น้ำเสียงอ่อนเบาดังมาจากด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มหันกลับไปมองด้วยใบหน้าที่ขมวดมุ่นอยู่เล็กน้อย ไม่มีเสียงตอบจากเขา ก่อนจะหันหน้ากลับไปทางเดิมโดยไม่ตอบคำถามใด ๆ
หญิงสาวที่รู้จักนิสัยเขาพอสมควรตามเวลาที่อยู่ด้วยกันเห็นสิ่งที่เขากำลังทำก็ได้คำตอบอยู่แล้ว จึงเดินเข้ามา
“หิวทำไมไม่บอก อยากกินไข่เจียวเหรอคะ ไปนั่งรอก่อน เดี๋ยวกิ้นทำให้”
“ไม่ต้อง เธอไปนอนเถอะ ฉันทำเอง” เขาพูดขึ้นในที่สุด
“ทำเองเมื่อไหร่จะได้กิน เถอะน่า อย่ามาทะเลาะกันตอนหิวเลย ไปนั่งเถอะค่ะ รอแป๊บเดียว” ขืนปล่อยให้โมโหหิวจะยิ่งไปกันใหญ่
พูดไปก็ไม่ได้มองหน้ามุ่น ๆ ของเขา แล้วเธอก็ยิ้มขำเบาๆ
“คิ้วผูกโบเชียว เดี๋ยวก็ได้กินนะ”
เธอหยิบไข่ใบที่เหลือมาตอกใส่ชามทั้งหมดแล้วคนให้เข้ากัน ปรุงรส ก่อนจะตั้งกระทะ ชายหนุ่มยืนถอนหายใจ สุดท้ายก็ยอมเดินกลับไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารเงียบ ๆ มองหญิงสาวอยู่เบื้องหลัง พยายามสังเกตขั้นตอนการเจียวไข่ของเธอ
เพราะถ้าวันใดที่เลิกกันเขาจะได้ทำเป็น
ไม่นานไข่เจียวหอมกรุ่นกรอบนุ่มฟูกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็มาเสิร์ฟตรงหน้า ธรรศกรตักกินเงียบ ๆ ส่วนกระยาหงันพอทำเสร็จเธอก็เดินเข้าห้องนอนไป ปล่อยให้เขากินคนเดียว หากนั่งอยู่ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะกินไม่อร่อย
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมาผืนเตียงข้างตัวของหญิงสาวที่นอนอยู่ก็ยวบลงเมื่ออีกคนขึ้นมานอน เป็นเขาโดยไม่ต้องสงสัย ร่างบางที่นอนอยู่ก่อนแล้วแต่ยังไม่หลับจึงหันกลับมาเห็นชายหนุ่มอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนดูโทรศัพท์ เขาอิ่มแล้วอารมณ์อาจจะดีขึ้นเธอจึงเคลื่อนตัวขึ้นมานอนซบอก ออดอ้อนแบบแมว
“กิ้นได้ตั๋วบินฟรีกับที่พักติดทะเลที่กระบี่สามวัน เราไปพักผ่อนกันนะ กิ้น อยากไป”
“ต้องทำงาน” เอ่ยเสียงยานอย่างรำคาญ
“ไม่ได้ไปเดี๋ยวนี้ มีเวลาสามเดือน คุณเท็มหาวันพักผ่อนไม่ได้เลยเหรอ...งั้นพรุ่งนี้เราออกไปหาร้านอาหารอร่อย ๆ กินมั้ยคะ กิ้นเห็นในโซเชียลมีร้านข้าวมันไก่น่ากินมาก”
“พรุ่งนี้ไปกินข้าวกับแม่”
“แล้วจะกลับกี่โมงคะ”
มีเสียงถอนหายใจดังขึ้น หญิงสาวจึงผละออกมามอง เขาเอื้อมมือไปวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะปิดไฟแล้วไถลตัวลงนอน หันหลัง ไม่พูดอะไรอีก ปล่อยให้เธอค้างอยู่แบบนั้น
หรือว่านี่จะเป็นจุดอิ่มตัว
เขาอิ่ม แต่เธอยังไม่อิ่ม
กระยาหงันมีวันหยุดติดกันสามวัน เธอได้พักผ่อนเต็มที่โดยไม่มีตารางสแตนด์บายให้ต้องกังวลคิดว่าจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน หากแต่เขาดูเหมือนจะพยายามหลบเลี่ยงที่จะอยู่กับเธอโดยอ้างว่าไปกินข้าวกับมารดา กระยาหงันเคยเจอมารดาของเขาเพียงครั้งเดียวโดยบังเอิญที่ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าเมื่อสองปีก่อนพร้อมกับเขาแล้วก็ไม่เคยเจออีกเลย
“แม่ครับ นี่กิ้น ผู้หญิงที่ผมคุยอยู่”
เขาแนะนำเธอกับมารดาแบบนี้ ซึ่งก็เป็นการบ่งบอกสถานะให้ทราบ ทว่าท่าทีของมารดาเขากลับเมินเฉย ไม่ได้มีการรับไหว้เธอก่อนจะเดินไปโดยไม่พูดอะไร ในตอนนั้นชายหนุ่มเพียงปลอบประโลมด้วยคำพูดว่า
“แม่ผมก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องคิดมาก”
“ค่ะ”
หญิงสาวยิ้มรับ และรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่ามารดาของเขาไม่ชอบเธอ
วันนี้ในช่วงบ่ายกระยาหงันจึงขับรถออกไปสปาเพื่อนวดผ่อนคลายร่างกายพร้อมกับเดินซื้อเครื่องสำอางชิ้นที่กำลังจะหมดเพียงคนเดียว
เธอเดินห้างคนเดียวแบบนี้กี่ครั้งแล้วนะ
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
ส่งกำลังใจมาให้กันด้วยนะคะ นักเขียนจะได้มีแรงมาอัป