คุณหนูลิลี่หลานสาวคนเล็กของท่านเจ้าคุณผู้เป็นประมุขของบ้าน
’มิรา มิรา ตื่นๆ ตื่นเร็ว’เสียงใสเอ่ยดังขณะปลุกร่างเล็กที่นอนหลับอยู่ใต้เตียงนอนของเธอ มิรามีหน้าที่มานอนเป็นเพื่อนคุณหนูลิลี่ในยามที่คุณหนูลิลี่นั้นกลับมาจากโรงเรียนประจำเพื่อมาพักที่บ้าน
’ขาคุณหนู อยากได้อะไรหรือคะ?’ มิรางัวเงียตื่นเพราะคิดว่าผู้เป็นเจ้านายจะเรียกใช้เธอเหมือนดังทุกครั้ง
‘ไปเปลี่ยนชุดเร็วอ่ะใส่ชุดนี้นะ ลิลี่จะพาไปงานวันเกิดเพื่อน’
‘หา ไปงานวันเกิดเพื่อนที่ไหนอีกคะคุณหนูก็คุณหนูพึ่งกลับมาเองหนิคะ’มิราถามออกไปด้วยความประหลาดใจเพราะลิลี่นั้นพึ่งกลับมาจากไปงานวันเกิดเพื่อนจริงๆ
‘ก็ใช่ไง แต่ยัยไอริชน่ะมันส่งข้อความมาเยาะเย้ยหนูลิลี่อ่ะ มิราดูสิ ยัยนั้นบอกว่ายัยนั้นมีเบ้คนใหม่ที่ทั้งโง่ ทั้งหัวอ่อนแล้วก็หน้าตาดีอีก คนในกลุ่มก็ฮือฮากันใหญ่ว่ายัยนั้นไปหาเบ้แบบนั้นมาได้ยังไง ลิลี่หมั่นไส้มันอ่ะ ลิลี่ไม่อยากแพ้ มิรา มิราช่วยลิลี่หน่อยนะ ช่วยไปเป็นเบ้ให้ลิลี่หนึ่งคืนทีเถอะนะ ลิลี่ต้องนอนไม่หลับแล้วก็ต้องตรอมใจแน่ถ้าลิลี่ต้องแพ้ยัยไอริชนั้นอ่ะ นะๆ มิราช่วยลิลี่นะ’’ คุณหนูผู้เอาแต่ใจรบเร้ามิราจนเธอเองก็ขัดใจเจ้านายผู้เอาแต่ใจและเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนในตระกูลเจ้านายใหญ่ไม่ได้ เด็กสาวจำต้องยอมทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
‘เอ่อ…คุณหนูคะ ชะ…ชุด ชุดมัน โป๊จังคะ มิราขอใส่ชุดธรรมดาไม่ได้หรอคะ?’ ’มิรามองดูตัวเองในกระจกที่ตอนนี้ถูกเจ้านายจับเธอใส่ชุดเมดเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น เสือตัวเล็กจิ๋วที่โชว์เนินอกกับชุดกระโปงสีดำสั้นเลยเข่ามีถุงน่องลายตาข่ายดูยั่วยวนราวกับเธอหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างไงอย่างงั้น
‘ไม่เห็นจะโป๊เลยน่ารักดีออก….ป่ะไปกันเถอะมิราอดใจไม่ไหวที่จะแหวกหน้ายัยไอริชแล้ว’เจ้านายสาวคว้ามือของมิราออกจากห้องก่อนที่พวกเธอทั้งคู่จะค่อยๆ ย่องลงจากตัวคฤหาสน์แล้วแอบปีนกำแพงของรั้วที่คุ้นเคยลงมาก่อนลีลี่จะพามิราไปยังรถยนต์ของเธอที่แอบจอดไว้
‘คุณหนูจะขับเองหรอคะ เรานั่งแกร็ปไปไม่ดีกว่าหรอคะ?’ มิราเอ่ยถามอย่างรู้สึกไม่ดีอีกครั้งแม้จะรู้ว่าเจ้านายของเธอนั้นขับรถเป็นตั้งแต่อายุเพียงสิบกว่าก็ตามแต่การแอบออกนอกคฤหาสน์โดยการเอารถไปเองนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
‘บ้าน่า นั่งแกร็ปไปให้เพื่อนฉันหัวเราะเยาะรึไง รีบๆ ขึ้นเถอะเดียวปาร์ตี้จะเลิกก่อนไปเร็ว’ลิลี่เร่งเร้า มิราที่เลี่ยงไม่ได้จำตั้งไปกับเจ้านายทั้งที่ใจเธอเองก็รู้สึกไม่ดี
งานปาร์ตี้ของลูกหลานไฮโซเป็นไปอย่างสนุกสนานและคึกคักลิลี่ที่กลับบ้านไปพาตัวสาวใช้คนสนิทของตัวเองมาเพื่ออวดบารมีได้รับความสนใจจากกลุ่มเพื่อนเป็นอย่างมาก
‘ว้าว คนใช้แกเจ๋งอย่างที่แกว่าจริงๆ อ่ะ ดูสิ หน้าก็ดีแต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่ขี้ข้า’
‘แน่นอน ทั้งมิรากับบรรดาบรรพบุรุษเขาก็เป็นขี้ข้าเก่าแก่ในตระกูลฉันอยู่แล้ว พี่ชายมิราก็น่าตาดีนะ หล่อเลยแหละ’
‘โห้ พูดซะอยากเห็นเลยอ่ะ รอบหน้าพามาโชว์ดิ’
‘ได้อยู่แล้วไว้อีตานั้นกลับมาจากไปเรียนแลกเปลี่ยนเมื่อไหร่ฉันจะพามาอวด’
‘โห้ คนใช้บ้านแกเรียนแลกเปลี่ยนเลยหรอ?’
‘ก็ใช่สิ ก็บอกแล้วไงว่าพวกเขาอ่ะเป็นขี้ข้ากันทั้งบ้าน ก็ธรรมดาป่ะที่เจ้าคุณปูจะเอ็นดูเป็นสปอนเซอร์ให้ไปเรียนต่างประเทศ แค่นี้ขนหน้าแข่งตระกูลฉันไม่ร่วงหรอกย่ะ’ ลิลี่พูดจาอวดตระกลูตนไม่หยุด โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของมิราที่ยืนก้มหน้าฟังอยู่ตรงนั้น แต่เธอก็ไม่สามารถจะพูดอะไรได้เพราะสิ่งเหล่านั้นคือเรื่องจริง…..
เวลาตี3 เมื่อปาร์ตี้เลิกลิลี่กับมิราก็ได้เวลาต้องกลับ แต่ลิลี่นั้นยังติดลมเธอได้คว้าเอาไวน์แดงขวดหนึ่งติดมือขึ้นรถไปด้วย
‘วันนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลยรู้ไหมมิรา เธอเห็นไหมสายตาที่ทุกคนมองมาที่ฉัน ราวกับว่าฉันเป็นเจ้าของวันเกิดซะเอง สะใจอ่ะ ฉีกหน้ายัยไอริชแบบชนะขาด ฮ่าๆ ฮ่าๆ’
‘คุณหนู คุณหนูคะ มิราว่าเราจอดรถเถอะนะคะ เดียวเรากลับแกร็ปกันดีกว่าถ้าคุณหนูจะดื่มไปขับไปแบบนี้มันอันตรายนะคะ’มิราเอ่ยเตือนลิลี่ที่ตอนนี้ทั้งขับรถไปยกขวดไวน์แดงกระดกดื่มไป
-เอี๊ยดดดด- ลิลี่เหยียบเบรกก่อนจะหันมามองมิราอย่างไม่พอใจ
‘นี้เป็นแค่ขี้ขาอ่ะทำไมต้องชอบมาออกความเห็นด้วยหามิรา รู้ป่ะว่าเธอทำให้อารมณ์ดีๆ ของฉันมันเสียอรรถรส กินเข้าไป….กินเข้าซะพูดมากน่าลำคาญ!!!!’’ลิลี่ที่ร่างกายเต็มไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยื่นมือไปบีบปากมิราพร้อมกับกรอกไวน์แดงที่มีอยู่เกินขึ้นขวดลงไปให้มิรากิน
‘’กินซะ กลืน กลืนลงไป ถ้าแกกล้าคายออกล่ะก็ฉันจะฟ้องเจ้าคุณปู่ซะว่าแกพาฉันหนีเที่ยว….กลืนนนนน อีมิรา กลืนนนนน!!!!’’ลิลี่ในตอนนี้น่ากลัวราวกับแม่มดก็ไม่ปาน มิราที่ถูกอบรมสั่งสอนมาว่าให้เชื่อฟังและอยู่ในโอวาทของเจ้านายนั้นไม่อาจที่จะกล้าขัดคำสั่งของคุณหนูลิลี่ได้เลย เด็กสาวต้องจำใจฝืนกลืนสิ่งที่ไม่คุ้นเคยเข้าไปอย่างยากลำยาก ไวน์แดงทั้งหมดถูกบังคับให้ดื่มอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่ผู้กระทำจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งที่ได้ใช้อำนาจของตัวเองกระทำต่อผู้ที่อ่อนแอกว่าได้สำเร็จ
‘’ฮ่าๆ ฮ่าๆ อีขี้ข้าเอ่ย..ทีหลังก็อย่ามาปากดีเสนอหน้าออกความเห็นอีก…..เอาล่ะเห็นแก่ที่แกยอมกลืนไวน์ไปหมดจริงๆ เดียวฉันจะพาแกทำอะไรสนุกๆ’ ’ลิลี่เอ่ยจบก็ตบเกียร์รถคันหรูให้เข้าที่ก่อนจะพามิราพุ่งทะยานออกไปบนท้องถนนยามค่ำคืนที่ตอนนี้เบื่องหน้านั้นกำลังมาสายฝนค่อยๆ ตกลงมา มิราที่พึ่งเคยดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกในชีวิตตอนนี้เธอนั้นเหมือนร่างกายจะฉีกขาดออกจากกันเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในไวน์นั้นรุนแรงมากเหลือเกิน รถคันหรูวิ่งด้วยความเร็วเต็มพิกัดโดยที่คนขับนั้นเต็มไปด้วยความคึกคะนอก เสียงเพลงแดนซ์ถูกเปิดจากเครื่องเสียงของรถยนต์ดังกระหึ่ม
‘’วู้ ว้าว สนุกจริงๆ ……..กรี๊ดดดดด อร้ายยยย’’
-เอี๊ยดดดดดดดดดดดด-
-โครมมมมมมมมมมมม-
รถยนต์คันหรูที่ลิลี่และมิราขับขี่มาเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับรถเก๋งสีขาวเสียงดังสนั่น โชคดีที่รถของลิลี่นั้นชนเข้ากับตอมอที่อยู่ใกล้ๆ บวกกับสมรรถภาพและเซฟตี้ของรถทำให้เธอและมิรานั้นไม่เป็นอะไรมีเพียงแค่แผลที่หัวเล็กน้อย ลิลี่รีบลงจากรถด้วยอาการที่ส่างเมาเต็มที่ เธอเห็นรถคู่กรณีชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่และพลิกคว่ำมีเลือดสีแดงไหลนอนเต็มพื้นถนน
‘มะ ไม่ ไม่นะ ไม่ ไม่ใช่ฉัน ฉัน ไม่ได้ทำ ไม่ ‘ลิลี่ทั้งกลัวทั้งตกใจเธอมองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบวิ่งไปดูมิราที่ตอนนี้กำลังพยายามเปิดประตูรถอีกฝั่งเพื่อออกมา ลิลี่รีบวิ่งเข้าไปหาคนที่เมามายแทบไม่สติ
‘’มิรา มานี้มา มานี้นะ อยู่ตรงนี้มานั่งนี้ก่อน ‘ลิลี่ที่เห็นว่าตอนนี้มิรานั้นเมามายแทบไม่ได้สติรีบประคองร่างของมิราเข้าไปนั่งแทนที่ตัวเองเพื่อโยนความผิดให้กับเธอ ก่อนที่เธอจะสลับไปนั่งที่ของมิราและทำการรัดเข็มขัดพร้อมกับล็อคประตูรถไว้โดยไม่ลืมจะแง้มหน้าต่างไว้เล็กน้อยเพื่อให้มีอากาศหายใจ จากนั้นเด็กสาวก็รีบโทรหามารด่ของตัวเองเพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟังทันที
ความผิดทุกอย่างตกเป็นของมิราทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ แม้คนในตระกูลจะรู้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้นั้นไม่ใช่ฝีมือมิราอย่างแน่นอนแต่ก็มีใครกล้าที่จะพูดอะไร แม้แต่พ่อแม่ของมิราเองก็ไม่กล้าพูดเพราะพวกเขาได้เงินจำนวนมากถึงเจ็ดหลักเป็นค่าปิดปากก่อนจะถูกให้ออกจากงานที่บ้านหลังนั้นพร้อมกับได้เงินลงทุนสนับสนุนเปิดบริษัทรับเหมาออกแบบบ้านให้กับลูกชายคนโตที่เพิ่งเรียนจบจากอมริกา ส่วนมิรานั้นเธอจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้เลย เธอรู้เพียงแต่ว่าเธอนั้นได้เข้าร่วมงานปาร์ตี้กับคุณหนูจริงๆ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นเธอก็ไม่สามารถจำได้ และถูกพ่อแม่บิดเบื้อนให้เข้าใจผิดว่าตระกูลของลิลี่นั้นคือผู้มีพระคุณที่ช่วยให้เธอรอดพ้นคดีและได้ทุนมาเปิดบริษัทให้พี่ชาย มิราจึงคิดมาตลอดว่าเธอนั้นคือผู้กระทำผิด และเป็นลูกสาวที่ไม่ได้ความ แต่เมื่อศิวะก้าวเข้ามาโลกของเธอที่เคยมืดมนก็กลับสว่างไสวขึ้นมา เขาตามจีบเธออย่างตรงไปตรงมา และขอเธอแต่งงานอย่างโรแมนติก ตอนนั้นมิราคิดว่าชีวิตเธอได้พบเจอความสุขที่แท้จริงแล้วแต่เธอไม่รู้เลยว่าที่แท้นั้นชีวิตแต่งงานก็คือนรกดีๆ นี้เอง…..