Episode : 1 คุณหมี
เจฟ
“ตายแล้ววันนี้ลูกชายฉันเข้าบ้านด้วยแหละคุณ มิน่าล่ะพายุเหมือนจะมาเลย”
ผมยืนกลอกตามองบนเมื่อได้ยินเสียงเหน็บแนมของแม่ตัวเองที่นั่งอยู่ที่โซฟาให้ตายเถอะนี่ผมลูกแม่จริงป่ะวะนอกจากจะไม่รักผมแล้วยังมีหน้าจะมาประชดผมอีก
“เอ่อ...ขอโทษนะครับแม่เป็นคนเรียกเจฟมา” ผมบอกแม่ตัวเองก่อนจะนั่งลงข้างๆ คิดว่าถ้าแม่ไม่เรียกมาผมจะเข้าบ้านมั้ย ไม่เข้าอยู่แล้วเข้าทำไมบ้านอยู่ตั้งแต่เล็กจนโต
“แกกลับบ้านปีนึงนี่นับครั้งได้เลยนะตาเจฟจนฉันคิดว่าฉันไม่มีลูกแล้วเนี่ย”แม่บ่นผมยกใหญ่
“ไม่ต้องมาอ้อมโลกเรียกมาเพื่อ..” ผมถามตัดบทเพราะถ้าไม่มีอะไรสำคัญแม่ผมจะไม่รบกวนเวลาของลูกชายสุดที่รักเลย
“พรุ่งนี้ไปรับน้องให้แม่หน่อยแม่ติดประชุม” ผมหันขวับมองแม่ตัวเองที่นั่งยิ้มกริ่ม
“พ่อมีเมียน้อย” ผมหันถามพ่อตัวเอง
“หาเรื่องบ้านแตกแล้วมั้ยพ่อไม่ได้นิสัยเหมือนแกนะ” พ่อรีบทำตาขวางใส่ผมทันที
“จำได้ว่าผมลูกคนเดียวแล้วน้องไหนอ่ะแม่” ผมหันกลับมาถามแม่
“หนูพุกไงจำน้องไม่ได้หรอลูก” แม่ผมบอกหนูพุกหรอพุกไหนวะ
“จำไม่ได้หรอกคนบ้าอะไรชื่อหนูพุก”ผมบอกแม่ไปแค่ชื่อก็แปลกแล้วอ่ะ
“ก็ลูกสาวคุณเพื่อนสนิทแม่ที่อยู่เมืองไทยไง” ผมนั่งคิดเพื่อนสนิทแม่งั้นหรอถ้าอย่างนั้นก็เป็น......
“ยัยหนูผีหรอแม่” ทันทีที่คิดออกผมรีบถามแม่เลย ผมเคยโดนยัยเด็กอ้วนดำแกล้งตอนไปเที่ยวที่ไทยผมจำได้ขึ้นใจเลย
“หนูพุกต่างหาก”
“ไม่ไปให้ตายยังไงผมก็ไม่ไปรับยัยหนูผีนั่นหรอก” ผมรีบปฏิเสธทันที
“แกต้องไปเพราะน้องจะมาอยู่เกาหลีสามเดือนและแกต้องเป็นคนดูแลน้องด้วย” พ่อผมพูดเสียงดุ
“แต่พ่อยัยหนูผีนั่น” ผมทำหน้าอ้อนพ่อตัวเอง
“ตอนเด็กกับตอนโตต่างกันนะตาเจฟ” แม่ผมพูดแล้วยิ้มให้ผม
“จะต่างไม่ต่างผมก็ไม่ไปรับและไม่ดูแลยัยหนูผีนั่นเด็ดขาด” ผมรีบบอก
“ถ้าอยากมีความสุขอยู่ละก็ทำตามที่แม่บอก แกก็น่าจะรู้นะว่าแม่เป็นคนยังไง” เนี่ยก็ชอบขู่แบบนี้อ่ะ
“แม่อ่ะให้ตายเถอะเจฟยังไม่อยากเป็นศพนะแม่” ผมบอก
“แล้วแกจะต้องขอร้องแม่ตาเจฟ”
“ขอร้องเรื่องอะไร”
“ดูแลหนูพุกเชื่อแม่สิแกขอแน่” แม่ผมพูดจบก็เดินออกจากห้องไปปล่อยให้ผมนั่งเอ๋อแดกผมจะขอทำไมวะ....
“หนูพุกอายุสิบแปดแล้วนะแกไม่คิดว่าน้องจะเปลี่ยนไปบ้างหรอ เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนไม่รู้จักหรือไง” พ่อผมพูดขึ้น
“คนแบบนั้นเปลี่ยนยากอ่ะพ่อไม่สวยของไม่สวยเลยอ่ะแค่เดินใกล้ยังไม่กล้าเลย” ผมบอกเพราะยัยหนูผีนั่นทั้งอ้วนทั้งดำทั้งเตี้ยมีครบทุกสิ่งที่คนสวยเขาไม่มีกัน
“รอเจอพรุ่งนี้แล้วค่อยกลับมาบอกพ่อใหม่แล้วกัน”
“แล้วยัยหนูผีนั่นมาเกาหลีทำไมตั้งสามเดือน”
“น้องปิดเทอมแล้วน้องก็มาดูคอนเสิร์ต” บ้านักร้องนี่เอง
“กี่โมงจะได้ไปรับถูก” ผมรีบถาม
“แม่แกส่งให้ในไลน์แล้วส่วนเบอร์อ่ะเอาไป” ผมรับกระดาษใบเล็กจากพ่อก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋ากางเกง
“งั้นเจฟไปนะเสียเวลา”
ผมขับรถออกจากบ้านแถมยังต้องมาอารมณ์เสียกับยัยหนูผีนั่นอีก คอยดูนะจะปล่อยให้นั่งรอจนที่สนามบินทั้งวันเลยคอยดู ลืมแนะนำตัวผมชื่อเจฟหลายคนคงพอรู้จักแล้วเนาะผมทำธรุกิจสนามแข่งรถหน้าตาก็โคตรหล่อนิสัยก็เหมือนหน้าตาแหละครับ
“หน้ายังกับส้นตีน” ทันทีที่ก้นของผมหย่อนลงที่เก้าอี้เสียงเพื่อนรักก็ลอยมาทันที
“ตีนกูเนี่ยไอ้ห่า” ผมรีบถีบขาไอ้มาร์คทันที
“แล้วมึงเป็นเชี้ยอะไร”
“ช่างแม่งเถอะกูไม่อยากพูดถึง” ผมบอกมันไป
“กูนึกว่าเรื่องเด็กที่มึงต้องไปรับพรุ่งนี้สะอีก” ผมหรี่ตามองเพื่อนตัวเองอย่างสงสัย
“มึงรู้ได้ไง”
“แล้วมีเรื่องอะไรที่กูไม่รู้วะเจฟ” ไอ้มาร์คพูดก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์
“คอยดูเถอะกูจะแกล้งให้หาทางกลับเมืองไทยไม่เจอเลยยัยหนูผี” ผมบอกที่ไอ้มาร์คพูดก็จริงมันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผมและเพื่อนทุกคนเอาง่ายๆ ครับมันชอบเสือก
“กลัวมึงจะติดใจจนไม่อยากให้น้องมันกลับมากกว่ามั้ง”
“มึงเอาตีนเหยียบหน้ากูเลยถ้ากูทำแบบนั้น”
.
.
.
รู้มั้ยว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนสนามบินไงครับแล้วอีกอย่างคือกูยังไม่ได้นอนเลยด้วยให้ตายเถอะ ก็แม่ผมเล่นโทรจิกตลอดเวลาเพราะกลัวว่าผมจะไม่มารับยัยหนูผีให้น่ะสิ
“นี่กูต้องเสียเวลานอนเพื่ออะไรวะ” ผมถามไอ้มาร์คที่นั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆ
“นั่นดิแล้วทำไมมึงต้องลากกูมาด้วย” ขืนผมมาคนเดียวก็ตายอ่ะดิ
“เมื่อไหร่จะมาวะแม่งคอยดูนะถ้าเจอกูจะจับหักคอให้” ผมบ่นเพราะตอนนี้มันจะเข้าสองชั่วโมงแล้วไงนี่ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงายัยหนูผีเลยเถอะ
“กูว่ามาแล้วแหละ” สายตาของผมหันไปมองตามนิ้วของเพื่อนตัวเองก่อนจะสะดุดกับ........
“ผิดคนไอ้สัส” ผมด่ามันเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแม่งโคตรตรงข้ามกับยัยหนูผีไง
หนูพุก
“อันฮยองโคเรีย”
ฉันพูดกับตัวเองตอนนี้หนูพุกอยู่ที่เกาหลีแหละทุกคน ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีก่อนนะคะชื่อหนูพุกค่ะเป็นคนทุกที่อยู่ที่ไหนหนูพุกก็เป็นคนหนูพุกเป็นสาวขอนแก่นค่ะแต่โดนพ่อกำนันส่งให้ไปเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่อนุบาล ตอนนี้หนูพุกโตแล้วนะคะอายุสิบแปดปีเต็มแล้วด้วย สวยบอกได้แค่นี้ที่มาเกาหลีไม่ได้มาศัลยกรรมนะคะอย่างที่บอกสวยอยู่แล้วแต่ที่มาเพราะหนูพุกมีนัดกับจองกุกต่างหาก
“สวัสดีค่ะ” ฉันเดินเข้าไปหาผู้ชายสองคนที่ยืนมองฉันอยู่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะฉันมีรูปเขาในมือถือไงเขามารับฉัน
“ใครวะ” เสียงผู้ชายที่ฉันคุ้นหน้ากระซิบถาม
“มารับหนูพุกใช่มั้ยคะ” ฉันถามก่อนจะหันมายิ้มให้พี่อีกคนงื้อหล่อจังเลยถ้าไม่ติดว่ามีจองกุกในใจหนูพุกพุ่งชนแล้วนะเนี่ย
“หนูพุกใช่มั้ย” พี่เขาถามพูดไทยได้ด้วยอ่ะ
“ใช่ค่ะหนูพุกเอง” ฉันรีบตอบแล้วฉีกยิ้มให้
“เป็นไงมึงเปลี่ยนมั้ยล่ะ” พี่เขาหันไปกระซิบคนที่ยืนมองหน้าฉันนิ่งๆ นี่คงเป็นพี่เจฟคนที่ฉันเคยแกล้งสินะ
“นึกว่าโดนเครื่องบินเหยียบตายห่าไปแล้ว” นี่คือคำทักทายสินะเคยปากหมายังไงก็ปากหมาเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
“ทำไมต้องเหยียบด้วยคะหนูพุกไม่ได้ไปเดินเล่นใต้ล้อเครื่องบินสักหน่อย” ฉันรีบถามกลับ
“ไปกันเถอะมาพี่ช่วย” งื้อ...หล่ออีกแล้วอ่ะ
“ขอบคุณค่ะหล่อแถมยังใจดีอีกอ่ะ” ฉันชมพี่เขา
"ทำไมชีวิตฉันต้องมาดูแลเด็กสิบแปดแบบเธอด้วยว้าาาา"เสียงลอยมาจากด้านหลังแน่นอนเขาพูดเหน็บหนูพุกค่ะทุกคนนอกจากจะไม่ช่วยแล้วปากก็ยังไม่ดีอีก
"หนูพุกโตแล้วไม่ต้องดูแลค่ะ"ฉันหันกลับไปตอบทันที
"แม่ได้ตัดหัวฉันแน่ถ้าทำแบบนั้น"คุณป้าสั่งนี่เอง
"หนูพุกขอบคุณมากเลยนะคะที่คุณหมีจะดูแลหนูพุก"ฉันยิ้มจนตาปิดบอกเขา กวนหรอหนูพุกก็กวนเป็นเหมือนกัน
"ใครหมีฉันเป็นคนเคยโดนตบหัวหลุดมั้ยฮะ"ฉันรีบวิ่งไปหลบหลังคนที่กำลังเข็นกระเป๋าให้ฉันอยู่
เจฟ
ให้ตายเถอะนี่ผมต้องเป็นบ้าแน่ๆ นี่ใช่ยัยหนูผีจริงๆ มั้ยวะทำไมมันต่างกันราวฟ้ากับนรกเลย ผมเดินตามไอ้มาร์คมาที่รถก่อนจะเข้าไปนั่งรอ
“อึ้งมั้ยล่ะเจฟ...” ไอ้มาร์คถามผม
“เหอะ ยัยหนูผีนั่นน่ะหรอกูว่าแบบนั้นทำทั้งตัวเถอะ” ผมบอกเพื่อนไป
ปัง!!!!
“ของแท้แม่ให้มาหมดค่ะโนศัลยกรรม” ผมกับเพื่อนหันมองคนที่ปิดประตูรถเสียงดังก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ใครถามไม่ทราบ”
ผมหันมาคุยกับไอ้มาร์คต่อแต่คุยกันเป็นภาษาเกาหลีนะเพราะหน้าโง่ๆ แบบนั้นฟังไม่รู้เรื่องแน่
“ขอโทษนะคะพอดีหนูพุกไม่ได้จะตั้งใจแอบฟังหรอกนะที่พวกพี่นินทาหนูพุกอ่ะ เกรงใจกันนิดนึงมารยาทอ่ะค่ะ”
“ฟังออก” ไอ้มาร์ครีบถาม
“ฟังออก เขียนได้ อ่านได้เหมือนเกิดที่เกาหลีค่ะ” มั่นหน้าตอบอีกแม่คุณเอ้ย...
“มึงรีบขับไปส่งสักทีไอ้มาร์ค” ผมกระแทกเสียงใส่หน้าคนอวดเก่ง
“ทำไมคุณหมีต้องพูดเสียงดังด้วยคะ” คนที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดขึ้น
“คนโว้ยไม่ใช่หมี”
“แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะคะ”
“..................” ไม่ตอบแม่งหรอกน่ารำคาญ
“คุณหมาก็ได้”
“นี่ยัยหนูผี......”
กรี๊ด
ผมอ้าปากจะด่าแต่ยังไม่ทันด่ายัยหนูผีก็กรี๊ดลั่นรถจนไอ้มาร์คต้องรถจอดข้างทาง
“เป็นอะไรหนูพุก” ไอ้มาร์ครีบถาม
“จองกุกค่ะจองกุกของหนู” กูอยากเอาตีนก่ายหน้าผากตัวเอง
“ปัญญาอ่อน”
ผมกับไอ้มาร์ครีบมาส่งยัยหนูผีที่บ้านส่วนแม่ผมน่ะหรอยืนรอรับที่หน้าประตูเลยเป็นไงล่ะทีกับลูกนะให้เปิดประตูเอง เก็บกูมาเลี้ยงแน่ๆแม่กูเนี่ย
“หนูพุกของป้าสวยจังเลยลูก” สวยจังเลยสวยตาย
“แค่นี้นะที่ให้ทำ” ผมถามแม่ตัวเอง
“ขอบใจ หนูพุกลูกพรุ่งนี้ป้าจะพาหนูพุกทัวร์ปูซานนะคะ” เสียงแม่ผมพูดอย่างตื่นเต้น
“มึงจะไปไหน” ไอ้มาร์คถามผม
“นอนกับมึง” ผมบอก
ไอ้มาร์คขับรถมาที่คอนโดมันผมเดินเข้าห้องก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาพาทัวร์ หึ เดี๋ยวได้ทัวร์นรกยัยหนูผี
“มึงยิ้มอะไร” ไอ้มาร์คถามผม
“ไม่ต้องมาจับผิดกูเลย” ผมรีบพูดตัดบทมัน
“มึงเชื่อกูมั้ยพรุ่งนี้คุณป้าไม่ว่าง” ไอ้มาร์คพูดแล้วเดินผิวปากเข้าห้องนอน
ครืด ครืด
ผมนอนเล่นเกมส์อยู่ที่โซฟาด้านนอกก่อนจะมีคนโทรเข้ามาแทรกจะใครได้ล่ะที่กล้าโทรหาผมเวลานี้ ความเกรงใจหาเคยมีไม่หรอก
“ว่าไงครับคุณแม่มีอะไรให้ลูกชายคนนี้รับใช้ไม่ทราบครับ”
(ฝีมือแกใช่มั้ย)
“อะไรของแม่”
(อยากดูแลน้องก็บอกกันดีๆ ตาเจฟไม่ใช่ให้คนไปป่วนงานของแม่แบบนี้)
"แม่พูดอะไรเจฟไม่ได้ทำสักหน่อย เจฟจะทำไปเพื่ออะไร"
(ถ้าแม่เชื่อแกแม่ก็ควายแล้วมั้ยตาเจฟ)
“เจฟจะทำแบบนั้นไปทำไมแม่ แม่อย่ามาใส่ร้ายเจฟเถอะ”
(อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ พรุ่งนี้แกพาน้องไปเที่ยวด้วยนี่คือคำสั่ง)
“อะไรอ่ะแม่ก็พาไปเองสิครับ”
(งั้นฉันจะให้ตามาร์คพาน้องไปแทนแกเองก็ได้)
“เออ..ไปก็ได้นี่เห็นแก่แม่หรอกนะ”