ตัดมาทางดาวเหนือ
ณ เคาน์เตอร์บาร์
หลังจากเดินมาถึงเคาร์เตอร์บาร์เพื่อนำออเดอร์มาให้พนักงานจัดเตรียม แต่ในระหว่างที่ยืนรออยู่นั้นจู่ๆ หญิงสาวก็รู้สึกเหมือนร่างกายที่ถูกพยุงไว้ด้วยแรงฮึดทั้งหมดพลันอ่อนยวบลง ไปพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เมื่อครู่ของเธอ ได้แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองลงทันตาอย่างเห็นได้ชัด ไม่แม้แต่นัยน์ดวงตาคู่สวยที่เคยฉายแววมั่นใจในยามอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสับสนอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
"ทำไมต้องมาเจอกันอีกด้วยนะ"
ดาวเหนือเอ่ยปากพึมพำกับตัวเองออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือราวกับเสียงกระซิบที่แทบไม่ได้ยิน พร้อมทั้งพยายามสะกดกลั้นหยาดน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นอาบใบหน้าไม่ให้ไหลออกมาอย่างสุดกำลัง เมื่อความรู้สึกผิดหวังและความเจ็บปวดได้ผุดเสียดหัวใจเธอขึ้นมาให้เจ็บร้าวครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อต้องวนกลับมาเจอกับบุคคลที่เธอต้องการจะหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด พร้อมกับต้องเผชิญกับความจริงที่เธอนั้นได้ก้าวข้ามโอกาสในการกลับไปแก้ไขเรื่องราวในความสัมพันธ์ตอนนั้นระหว่างเขาและเธอ
เพราะเรื่องของเรามันได้จบกันไปตั้งนานแล้ว....
แต่ทางออกที่ดีที่สุด หญิงสาวก็ทำได้เพียงหลับตาลง รวบรวมสติที่แตกกระเจิงให้กลับมาอยู่กับตัว และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางนับหนึ่งถึงสิบในใจ พยายามผ่อนคลายความสะกดกลั้นอารมณ์ทั้งหมดทิ้งไปให้กลับมาเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ลืมๆ มันไปซะเถอะ เธอต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้สิดาวเหนือ" เธอพูดปลอบใจตัวเองออกมาเบาๆ เพื่อโฟกัสให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบันเหมือนที่เคยทำมาโดยตลอด แม้ว่าใจจะยังมีความเจ็บหลงเหลืออยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม
"ทำไงดีวะเนี่ย"
แต่ในระหว่างที่เธอกำลังจมอยู่ในห้วงอารมณ์ความทุกข์ทางใจอยู่นั้น จู่ๆ เสียงกระซิบกระซาบเร่งรัดของใครคนหนึ่งก็ดังมาจากทางด้านข้าง ดึงความสนใจให้ดาวเหนือต้องดึงตัวเองออกจากภวังค์ชั่วครู่ และหันไปมอง
"เอาไงดีๆ ลูกค้าก็เรียกตัวแล้วด้วยโอ๊ยจะบ้าตาย วันนี้มันเป็นวันอะไรวะเนี่ย"
'พี่ป้อม' สาวประเภทสองผู้ดูแลบาร์ยืนพึมพำกับตัวเองด้วยท่าทีที่ดูกลัดกลุ้มและร้อนใจมากเป็นพิเศษ ทำให้ดาวเหนือที่เห็นแล้วถึงกับต้องเผลอขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะเธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นผู้จัดการบาร์ที่นิ่งและมีความเป็นมืออาชีพมาโดยตลอด จนแทบจะไม่เคยได้เห็นท่าทีที่ดูร้อนรนแบบนั้นมาก่อนเลยสักครั้ง
"พี่ป้อม...เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
ด้วยความสงสัย เธอจึงเลือกที่จะเอ่ยถามออกไปด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมเล็กน้อย เพื่อให้เสียงของตัวเองแทรกผ่านความสับสนในใจของอีกฝ่ายไปได้
และมันก็ได้ผลจริงๆ อีกฝ่ายหันมามองตามเสียงของเธออย่างรวดเร็ว ทว่าในวินาทีถัดมา เขากลับเบิกตากว้างราวกับว่าพลันมีคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ในวินาทีนั้นก่อนรีบสาวเท้าปรี่เข้ามาหาในทันที
“ว๊ายดาวเหนือ แกมาพอดีเลย"
ไม่ทันให้หญิงสาวได้เอ่ยถามอะไร พี่ป้อมก็พุ่งตรงมาคว้ามือจับท่อนแขนเล็กของเธอเอาไว้ทันที
"ม มีอะไรหรือคะพี่ป้อม"
ดาวเหนือถามด้วยสีหน้าที่ดูตกตะลึงและสับสนไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าจู่ๆ อีกฝ่ายก็พลันพุ่งตัวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าจะเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเธออย่างเร่งด่วน
"โอ๊ย ก็มีเรื่องปวดประสาทให้ฉันอีกแล้วนะสิ"
"เรื่องปวดหัว?" เธอเลิกคิ้วอย่างสงสัย
"ใช่ ก็ยัยพิมเด็กเอนเตอร์เทน ลูกค้าวีไอพีดันมาไข้ขึ้นเอาวันนี้จนทำงานต่อไม่ไหว แล้ววันนี้ก็ดันมีลูกค้าวีไอพีรายใหญ่กระเป๋าหนัก จ่ายไม่อั้นมาใช้บริการอีกนะสิ" พี่ป้อมพูดรัวเร็วด้วยความเครียด "ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย"
"แล้ว...ที่นี่พี่จะทำยังไงคะ" เธอถามอย่างระมัดระวัง อย่างรู้สึกเห็นใจและเข้าใจดี เพราะเธอก็รับรู้ได้ว่านี่คงจะเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ แขกรายใหญ่กระเป๋าหนักมาทั้งที แต่ดันมาเกิดเรื่องอะไรแบบนี้อีก "เด็กในสังกัดพี่ก็มีเยอะแยะเลย พี่ไม่เอาคนอื่นไปแทนเหรอคะ"
แต่ทว่า ในขณะนั้นเองพี่ป้อมกลับกระชับมือที่จับแขนหญิงสาวอยู่แน่นขึ้น
"ไม่มีแล้วนะสิ! เด็กคนอื่นๆ ก็ติดลูกค้ากันหมดแล้วเนี่ย เหลือแกนี่แหละที่ยังว่างอยู่ แกต้องช่วยฉันนะดาวเหนือ" เขาพูดพลางมองมาเธอด้วยสายตาอ้อนวอน
"น หนูเหรอคะ?!"
ทันทีที่ฟังอีกฝ่ายพูดจบ ดาวเหนือถึงกับพลันยกนิ้วชี้ไปที่ตัวเองอย่างตะลึงพร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจระคนตกใจ ขณะมองหน้าอีกฝ่ายสลับกับนิ้วที่ชี้ตัวเองอย่างไม่เชื่อหู เพราะนี่มันไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานฝ่ายคอยจัดออเดอร์อย่างเธอเลยสักนิด
"ก็ใช่นะสิ แกช่วยพี่หน่อยเถอะนะ พี่ขอร้องล่ะ"
แต่หากว่าฝ่ามือหนาของอีกฝ่ายยังคงกำชับท่อนแขนเธอแน่นพร้อมกับทำสีหน้าอ้อนวอนอย่างสุดกำลัง
"แต่...แต่พี่ป้อมคะ หนูไม่เคยทำหน้าที่บริการลูกค้าตัวต่อตัวมาก่อนนะคะ หนู..."
"มันไม่มีใครแล้วจริง ๆ ดาวเหนือ พี่ไหว้ล่ะ! แค่ดูแลตามปกติ รับฟังเขา คอยเติมเครื่องดื่มแค่นี้เอง ถือว่าช่วยพี่ไว้นะๆ"
"ล แล้วงานที่หนูต้องทำละคะ?" ดาวเหนือถามอย่างตะกุกตะกัก น้ำเสียงยังคงมีความไม่แน่ใจผสมอยู่ เพราะยังมีออเดอร์ที่ต้องไปส่ง และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงต้อนหวังให้เธอช่วยอย่างไม่ลดละ
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้เอง งานจัดออเดอร์น่ะมันรอได้ แต่ลูกค้าสำคัญกว่านะดาวเหนือ เอางี้ถ้าแกช่วยพี่จะเด้งโบนัสให้แกเป็นสามเท่าเลยอ่ะ" เขาพูดอย่างหนักแน่น
"ส สามเท่าเลยเหรอคะ" เธออุทานเสียงหลงพร้อมเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อได้ยินค่าตอบแทนจำนวนมาก
"อื้อ ใช่ๆ" พี่ป้อมพยักหน้ารับรัวๆ ด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง "ขอให้แกช่วยพี่รับลูกค้ารายใหญ่คนนี้นะ เดี๋ยวพี่จะจ่ายทันทีหลังเสร็จงานเลย"
"ถ้างั้นก็ได้ค่ะ หนูจะทำ"
ท้ายที่สุดด้วยจำนวนตัวเลขที่เย้ายวนในหัว ดาวเหนือจึงไม่ลังเลที่จะตอบรับข้อเสนอนั้นอีกต่อไป เช่นเดียวกับสีหน้าซึ่งยังคงมีความลังเลในทีแรกก็พลันเปลี่ยนเป็นแน่วแน่และเด็ดเดี่ยวภายในพริบตา เพราะสำหรับเธอแล้ว...เงินคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ณ เวลานี้ และเพื่อเงินก้อนใหญ่ที่จะมาช่วยต่อชีวิตและแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ เธอก็พร้อมจะทำทุกอย่างไม่ว่าจะต้องรับบทบาทเป็นอะไร ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับลูกค้าประเภทไหน ขอแค่คิดเสียว่าทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอ
"ว๊าย มันต้องแบบนี้สิจ๊ะลูกสาว พี่ขอบใจแกมากเลยนะ" อีกฝ่ายใบหน้าระรื่น ยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีพร้อมอุทานเสียงออกมาด้วยความดีใจ
"แต่พี่คะ ถ้าหนูทำอะไรผิดพลาดไป พี่ต้องไม่ว่าหนูนะคะ" แม้จะบอกว่ามันเป็นงานง่ายๆ แต่เธอก็ยังอดมีความกังวลอยู่ลึกๆ ไม่ได้อยู่ดี
"แน่นอนจ้ะ วางใจเถอะพี่รับปาก"
"งั้นดีลค่ะ ก็เอาตามพี่ว่าเลย หนูพร้อมทำงานค่ะ"
"ดีมาก อย่ามัวชักช้าก่อนอื่นเลยพี่ต้องพาแกรีบไปเปลี่ยนชุดก่อน ตามพี่มาเร็วเข้า ลูกค้ากำลังรออยู่"
"ได้ค่ะ"
เธอตอบรับพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินตามหลังอีกฝ่ายไปอย่างไม่รีรอในนาทีต่อมา