EP2

1776 Words
'ฉันสัญญานะว่าฉันจะรักพี่แค่คนเดียว แล้วเราก็ต้องเป็นแฟนกันไปจนถึงวันที่ได้แต่งงานกันเลยนะ' 'แน่นอน พี่สัญญาและสาบานด้วยใจของพี่เลย' ท่ามกลางเสียงเพลงจังหวะมันๆ ภายในบาร์ คำมั่นสัญญาของหญิงสาวในคราวอดีต จู่ๆ ก็ผุดดังก้องขึ้นมาในหูชายหนุ่มอีกครั้งในวินาทีนั้น ขณะดวงตาคมยังคงทอดมองแผ่นหลังเล็กอันคุ้นเคยของเธอ เหมือนกับฉากสุดท้ายที่เธอยื่นคำขาดบอกเลิกราเขาไปอย่างเย็นชาค่อยๆ ห่างออกไปด้วยความเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก ปึก! "โถ่เว้ย!" ความรู้สึกต่ำต้อยที่ฝังใจมานานและท่าทีไม่แยแสของคนที่เดินจากไป เป็นเหมือนคมมีดที่กรีดลงบนหัวใจของชายหนุ่มจนเป็นแผลลึกให้เจ็บอีกครั้ง พานให้ใบหน้าคมคายสะท้อนความเจ็บปวดแฝงโกรธเคืองออกมาอย่างชัดเจน เขาถึงกับกำหมัดแน่นจนข้อกระดูกปรากฏขึ้นเป็นสีขาว แล้วทุบลงบนหน้าขาตัวเองพร้อมกับสบถในลำคอเบาๆ ออกมาอย่างเจ็บใจ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามดับไฟที่โหมกระหน่ำในอกให้เบาบางลง แต่ทว่าการกระทำนั้นกลับสร้างความตกตะลึงและตกใจให้กับเพื่อนชายเป็นอย่างมาก "เป็นอะไรของมึงอีกเนี่ยไอ้แทน" ฉลามที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกเล็กน้อยเมื่อเห็นการกระทำที่รุนแรงและฉับพลันของชายหนุ่มเมื่อครู่ ขณะขมวดคิ้วมุ่นมองเสี้ยวข้างใบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความสับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น "เปล่า ไม่มีอะไร" แทนไทเงยหน้ามามองเพื่อนชายด้วยแววตาดุดันคล้ายแฝงอารมณ์ความรู้สึกชนิดที่อ่านยากจนน่ากลัว และตอบกลับมาแบบห้วนๆ ก่อนเขาจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ต่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามดึงสติทำให้ใจตัวเองสงบลง ทำเอาฉลามเห็นแล้วถึงกับชะงักอึ้งไปชั่วขณะ เพราะไม่เคยได้เห็นแววตาแบบนี้จากเขามาก่อน "ให้กูเชื่อมึงก็บ้าแล้ว" ฉลามเค้นคำออกมาอย่างสับสน พลางเลิกคิ้วสูงมองเขาด้วยท่าทีไม่เชื่อ "ปากบอกไม่มีอะไรแต่ดูมึงดิ กูเห็นมึงเป็นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำหน้าโหดเหมือนโกรธใครมา นี่ยังทุบขาตัวเองอีก โรคไบโพล่าแดกแล้วเหรอมึงอ่ะ" ทว่าคำพูดสุดท้ายของฉลามกลายเป็นเหมือนเชื้อเพลิง ชั้นดีที่สาดใส่กองไฟที่กำลังคุกรุ่นในอกของแทนไท พานให้แววตาที่เคยพยายามจะสงบลงด้วยการสูดหายใจลึกๆ นั้นก็พลันลุกโชนขึ้นมาในทันทีทันใด "มึงว่าใครบ้า!" เขาตวาดเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับ ทำเอาฉลามสะดุ้งไปเล็กน้อย แน่นอนว่าท่าทีเช่นนั้นของอีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้เขามีสีหน้าเต็มไปด้วยความงงงวยเข้าไปใหญ่ "เปล่าสักหน่อย กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย" ฉลามทำเสียงสูงพลางกลอกสายตามองไปทางอื่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กลบเกลื่อน "มึงไม่ต้องมาทำเป็นอยากรู้มาก" แทนไทยังคงตอบด้วยน้ำเสียงห้วน พลางหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างเด็ดขาด ทำให้ฉลามเห็นแล้วถึงกับถอนหายใจยาว พลางส่ายหัวอย่างระอากับอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของเพื่อนแบบเขา "เฮ้อ...มึงนี่มันโคตรเอาแต่ใจตัวเองเลยว่ะ เพราะงี้สาวๆ ถึงได้กลัวมึงกันหมด จนไม่กล้าเข้าใกล้...อึก" แต่ยังไม่ทันให้เขาพูดจบประโยค ก็ต้องชะงักรีบเม้มปากหยุดพูดเอาไว้กลางคัน เมื่อชายหนุ่มได้พลันหันกลับมามองเขาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวของความโกรธ ราวกับว่าพร้อมจะพุ่งเข้ามาตะครุบเขาได้ทุกเมื่อ "กูจะกลับแล้ว" พูดจบเขาก็ผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และไม่รอให้ ฉลามได้พูดอะไรต่อ เขาก็ก้าวขาเตรียมจะเดินจากไปด้วยท่าทางที่แข็งกร้าวและไม่พอใจในทันที "ฮ เฮ้ยเดี๋ยวดิ" พรึ่บ! ทว่า ในวินาทีนั้นฉลามที่ตื่นตระหนกก็พลันพุ่งเข้ามาคว้าหมับเข้าที่ท่อนแขนแกร่งเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินหนีไปจริงๆ แต่กลับถูกอีกฝ่ายตกกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ปล่อย" "ไอ้แทน มึงจะบ้าเหรอวะ! เพิ่งมาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะเว้ย"ดวงตาของฉลามจริงจังขึ้นทันที ไม่มีแววล้อเล่นหรือระอาอีกต่อไป ขณะพยายามรั้งเพื่อนไว้ด้วยสีหน้าฉายแววหงุดหงิดระคนไม่เข้าใจ "ไอ้โจกับไอ้เจเจก็ยังไม่มาเลย มึงอย่าเพิ่งทำฤทธิ์จะชิงกลับบ้านก่อนสิวะ" "มึงปล่อยกูเลย กูไม่สนใจแล้ว" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง โดยไม่แม้แต่จะหันมามองใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนชาย ขณะยืนนิ่งอยู่กับที่พยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย "อย่าให้กูต้องพูดซ้ำ" แต่ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะพูดออกมาเช่นนั้น เพื่อนชายตัวดีแสบสุดในทีมอย่างฉลามก็ไม่คิดจะทำตามคำสั่งเขาอยู่ดี "ไม่ปล่อยโว้ย!" ฉลามยิ่งจับท่อนแขนแกร่งแน่นกว่าเดิม เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยไป อีกฝ่ายคงจะหนีกลับบ้านไปจริงๆ อย่างแน่นอน "วันนี้วันเกิดกูนะ กูจะไม่เซ้าซี้ถามมึงมากล่ะ มึงนั่งลงก่อนเถอะ" หลังจากเพื่อนชายสุดแสบพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างสุดฤทธิ์ ทำให้แทนไทต้องยืนนิ่งพลางปลายสายตามอง ก่อนที่ความไม่พอใจในแววตาเขานั้นจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนล้าขึ้นมาแทนที่ "ที่นี่มันไม่ใช่ที่ของกู" แทนไทพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา จนคำพูดนั้นของเขาแทบจะกลืนหายไปในเสียงดนตรีที่กำลังดังกระห่ำทั่วทั้งในบาร์ และเมื่อฉลามได้ยินเช่นนั้นก็ต้องคลายแรงบีบที่ท่อนแขนเขาลงราวกับเริ่มเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่าย เหมือนจะมีบางอย่างที่ไม่สบายใจจริงๆ "หมายความว่าไงวะ" ฉลามลดน้ำเสียงตื่นตระหนกเป็นหนักแน่นจริงจังขึ้น "มึงมีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่า มึงบอกกูได้นะเว้ย อย่าทำตัวเป็นเด็กๆ จะหนีกลับบ้านเพราะอะไรไม่รู้แบบนี้ดิวะ" "กูไม่..." "กูว่าแล้ว ว่าไอ้พวกนี้มันต้องมาก่อนเวลานัด" ทว่า ยังไม่ทันให้ชายหนุ่มได้โต้ตอบหรือเอ่ยปฏิเสธใดๆ จู่ๆ เสียงหนึ่งของคนที่เพิ่งมาใหม่ก็ผุดดังขัดจังหวะขึ้นมาจากด้านหลังเสียก่อน ดึงความสนใจทั้งเขาและฉลามต้องชะงักบทสนทนาลงและหันไปมองกันเป็นตาเดียว "มาก่อนเวลาเลยนะพวกมึง" 'โจเซฟ' และ 'เจเจ' หนึ่งในเพื่อนสนิทแก๊งเดียวกัน เดินยิ้มกริ่มเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกันอย่างคุ้นเคย ทว่า ทันทีที่เห็นว่าเป็นสองคนนี้ ในนาทีถัดมาฉลามถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะยื่นมือไปตบบ่าของโจเซฟเบาๆ เมื่อเดินมาถึง แต่แววตาของเขาก็ยังคงมีความกังวลที่ปกปิดไม่มิดอยู่บางส่วน "พวกมึงนั่นแหละเลทไปชั่วโมงครึ่งแล้ว กูนึกว่าจะไม่มากันแล้วซะอีก" "มาดิ๊! วันเกิดมึงทั้งทีจะพลาดได้ไงวะ" โจเซฟพูดเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง ก่อนจะหันไปมองมาทางชายหนุ่มซึ่งยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างๆ โดยที่เขาตอนนี้มีสีหน้าดูเคร่งเครียดเกินกว่าจะเข้ากับบรรยากาศเฉลิมฉลอง "อ้าว! ไอ้แทนไท? มึงเป็นไรวะ ทำไมทำหน้าอย่างกับถูกตามทวงหนี้อย่างงั้นแหละ" "..." แต่แทนไทไม่ตอบ เขาเพียงแต่ฝืนยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเป็นการทักทาย แต่นัยน์แววตาของเขาตอนนี้มันกลับดูว่างเปล่าเสียจนน่าตกใจ พานให้เจเจซึ่งสังเกตคนอื่นได้ดีกว่าใครในกลุ่มถึงกับต้องเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย แน่นอนเขารู้ว่าแทนไทไม่ใช่คนอารมณ์ดีแบบเปิดเผย แต่ก็ไม่เคยทำตัวเหมือนอยากจะหายไปจากโลกใบนี้แบบนี้มาก่อน "แทนไทมึงโอเคปะวะ" เจเจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพลางเดินตรงเข้ามาใกล้ แล้ววางมือบนไหล่ของชายหนุ่มเบาๆ "มึงดูไม่จอยเลยนะ มีเรื่องไรวะ" "เออมึงสองคนมาแล้วก็ดีเลย" ในระหว่างที่เจเจกำลังตั้งคำถาม ฉลามก็เอ่ยขัดจังหวะการสนทนาระหว่างทั้งสองแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว พลางใช้โอกาสนี้หันไปเอ่ยกับชายหนุ่มสลับกับเพื่อนชายอีกคนและกำชับท่อนแขนแกร่งของเขาแน่นขึ้น "มากันครบแล้ว พวกมึงก็ไปนั่งก่อนเถอะ" "เออก็ดีเหมือนกัน ยืนเมื่อยขาล่ะกู" เจเจพยักหน้าพร้อมเอ่ยปากตอบสั้นๆ อย่างเห็นด้วย ก่อนจะก้าวเดินไปหย่อนตัวนั่งลงตรงโซฟารับแขกวีไอพีทันทีอย่างสบายใจ โดยไม่รอให้ใครออกความเห็นใดๆ ก่อนที่โจเซฟจะพยักหน้าและเดินไปหย่อนตัวนั่งลงด้วยอีกคน "มึงก็ไปนั่งดิ อย่างอแงไปหน่อยเลยนะ กูไหว้ล่ะ" เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองไปนั่งกันหมดแล้ว ฉลามจึงหันกลับมาเอ่ยปากขอร้องชายหนุ่มอีกครั้ง เพื่อให้เขายอมนั่งลงเช่นเดิมอยู่ร่วมเลี้ยงฉลองวันเกิดเขาต่อ แน่นอนว่าครั้งนี้ ดูเหมือนว่าคำขอร้องนั้นจะได้ผล หลังจากฟังคำขอร้องจริงจังของเพื่อนชาย ความตึงเครียดบนใบหน้าของชายหนุ่มก็เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย "เออ ก็ได้" ท้ายที่สุด พูดจบแทนไทก็ดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของฉลามได้สำเร็จ และยอมเดินกลับไปทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟาใหญ่ข้างๆ กายเพื่อนที่กำลังนั่งรออยู่อย่างช่วยไม่ได้ "เฮ้อ.." เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยอมเชื่อฟัง ฉลามก็ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกอีกครั้ง ก่อนริมฝีปากเขาจะแยกเป็นรอยยิ้มกว้างขึ้นอย่างผู้ชนะ จากนั้นเขาจึงเดินไปตบบ่าของแทนไท เบาๆ แทนการขอบคุณและนั่งลงข้างๆ ร่วมวงเริ่มการสังสรรค์กับเพื่อนๆ ในเวลาต่อมา แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเวลาฉลอง ความรู้สึกเจ็บปวดในใจของชายหนุ่มก็ยังไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเช่นเดียวกันกับความรู้สึกของหญิงสาวในตอนนี้เหมือนกัน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD