ้อ เยอร์เก้นช่วยดูเกี่ยวกับรายละเอียดของสถานที่ในการถ่ายโฆษณาด้วยนะ ส่วนเสื้อผ้าของนางแบบเอดิสันผมฝากคุณดูแลเรื่องนี้ด้วยนะครับ ขอรายงานผลการดำเนินงานและสรุปรายละเอียดต่างๆ ให้ผมอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า หลังจากนั้นเตรียมติดต่อนางแบบทันที ผมต้องการเปิดตัวสินค้าตัวนี้พร้อมกันกับการแข่งขันกีฬา.......ในอีกหกเดือนข้างหน้าคิดว่าทันแน่นอน” “ครับบอส” “บอสคะ นางแบบที่จะเดินนั้น บอสต้องการสาวเอเชียหรือเปล่าคะ เพราะว่าพรีเซนเตอร์เป็นคนเอเชียเหมือนกัน” “ไม่จำเป็น แล้วแต่ความเหมาะสม พวกคุณทำการคัดเลือกแล้วส่งรายละเอียดมาที่ผมก็แล้วกัน ส่วนเรื่องที่พรีเซนเตอร์เป็นเอเชียนั้นไม่มีปัญหา ใครๆ ก็รู้จักว่าแฟรี่ เธอโด่งดังขนาดไหนในยุโรปและอเมริกา อีกอย่างนี่เป็นครั้งแรกที่เธอยอมถ่ายโฆษณา หรือถ่ายหนัง เล่นละคร เธอรับแค่งานเดินแบบเพียงอย่างเดียว น่าแปลกที่เธอโด่งดังและเป็นที่ต้องการของเจ้าของสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ แต่เธอจะรับงานอย่างจำกัดและขึ้นอยู่กับต้นสังกัดนั่นคือ S จิวเวลรี กรุ๊ป ซึ่งเธอผูกขาดเป็น พรีเซนเตอร์มานาน 10 ปี เต็มๆ” “งั้นดิฉันขอข้อมูลส่วนตัวของคุณแฟรี่เธอด้วยนะคะบอส” “ข้อมูลของเธออยู่ในแฟ้มเอกสารสีดำข้างหน้าคุณ ผมอยากให้คุณศึกษาและทำความเข้าใจกับอาฟารีให้มากๆ เพื่อที่ว่าจะได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ออกมาตรงกับบุคลิกท่าทางของนางแบบมากที่สุด” คำพูดของท่านประธานหนุ่มทำเอาผู้เข้าร่วมประชุมออกอาการงง เพราะปกติแล้วพวกเขาต้องเป็นฝ่ายหานางแบบที่มีบุคลิกตรงกับผลิตภัณฑ์นี้มากกว่า แต่นี่กลับตรงกันข้าม ท่านประธานทำเหมือนว่าผลิตภัณฑ์นี้มาเพื่ออาฟารีเพียงคนเดียวไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนในโลกนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามแม้แต่คนเดียว “ผมขอปิดการประชุมแค่นี้ ขอบคุณทุกคนมาก” พูดจบชายหนุ่มก็เดินตัวปลิวออกจากห้องประชุมทันที เทียร์รี่ กาสเตอร์ บีทไรท์ เขาเป็นชายหนุ่มทายาทเจ้าของโรงแรมกาสเตอร์และบริษัท สปอร์ตอัฟ ด้วยวัยเพียง 28 ปี เขาก็สามารถนำธุรกิจของครอบครัวเจริญก้าวหน้าไปมาก โรงแรมกาสเตอร์ขยายสาขาไปยังทวีปเอเชีย ในประเทศไทยเขามีถึงสองสาขาที่กรุงเทพมหานครฯ และเกาะสายน้ำซึ่งเป็นเกาะขนาดกลางเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามเป็นธรรมชาติมากๆ เทียร์รี่เป็นเพื่อนรักกับเจ้าของเกาะสายน้ำมาตั้งแต่เด็กๆ พวกเขาจึงร่วมกันทำโรงแรมเล็กๆ ขึ้นที่นั้น ซึ่งก็เป็นโรงแรมในเครือกาสเตอร์ เช่นกัน เขาเป็นชายหนุ่มที่หลายๆ คนพยายามพาตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยคาดหวังเอาไว้ว่าพวกเธอจะโชคดีที่ได้ครอบครองหัวใจอันแสนจะเย็นชาของเทียร์รี่ กาสเตอร์ บีทไรท์ แต่จนเล่าก็ยังไม่เคยมีใครได้หัวใจของเขาไปครอง นานๆ ไปเทียร์รีเองก็ไม่เคยเปิดโอกาส หรือให้ความหวังกับผู้หญิงคนไหน เขาปฏิบัติกับคู่ควงแต่ละคนเสมอภาคกันในฐานะเพื่อนกินเพื่อนนอน เมื่อเสร็จธุระกันแล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปว่างเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที แต่เมื่อหกเดือนก่อนนี้สิเขามีอันต้องหวั่นไหว เพราะใครบางคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา แล้วเธอก็จากไปพร้อมกับเอาหัวใจของเขาไปด้วย กว่าจะรู้ตัวก็ไม่ทันเสียแล้ว อาฟารีเดินทางกลับประเทศไทยเสียแล้ว จะตามไปก็ตามไม่ได้ เพราะงานของเขามันรัดตัว แถมเขายังต้องเป็นพ่องานในการจัดการแต่งงานของน้องสาวสุดที่รักอีก เลยทำให้เขาและเธอขาดการติดต่อกันเป็นเวลานานถึงหกเดือน แต่ก็ยังดีที่คนของเขาในประเทศไทยคอยรายงานความเป็นไปของเธอให้เขาได้รับรู้ไม่ว่าเธอจะทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร “บอสคะ สายนอกตรงจากประเทศไทย คุณแฟรี่ค่ะ” สิ้นเสียงของเลขาสาวชายหนุ่มถึงกับนิ่งงันไป หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาตื่นเต้นมากๆ เพียงแค่จะได้ยินเสียงใสๆ ของเธอเป็นครั้งแรกในรอบหกเดือน ชายหนุ่มเอื้อมมือที่สั่นน้อยๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากรอกเสียงลงไป “สวัสดีแฟรี่” น่าแปลกที่เสียงของเขาจะเฉยชาได้ขนาดนี้ทั้งๆ ที่หัวใจเต้นระรัว “คุณทำอย่างนี้ได้ยังไงเทียร์รี จู่ๆ จะให้ฉันเดินทางไปเยอรมันนีโดยไม่บอกล่วงหน้า ฉันมีงานต้องทำนะ คิววางไว้นานแล้วด้วย ฉันไม่พร้อมที่จะเดินทางในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า” เสียงใสๆ ที่แว๊ดมาตามสาย ทำให้ชายหนุ่มถึงกับอมยิ้มที่มุมปาก คิดแล้วไม่มีผิดว่านางแบบสาวต้องโวยวายเอากับเขาเป็นแน่ ทำไมเขาจะไม่รู้ตารางงานของเธอ “ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม ยกเลิกงานทั้งหมดของคุณที่ประเทศไทยซะ” เขาออกคำสั่งเธอด้วยน้ำเสียงที่มีอำนาจ อาฟารีแทบกรี๊ดออกมา “จะบ้าหรือยังไง ฉันไม่ไป ยังไงก็ไม่ไป” หญิงสาวโต้กลับอย่างโมโห ใบหน้าสวยบึ้งตึงเธอโกรธเขาแทบควันจะออกหู “ไม่ได้ ยังไงคุณก็ต้องมา ไม่อย่างนั้นคุณจะได้รู้จักผมดีขึ้น” น้ำเสียงที่เย็นเฉียบตามด้วยคำขู่ มันทำให้อาฟารีรู้สึกโกรธมากขึ้น คนฟังเอาแต่ใจตัวเองที่สุด หญิงสาวกระแทกโทรศัพท์ลงเป็นอย่างแรงจนคนปลายสายหูชาเลยทีเดียว “คนบ้า เผด็จการ เอาแต่ใจตัวเอง เกลียดๆ ไอ้บ้าเทียร์” หญิงสาวทุบหมอนอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับว่าหมอนใบเล็กๆ นี้เป็นเทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ แต่เธอก็ต้องสะดุ้งขึ้นสุดตัว เมื่อโทรศัพท์บ้านที่เธอพึ่งจะวางลงไปดังขึ้น หญิงสาวเอื้อมมือไปรับ ยังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซึ่งก็มีอันต้องเม้มปากแน่นเพราะระงับความโกรธที่พุ่งปรี๊ดขึ้นมาอย่างทันทีทันใด “ผมให้เวลาคุณภายในอาทิตย์นี้ ถ้าคุณยังเดินทางไม่ถึงสตุสกาส อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะอาฟารี อ้อ แล้วอย่าพยายามหว่านน้องแพมให้มาพูดกับผมเด็ดขาด ยังไงคุณก็จะต้องมาทำตามสัญญาที่คุณให้ไว้กับผม ถ้าคุณขัดคำสั่งผม ก็อย่ามาว่าผมทีหลังก็แล้วกัน คุณก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างเทียร์รี่ กาสเตอร์ บีทไรท์ เป็นคนที่พูดจริงทำจริง ผมถือว่าเตือนคุณแล้ว อ้อแล้วถ้าจะวางสายโทรศัพท์ ก็ควรจะมีมารยาทมากกว่านี้ สวัสดีครับ” พอพูดจบเขาก็วางหูโทรศัพท์ลงอย่างแผ่วเบา ซึ่งตรงกันข้ามกับการกระทำของเธอ ทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียหน้าอย่างแรง เธอกรี๊ดออกมาอย่างสุดจะกลั้นแล้ว “กรี๊ดๆ ไอ้บ้าเทียร์รีนายหลอกด่าฉันเหรอ ขู่ฉันเหรอ กลัวตายล่ะ นายยังรู้จักแฟรี่น้อยไป” อาฟารียิ้มออกมาตาพราว คนอย่างอาฟารียิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ เอาสิ ไม่ให้เธอขอร้องแพททีเซียเธอก็ยังจะไม่ทำ แต่เธอจะอยู่เฉยๆ ทำงานที่เธอรับเอาไว้ล่วงหน้าจนครบทุกงาน เรื่องอะไรที่เธอจะต้องไปกลัวคำขู่ของเขาด้วย แต่หญิงสาวไม่รู้หลอกว่าการที่เธอขัดคำสั่งของเขาแล้วเธอจะพบเจอกับอะไร เทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ ใช่จะมีอำนาจแค่ในสตุสกาสเท่านั้น แต่เขายังคงแผ่กระจายอำนาจมายังวงการบันเทิงไทยซึ่งมันก็มากพอเสียด้วยสิ อาทิตย์ต่อมา “อะไรนะคะพี่เจเจ จะเป็นไปได้ยังไงคะ เขาให้เหตุผลว่าอะไรคะ บ้าที่สุดเลย” หญิงสาววางหูโทรศัพท์ลงแป้นอย่างอ่อนแรงนี่มันเกิดอะไรขึ้น งานเดินแบบของเธอที่เธอพึ่งจะรับเป็นครั้งแรกในรอบปีในประเทศไทยถึงถูกยกเลิกพร้อมๆ กันถึงห้าราย แถมงานถ่ายหนังสือนิตยสารอีกสามเล่มก็ถูกยกเลิกไปด้วย ทั้งๆ ที่พวกเขาจองคิวของเธอมาเกือบปี บางทีถึงกับยอมจ่ายค่าตัวเธอแพงเป็นสองเท่ากว่าค่าตัวปกติ พอบอกยกเลิกงานก็ยกเงินให้เธอด้วยทั้งหมด อาฟารีเดินลงมาจากเรือนด้วยอาการที่งงงวย ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ยังไง หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้สักตัวใหญ่ข้างๆ คุณยายของเธอด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดจนท่านผู้หญิงจิตราภาอดที่จะถามไถ่หลานรักไม่ได้ “เป็นอะไรไปลูก ทำไมทำหน้าแบบนั้นละจ๊ะ” “เรื่องงานค่ะ คุณยาย” “มีอะไรหรือบอกยายได้ไหมลูก” “งานของแฟรี่ ถูกบอกยกเลิกทั้งหมดเลย พอถามถึงสาเหตุเขาก็บอกเพียงแต่ว่า ได้นางแบบที่เหมาะสมกว่าแฟรี่มาแทนแล้ว ทั้งๆ ที่เขารอคิวว่างของแฟรี่มาเกือบปีเลยนะคะคุณยาย” “แฟรี่ไปทำอะไรมาหรือเปล่าลูก หรือว่าช่วงนี้ไปมีปัญหากับใครมาบ้างไหมลูก” คงจะไม่มีเรื่องอะไรนอกจากหลานสาวของท่านไปมีเรื่องมีราวไว้กับคนอื่นหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะอาฟารีหลานรักของท่านไม่เคยมีปัญหากับใคร ยิ่งเป็นคนไทยด้วยแล้วยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ เพราะหลานของท่านพึ่งจะมารับงานในเมืองไทยได้ไม่กี่ชิ้น “ก็ไม่มีนี่คะคุณยาย แฟรี่ไม่ค่อยได้ออกบ้านไปไหนเสียหน่อย งานส่วนใหญ่ก็อยู่ต่างประเทศ พึ่งจะมีงานที่เมืองไทยก็แค่นั้นเองนี่คะ” หญิงสาวนั่งคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าเธอไปทำอะไรให้เจ้าของสินค้าไม่พอใจถึงกับยกเลิกงานเธอแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกซักที “ช่างเถอะลูกก็ดีแล้วนี่จ๊ะ แฟรี่ของยายจะได้เป็นสตุสกาส ถ่ายโฆษณาให้บริษัทพี่ชายหนูแพมไงลูก เขาก็เร่งเรามาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วไม่ใช่เหรอลูก” ท่านผู้หญิงจิตราภาบอกกับหลานรักด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม อะไรบางอย่างกระแทกเข้าสู่หัวใจดวงน้อยหญิงสาวผุดลุกขึ้นแทบจะทันที เธอเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมากดหมายเลขปลายทางมือไม้สั่นด้วยความโกรธใบหน้าสวยแดงก่ำจนน่ากลัว แต่ไม่รู้เป็นยังไงโทรเท่าไหร่ก็ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ ทำให้อาฟารียิ่งหงุดหงิด หญิงสาวโทรหาเพื่อนรักก็ปรากฏว่านัฐริทธิ์ พาภรรยากลับสตุสกาส โทรเข้ามือถือก็ไม่สามารถติดต่อได้ ยิ่งทำให้อาฟารีโกรธมากขึ้นจนเนื้อตัวสั่นไปหมดทั้งตัว มาถึงตอนนี้เธอค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าสาเหตุที่แท้จริงของการยกเลิกงานมาจากคนเพียงคนเดียวนั้นคือ เทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ “อีตาผีดิบเทียร์รี ฉันจะทำให้นายป่วนจนทำงานไม่ได้เลย คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนกันถึงกล้ามาสั่งยกเลิกงานของคนอื่น นายทำฉันเดือดร้อน ฉันก็จะทำกับนายเป็นสองสามเท่าเลยคอยดู” หญิงสาวจ้องมองโทรศัพท์ในมือถือด้วยสายตาที่แสดงออกชัดเจนว่าโกรธมากๆ ตามด้วยเสียงพึมพำคาดโทษคนที่เธอคิดว่าเป็นต้นเหตุอีกยาวเหยียดราวกับเขามานั่งอยู่ตรงหน้าเธอขณะนี้... ในขณะที่อาฟารีกำลังหงุดหงิดใจอยู่นั้น เทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ กำลังนั่งอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ประจำตำแหน่ง ยิ่งเมื่อเลขาส่วนตัวรายงานเขาว่ามีสายตรงจากประเทศไทยกว่าสิบสาย และทุกสายก็มาจากคนคนเดียวกันนั่นก็คือ อาฟารี เทพนรากรณ์ “หึๆ ยายแสบ คงโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยสินะ ถึงได้กระหน่ำโทรอย่างนี้ ช่วยไม่ได้ก็ใครใช้ให้เธอขัดคำสั่งฉันล่ะ แทนที่จะรีบมา กลับหลบหลีกสารพัด ฉันอยากจะเห็นหน้าเธอจะแย่อยู่แล้วนะยายตัวแสบ” ท้ายประโยค เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว ใช่เพียงแค่เสียงอย่างเดียวที่อ่อนโยน มันรวมทั้งสีหน้าและแววตาของเขาด้วย นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้พบเธอตัวเป็นๆ มีแต่รูปภาพในอิริยาบทต่างๆ ของเธอเท่านั้นที่ถูกส่งมาให้เขาไม่ขาด “บอสครับคุณแฟรี่โทรมาอีกแล้วครับ” มาคัสเลขาหนุ่มกดอินเตอร์คอมเข้ามาแจ้งท่านประธานเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ เทียร์รีนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจบอกให้เลขาหนุ่มให้โอนสายตรงเข้ามาหาเขาได้เลย คงจะได้เวลาอันเหมาะสมแล้วที่เขาจะคุยกับเธอหลังจากที่แกล้งเธออยู่เป็นหลายชั่วโมง “โอเค...ต่อสายเข้ามาเลย…” “ฮัลโหล...ว่าไงครับคุณนางแบบ” น้ำเสียงราบเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความยียวนกวนประสาทของคนฟังยิ่งนัก อาฟารีถอนหายใจออกมายาวๆ เพื่อข่มความรู้สึกไม่พอใจของเธอเอาไว้ “อีกสองวันฉันจะเดินทางไปสตุสกาสให้คนมารับฉันด้วย” “โอ้...จริงหรือครับ งานคุณที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้วเหรอครับ หืม” อาฟารีแทบจะกรี๊ดออกมาให้สาสมกับความกรุ่นโกรธที่มี อีตาบ้านี่กวนประสาทที่สุด แต่เธอก็ต้องบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ เอาไว้ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาของเธอ “ค่ะ...” คำตอบสั้นๆ ของอาฟารีทำให้เทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ ออกอาการงงๆ แปลกใจกับปฏิกิริยาของเธอ ซึ่งไม่น่าจะนิ่งสงบอย่างนี้ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ว่าเธอจะมีแผนการอะไรเขาก็เตรียมพร้อมที่จะรับมือ ขออย่างเดียวขอให้เธอมาอยู่ตรงหน้าเขาอยู่ใกล้ๆ เขาเสียก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันอีกที เขาเชื่อว่าอาฟารีไม่มีทางหนีรอดเงื้อมมือของเขาไปได้ ชายหนุ่มคิดอย่างเข้าข้างตัวเองสุดๆ “แล้วเจอกันอีกสองวันนะครับคุณนางแบบ” น้ำเสียงยียวนกวนประสาทของเขาดังมาตามสายทำเอาอาฟารีถึงกับเม้มปากแน่น คนอะไรยียวนกวนประสาทที่สุดเลย แล้วดูซิพูดจบก็วางสายใส่เธอ อีตาเทียร์บ้า “คนบ้าไม่มีมารยาท ไว้ถึงตาฉันเมื่อไหร่รับรองนายได้วุ่นแน่” หญิงสาวหมายมั่นปั้นมือไว้อย่างเต็มที่ที่จะทำให้คนอย่างเทียร์รี กาสเตอร์ บีทไรท์ อยู่อย่างไม่สงบ หญิงสาวเดินเข้าไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังประเทศเยอรมันนี จุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองสตุสกาส เพื่อถ่ายโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อสุขภาพของบริษัทสปอร์ตอัฟ ซึ่งก็นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอยอมถ่ายภาพเคลื่อนไหว ปกติแล้วเธอจะรับแค่เพียงถ่ายภาพนิ่ง แล้วก็เดินแบบเท่านั้น แต่เป็นเพราะเธอได้ให้สัญญาไว้กับเขาเมื่อสามเดือนก่อนว่าจะถ่ายโฆษณาให้แลกกับที่เขายอมให้เพื่อนรักของเธอได้สมหวังกับแพททีเซียน้องสาวของเขา พลันใบหน้าสวยใสมีอันต้องแดงก่ำหญิงสาวยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตนเองเบาๆ อย่างเผลอไผลราวกับว่าเขาพึ่งจะได้สัมผัสกับริมฝีปากของเธอ ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ก็ผ่านมากลายเดือนแล้ว “จูบแรกของฉันเลยนะอีตาผีดิบ” อาฟารีพึมพำเบาๆ เธอเสียจูบแรกให้กับเขาที่ห้องทำงานและต่อมาก็ในรถ แถมยังถูกเขาหอมแก้มจนแก้มเธอแทบช้ำ พร้อมกับลูกชุปหัวใจและกุญแจถูกเขาจัดการเรียบ คำพูดที่เขากระซิบบอกในวันนั้นเธอยังจำได้ดี “ทั้งกุญแจและหัวใจของเธอเป็นของฉันนะอาฟารีจำเอาไว้” ท่าทางของหลานรักทำให้ท่านผู้หญิงจิตราภารีบเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง เพราะจู่ๆ อาฟารีก็มีอาการหน้าซีดเดี๋ยวก็หน้าแดงแถมยังเหม่อลอยเสียอีก “แฟรี่เป็นอะไรไปลูก แฟรี่” “คะ..คุณยาย....เอ่อ...คือ..” หญิงสาวเงยหน้ามองคุณยายก่อนจะส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้กับท่านแล้วขยับเข้าไปกอดร่างท้วมของคุณยายอย่างประจบประแจง “ว่าไงหลานยาย ยังคิดมากเรื่องงานอยู่หรือเปล่า ไม่ต้องคิดมากหรอกลูกช่างมันเถอะ” ท่านผู้หญิงจิตราภาเอ่ยปลอบใจหลานรักอย่างอ่อนโยน เพราะท่านคิดว่าหลานสาวสุดที่รักของท่านอาจจะกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจเรื่องงานที่ถูกยกเลิกไป “คุณยายคะ แฟรี่ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยนะคะ คุณยายสบายใจได้ค่ะ แฟรี่แค่กำลังคิดไปถึงอะไรบางอย่างที่แฟรี่น่าจะลืมไปตั้งนานแล้ว แต่กลับจำติดปาก เอ้ย..ติดตาน่ะค่ะคุณยาย แต่คุณยายไม่ต้องห่วงนะคะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ไม่นานแฟรี่ก็จะลืมแล้วค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยใบหน้าและท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส แสดงออกให้ท่านเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญอะไร พลอยทำให้ท่านผู้หญิงจิตราภาค่อยเบาใจลง ท่านกอดหลานรักเอาไว้อาฟารีเป็นหลานเพียงคนเดียวของท่านและท่านก็เลี้ยงเธอมาตั้งแต่แบเบาะจนกระทั่งปัจจุบัน หญิงสาวไม่เคยทำให้ท่านเสียใจหรือทุกข์ใจเลย มีแต่นำความปลาบปลื่มมาให้ เธอเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย กินง่ายช่างออดอ้อนรู้จักมีน้ำใจให้กับผู้อื่นเพียงเท่านี้ท่านก็ชื่นใจแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD